“ต้นตํารับรําตังหวาย ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฏร์น้ำใจงาม สุดเขตแดนสยาม มะขามหวานหลากหลาย กล้วยตากรสดี ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา แข่งนาวาสองฝั่งโขง"
เมือง "เขมราษฎร์" ได้ถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น "เขมราฐ" ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่ก็มีความหมายเดียวกัน คือ "ดินแดนแห่งความเกษมสุข" (ราษฎร์ = รัฐ,รัฎฐ์ = แว่นแคว้นหรือดินแดน ส่วนคำว่า "เขม" หมายถึง ความเกษมสุข)
“ต้นตํารับรําตังหวาย ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฏร์น้ำใจงาม สุดเขตแดนสยาม มะขามหวานหลากหลาย กล้วยตากรสดี ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา แข่งนาวาสองฝั่งโขง"
อำเภอเขมราฐเดิมมีฐานะเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญต่อเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคนี้พอสมควร เนื่องจากเป็นเมืองที่เทียบได้กับหัวเมืองเอก ขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร มิได้ขึ้นกับเมืองอุบลราชธานีเช่นเมืองอื่นๆ นอกจากนั้นเมืองเขมราฐยังมีเมืองขึ้นอีกหลายเมือง เช่น เมืองอำนาจเจริญ เมืองคำเขื่อนแก้ว เป็นต้น
สำหรับการตั้งเมืองเขมราฐ ปรากฏในเอกสารที่เป็นหลักฐานว่าใน พ.ศ.2357 ซึ่งเป็นปีเดียวกับพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯ ตั้งเมืองยโสธรขึ้น อุปฮาด (ก่ำ) ซึ่งเป็นอุปฮาดเมืองอุบลราชธานี ไม่พอใจที่ทำราชการกับพระพรหมราชวงศา (ท้าวทิศพรหม) เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนที่ 2 จึงอพยพไพร่พลไปหาทำเลที่เหมาะสมตั้งเมืองขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นการสนองพระบรมราโชบายในการตั้งเมืองขึ้นใหม่ในช่วงระยะเวลานั้นๆ ในที่สุดพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งบ้านโศกกงพะเนียง ขึ้นเป็นเมืองเขมราฐธานีขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร เมื่อ พ.ศ.2357 พร้อมทั้งโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้อุปฮาด (ก่ำ) เป็นพระเจ้าเทพวงศาเมือง
ตลอดสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เมืองเขมราฐมีความสำคัญและขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานครตลอดมา ครั้นถึง พ.ศ.2371 เมื่อเสร็จสิ้นสงครามปราบกบฏเจ้าอนุแล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้เมืองโขงเจียม ซึ่งเคยขึ้นตรงต่อเจ้าเมืองจำปาสักมาขึ้นตรงต่อเมืองเขมราฐ เป็นผลให้เมืองเขมราฐมีบทบาทมากขึ้น เมื่อโปรดเกล้าให้ตั้งเมืองคำเขื่อนแก้วในปี พ.ศ.2388 เมืองอำนาจเจริญในปี พ.ศ.2401 ก็โปรดเกล้าให้ขึ้นตรงต่อเมืองเขมราฐเช่นกัน ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อมีการปรับปรุงการปกครองส่วนภูมิภาคครั้งใหญ่ เพื่อให้บังเกิดผลตามที่กำหนดใน “พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ ร.ศ.116” มณฑลอีสานถูกแบ่งออกเป็น 8 บริเวณ สำหรับเมืองอุบลราชธานีที่อยู่ 3 เมือง คือเมืองอุบลราชธานี เมืองเขมราฐ และเมืองยโสธร แต่ละเมืองมีพื้นที่ขึ้นตรงหลายอำเภอดังที่ปรากฏว่าในปี พ.ศ.2445 เมืองเขมราฐมีพระเขมรัฐเดชธนีรักษ์ (คำบุ) เป็นผู้ว่าราชการเมือง และมีอำนาจอยู่ในปกครอง 6 อำเภอ คือ อำเภออุทัยเขมราฐ อำเภอประจิมเขมราฐ อำเภออำนาจเจริญ อำเภอคำเขื่อนแก้ว อำเภอโขงเจียม และอำเภอวารินชำราบ อันแสดงให้เห็นว่าเมืองเขมราฐยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญมาก
