ชุมชนยางเนิ้ง มีต้นยางนาขนาบสองข้างทางตามท้องถนน สัญลักษณ์สำคัญเมื่อผ่านมาทางถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน (ถนนสารภี) เส้นทางที่เก่าแก่ ดูร่มรื่นมีต้นยางที่ปลูกเรียงรายสองฟากถนนจากเชียงใหม่มุ่งหน้าสู่สารภีขนาดใหญ่ รวมระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
ยางเนิ้ง มีที่มาจากชื่อของต้นยางหรือยางนา คือ ต้นยางที่ให้น้ำมันยางแก่คนไทยในรุ่นโบราณอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เป็นต้นไม้สำคัญที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้สองฝากฝั่งถนนของชุมชน
ชุมชนยางเนิ้ง มีต้นยางนาขนาบสองข้างทางตามท้องถนน สัญลักษณ์สำคัญเมื่อผ่านมาทางถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน (ถนนสารภี) เส้นทางที่เก่าแก่ ดูร่มรื่นมีต้นยางที่ปลูกเรียงรายสองฟากถนนจากเชียงใหม่มุ่งหน้าสู่สารภีขนาดใหญ่ รวมระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
ต้นยางนาถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน เริ่มปลูกครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2425 โดยมหาอำมาตย์โท เจ้าพระยาสุรสีห์ วิสิษฐ์ศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ไปจนจรดเขตจังหวัดลำพูน ต่อมาในปี พ.ศ. 2424 ราชการได้นำต้นยางนามาให้ราษฎรช่วยกันปลูกเพิ่มเพื่อความร่มรื่น สวยงามตลอดสองข้างทางในเขตจังหวัดเชียงใหม่ และปลูกต้นขี้เหล็กในเขตจังหวัดลำพูน จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของถนนสายนี้จวบจนถึงปัจจุบัน และเมื่อเมืองเชียงใหม่ในฐานะศูนย์กลางการพัฒนาในพื้นที่ภาคเหนือเจริญเติบโตขึ้นตามยุคสมัย ก็ส่งผลให้ถนนสายต้นยางนาเชียงใหม่-ลำพูน เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย โดยสามารถแบ่งช่วงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของถนนต้นยางนาได้ 3 ช่วงเวลาหลัก คือ
ช่วงที่ 1 ต้นยางนาในยุคไม้หมายทางเชียงใหม่-ลำพูน
ถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน (ทางหลวงหมายเลข 106) เป็นเส้นทางคมนาคมทางบกที่เลียบตามแนวแม่น้ำปิงในการติดต่อค้าขายระหว่างชาวเมืองเชียงใหม่และเมืองลำพูน มาตั้งแต่พระยามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่ หรือมากกว่า 700 ปี แต่การปลูกต้นยางนาริมถนนดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอินทรวิชยานนท์ (เจ้าอินทนนท์) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7 โดยมหาอำมาตย์โท เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐ์ศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพ ได้ปลูกตลอดสองข้างทางตั้งแต่เชิงสะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ไปจนจรดเขตจังหวัดลำพูน ใน พ.ศ. 2425 ต่อมาในปี พ.ศ. 2454 ทางราชการได้นำต้นยางนามาให้ราษฎรช่วยกันปลูกเพื่อความร่มรื่น สวยงามตลอดสองข้างทางในเขตจังหวัดเชียงใหม่ และปลูกต้นขี้เหล็กในเขตจังหวัดลำพูน จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของถนนสายนี้จนถึงปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2546 จังหวัดเชียงใหม่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแนวทางปรับปรุงและแก้ไขปัญหาต้นยางนาบริเวณถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน เพื่อพิจารณาหาแนวทางพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าวแก่ราษฎรที่อาศัยบริเวณสองข้างทาง และผู้ใช้เส้นทางให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งเพื่อให้ได้ข้อมูลวิธีการและแนวทางที่ถูกต้องในการบำรุงรักษา อนุรักษ์ต้นยางให้สามารถคงอยู่ต่อไปโดยไม่เกิดปัญหาแก่ประชาชน นับแต่นั้นเป็นต้นมาหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินโครงการเพื่ออนุรักษ์ต้นยางนามาอย่างต่อเนื่อง เช่น สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ได้เข้ามามีบทบาทผลักดันมูลนิธิรักษ์ยางนา เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ และรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของการดูแลต้นยางนา ถนนเชียงใหม่-ลำพูนมากขึ้น
