Advance search

แหล่งภูมิปัญญา 300 ปี มีดพร้านาป้อ ซึ่งมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากมีดพร้าอื่น คือ มีความคม แกร่ง และทนทาน จนได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วไป ถึงขั้นมีคำพังเพยที่เอ่ยสอดคล้องกับมีดพร้านาป้อว่า กินเหมือนพร้านาป้อ” 

นาป้อ
ควนปริง
เมืองตรัง
ตรัง
ธำรงค์ บริเวธานันท์
20 ส.ค. 2023
ธำรงค์ บริเวธานันท์
20 ส.ค. 2023
ธำรงค์ บริเวธานันท์
6 ส.ค. 2023
บ้านนาป้อ

มีเรื่องเล่าว่าในอดีตว่า มีปลาไหลทองตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในหนองยน (นาพรุ) เรื่องราวของปลาไหลทองเลื่องลือไปไกลถึงหูนักล่าขุมทรัพย์ชาวยุโรป จึงเป็นต้นกำเนิดชื่อเรียกบ้านนาป้อ 2 ที่มา ได้แก่

ที่มาแรก มีเรื่องเล่าว่าเนื่องจากปลาไหลทองมีขนาดตัวใหญ่มากเกินกว่าที่จะใช้คนยกได้ กลุ่มนักล่าขุมทรัพย์จำเป็นต้องใช้เครื่องทุ่นแรงที่เรียกว่า เครื่องน้อ จึงสามารถจับปลาไหลทองได้ ชาวบ้านจึงเรียกพื้นที่นี้ว่า นาน้อ ต่อมาเพี้ยนเป็น นาป้อ

ที่มาที่สอง ว่ากันว่านักล่าขุมทรัพย์ชาวยุโรปที่มาจับปลาไหลทองซึ่งเป็นของล้ำค่าของชาวบ้านไป ชาวบ้านถือว่าเป็นพวกฝรั่งมาฉ้อโกง ชาวบ้านจึงเรียกว่า “บ้านนาฉ้อ” ต่อมา คือ บ้านนาป้อ


แหล่งภูมิปัญญา 300 ปี มีดพร้านาป้อ ซึ่งมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากมีดพร้าอื่น คือ มีความคม แกร่ง และทนทาน จนได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วไป ถึงขั้นมีคำพังเพยที่เอ่ยสอดคล้องกับมีดพร้านาป้อว่า กินเหมือนพร้านาป้อ” 

นาป้อ
ควนปริง
เมืองตรัง
ตรัง
92000
7.500296754
99.59415704
องค์การบริหารส่วนตำบลควนปริง

บ้านนาป้อ เป็นชุมชนที่มีประวัติมานานกว่า 200 ปี โดยชื่อบ้านนาป้อนั้นมีเรื่องเล่าว่า มีปลาไหลทองตัวหนึ่งอยู่ในหนองยน (พื้นที่ที่มีลักษณะเป็นพรุ) ทําให้บ้านนาป้อมีกิตติศัพท์เลื่องลือไปไกล จนกระทั่งข่าวนี้ได้รู้ไปถึงต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป ซึ่งในยุคนั้นเป็นนักค้นคว้าเกี่ยวกับขุมทรัพย์ลายแทงต่าง ๆ ฉะนั้นเมื่อพวกกลุ่มนักล่าขุมทรัพย์ชาวยุโรปทราบข่าวนี้เข้าพวกเขาก็เริ่มคิดค้นแผนการแก้ลายแทงเพื่อจับปลาไหลทองตัวนี้ให้ได้ แผนการถูกเริ่มขึ้นโดยการนําเอาลูกควายตัวเล็กหนึ่งตัวผูกคอเข้ากับหวายขนาดใหญ่ แล้วมัดไว้ที่ปากเหมืองซึ่งมีน้ำไหลลงไปในหนองยน ส่วนอีกด้านหนึ่งของหวายก็ผูกไว้กับต้นไม้อย่างแน่นหนา แล้วพวกเขาก็แอบอยู่ห่าง ๆ สักครู่ปลาไหลทองก็ขึ้นมาจริง ๆ ครั้นเมื่อมันเห็นลูกควาย มันก็ได้เข้าไปจับกินและกินเข้าไปทั้งตัว เสร็จแล้วมันก็จะมุดตัวลงไปในหนองยนเช่นเดิม แต่ลงไปไม่ได้เนื่องจากหวายด้านหนึ่งถูกมัดไว้กับตhนไม้อย่างแน่นหนา ครั้นเห็นดังนั้นก็รีบพากันไปจับปลาไหลทองตัวนั้นไว้ได้ แต่เนื่องจากความใหญ่ของปลาไหลจึงไม่สามารถที่จะยกแบกไปได้ จึงใช้เครื่องทุ่นแรง ซึ่งคนสมัยนั้นเรียกว่า “เครื่องน้อ” ยกเอาปลาไหลทองตัวนั้นไปได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านจึงเรียกกันติดปากว่าบ้านนาน้อ และยังมีอีกคําบอกเล่าหนึ่งซึ่งเล่าต่อ ๆ กันว่า พวกชาวยุโรปที่มาแก้ลายแทงจับปลาไหลทองซึ่งเป็นของล้ำค่าของชาวบ้านไป ชาวบ้านถือว่าเป็นพวกฝรั่งมาฉ้อโกง ชาวบ้านจึงเรียกว่า “บ้านนาฉ้อ” แต่ทั้งสองที่มามีความคล้ายคลึงกัน จึงเชื่อได้ว่าตำนานนี้มีมูลความจริง

ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2456 สมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ มีนายจิ ไม่ทราบนามสกุล เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของหมู่ที่ 3 ซึ่งในขณะนั้นยังคงเรียกว่า “บ้านนาน้อ” หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เปลี่ยนใหม่เรียกว่า “บ้านนาพ้อ” ความเดิมเป็นมาอย่างไร ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าสาเหตุใดจึงได้เปลี่ยนเป็นเช่นนั้น ก็ได้แต่อาศัยคนเฒ่าคนแก่เล่าสืบต่อกันมาจนกระทั่ง “บ้านนาพ้อ” เปลี่ยนเป็น “บ้านนาป้อ” จึงพอจะสรุปได้ว่า คําว่า “นาพ้อ” กับคําว่า “นาป้อ” ชาวบ้านอาจจะคิดว่าเป็นคำเดียวกัน ชาวบ้านจึงได้เรียกว่า “บ้านนาป้อ” มาจนกระทั่งทุกวันนี้

ที่ตั้งและอาณาเขต

บ้านนาป้อเป็นหมู่บ้านหนึ่งในจํานวน 7 หมู่บ้านของตําบลควนปริง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอำเภอเมืองตรัง ห่างจากอำเภอเมืองตรังประมาณ 5 กิโลเมตร และห่างจากศาลากลางจังหวัดตรังไปทางทิศใต้ ประมาณ 8 กิโลเมตร โดยมีอาณาเขตดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ หมู่ที่ 2 บ้านโคกสะท้อน ตําบลควนปริง
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ หมู่ที่ 7 บ้านทุ่งหวัง ตําบลควนปริง
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ หมู่ที่ 9 บ้านโคกพลา ตําบลโคกหล่อ
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ หมู่ที่ 1 บ้านเกาะปริง ตําบลควนปริง

ลักษณะภูมิประเทศ

ลักษณะภูมิประเทศของบ้านนาป้อ ตําบลควนปริง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มบางตอน ลักษณะดินเป็นเนื้อละเอียดที่มีก้อนกรวดหรือก้อนหินปะปนบางแห่งจะมีก้อนหินขนาดใหญ่โผล่อยู่ทั่ว ๆ ไป จะพบในสภาพพื้นที่ราบ และมีแหล่งน้ำธรรมชาติที่สําคัญ คือ คลองเมือง และห้วยโคลน ซึ่งไหลผ่านบ้านนาป้อ ทําให้มีน้ำใช้ตลอดปี

สถิติจำนวนประชากรจากสำนักทะเบียนราษฎร์ (รายเดือน) รายงานจำนวนประชากรตำบลควนปริง หมู่ที่ 3 บ้านนาป้อ ทั้งหมด 658 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 298 คน ประชากรหญิง 360 คน และจำนวนครัวเรือน 192 ครัวเรือน

การประกอบอาชีพของชาวบ้านนาป้อส่วนมากอยู่ในภาคการเกษตร โดยเฉพาะการทำสวนยางพารา เนื่องจากสภาพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นที่ราบซึ่งมีความเหมาะสมแก่การทำเกษตรกรรม นอกจากมียังมีอาชีพรับจ้าง ค้าขาย และตีเหล็ก อาชีพเก่าแก่ที่ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ และชาวนาป้อเกือบทุกครัวเรือนยังคงยึดปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน

ปัจจุบันโรงตีเหล็กในบ้านนาป้อ ตําบลควนปริง อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ได้ตั้ง เป็นกลุ่มเครือข่ายมีดพร้านาป้อ หรือวิสาหกิจชุมชนมีดพร้านาป้อซึ่งได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากภาครัฐทางด้านงบประมาณและการตลาด ทําให้ผลิตภัณฑ์จากการตีเหล็กได้รับความนิยมมากขึ้น ทําให้ชาวบ้านมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นและทําให้เศรษฐกิจของตําบลควนปริงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และยังเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมแขนงนี้ให้เป็นที่รู้จักของผู้คนทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด รวมถึงส่งเสริมและพัฒนากิจการของวิสาหกิจชุมชน ให้มีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ อันจะก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และแก้ปัญหาชุมชนได้อย่างยั่งยืน

ผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนมีดพร้านาป้อ

ผลิตภัณฑ์สำคัญ ได้แก่ เหล็กแทงปาล์ม มีดกรีดยาง มีดหวดสองคม มีดหวดหญ้า มีดแล่เนื้อ จอบ ขวาน เสียม กรรไกรคีบหมาก มีดอีโต้ มีดอีโต้แก้วหน้าม้า เป็นต้น โดยปกติกำลังการผลิตของวิสาหกิจชุมชนเฉลี่ยต่อวันประมาณ 200 ชิ้น รายได้ของสมาชิกประมาณ 400-500 บาทต่อวัน

ตลาดของมีดพร้านาป้อ

การตลาดของวิสาหกิจชุมชนมีดพร้านาป้อ ใช้วิธีการจำหน่ายโดยตรงด้วยการออกงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ที่จัดโดยภาครัฐและภาคเอกชน และส่งขายผ่านพ่อค้าคนกลางกระจายไปทั่วประเทศ รวมทั้งต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย เมียนมา และลาว ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนเริ่มมีการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น อาทิ การสร้างเพจเฟซบุ๊กสำหรับประชาสัมพันธ์และติดต่อกับลูกค้า ที่ชื่อว่า “วิสาหกิจชุมชนมีดพร้านาป้อ ตรา 55 OTOP จ.ตรัง” ที่จะมีการอัพเดตรูปภาพ ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนสามารถติดต่อซื้อขายกับลูกค้ารายย่อยได้โดยตรงและเป็นหนึ่งช่องทางสร้างการรับรู้สินค้าไปในเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนของวิสาหกิจชุมชนมีดพร้านาป้อ มีการอบรมถ่ายทอดความรู้กรรมวิธี กระบวนการในการผลิต และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้แก่นักเรียน นักศึกษา กลุ่มอาชีพองค์กรต่าง ๆ และบุคคลที่สนใจทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด เพื่อรักษาภูมิปัญญาของการตีมีดพร้านาป้อให้คงอยู่และสืบสานด้วยคนในชุมชน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

มีดพร้านาป้อ

หมู่บ้านนาป้อเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก เนื่องด้วยการคมนาคมระหว่างบ้านนาป้อกับตัวเมืองไม่สะดวกเท่าที่ควร จึงทำให้บ้านนาป้อมีโอกาสได้รับความเจริญของสังคมเมืองตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ ๆ น้อย หากเปรียบเทียบกับหมู่บ้านอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่รายรอบตัวเมือง ด้วยเหตุนี้เองทำให้หมู่บ้านนาป้อสามารถรักษาและอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและภูมิปัญญาชาวบ้านไว้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังคงรักษามรดกทางภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษได้ถ่ายทอดไว้เพื่อเป็นอาชีพแก่คนในท้องถิ่น คือ การตีเหล็ก การตีเหล็กของบ้านนาป้อที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ มีดพร้า ซึ่งมีความคม แกร่ง และทนทานถึงขั้นมีคําพังเพยว่า “กินเหมือนพร้านาป้อ” เรียกกันติดปากมาจนถึงปัจจุบันนี้ว่า พร้านาป้อ

การตีเหล็กที่นาป้อมีมานานแล้วประมาณ 300 ปี จากการที่ชาวอินเดียซึ่งอพยพเข้ามาและได้นําวิชาการตีเหล็กมาถ่ายทอดให้แก่ลูกหลานและคนในท้องถิ่น ทำให้ชาวบ้านสามารถสร้างอาชีพและมีรายได้เป็นอย่างดี ผลงานการตีเหล็กของบ้านนาป้อเป็นที่เลื่องลือไปเกือบทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เป็นการสร้างชื่อเสียงและเอกลักษณ์ให้แก่จังหวัดตรังด้วย ในอดีต เมื่อเสร็จจากหน้านา คนนาป้อจะลงมือตีพร้า แทบทุกครัวเรือนมีโรงตีเหล็กเป็นของตัวเอง การตีเหล็กของบ้านนาป้อในอดีตมีการทำมีดพร้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในปัจจุบันช่างตีเหล็กได้ผลิตงานออกมาหลายรูปแบบตามความต้องการของตลาดทุกขั้นตอน และในการผลิตจะใช้มือเพียงอย่างเดียวไม่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าเหมือนปัจจุบันนี้