ต่อมาใน พ.ศ.2452 ได้มีการปรับปรุงการปกครองภายในบริเวณเมืองอุบลราชธานีอีกครั้งหนึ่ง เมืองเขมราฐถูกลดฐานะเป็นอำเภอและรวมอำเภออุทัยเขมราฐกับอำเภอประจิมเขมราฐเข้าด้วยกันเป็นอำเภออุทัยเขมราฐขึ้นกับเมืองยโสธร แต่ก็ยังเป็นบริเวณอุบลราชธานีอยู่เหมือนเดิม
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการแยกมณฑลอีสานออกเป็นมณฑล คือ มณฑลอุบลราชธานีกับมณฑลร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2455 และมีการปรับปรุงให้เหมาะสม เมืองยโสธรถูกยกเลิกไป เมืองอุทัยเขมราฐก็มีฐานะเป็นอำเภอขึ้นกับจังหวัดอุบลราชธานีตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าให้ตั้งบ้านกงพะเนียง ขึ้นเป็นเมืองชื่อ “เมืองเขมราษฎร์ธานี” ขึ้นกับกรุงเทพมหานคร พร้อมกันนั้นได้ตั้งให้อุปฮาด (ก่ำ) เป็นเจ้าเมืองคนแรกในปี พ.ศ. 2357 แม้ว่าเมืองเขมราษฎร์ธานี จะเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองเขมราฐในภายหลัง แต่ก็มีความหมายเดียวกันคือ “ ดินแดนแห่งความเกษมสุข” (ราษฎร์) เป็นคำที่มาจากภาษาลีสันสกฤตมีความหมายตรงกับ “รัฐ”หรือ“รัฏฐ” ซึ่งมาจากภาษาบาลี หมายถึง แว่นแคว้นหรือดินแดนนั้นเอง ส่วน “เขม” เป็นคำมาจากภาษาบาลี หมายถึง ความเกษมสุข ซึ่งหมายความตรงกับ เกษม ที่มาจากภาษาสันสกฤต)
เมืองเขมราฐเปลี่ยนมาเป็นอำเภอเขมราฐ ขึ้นกับจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อ พ.ศ. 2452 โดยมีพระเกษมสำราญรัฐ เป็นนายอำเภอคนแรก อำเภอเขมราฐ ได้แบ่งเขตการปกครองแยกเป็นอำเภอต่างๆ ดังต่อไปนี้
- อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อปี พ.ศ.2511
- อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ.2525
- อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ.2537
ปัจจุบันมี นายสะอาด วงศ์รักษ์ เป็นนายอำเภอเขมราฐ
อาณาเขตและพื้นที่
อำเภอเขมราฐ มีพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 526.75 ตารางกิโลเมตรและมีอาณาเขต ดังนี้
- ทิศเหนือ: จดแนวฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณตรงข้ามเมืองสองคอน แขวงสะหวันเขต ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เป็นแนวยาวตามลำน้ำโขง
- ทิศตะวันออก: จดแนวฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณตรงข้ามเมืองคอนพะเพ็ง แขวงสาละวัน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และอำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี
- ทิศใต้: ติดต่อกับอำเภอนาตาล และอำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี
- ทิศตะวันตก: ติดต่อกับอำเภอปทุมราชวงศา และอำเภอชานุมานจังหวัดอำนาจเจริญ
ลักษณะภูมิประเทศ
อำเภอเขมราฐ มีสภาพพื้นที่โดยทั่วๆไปเป็นที่ราบสูงสลับเนินเขา ลักษณะเป็นดินรวนปนทราย และมีสภาพเป็นดินเหนียวตามไหล่เขา มีป่าไม้เบญจพรรณอยูทั่วไป เป็นลักษณะป่าโปร่ง มีแม่น้ำโขงไหลผ่านตามแนวชายแดนทางด้านทิศเหนือ และทิศตะวันออกตลอดแนวประมาณ 43 กิโลเมตร
สภาพภูมิอากาศ
สภาพอากาศโดยทั่วไปมีลักษณะอากาศแบบร้อนชื้น แบ่งเป็น 3 ฤดู คือ
- ฤดูร้อน ช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนพฤษภาคม อากาศร้อนอบอ้าว
- ฤดูฝน ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม-ต้นเดือนตุลาคม มีฝนตกโดยทั่วไป
