Advance search

ชุมชนท้องถิ่นที่มีภูมิปัญญาการจักสานที่โดดเด่นและเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน

หนองดุก
มิตรภาพ
แกดำ
มหาสารคาม
วุฒิกร กะตะสีลา
3 ก.ค. 2023
วุฒิกร กะตะสีลา
7 ก.ค. 2023
วุฒิกร กะตะสีลา
29 ก.ค. 2023
บ้านหนองดุก

บ้านหนองดุกตั้งชื่อชุมชนตามหนองน้ำสำคัญในพื้นที่คือ “หนองดุก” มีตำนานหรือเรื่องเล่าของผู้คนเล่าสืบต่อกันมาว่าในหนองน้ำดังกล่าวปรากฏ ปลาดุกด่อน (ปลาดุกเผือก) ขนาดใหญ่อาศัยในหนองน้ำ กลุ่มคนที่มาตั้งชุมชนเริ่มแรกจึงตั้งชื่อว่า “บ้านหนองดุก” ไม่เพียงเท่านั้นปลาดุกเผือกยังเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ประจำชุมชน


ชุมชนชนบท

ชุมชนท้องถิ่นที่มีภูมิปัญญาการจักสานที่โดดเด่นและเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน

หนองดุก
มิตรภาพ
แกดำ
มหาสารคาม
44190
16.10610089
103.3993225
องค์การบริหารส่วนตำบลมิตรภาพ

แรกเริ่มพื้นที่บริเวณที่ตั้งบ้านหนองดุกเป็นพื้นที่ป่ารกไม่มีผู้คนอาศัยตั้งถิ่นฐาน จนกระทั่งมีกลุ่มคนจากบ้านเหว่อ บ้านหนองไหล บริเวณอำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด อพยพผู้คนเข้ามาตั้งถิ่นฐานซึ่งไม่ปรากฏปี พ.ศ. ที่ตั้งชุมชน โดยเลือกพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ทั้งแหล่งน้ำ คือ หนองดุกและห้วยตาหลุง มีการตั้งศาลปู่ตาของชุมชนบริเวณใกล้กับหนองดุกรวมทั้งมีการตั้งวัดบริเวณทิศตะวันออกของชุมชนในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวัดเก่าของชุมชนบ้านหนองดุก พ.ศ. 2430 มีการย้ายวัดจากวัดเก่ามาตั้งบริเวณกลางหมู่บ้านซึ่งเป็นวัดประจำชุมชนในปัจจุบัน ทำให้พื้นที่วัดเก่าเป็นป่าชุมชนและพื้นที่รกร้าง ผู้คนในชุมชนบ้านหนองดุกส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ทำนาเป็นหลักและมีการปลูกผักทำไร่ทำสวนเช่นเดียวกับชุมชนอื่นรอบข้าง มีการทำเครื่องมือจักสานต่าง ๆ จากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2504 มีนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้มีการปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ปอ ข้าว มันสำปะหลัง ส่งผลให้คนในชุมชนมีการปลูกพืชเศรษฐกิจในชุมชนมากขึ้นทำให้มีรายได้จากการขายพืชเศรษฐกิจโดยเฉพาะ ปอ เป็นรายได้สำคัญในช่วงหลังทศวรรษที่ 2500 เป็นต้นมา ในปี พ.ศ. 2514 คนในชุมชนเริ่มมีการนำผลิตภัณฑ์จำพวกเครื่องมือจักสานมาขาย ผลิตภัณฑ์ที่มีมากในชุมชนคือ “กระด้งม่อน” มีไว้สำหรับเลี้ยงตัวไหม ซึ่งกระด้งม่อนของชุมชนบ้านหนองดุกมีผู้คนในชุมชนอื่นซื้อไปใช้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะชุมชนบ้านโคกศรีทองหลาง อำเภอวาปีปทุมที่มาซื้อกระด้งม่อนจำนวนมาก