ช่วงที่ 2 ยุคการอนุรักษ์ต้นยางนา
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระราชเสาวนีย์เกี่ยวกับต้นยางนาในพื้นที่อำเภอสารภี เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดห้องเรียนคอมพิวเตอร์พระราชทาน ณ ศูนย์สงเคราะห์บุคคลปัญญาอ่อน อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์สุขภาพระรินจินดา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ไว้ว่า “ฝากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ อย่าให้ใครตัดต้นยางที่ถนนเชียงใหม่-ลำพูน เพราะไม่มีที่ไหนอีกแล้ว”
จังหวัดเชียงใหม่จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแนวทางปรับปรุงและแก้ไขปัญหาต้นยางนาบริเวณถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ตามคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1011/2546 เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2546 โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานกรรมการ เพื่อพิจารณาหาแนวทางพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าวแก่ราษฎรที่อาศัยบริเวณสองข้างทาง และผู้ใช้เส้นทางให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งเพื่อให้ได้ข้อมูลวิธีการและแนวทางที่ถูกต้องในการบำรุงรักษา อนุรักษ์ต้นยางให้สามารถคงอยู่ต่อไปโดยไม่เกิดปัญหาแก่ประชาชน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เห็นถึงความสำคัญของการดำรงอยู่ของต้นยางนาจึงจัดสรรงบประมาณจำนวน 592,000บาท มาให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ร่วมกับกลุ่มพฤกษศาสตร์ป่าไม้ ฝ่ายวนวัฒนวิจัยและพฤกษศาสตร์ ทำศัลยกรรมบาดแผลต่าง ๆ ของต้นยางนาเพื่อเป็นตัวอย่างในการจัดการจำนวน 100 ต้น
ต่อมาในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2547 กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 182,600 บาท สำหรับจัดงานพิธีเปิดโครงการอนุรักษ์ต้นยางนาสองข้างถนนสายเชียงใหม่- ลำพูน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานในพิธีเปิด ณ บริเวณสวนสุขภาพเทศบาล ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และจัดสรรงบประมาณจำนวน 500,000 บาท ให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ดำเนินการอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง
ในปี พ.ศ. 2548 แขวงการทางเชียงใหม่ที่ 2 ได้ส่งมอบพื้นที่ถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูนและต้นยางนาสองฝั่งถนนให้อยู่ในความรับผิดชอบดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ และเทศบาลในพื้นที่ช่วยดูแลด้วย
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา กรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ได้จัดสรรเงินงบประมาณเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับโครงการการอนุรักษ์ต้นยางนาตามแผนงานต่อเนื่องที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เสนอขอแต่อย่างใด แต่ได้เสนอของบประมาณตามแผนยุทธศาสตร์จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้ดำเนินการต่อมาในปีงบประมาณ 2553 และ 2554 โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการสำรวจต้นยางนาทุกต้นพร้อมร่างจัดทำแบบภูมิทัศน์ เป็นต้น