- ฤดูหนาว ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน-เดือนมีนาคม อากาศจะเริ่มเย็นลงจนกระทั่งมีอากาศหนาว
เป็นสังคมการเกษตร ซึ่งอาชีพหลักของคนในชุมชนคือ ทำนา ทำไร่ ทำสวน และมีรายได้เสริมจากการรับจ้าง ค้าขาย ประมง เนื่องจากที่อยู่อาศัยอยู่ติดแม่น้ำโขง พบว่า วิถีชีวิตของคนในชุมชนสอดคล้องกับธรรมชาติ ใช้ชีวิตแบบเงียบสงบและพอเพียง ส่วนขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นยึดถือประเพณีฮีตสิบสอง ซึ่งมีในแต่ละเดือนทั้งสิบสองเดือน เรียกว่า ฮีตสิบสอง ครองสิบสี่ ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ อารามสำคัญในเขตเทศบาลเขมราฐนั้น ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ริมถนนกงพะเนียง และด้วยความเป็นเมืองเก่า แต่ละวัดจึงอยู่ห่างกันแค่ไม่กี่ร้อยเมตร
กลุ่มองค์กร
กลุ่มบริษัท ส.เขมราฐ เริ่มก่อตั้งในปี 2525 จากการร่วมกันระหว่างกิจการสถานีบริการเติมน้ำมันในนาม ห้างหุ้นส่วนจำกัดชนะชัยเขมราฐ กับโรงโม่หินในอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชรานี
ต่อมาในปี 2529 ได้ขยายธุรกิจและก่อตั้งบริษัท ส.เขมราฐ อินดัสตรี จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานรายใหญ่ที่สุดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือและระดับประเทศ ด้วยผลงานที่การันตีความสำเร็จมากกว่า 33 ปี บริษัทจดทะเบียนบริษัทด้วยทุนจดทะเบียน 450 ล้านบาท บริษัทเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานทั้งภาครัฐและเอกชน สร้างสรรค์ผลงานมากกว่า 1,000 ผลงาน บริษัทมีความเชี่ยวชาญในด้านการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีบุคลากรคุณภาพ มีทีมวิศวกรที่มีความชำนาญ มีเครื่องจักรมากกว่า 500 ชิ้น เพื่อรองรับในการทำงานทุกระดับ บริษัทได้รับความไว้วางใจในด้านความสามารถการบริหารจัดการโครงการ และระยะเวลาในการทำงานที่ดีเยี่ยม มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้การดำเนินงานอย่างไม่หยุดนิ่ง ด้วยมุมมองและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้บริหาร และนอกจากนั้น บริษัทยังมีความเข้มแข็งและมั่นคงทางด้านการเงิน รวมไปจนถึงการใส่ใจในด้นความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร
ในปี 2559 บริษัทได้รับการรับรองให้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นพิเศษ และได้รับการรับรองให้เป็น 1 ใน 10 ผู้รับเหมาก่อสร้างที่เติบโตเร็วที่สุด บริษัทได้รับความไว้วางไว้ให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการต่างๆ มากมาย อาทิ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสระบุรี-บางปะอิน ตอนที่ 13 , โครงการทางหลวงหมายเลข 2050 สายตระการ-บ้านห้วยยาง, โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 212 สายอุบลฯ-อำนาจ ตอน 2, โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 208 แยก ทล.2 ท่าพระ-มหาสารคาม , โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริม โครงการก่อสร้างฝ่าย และโครงการอื่นๆ อีกมากมาย
และในปี 2561–ปัจจุบัน ได้ขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นในนาม “กลุ่มบริษัท ส.เขมราฐ” ประกอบด้วยบริษัทในเครือทั้งหมด 3 บริษัท และมีพนักงานมากกว่า 700 อัตรา อันได้แก่ บริษัท ส.เขมราฐอินดัสตรี จำกัด บริษัท ส.เขมราฐทรานสปอร์ต จำกัด และบริษัท ชนะชัยเขมราฐ จำกัด การดำเนินธุรกิจแบ่งออก เป็น 3 ประเกท ได้แก่ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง & ผลิตวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจขนส่งสินค้า ธุรกิจบริการ
