Advance search

ชุมชนที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ลาน-แม่กาง ถูกจัดตั้งเป็นหมู่บ้านอาสาสมัครและป้องกันตนเอง (อพป.) เมื่อปี พ.ศ. 2528 และได้รับการสนับสนุนส่งเสริมรายได้ด้วยการรวมกลุ่มทอผ้า

หมู่ที่ 2
บ้านแม่จองไฟ
ห้วยอ้อ
ลอง
แพร่
สุธาสินี บุญเกิด
26 ม.ค. 2024
สุธาสินี บุญเกิด
26 ม.ค. 2024
บ้านแม่จองไฟ

ชุมชนแม่จองไฟ ส่วนใหญ่เป็นชาวปกาเกอะญอที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย บริเวณชุมชนมีลำห้วยที่เป็นแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ จึงใช้เป็นที่อาศัยหุงอาหาร โดยใช้หินทำเป็นก้อนเส้า (ก้อนหินสามก้อน เพื่อวางหม้อ สำหรับหุงข้าวและต้มแกง) ซึ่งภาษาถิ่นจะเรียกว่า  “จองไฟ”  ต่อมาได้เรียกเป็นชื่อของลำห้วยแห่งนั้นว่า  ห้วยแม่จองไฟ  และชาวบ้านได้นำ มาเป็นชื่อหมู่บ้าน จึงได้ตั้ง  ชื่อว่า  บ้านแม่จองไฟ 


ชุมชนชาติพันธุ์

ชุมชนที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ลาน-แม่กาง ถูกจัดตั้งเป็นหมู่บ้านอาสาสมัครและป้องกันตนเอง (อพป.) เมื่อปี พ.ศ. 2528 และได้รับการสนับสนุนส่งเสริมรายได้ด้วยการรวมกลุ่มทอผ้า

บ้านแม่จองไฟ
หมู่ที่ 2
ห้วยอ้อ
ลอง
แพร่
54150
18.13398980341132
99.80357747840718
เทศบาลตำบลแม่ลานนา

เมื่อประมาณ 200 กว่าปี ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงในประเทศพม่าหลายกลุ่ม ถูกพม่าโจมตี เนื่องมาจากสาเหตุปัญหาการปกครอง ต้องอพยพหลบหนีเข้ามาอยู่ในเขตประเทศไทย โดยตั้งรกรากอยู่บริเวณพื้นที่ภูเขาในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงหลายกลุ่มได้อพยพหนีพม่ามาตามเส้นทางเดินเขา ผ่านจังหวัดลำปาง ผ่านแม่ทะ เข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณห้วยแม่มอญ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ต่อมาได้แตกกลุ่มกันอีกครั้งด้วยเรื่องผิดประเพณี (ผิดผี) ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงบ้านแม่จองไฟ จึงแยกออกมาตั้งบ้านเรือนที่ห้วยแม่จองไฟ ซึ่งเป็นที่ราบระหว่างหุบเขา หลังจากนั้นก็ย้ายขึ้นมาอยู่เชิงเขาบ้านแม่จองไฟในปัจจุบัน เพราะสถานที่เดิมได้เป็นที่เพาะปลูก ทำไร่ ทำนา ต่อมาปี พ.ศ. 2528 บ้านแม่จองไฟได้รับการจัดตั้งเป็นหมู่บ้านอาสาสมัครและป้องกันตนเอง (อพป.)

ลักษณะพื้นที่ สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและพื้นที่ป่าเบญจพรรณ มีไม้เศรษฐกิจคือ ไม้สัก ไม้มะค่า โมง ประดู่ ประสมไม้ไผ่ และของป่า เช่น หวาย ชัน มีสัตว์ป่า เช่น งู กระรอก หมูป่า นกชนิดต่าง ๆ ป่ามีความสมบูรณ์ 100% (จำนวน 2,000 ไร่) มีพื้นที่ราบ เพียง 30% ของพื้นที่ทั้งหมด ราษฎรปลูกบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา เป็นส่วนใหญ่

ลักษณะที่ตั้ง บ้านแม่จองไฟ หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง จังหวัดแพร่ พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ลาน-แม่กาง อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอลองเป็นระยะทาง 16 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดแพร่ ประมาณ 56 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 8,875 ไร่  ปัจจุบันได้จัดตั้งเป็นหมู่บ้านอาสาสมัครและป้องกันตนเอง (อพป.) มีอาณาเขต ติดต่อดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านแม่เกี่ยม ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านเค็ม ตำบลหัวทุ่ง อำเภอลอง
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านนาแก ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง

จากข้อมูลสถิติจำนวนประชากร 2565 ของสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ระบุว่า บ้านหนองบาง ประกอบด้วย 135 หลังคาเรือน โดยมีจำนวนประชากรรวม 575 คน แบ่งเป็นเพศชาย 305 คน เพศหญิง 270 คน