วัสดุและอุปกรณ์ในการตีมีดพร้านาป้อ

  • เหล็กแหนบรถยนต์เก่า : หาซื้อจากร้านขายเศษเหล็ก เหล็กแหนบรถยนต์ราคาจะขึ้นอยู่ระดับความหนา เพื่อใช้ทำตัวมีด
  • เหล็กเส้นหรือเหล็กวิทยาศาสตร์ ใช้ทำบ้องหรือด้าม ซื้อได้จากร้านขายวัสดุก่อสร้างทั่วไป
  • ถ่านไม้เคี่ยม เป็นถ่านที่มีคุณสมบัติที่ร้อนเร็ว ร้อนสม่ำเสมอ แต่มีความแตกต่างจากถ่านไม้ชนิดอื่น ๆ ตรงที่มอดเร็ว และต้องอาศัยพัดลมเป่าเพื่อให้ระอุอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมีข้อดีคือช่วยให้ประหยัดถ่านไม้ ไม่ต้องปล่อยให้มอดทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์
  • สูบลม เดิมเป็นกระบอกสูบทำจากลำต้น (ลำตรง) ของไม้เนื้อแข็งที่แกนในผุ ช่างจะเจาะกลางลำต้นให้กลวง ต่อมาได้เปลี่ยนใช้ไม้แผ่นมาประกบเป็นกระบอกสูบสี่เหลี่ยม ชักสูบด้วยมือ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นมอเตอร์หอยโข่ง
  • ทั่ง เป็นเหล็กตันที่ใช้รองเวลาตีเหล็ก ทำมาจากหูเรือยนต์
  • คีม ใช้คีบเหล็กในกระบวนการตีเหล็ก
  • ค้อน เป็นเครื่องมือของช่างใช้ในการตี
  • เตาเผา เดิมก่อด้วยดินผสมแกลบยกสูงขึ้นจากพื้น ในระดับที่พอเหมาะ ปัจจุบันก่อด้วยอิฐ

ขั้นตอนการตีมีดพร้านาป้อ

  • ขั้นการตัดเหล็ก เพื่อให้ได้แผ่นเหล็กตามขนาดที่ต้องการ
  • ขั้นการขึ้นรูปหรือการแปรรูป เพื่อตกแต่งโครงร่างให้เป็นรูปโค้งตามลักษณะของมีดพร้า
  • ขั้นการแต่งรูป ทำให้ได้มีดพร้าที่มีรูปร่าง รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์และสวยงาม
  • ขั้นการตีตรา เป็นการประทับตราหรือยี่ห้อลงบนมีดพร้า
  • ขั้นการแต่งผลิตภัณฑ์ เป็นขั้นตอนสำคัญการทำให้มีดพร้ามีความคมและเรียบสวยงาม
  • ขั้นการชุบ เป็นขั้นตอนที่ทำให้มีดมีความคม ความแกร่ง และความทนทาน

ภาษาพูด : ภาษาไทยถิ่นใต้

ภาษาเขียน : ภาษาไทย

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กรมการปกครอง. สำนักบริหารการทะเบียน. (2565). สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน). สืบค้นเมื่อ 23 กรฎาคม 2566, จาก https://stat.bora.dopa.go.th/

ฐานข้อมูลท้องถิ่นภาคใต้. (2561). มีดพร้านาป้อ. สืบค้นเมื่อ 23 กรฎาคม 2566, จาก https://clib.psu.ac.th/southerninfo/

ผอบ ชนะวรรณโณ. (2546). วัฒนธรรมการตีเหล็กบ้านนาป้อ ตำบลควนปริง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาตรมหาบัณฑิต สาขาไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ.

สุภาพร หมุนแก้ว. (2564). วิสาหกิจชุมชนมีดพร้านาป้อ ตำนานที่ยังคงอยู่ สู่การต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์. สืบค้นเมื่อ 23 กรฎาคม 2566, จาก https://www.technologychaoban.com/

Anonymous. (2561). มีดพร้านาป้อ ภูมิปัญญา 300 ปีที่เมืองตรัง : FB/Youtube Thai Touch สัมผัสไทย. สืบค้นเมื่อ 23 กรฎาคม 2566, จาก http://thaitouchsampasthai.blogspot.com/

Google Earth. (ม.ป.ป.). สืบค้นเมื่อ 23 กรฎาคม 2566, จาก https://earth.google.com/