ตัวอย่างกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
- วิสาหกิจชุมชนชมรมตลาดน้ำริมโขงเขมราฐ
- กลุ่มทอผ้าฝ้ายแท้ทอมือเขมราฐ
- ผู้ปลูกพืชสมุนไพรทางการเเพทย์บ้านท่ากกทันเมืองเขมราษฏร์ธานี
- กลุ่มส่งเสริมและอนุรักษ์พัฒนาควายไทย ตำบลเจียด
- ศูนย์เพาะชำกล้าไม้เศรษฐกิจเขมราฐธานี
- เวชศาสตร์สมุนไพรศึกษาเพื่อพัฒนาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตครู กลุ่มที่ 1 อ.เขมราฐ
- กล้วยตากแสงแรกเขมราษฎร์ธานี
ปฏิทินท้องถิ่น: ประเพณีฮีตสิบสอง
เดือน | ประเพณี |
เดือนอ้าย หรือเดือนเจียง | ประเพณีงานบุญเข้ากรรม มีการเข้าปริวาสกรรมของพระภิกษุ สงฆ์เพื่อออกจากอาบัติสังฆาทิเสส |
เดือนยี่หรือเดือนสอง | งานบุญคูณลาน งานนี้เกี่ยวเนื่องกับการทำมาหากินเพราะปกติแล้ว เดือนยี่จะเป็นเดือนแห่งการเก็บเกี่ยว เมื่อเกี่ยวข้าวส่งมาถึงลานนวดข้าวแล้วก็จะมีการทำบุญกันที่ลานนวดข้าว จึงเรียกว่าบุญคูณลาน |
เดือนสาม | งานบุญข้าวจี่ ซึงจะมีคำพูดประโยคหนึ่งว่า “เดือนสามคล้อย เจ้าหัวคอย บุญข้าวจี่” และมีพิธีเลี้ยงผีตาแฮก ตามประเพณีแล้วหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวใส่ยุ้งฉางก็จะมีการทำบุญ เช่น บวงสรวงบูชาเจ้าที่ในนา |
เดือนสี่ | งานบุญเผวดหรือบุญเทศน์มหาชาติ แห่พระอุปคุต ตั้งศาลเพียงตา ทำบุญแจกข้าวอุทิศให้ผู้ที่ตายไปแล้ว |
เดือนห้า | บุญสรงน้ำ หรือเทศกาลสงกรานต์ชาวอีสานเรียกว่า “สังขานต์” งานบุญสรงน้ำของชาวอุบลราชธานีจะมีการทำบุญ ฟังเทศน์สรงน้ำ พระพุทธรูปและพระภิกษุสงฆ์ตลอดจนสรงน้ำญาติผู้ใหญ่ มีการเข้าวัดฟังเทศน์ติดต่อกันถึง 7 วัน และเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน |
เดือนหก | งานบุญวิสาขบูชาและงานบุญบั้งไฟ เกือบตลอดเดือนหกชาวอีสานทุกจังหวัดจะจัดงานบุญบั้งไฟเพื่อเป็นการบูชาพญาแถน (เทวดา) ขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล |
เดือนเจ็ด | งานบุญซำฮะบ๋าเบิก มีพิธีเลี้ยงผีตาแฮก ผีปู่ผีตา ศาลหลักเมือง |
เดือนแปด | งานบุญเข้าพรรษา มีพิธีหล่อเทียนพรรษา ชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านจะจัดงานหล่อเทียนพรรษาและประดับประดาให้สวยงาม แล้วจัดเป็นขบวนแห่ไปถวายเป็นพุทธบูชา |
เดือนเก้า | บุญข้าวประดับดิน เป็นงานบุญเพื่ออุทิศไปให้กับพวกผีเปรตไม่มีญาติ จัดขึ้นในวันแรม 14 ค่ำเดือน 9 นับตั้งแต่เช้ามืดจะจัดอาหารคาวหวาน หมากพลูบุหรี่ใส่กระทงเล็กๆ นำไปวางตามที่ต่างๆ เพื่อเป็นการให้ทานแก่เปรต |
เดือนสิบ | บุญข้าวสาก หมายถึง การกวนกระยาสารทคล้ายงานบุญสลากภัตในภาคกลาง ถวายผ้าอาบน้ำฝนและเครื่องไทยทาน ตอนบ่ายก็ฟังเทศน์เป็นอานิสงส์ |
เดือนสิบเอ็ด | บุญออกพรรษา มีงานบุญตักบาตรเทโว กวนข้าวทิพย์และงานแข่งขันเรือยาวกันอย่างสนุกสนาน |
เดือนสิบสอง | บุญทอดกฐิน พิธีถวายกฐินเหมือนกับประเพณีของท้องถิ่นอื่นๆ |
เมืองเขมราฐมีการจัดเทศกาลต่างๆ ขึ้นตามประเพณี ได้แก่ ประเพณีแข่งเรือยาว ประเพณีสองฝั่งโขงไทย-ลาว ลำน้าโขงหน้าเทศบาล ต.เขมราฐ เดือนตุลาคมของทุกปี ประเพณีสงกรานต์ แก่งช้างหมอบ เทศบาลตำบลเทพวงศา 13-15 เมษายน และประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา เทศบาลตำบลเขมราฐ เดือนกรกฎาคม
