Advance search

วัดท่านท้าวทอง, วัดบางพลูบน

วัดโบราณที่มีประวัติที่สัมพันธ์กับชาวมอญในย่านฝั่งธนบุรีในอดีตอย่างใกล้ชิด วัดเทพากร (วัดท่านท้าวทอง/วัดบางพลูบน) คู่กับวัดเทพนารี (วัดท่านท้าวเงิน/วัดบางพลูล่าง ) อันมีความสัมพันธ์ระหว่างกันในเชิง “วัดพี่วัดน้อง”

531 วัดเทพกร ซอย จรัญสนิทวงศ์ 68 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
วัดเทพากร
บางพลัด
บางพลัด
กรุงเทพมหานคร
กฤษฎา อุ่นลาวรรณ
17 ม.ค. 2024
กฤษฎา อุ่นลาวรรณ
17 ม.ค. 2024
วัดเทพากร
วัดท่านท้าวทอง, วัดบางพลูบน

เชื่อกันว่าแรกเริ่มเมื่อวัดเทพากรสร้างเสร็จ ก็ได้ชื่อว่า “วัดทอง” กล่าวคือ ให้ชื่อตามนามของผู้สร้าง เจตนาให้เป็นนามคู่กับ “วัดเงิน” หรือวัดเทพนารีในปัจจุบัน เมื่อสร้างเสร็จมีการสมโภชฉลองวัดและได้ทูลเชิญเจ้าฟ้ามงกุฎขณะยังผนวช (ต่อมาคือรัชกาลที่ 4) เสด็จฯ มาในงานและได้ทรงพระราชทานนามวัดอย่างเป็นทางการว่า “วัดท้าวเทพากร” เพื่อให้ตรงกับนามของผู้สร้าง (เข้าใจว่าเวลานั้นนายทองทูลเกล้าถวายเป็นพระอารามหลวง)


วัดโบราณที่มีประวัติที่สัมพันธ์กับชาวมอญในย่านฝั่งธนบุรีในอดีตอย่างใกล้ชิด วัดเทพากร (วัดท่านท้าวทอง/วัดบางพลูบน) คู่กับวัดเทพนารี (วัดท่านท้าวเงิน/วัดบางพลูล่าง ) อันมีความสัมพันธ์ระหว่างกันในเชิง “วัดพี่วัดน้อง”

วัดเทพากร
531 วัดเทพกร ซอย จรัญสนิทวงศ์ 68 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
บางพลัด
บางพลัด
กรุงเทพมหานคร
10700
13.786483821083225
100.5017284736672
กรุงเทพมหานครสำนักงานเขตบางพลัด

จากคำบอกเล่าโดยผู้สูงอายุ ซึ่งเล่าสืบกันมาถึงท้าวเทพากรว่า ชีวิตในวัยเยาว์ของท้าวเทพากร มีความสนิทสนมใกล้ชิดผูกพันกับสมเด็จพระศรีสมโพธิ์หรือท่านขรัวอีโต้วัดเลียบ (วัดราษฎร์บูรณะ) เป็นอย่างมาก ในฐานะศิษย์กับอาจารย์ ซึ่งช่วงเวลาก่อนที่ท่านขรัวอีโต้ถึงแก่มรณภาพลงนั้น (ก่อนปี 2330) ท่านได้สร้างเจดีย์ทรงมอญพร้อมพระเครื่องเนื้อดินเผา ผสมผงสีขาวบรรจุไว้ในเจดีย์เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาจำนวนมาก คาดว่ามีประมาณ 84,000 องค์ หรือมากกว่านั้น ซึ่งท้าวเทพากร (ชื่อเดิม “ทอง”) เป็นชาวมอญได้มีส่วนร่วมเป็นธุระในการสร้างพระเครื่องที่วัดเลียบครั้งนั้นด้วย