พ.ศ. 2554 ชุมชนทั้ง 5 เทศบาลตำบลและเทศบาลนครเชียงใหม่ตลอดสายถนนต้นยางนาเชียงใหม่-ลำพูน ได้ริเริ่มรวมกลุ่มจัดตั้งมูลนิธิอนุรักษ์ต้นยางนา พร้อมเสนอการปลูกต้นยางนาเฉลิมพระเกียรติฯ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน ๙ต้น ต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ร่วมกับส่วนราชการ ได้แก่ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เป็นต้น ได้ให้การสนับสนุน โดยจัดทำโครงการปลูกต้นยางนาเฉลิมพระเกียรติฯ 48 พรรษา ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗รอบขึ้น ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554 โดยต้นยางนาได้มาจากประชาชน รวมทั้งค่าใช้จ่ายจากเงินงบประมาณองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.ชม.) ในการขนส่งต้นยางนาและการจัดพิธีการเฉลิมพระเกียรติฯ พ.ศ. 2556 –2559 มีการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ และการจัดการพื้นที่สีเขียวเมืองเก่าเชียงใหม่ ตามแนวคิดนิเวศประวัติศาสตร์อย่างมีส่วนร่วม พื้นที่ดำเนินการ คือ พื้นที่เมืองเก่าเชียงใหม่ 5 ชุมชน และเทศบาลตำบลยางเนิ้ง ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นพื้นที่นำร่อง มีเครือข่ายเชียงใหม่เขียว สวย หอม มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ ร่วมกับโครงการหมอต้นไม้อาสา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกันดำเนินงาน โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อม
ช่วงที่ 3 ยุคประกาศเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ได้มีการประกาศเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมฯ ต้นยางนาและต้นขี้เหล็ก โดยคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ 178/2558 โดยอำนาจตามมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี โดยกำหนดให้พื้นที่ที่วัดจากศูนย์กลางทางหลวงแผ่นดิน ถนนเชียงใหม่ – ลำพูน ออกไปด้านละ 40 เมตร ตั้งแต่ลำเหมืองพญาคำ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ถึงสุดเขตตำบลอุโมงค์ อำเภอลำพูน จังหวัดลำพูน ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูนเป็นพื้นที่ ที่ให้ใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เกิดพายุหมุนโค่นต้นยางนา สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนราษฎรบนสองฝั่งถนนเป็นอย่างมาก และในวันที่ 8 มิถุนายน 2559 คณะกรรมการคุ้มครองยางนาฯ จึงได้ประชุมหารือถึงมาตรการทั้งระยะสั้น ระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในปี พ.ศ. 2560 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินกิจกรรมการอนุรักษ์ฟื้นฟูต้นยางนาในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมอำเภอสารภี ภายใต้โครงการพัฒนาเมืองและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2560 กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ประกาศให้ต้นยางนา ถนนเชียงใหม่-ลำพูนบริเวณหน้าวัดสารภี ได้เป็น 1 ใน 65 แห่ง ในโครงการ “วัฒนธรรมสู่การท่องเที่ยวต้นไม้ใหญ่ รุกขมรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี” ซึ่งถือว่าเป็นการตอกย้ำความสำคัญและศักยภาพของพื้นที่เป็นอย่างดี รวมทั้งสอดคล้องกับนโยบายของการท่องเที่ยวที่เน้นให้เกิดการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อประโยชน์ของชุมชนท้องถิ่น
ปัจจุบันต้นยางนาสองฝั่งถนนได้รับผลกระทบจากแนวทางการพัฒนาเมืองในอดีตซึ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับมิติทางสิ่งแวดล้อมมากเท่าที่ควร จนนำไปสู่การเริ่มทรุดโทรม หักโค่น ล้มตาย สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน ร้านค้า และผู้ใช้เส้นทางสัญจรไปมา สถานการณ์ปัญหานับวันจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากขาดความสม่ำเสมอในการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลต่อความไม่เชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อการฟื้นฟู ดูแล และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าจากกรณีต้นยางนาหักโค่น รวมทั้งสร้างความขัดแย้งในพื้นที่ระหว่างประชาชนที่อยู่ใต้ต้นยางนาที่ต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยของผู้คนเป็นอันดับแรก ในขณะที่ประชาชนที่อยู่ห่างจากต้นยางออกไปมีความเห็นว่าต้องอนุรักษ์ต้นยางนาเอาไว้ก่อนเป็นประการแรก เป็นต้น