- นางธนิษฐา วงศ์ปัดสา
สัญชาติ/เชื้อชาติ: ไทย ศาสนา: พุทธ
วัน เดือน ปีเกิด: 1 มิถุนายน พ.ศ.2514 ภูมิลำเนา: อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี
บิดาชื่อ: นายอำพร สมบูรณ์ มารดาชื่อ: นางนารี สมบูรณ์
สำเร็จการศึกษา: ระดับชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้านกองโพน ตำบลกองโพน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ.2526
สถานภาพสมรสกับ: นายรังสฤษฎ์ วงศ์ปัดสา มีบุตรธิดารวม 4 คน
อาชีพและหน้าที่ปัจจุบัน: ประธานกลุ่มผ้าฝ้ายแท้ทอมือเขมราฐ
ที่อยู่ปัจจุบัน (ที่สามารถติดต่อได้): เลขที่ 7 ถนนวีระเกษม ตำบลเขมราฐ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี รหัสไปรษณีย์ 34170
โทรศัพท์มือถือ: 080–4710987
ประสบการณ์การทำงาน: (ในสาขาที่ได้รับการคัดเลือก) 30 ปี
นางธนิษฐา วงศ์ปัดสา นำเรื่องราวของลายผ้าโบราณเมืองเขมราษฎร์ธานีมาสืบสาน ต่อยอด พัฒนาเป็นผ้าฝ้ายทอมือมัดหมี่ย้อมครามใหม่จนประสบความสำเร็จ เป็นที่รู้จักในวงการผ้าฝ้ายของอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้มีผู้สนใจติดต่อมาศึกษาดูงานจากหลายกลุ่ม หลายจังหวัด ที่สนใจการทำผ้าฝ้ายจากธรรมชาติ อีกทั้งยังมาเรียนรู้เรื่องเล่าตำนานที่มาของลายผ้าแต่ละลายที่สะท้อนวิถีชีวิตชาวชุมชนเขมราฐที่มีมายาวนาน ปัจจุบันได้ใช้บ้านพักเปิดเป็นศูนย์การเรียน แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านสืบสานวัฒนธรรม สอนและถ่ายทอด “ภูมิปัญญาท้องถิ่นการทอผ้าฝ้ายย้อมครามธรรมชาติ” โดยการจัดการอบรมและเปิดโอกาสให้หน่วยงานหรือบุคคลทั่วไปเข้ามาศึกษาเรียนรู้ ดูงานกันอย่างต่อเนื่อง
วัดโพธิ์: ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2331 โดยแม่ชีขาว ที่หนีภัยสงครามมา และนำผู้คนอพยพลงมาจากเวียงจันทร์มาตามลำน้ำโขง และยึดชัยภูมิแห่งนี้ ตั้งหมู่บ้านและวัดขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งกรุงธนบุรี มีพระพุทธรูปที่สำคัญรูปหนึ่ง คือ พระเจ้าใหญ่องค์แสน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 1.09 เมตร สูงรวมเกตุ 1.59 เมตร สร้างด้วยอิฐโบราณ ถือด้วยน้ำเกสรดอกไม้ผสมน้ำเปลือกไม้ ตามภูมิปัญญาของคนสมัยโบราณ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวเขมราฐมาช้านานตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน และเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดองค์หนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี
วัดตาดใหญ่: เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนลานหิน ภายในบริเวณวัดมีการกั้นลำน้ำทำฝายน้ำล้น เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของคนในชุมชนและหมู่บ้านห่างไกล ซึ่งมีน้ำไหลตลอดปี คนส่วนใหญ่จะมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์
วัดพิชโสภาราม: ห่างจากตัวจังหวัดอุบลราชธานีไปทางด้านทิศเหนือประมาณ 100 กม. ตามทางหลวงหมายเลข 2050 สายอุบลราชธานี-เขมราฐ แล้วเลี้ยวที่ทางแยกหน้าสถานีตำรวจภูธรม่วงเฒ่าเข้าไปอีกประมาณ 7 กม. วัดนี้ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ พ.ศ.2456 มีการพัฒนามาโดยลำดับ มีการก่อสร้างศาสนสถานถาวรวัตถุขึ้นมาตามยุคตามสมัย ปัจจุบันมีพระบวรปริยัติวิธาน รองเจ้าคณะอำเภอเขมราฐ เป็นเจ้าอาวาสวัดพิชโสภาราม พระบวรปริยัติวิธาน เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสมาก และเป็นที่ยอมรับในหมู่คณะสงฆ์ว่าเป็นพระเถระผู้มีความสามารถทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ
วัดบ้านเหนือเขมราฐ: เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่เมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 มีพระอุโบสถหลังเดิมเป็นโบราณสถาน หน้าบรรณมีรูปปั้นพระราหูอมจันทร์ที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก
วัดอูบมุง: มีพระพุทธรูปพระเจ้าใหญ่องค์หมื่นประดิษฐานอยู่สร้างตั้งแต่สมัยใดไม่ประกฏแน่ชัด ค้นพบครั้งแรกเมื่อ 200 กว่า ปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยดินแดนแห่งนี้ยังเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ไม่มีผู้ใดเข้ามาอยู่อาศัยเมื่อประมาณ พ.ศ. 2499 มีท้าวจันทรศรีสุราช พร้อมครอบครัวได้อพยพตั้งหลักแหล่งทำมาหากินในบริเวณที่ตั้งบ้านอูบมุงในปัจจุบันและได้ค้นพบพระพุทธรูปโบราณโดยบังเอิญเป็นพระพุทธรูปนาคปรกประดิษฐานอยู่ในสถูป โดยองค์พระมีจอมปลวกพอกขึ้นมาจนถึงพระอุระ (อก) จึงได้ทำการบูรณะและเรียกว่า พระอูบมุง ซึ่งสันสันนิษฐานว่าเรียกตามที่องค์พระประดิษฐานอยู่ในสถูป ซึ่งคำว่า “สถูป” ชาวบ้านเรียกว่า “อูบ” ตามตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา เชื่อว่าพระเจ้าใหญ่อูบมุง สร้างขึ้นสมัยเดียวกันกับพระเจ้าใหญ่ปากแซ่ง (พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ)และพระเจ้าใหญ่วัดโพธิ์ (พระเจ้าองค์แสน) ส่วนพระเจ้าใหญ่อูบมุง เป็นพระเจ้าใหญ่องค์หมื่น อีกทั้งยังมีศาลหลักเมืองเขมราฐ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองซึ่งเป็นศาลปู่ตา เป็นที่เคารพสักการะของชาวเขมราฐอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์เมืองเขมราษฎร์ธานี: เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้อมูลเมืองเขมราฐ เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย บอกเล่าประวัติศาสตร์ของเมืองเขมราฐ และเป็นที่เก็บรวบรวมของเก่าแก่ในอดีตไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ได้แก่ ของใช้ของคนสมัยก่อนได้ใช้ดํารงชีพ รูปภาพในอดีต ตาชั่งโบราณ รูปปั้นโบราณ ถ้วยชาม เครื่องปั้นดินเผา เป็นต้น
โรงแรมสุขสงวน: เป็นโรงแรมแห่งแรกของอําเภอเขมราฐ สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง มีการตกแต่งอย่างสวยงาม ปัจจุบันไม่ได้เปิดให้บริการในส่วนของห้องพักแล้ว แต่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมเมืองเขมราฐ
บ้านขุนภูรีประศาสน์: เป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง ด้านหน้าบ้านตกแต่งอย่างสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ด้านบนบ้านจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยรวบรวมข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่จํานวนมากให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมและศึกษาข้อมูลวิถีชีวิตของผู้คนในอดีต
ภาษาไทย ภาษาลาวใต้