ต่อมาราว 40-50 ปีหลังจากนั้น กล่าวคือตรงกับ พ.ศ. 2375 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ท้าวเทพากรได้ทำการสร้าง “วัดเทพากร” ขึ้น เพื่อเป็นมหากุศลแก่ตนเองในบั้นปลายชีวิตตามคติความเชื่อของศาสนาพุทธ พร้อมกันนี้ได้สร้างเจดีย์ใหญ่ในบริเวณใกล้กันกับพระอุโบสถของวัด และได้ทำการลำเลียงพระเครื่องจาก วัดเลียบ ซึ่งสมเด็จพระศรีมหาโพธิ์หรือท่านขรัวอี้โต้ ได้สร้างไว้ก่อนมรณภาพ โดยขนย้ายมาทางเรือตามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อมาบรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ใหญ่ดังกล่าว ดังพบหลักฐานเป็นพระรอดขรัวอี้โต้ ที่กรุวัดเลียบและกรุวัดเทพากร เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้นี้ตามลำดับ

เชื่อกันว่าแรกเริ่มเมื่อวัดเทพากรสร้างเสร็จ ก็ได้ชื่อว่า “วัดทอง” กล่าวคือ ให้ชื่อตามนามของผู้สร้างเจตนาให้เป็นนามคู่กับ “วัดเงิน” หรือวัดเทพนารีในปัจจุบัน เมื่อสร้างเสร็จมีการสมโภชฉลองวัดและได้ทูลเชิญเจ้าฟ้ามงกุฎขณะยังผนวช (ต่อมาคือรัชกาลที่ 4) เสด็จฯ มาในงานและได้ทรงพระราชทานนามวัดอย่างเป็นทางการว่า “วัดท้าวเทพากร” เพื่อให้ตรงกับนามของผู้สร้าง (เข้าใจว่าเวลานั้นนายทองทูลเกล้าถวายเป็นพระอารามหลวง)

ต่อมาในสมัยพระอุปัชฌาย์เหมเจ้าอาวาสให้ใช้คำเรียกกันสั้นๆ ว่า “วัดบางพลูบน” หรือ “วัดบน” เพราะตั้งอยู่ปากคลองบางพลู ขณะเดียวกันวัดเทพนารีก็ถูกเรียกว่า วัดบางพลู เช่นกัน จึงมีการพ่วงคำท้ายโดยใช้เกณฑ์จากสภาพภูมิศาสตร์เป็นตัวกำหนดเพื่อให้ชัดเจนมากขึ้น กล่าวคือ วัดเทพนารีตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวัดเทพากร จึงเรียกว่า วัดบางพลูล่าง สรุปได้ว่า โดยทั่วไปชื่อวัดมักปรากฏชื่อเดิม (ชื่อพื้นบ้าน) และชื่อใหม่ (ชื่อทางราชการ) โดยภาษาที่ใช้มีความแตกต่างกันทั้งด้านที่มาและความหมาย รวมถึงลักษณะภาษาที่ใช้ กล่าวคือ ชื่อเดิมวัด นิยมใช้ชื่อที่สะท้อนให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมบริเวณวัด สิ่งที่มีอยู่ในวัดและหรือนามผู้สร้าง ทว่าลักษณะทางภาษาในการให้ชื่อมีต่างกันดังที่ภาษาไทยมักปรากฎในชื่อเดิม ส่วนชื่อใหม่มักนิยมเป็นภาษาบาลี-สันสกฤต  อีกทั้งในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) พระองค์ทรงแปลงนามวัดเทพนารี เป็น “วัดเทพากรนารี” ดังปรากฏชัดในพระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 4 ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) ซึ่งบ้างกล่าวว่าอาจใช้เรียกแทนวัดทั้งสองวัด มากกว่าที่จะใช้เรียกวัดเทพนารีเพียงวัดเดียว

ทั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าเรื่องการแปลงชื่อวัดเป็นผลจากสนธิสัญญาเบาว์ริง อันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของประวัติศาสตร์ไทยในช่วงดังกล่าว โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมและวัฒนธรรมตามแบบชาติตะวันตก กล่าวคือ ทางด้านการศาสนาพระองค์ทรงประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะการปกครองสงฆ์เป็นฉบับแรก โดยมีสมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้ปกครองบังคับบัญชาสูงสุด มีมหาเถรสมาคมให้คำปรึกษา อีกทั้งทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างและแปลงนามวัดขึ้นหลายแห่ง ในทำนองเดียวกันนี้อาจสังเกตได้ว่าการแปลงชื่อวัดเทพนารี และวัดอื่นๆ มักปรากฏจากการที่พระองค์ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่ โดยมีความสัมพันธ์กับพระองค์ในทางใดทางหนึ่ง แล้วจึงพระราชทานนามอันสอดคล้องกับสิ่งที่เคยกล่าวไปข้างต้นว่า “เข้าใจว่าเวลานั้นนายทองทูลเกล้าถวายเป็นพระอารามหลวง”  ซึ่งถือเป็นวัดที่สำคัญต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และศาสนาในประเทศเทศสมัยนั้น