แม้ภาครัฐ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน ต่างก็พยายามร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หากก็ยังล่าช้า และยังไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปว่า สถานการณ์ของต้นยางนาเชียงใหม่–ลำพูน จะเป็นไปในทางทิศทางใด จะนำไปสู่การจัดการอย่างยั่งยืนได้อย่างไร เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์จากการดำรงอยู่ของต้นยางนาทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ที่ตั้งของบ้านยางเนิ้ง อยู่ในเขตปกครองของชุมชนเทศบาลตำบลยางเนิ้งห่างจากจังหวัดเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 (เชียงใหม่ – ลำพูน) เป็นระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งสิ้น 10.04 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 4,050 ไร่ โดยมีอาณาเขตติดต่อดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี
- ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลสารภี อำเภอสารภี
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลชมภู อำเภอสารภี
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลหนองแฝก อำเภอสารภี
ข้อมูลสถิติจำนวนประชากรทางการทะเบียนราษฎร เมื่อเดือนมกราคม 2566 ระบุว่า หมู่ที่ 3 ยางเนิ้ง มีประชากรเพศชาย จำนวน 612 คน เพศหญิง จำนวน 762 คน รวมเป็น 1,374 คน
ชุมชนมีการรวมกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ได้แก่
- จักสานผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ (สุ่มไก่) มีขั้นตอนที่สำคัญ คือ นำไม้ไผ่มาตัด - เหลาเสี้ยนไม้ออก - นำไม้มาสานขึ้นเป็นรูปฐานก่อน จากนั้นค่อย ๆ สานขึ้นเป็นรูปทรงของสุ่มไก่
- การทำไม้กวาดทางมะพร้าว มีลักษณะที่สำคัญ คือ ทำเองด้วยมือทั้งหมด วัสดุที่ใช้ทำมาจากธรรมชาติ มีความแข็งแรงทนทาน มากกว่าไม้กวาดทั่วไป และทำเป็นอาชีพเสริมรายได้ให้กับคนในชุมชน
ประเพณีการสืบชะตาและบวชต้นยางนา
ต้นยางนา ถือเป็นเอกลักษณ์คู่ถนนสายนี้ตลอดมาร่วมร้อยกว่าปีแล้ว ปัจจุบันอำเภอสารภีมีการขยายตัวของชุมชนเข้าสู่การเป็นชุมชนเมืองมากยิ่งขึ้นประกอบกับการขาดการวางแผนการป้องกันระยะยาวอย่างจริงจังทำให้มีการก่อสร้างอาคารร้านค้าและที่พักอาศัยใกล้ชิดติดแนวถนนและการใช้ที่สาธารณะข้างถนนโดยขาดการอนุรักษ์ต้นไม้มองเฉพาะด้านความปลอดภัยและผลประโยชน์ของบุคคลและกลุ่มคนทำให้จำนวนต้นไม้ลดจำนวนลงอย่างมาก คณะสงฆ์ ส่วนราชการ สภาวัฒนธรรมอำเภอสารภี เทศบาลตำบลยางเนิ้ง เทศบาลตำบลหนองผึ้ง เทศบาลตำบลสารภี และประชาชนทั่วไป จึงได้ร่วมกันจัดพิธีบวชต้นยางขึ้น ทุกวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ซึ่งต้นไม้เก่าแก่ที่คงคุณค่า ในด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และด้านจิตใจของคนที่ผูกพันกับต้นยางนา โดยจัดให้มีพิธีสืบชะตา และบวชต้นยางนา ตลอดเส้นทางสายเชียงใหม่-ลำพูน จากเขตแดนอำเภอสารภี ถึงเขตเมือง จังหวัดลำพูน
ต้นยางที่ปลูกสองฝั่งถนนสายลำพูน-เชียงใหม่ ช่วงอำเภอสารภี จ.เชียงใหม่ เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ในอดีตที่ผู้คนมาเยือนจากเส้นทาง ลำพูนเข้าถึงตัวเมืองเชียงใหม่รู้สึกได้ว่า กำลังเข้าถึงเมืองเชียงใหม่ในอีกไม่ช้า ต้นยางจึงเป็นต้นไม้ที่ได้รับการอนุรักษ์ให้คงอยู่มาถึงทุกวันนี้ ข้อมูลจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ บันทึกไว้ว่า มีการปลูกต้นแรก เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2425 โดยเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐ์ศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพ ในรัชกาลที่ 