วันที่ 24 พฤษภาคม 2560 นายปัญญา เศวตธรรม นายอำเภอเขมราฐ ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เรื่องขอยกฐานะอำเภอเขมราฐขึ้นเป็นจังหวัดเขมราษฎร์ธานีว่า การที่จังหวัดอุบลราชธานีได้พิจารณารายงานการยกฐานะอำเภอเขมราฐ ขึ้นเป็นจังหวัดเขมราษฎร์ธานี ว่าอยู่ระหว่างการทบทวนความคิดเห็นของประชาชน สำหรับความคิดเห็นส่วนราชการ ทางอำเภอได้มีมติเห็นชอบในการยกฐานะอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ขึ้นเป็นจังหวัดเขมราษฎร์ธานี และในหนังสือขอยกฐานะฯ ดังกล่าว อำเภอเขมราฐได้ส่งข้อมูลที่ดินสำหรับใช้เป็นศูนย์ราชการจังหวัดเขมราษฎร์ธานี เพื่อใช้ก่อสร้างสถานที่ราชการจำนวน 4 แห่งได้แก่
- สถานที่ตั้งศาลากลางจังหวัดเขมราษฎร์ธานี
- สถานที่ตั้งโรงพยาบาลจังหวัดเขมราษฎร์ธานี
- สถานที่ตั้งศาลจังหวัดเขมราฐธานี
- สถานที่ตั้งแขวงศาลแขวงและศูนย์ราชการอื่นๆ
สำหรับการขอตั้งจังหวัดใหม่นั้น จะต้องเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2524 คือ
- ต้องมีไม่น้อยกว่า 8 อำเภอ
- มีประชากรไม่น้อยกว่า 3 แสนคน และ
- หน่วยงานราชการที่จะมาเป็นจังหวัดใหม่มีความพร้อมหรือไม่ ที่สำคัญต้องได้รับความยินยอมจากประชาชนทั้งจังหวัด
และมีขั้นตอนการขอตั้งจังหวัดใหม่ อาทิ อำเภอที่จะขอตั้งเป็นจังหวัดใหม่ต้องเสนอเรื่องไปยังจังหวัด จากนั้นต้องมีการตั้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อทำแบบสอบถามไปยังประชาชน และสอบถามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการต่างๆ ว่าเห็นชอบหรือไม่ หากส่วนใหญ่เห็นด้วยถือว่าผ่านเกณฑ์ ทางกระทรวงมหาดไทยจะเสนอต่อที่ประชุม ครม. เมื่อ ครม.พิจารณาเห็นชอบก็ต้องส่งเรื่องเข้ามาสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอเป็นกฎหมาย พ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัดต่อไป
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี เดิมเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย กล่าวคือ มีพื้นที่ทั้งหมด 22,686 ตารางกิโลเมตรเศษ แบ่งการปกครองเป็น 21 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ (มากที่สุดในประเทศไทย) มีประชากรประมาณ 1,450,000 คน (นับเป็นที่สองรองจากกรุงเทพมหานคร)
พ.ศ.2515 จอมพลถนอม กิตติขจร หัวหน้าคณะปฏิวัติในตอนนั้น ออกประกาศคณะปฏิบัติ ฉบับที่ 70 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2515 โดยให้แยกอำเภอยโสธร อำเภอกุดชุม อำเภอเลิงนกทา อำเภอคำเขื่อนแก้ว อำเภอมหาชนะชัย และอำเภอป่าติ้ว รวม 5 อำเภอ ออกจากจังหวัดอุบลราชธานี รวมจัดตั้ง เป็นจังหวัดยโสธร ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2515 เป็นต้นไป
ต่อมา ในปี พ.ศ.2536 ขณะนั้นจังหวัดอุบลราชธานี แบ่งพื้นที่การปกครองเป็น 25 อำเภอ 3 กิ่งอำเภอ รัฐบาลอันมีนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้ประกาศใช้ “พระราชบัญญัติตั้งจังหวัด อำนาจเจริญ พ.ศ.2536” กําหนดให้แยกอำเภออำนาจเจริญ อำเภอชานุมาน อำเภอปทุมราชวงศา อำเภอพนา อำเภอ เสนางคนิคม อำเภอหัวตะพาน และกิ่งอำเภอลืออํานาจ ออกจากการปกครองของจังหวัดอุบลราชธานี รวมตั้งขึ้นเป็นจังหวัดอำนาจเจริญ ให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2536 เป็นต้นไป นับเป็นจังหวัดในลําดับที่ 75 ของประเทศไทย
ปัจจุบัน จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ประมาณ 15,739 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 25 อำเภอ ต้องคอยดูว่า หากสามารถจัดตั้งจังหวัดเขมราษฏร์ธานีได้จริง จะแบ่งออกไปกี่อำเภอ เป็นเนื้อที่เท่าใด
ถนนคนเดินสายวัฒนธรรมเขมราฐ