“วัดเทพากร” และ “วัดเทพนารี”  ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ “บางพลัด” ในปัจจุบัน  โดยบางพลัดถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญจุดหนึ่งที่ปรากฏมาแต่ครั้งอดีตอันมี “นิราศภูเขาทอง” บทประพันธ์ของสุนทรภู่ ในปีพุทธศักราช 2373 เปรียบเสมือนประจักษ์พยานสำคัญของการมีอยู่ในพื้นที่ ดังกล่าว ใจความว่า

"ถึงบางพลูคิดถึงคู่เมื่ออยู่ครอง เคยใส่ซองส่งให้ล้วนใบเหลือง ถึงบางพลัดเหมือนพี่พลัดมาขัดเคือง ทั้งพลัดเมืองพลัดสมรมาร้อนรน"

วัดเทพากร ตั้งอยู่เลขที่ 893 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 68 แขวงบางพลัด กรุงเทพมหานคร อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับคลองบางพลู  ทางทิศใต้ติดกับลำประโดง ทางทิศตะวันตกติดกับที่ดินเลขที่ 83/29 ทางทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
  • ศูนย์ฝึกอาชีพศิลปหัตถกรรมหัวโขนวัดเทพากร

ศูนย์ฝึกอาชีพศิลปหัตถกรรมหัวโขนวัดเทพากร ของดีบางพลัด เปิดสอนสำหรับผู้ที่สนใจที่จะเรียนรู้วิธีการทำหัวโขน ศิลปหัตถกรรม หน้ากาก งานฝีมือที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ และสั่งซื้อสินค้าได้ เป็นการสืบสาน รักษา อนุรักษ์มรดกภูมิปัญญา วัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ต่อไป

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
  • บ่อเต่าวัดเทพากร

บ่อเต่าวัดเทพากร เป็นบ่อน้ำที่อยู่คู่กับวัดเทพากรที่อยู่คู่มาชช้านานและในยุคก่อนในใช้เป็นที่จอดเรือที่พระสงฆ์ใช้ในการบิณฑบาตรทางน้ำแล้วจะมีเต่าและปลานานาชนิดอีกมากมายที่ชาวชุมชนและผู้ที่ทำบุญปล่อยเต่าปล่อยปลามาปล่อยไว้ต่อมาทางวัดได้ยกเลิกการบิณฑบาตทางน้ำไปแล้วแต่ปัจจุบันทางวัดและชุมชนก็ยังอนุรักษ์ไว้และได้ทำนุบำรุงเลื้อยมาและในครั้งนี้ก็เป็นการปรับแต่งภูมิทัศน์โดยดำริของ พระสุธี ธรรมโสภณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพฯและเจ้าอาวาสวัดเทพากรให้พระอาจารย์รักษ์อนาลโยเจ้าคณะแขวงบางอ้อบางพลัดเขต 1 และรองเจ้าอาวาสวัดเทพากรได้ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยปรับพื้นกันขอบบ่อปู่ย่าปลูกต้นไม้และสร้างน้ำตกให้ดูสวยงามโดยถวายเป็นพระราชกุศลให้กับพระพันปีหลวง ด้วยความร่วมแรงร่วมใจบ้างก็ออกเงินบ้างก็ออกแรงและความคิดแสดงถึงความสามัคคี โดยมีช่างอ๋อยช่างบอยช่างเทินช่างโอ๊ตและช่างพงษ์เป็นผู้ดำเนินการในงานครั้งนี้

คลังข้อมูลชุมชน. วัดเทพากร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ; จาก https://communityarchive.sac.or.th/community/WatThephakon

คลังข้อมูลชุมชน. เรื่องเล่าชุมชน : บ่อเต่าวัดเทพากร. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ; จาก https://communityarchive.sac.or.th/blog/159