พ.ศ. 2519 มีการสร้างถนน รพช.ผ่านหมู่บ้านจากถนนแจ้งสนิทเชื่อมไปยังไปยังอำเภอแกดำ ทำให้ให้ผู้คนในชุมชนมีการซื้อขายสินค้าและแลกเปลี่ยนสินค้ากับชุมชนภายนอกโดยเฉพาะในตลาดเมืองมหาสารคาม การเดินทางไปติดต่อราชการสะดวกขึ้น ความเจริญเริ่มเข้ามาในชุมชนหลังจากการสร้างถนนสายดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2525 เกิดการเปลี่ยนแปลงของคนในชุมชนจากปรากฏการณ์การเคลื่อนย้ายแรงงานของคนในชุมชนเข้าไปในกรุงเทพมหานคร โดยส่วนใหม่เป็นแรงงานในหน่วยงานราชการต่าง ๆ เช่น พนักงานทำความสะอาด พนักงานเก็บขยะ พนักงานกวาดถนน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างในสำนักงานเขตต่าง ๆในกรุงเทพมหานคร เช่น เขตลาดพร้าว เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เกิดเป็นเครือข่ายการติดต่อประสานงานของคนในชุมชนบ้านหนองดุกที่ชักชวนกันไปทำงานในกรุงเทพฯ ซึ่งมีคนในชุมชนเข้าไปทำงานราว 40% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในชุมชนบ้านหนองดุก เมื่อทำงานเก็บเงินได้ก็ส่งมาให้พ่อแม่ที่อยู่บ้าน ทำให้ชุมชนเกิดการพัฒนาทั้งการอยู่อาศัยและมีทุนในการทำธุรกิจในด้านต่าง ๆ ทั้งซื้อที่ดิน และพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ

พ.ศ. 2536 มีการสร้างฝายบริเวณห้วยตาหลุงทำให้ชุมชนมีน้ำใช้ในยามแล้งและเกิดถนนเชื่อมต่อจากชุมชนไปถึงห้วยตาหลุงทำให้คนในชุมชนบ้านหนองดุกมีการขยายตัวออกมาทางด้านทิศตะวันออกของชุมชนตามแนวถนนเชื่อจากลบ้านหนองดุกไปห้วยตาหลุงเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นเส้นทางไปยังทุ่งนาของคนในชุมชนด้วย และในปี พ.ศ. 2544 ชุมชนบ้านหนองดุกมีการตั้งกลุ่มจักสานกระด้งไม้ไผ่ขึ้นโดยการสนับสนุนของภาครัฐที่ส่งเสริมให้มีการตั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุมชนขึ้น เช่นสนับสนุนงบประมาณในการซื้อไม้ไผ่ สนับสนุนเงินกู้ยืมเพื่อให้สมาชิกในกลุ่มนำไปลงทุน ซึ่งในช่วงแรกของการตั้งกลุ่มมีสมาชิกทั้งหมด 30 คน สินค้าส่วนใหญ่ที่ผลิตคือกระด้งม่อน ตลาดที่รับซื้อหลักคือ กลุ่ม OTOP บ้านโคกสีทองหลาง อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งถือว่ากระด้งม่อนเป็นรายได้หลักอีกอย่างหนึ่งของคนในชุมชนบ้านหนองดุกในปัจจุบันและทำให้ชุมชนมีชื่อเสียงจากผลิตภัณฑ์ของชุมชน

บ้านหนองดุกตั้งอยู่ที่ตำบลมิตรภาพ ห่างจากอำเภอแกดำไปทางทิศเหนือประมาณ 9 กิโลเมตร มีประชากรรวมทั้งหมด 360 คน มีพื้นที่รวมทั้งหมด 1,500 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับชุมชนต่างๆดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ บ้านนกกระโดก ตำบลมิตรภาพ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม 
  • ทิศใต้ ติดกับ บ้านโคกน้อย ตำบลมิตรภาพ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม
  • ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านโนนเขวาน้อย อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
  • ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านหนองหูลิง ตำบลมิตรภาพ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กลุ่มจักสานกระด้งเลี้ยงไหม