5 ยุคนั้นเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐ์ศักดิ์ มาบริหารโดยกำหนดนโยบาย “น้ำต้อง กองต๋ำ” หมายถึงการพัฒนาคูคลองร่องน้ำให้บริบูรณ์จะต้องทำไปพร้อมกับการตัดถนนหนทางใหม่ๆ ให้กว้างขวาง วัวคลายล้อเกวียน และราษฎรสัญจรไปมาได้สะดวก พร้อมกันนั้น “กอง” หมายถึงถนนก็จะต้องมีการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาเป็นทิวแถวสวยงาม จึงกำหนดให้เส้นทางสายหลักของเมืองเชียงใหม่ปลูกต้นไม้ริมทาง คือสายเชียงใหม่-ลำพูน ปลูกต้นยางนา สายเชียงใหม่-สันป่าตองปลูกต้นขี้เหล็ก สายสันกำแพงปลูกต้นก้ามปูหรือฉำฉา เป็นต้น ต่อมาต้นยางนาเติบโตสูงใหญ่พร้อมกับการขยายตัวของชุมชน มีการสร้างอาคารบ้านเรือนประชิดเขตทาง ทำให้ต้นยางนาถูกทำลาย และที่ล้มตายเองก็มี เนื่องจากมีอายุมากกว่า 130 ปี คงเหลือต้นยางนาตั้งแต่เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ไปถึงบ้านปากกอง อ.สารภีประมาณ 900 กว่าต้นเท่านั้น กิจกรรมการบวชต้นยางเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่มุ่งหมายให้คนเชียงใหม่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ดูแลรักษาต้นยางร่วมกัน
จากกิจกรรมนี้ต่อเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2561 ผู้บริหารเทศบาลร่วมกับสมาชิกสภาเทศบาล พร้อมกับประธานชุมชนเมืองกาย ชุมชนบ้านเด่นสามัคคี ชุมชนการเคหะหนองหอย 1 ประธานชุมชน ร7.พัน.1 และพ่อแม่พี่น้องในชุมชนใกล้เคียงร่วมกันบวชต้นยางนาริมถนนเส้นเชียงใหม่-ลำพูนในเขตเทศบาลฯ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์คู่เมืองเชียงใหม่เป็นเวลากว่าร้อยปีมาแล้ว วันแรกนั้นได้บวชต้นยางนาทั้งหมดทั้งหมด 26 ต้น และมาดำเนินการต่ออีกในวันที่ 9 มกราคม 2561 นี้อีกคาดว่าจะออกดำเนินการบวชต้นยางนาที่เหลือให้ครบรวมประมาณ 150 ต้น (ในเขตเทศบาล) นอกจากนั้นได้ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ต้นยางนาไม่ให้ทำลายด้วยวิธีใดๆ ส่วนกรณีที่จะมีกิ่งหักโค่นหรือเสี่ยงอันตรายในช่วงพายุฤดูร้อน ก็จะมีการตัดรอนกิ่งลงมา โดยประสานกับป่าไม้ และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) เพื่อมาดำเนินการทุกปี
1.มหาอำมาตย์โท เจ้าพระยาสุรสีห์ วิสิษฐ์ศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพ เนื่องด้วยเป็นผู้เริ่มปลูกต้นยางนาบนถนนสายนี้
ในชุมชนมีการสื่อสารด้วยภาษาไทยกลางและภาษาไทยท้องถิ่นเหนือหรือคำเมือง
ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ มลพิษหมอกควันการที่หมอกควันรุนแรงเพราะมีปัจจัยหลายอย่างเกิดขึ้นการแก้ไขปัญหาหมอกควันเป็นประเด็นที่ทางการไม่ได้นิ่งนอนใจ มีแนวทางการแก้ไขอย่างต่อเนื่องและหลากหลายวิธี ทั้งมาตรการเชิงควบคุมการเผาและมาตรการเชิงป้องกัน อย่างไรก็ดี ผลของมาตรการต่าง ๆ ยังมีข้อจำกัด สำหรับมาตรการเชิงควบคุมการเผานั้นทำได้ยาก
ทิพย์วรรณ์ ทนันไชย, สัชฌุเศรษฐ์ เรืองเดชสุวรรณ, นินุช บุณยฤทธานนท์ และธีรพงษ์ พร้อมมูล. (2565). สินทรัพย์มรดกทางวัฒนธรรมตามเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กรณีศึกษา ตำบลยางเนิ้ง ตำบลหนองผึ้ง ตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 41(3), 29-45.
เทศบาลตำบลยางเนิ้ง. (2566). ประวัติความเป็นมา. (ออนไลน์). จาก http://theyang.go.th/oldversion/about.php?id=1
นุทอง เนตรสว่าง. (2548). ประชาสังคมกับการมีส่วนร่วมพัฒนาท้องถิ่น: กรณีศึกษาเทศบาลตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.
อารีรัตน์ นวลน้อย. (2557). วัฒนธรรมองค์การที่ส่งผลต่อการให้บริการประชาชน: กรณีศึกษาเปรียบเทียบเทศบาลตำบลยางเนิ้ง กับ เทศบาลตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารองค์กรภาครัฐและเอกชน), มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
CMHY. (2564). ตลาดยางเนิ้ง. (ออนไลน์). จาก https://www.cmhy.city/