ถนนคนเดินเขมราฐ (Khemmarat Walking Street) เป็นถนนที่เรียงรายไปด้วยบ้านไม้และร้านค้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง มีร้านขายอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ คาเฟ่สไตล์โฮมเมดเล็กๆ และร้านค้าต่างๆ ที่ขายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ชุมชนอย่างเช่นผ้าซิ่นและผ้าทอ และยังเต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย โดยถนนบริเวณนี้จะจัดให้เป็นถนนคนเดินทุกเย็นวันเสาร์ตั้งแต่สี่โมงเย็นไปจนถึงสามทุ่ม
ประวัติ
ถนนคนเดินเขมราฐ ตั้งอยู่ในอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ถนนคนเดินแห่งนี้โดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่สร้างจากไม้ ซึ่งบางหลังนั้นมีอายุร่วมสองร้อยปี โดยเริ่มเปิดเป็นถนนคนเดินในปี พ.ศ.2556 เนื่องจากทางเทศบาลต้องการพัฒนาบ้านเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจที่เคยคึกคักในอดีตให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในบรรยากาศย้อนยุค โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ และนอกจากการเดินจับจ่ายซื้อของ ถ่ายรูป และรับประทานอาหารท้องถิ่นแล้ว ที่นี่ยังมีมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่จัดแสดงประวัติชุมชน และของใช้โบราณต่างๆ ให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย และในช่วงเทศกาลอาจจะได้ดูการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม เช่น การร่ายรำท้องถิ่น ที่สร้างความคึกคักให้กับถนนสายนี้อีกด้วย
การเดินทางไปถนนคนเดินเขมราฐ
รถยนต์ จากตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังถนนคนเดินเขมราฐมีระยะทางประมาณ 106 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เนื่องจากไม่มีรถสาธารณะให้บริการในเส้นทางดังกล่าว นักท่องเที่ยวจึงอาจจะต้องเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังถนนคนเดินเขมราฐ
กนกณิศา ธนาโชคพิสิษฐ์.(2564). แนวทางการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของอําเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี,มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.(สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม 2566)
ฐานข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว จังหวัดอุบลราชธานี. อำเภอเขมราฐ. ได้จาก http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/ubontravel.(สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม 2566)
พีระยา สอนอาจ.(2554). ประวัติอำเภอเขมราฐ. ได้จาก https://www.gotoknow.org/posts/432101 (สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม)
ส.เขมราฐ. ประวัติความเป็นมา. ได้จาก https://skhemrat.com/ (สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม 2566)
รายงานรายชื่อและจำนวนสมาชิกของวิสาหกิจชุมชน. ได้จาก https://smce.doae.go.th/ (สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม 2566)
ถนนคนเดินเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย. ได้จาก https://palanla.com/th/domesticLocation/ (สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม 2566)
ไกด์อุบล. พ่อเมืองอุบลฯ ให้ถามความเห็นประชาชน เรื่องจังหวัดเขมราษฏร์ธานี. ได้จาก https://www.guideubon.com/2.0/ubon-news/khemaratthani/ (สืบค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2566)