ภูมิปัญญาทอผ้าและจักสานเป็นภูมิปัญญาของชาวอีสานที่ตกทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นมาตั้งแต่บรรพบุรุษ การทอผ้าไว้ใช้ตามครัวเรือนเป็นแนวทางปฏิบัติของผู้หญิงอีสานในอดีต การจักสานเช่นกันมักนิยมทำใช้กันในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือดักจับสัตว์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ชุมชนบ้านหนองดุกเองมีการทอผ้าและจักสานมาตั้งแต่อดีตเช่นเดียวกับชุมชนอีสานโดยทั่วไป การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นวิถีชีวิตที่ชาวบ้านหนองดุกคุ้นเคยการเลี้ยงไหมสิ่งที่ขาดไปไม่ได้คือกระด้งเลี้ยงไหมซึ่งชาวบ้านสานขึ้นใช้เอง

กระด้งม่อนหรือกระด้งเลี้ยงไหมทำมาจากไม้ไผ่ใช้เลี้ยงตัวไหมก่อนที่จะเข้าฝักเป็นดักแด้ เดิมนั้นชุมชนบ้านหนองดุกผลิตกระด้งม่อนไว้ใช้เอง จนกระทั่งพ.ศ.2514 เริ่มมีการขายกระด้งม่อนให้กับชุมชนรอบข้างรวมถึงชุมชนอื่นๆด้วย หลังจากนั้นเมื่อปีพ.ศ2544 มีการตั้งกลุ่มของชุมชนขึ้นเพื่อผลิตกระด้งม่อนให้มีจำนวนมากขึ้นตามความต้องการของตลาดซึ่งตลาดหลักของการขายกระด้งม่อนคือชุมชนบ้านโคกสีทองหลาง อำเภอวาปีปทุม ปัจจุบันชุมชนบ้านหนองดุกเพราะมีการผลิตกระด้งม่อนในจำนวนมากและสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนกระด้งม่อนหรือกระด้งเลี้ยงไหมจึงมีความโดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ของคนในชุมชนบ้านหนองดุก

  • เดือนอ้าย : บุญข้าวกรรม
  • เดือนยี่ : บุญคูนลาน
  • เดือนสาม : บุญข้าวจี่
  • เดือนสี่ : บุญเผวส
  • เดือนห้า : บุญสงกรานต์
  • เดือนหก : บุญบั้งไฟ
  • เดือนเจ็ด : บุญชำฮะ
  • เดือนแปด : บุญเข้าพรรษา
  • เดือนเก้า : บุญข้าวประดับดิน
  • เดือนสิบ : บุญข้าวสาก
  • เดือนสิบเอ็ด : บุญออกพรรษา
  • เดือนสิบสอง : บุญกฐิน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ใช้ภาษาอีสานในการสื่อสารในชีวิตประจำวันและใช้ภาษาไทยเป็นภาษาราชการ

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ข้อมูลชุมชนบ้านหนองดุก ตำบลมิตรภาพ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม จัดทำโดยผู้ใหญ่บ้านหนองดุก

นายแสง น้อยเสนา, สัมภาษณ์, อายุ 67 ปี บ้านหนองดุก ต.มิตรภาพ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม 

นายคำพัน ราชสีหา, สัมภาษณ์, อายุ 72 บ้านหนองดุก ต.มิตรภาพ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม

นางแดง น้อยเสนา, สัมภาษณ์, อายุ 65 ปี บ้านหนองดุก ต.มิตรภาพ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม

มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี. (ม.ป.ป.). ตะกร้าสานไม้ไผ่ นายแสง น้อยเสนา. ค้นจาก http://https://culturalmapthailand.info/