ปกาเกอะญอ

การปกครองส่วนท้องถิ่น/ภาวะผู้นำ (ที่เป็นธรรมชาติ/ไม่เป็นธรรมชาติ) การปกครองส่วนท้องถิ่นของหมู่บ้านแม่จองไฟ ขึ้นอยู่กับเทศบาลตำบลแม่ลานนา อำเภอลอง จังหวัดแพร่ การปกครองในรูปแบบของการปกครองในหมู่บ้านมีการตั้งกรรมการหมู่บ้านแบ่งหน้าที่ในการบริหารการทำงานในหมู่บ้าน โดยมีผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในการบริหารจัดการดูแลความสงบเรียบร้อยในการอยู่ร่วมกันของคนในหมู่บ้าน ปัจจุบันมี นายศรักษ์ ชุมภู (ผู้ใหญ่เมา) เป็นผู้ใหญ่บ้าน

ขณะเดียวกันการปกครองภายในหมู่บ้านแม่จองไฟได้แบ่งการปกครองออกเป็นคุ้ม โดยมีหัวหน้าคุ้ม ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลสมาชิกของคุ้มในเรื่องความเป็นอยู่ของสมาชิกในคุ้ม ซึ่งแต่ละคุ้มประกอบด้วยหลายครัวเรือน และแบ่งออกเป็น 5 คุ้ม คือ

  1. คุ้มอนุรักษ์
  2. คุ้มถิ่นไท
  3. คุ้มราษฎรพัฒนา
  4. คุ้มพนารักษ์
  5. คุ้มประชาร่วมใจ

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอาสาสมัครพัฒนาหมู่บ้าน (อสม.) ประกอบด้วย คณะกรรมการ 9 คน มีหน้าที่ดูแลด้านสาธารณสุข สำรวจประชากรในหมู่บ้าน และดูแลสภาพแวดล้อมในหมู่บ้าน

ในส่วนของการเป็นผู้นำหมู่บ้านแบบไม่เป็นทางการ นั้น ชาวบ้านยึดถือตามความมีอาวุโส และมีการนับถือเชื่อฟังในส่วนของการเป็นผู้นำในการประกอบพิธีกรรมตามวัฒนธรรมความเชื่อของชนเผ่า ซึ่งเรียกว่า เก๊าผี เป็นผู้นำที่ชาวบ้านนับถือและให้ความเคารพ คือ นายคำ เกี๋ยงดู

ระเบียบ ข้อปฏิบัติ กฎเกณฑ์ของคนในชุมชน ในการจัดระเบียบ ข้อปฏิบัติของคนในชุมชนที่มีการตั้งขึ้นมาเพื่อใช้กับคนในหมู่บ้าน คนนอกหมู่บ้าน เช่น การทะเลาะเบาะแว้ง การร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ จะมีการประชุมก่อนจะมีการตัดสินใจดำเนินการใด ๆ ตามข้อตกลงนั้น ๆ ซึ่งต้องยึดถือข้อบังคับ ข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน เช่น การทำลายป่า การหาปลา การชกต่อยกัน การยิงปืนในหมู่บ้าน เป็นต้น

อาชีพ การประกอบอาชีพของคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นการทำการเกษตร การทำนา เลี้ยงสัตว์ การประกอบอาชีพนอกเหนือจากการเกษตรจะเป็นการรับจ้างทั่วไป และการออกไปทำงานต่างถิ่น ต่างจังหวัด และมีการประกอบอาชีพส่วนตัว เช่น การค้าขาย การรับราชการ การเป็นลูกจ้างหน่วยงานราชการ เป็นต้น

การจัดการผลผลิตนั้น จะมีการจัดการกันเองในหมู่บ้าน เป็นการแลกเปลี่ยนผลิตผลกันระหว่างคนในชุมชน เป็นการช่วยกัน เรียกว่า การเอาแรง การลงแขก การเอามื้อกัน และจะมีการใช้แรงงานคืนตามระยะเวลา  จำนวนวันที่ได้ช่วยกัน หรือได้แลกเปลี่ยนกัน เช่น การปลูกข้าว การเก็บเกี่ยวข้าว เป็นต้น มีเป็นบางครั้งจะมีการเข้ามาจัดการผลผลิตของคนนอกหมู่บ้าน ในกรณีที่ผลผลิตตรงตามต้องการและมีจำนวนมาก หรือการผลิตนั้นเป็นการรับสั่งทำ เช่น การทอผ้า การทำการจักสาน เป็นต้น

ประเพณีกำบ้าน จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง

ในวันประกอบพิธีกรรมชาวบ้านจะทำการปิดหมู่บ้านไม่ให้คนนอกเข้า โดยใช้เลือดหมูและเลือดไก่ ติดที่ตะแหล๋ว แล้วนำไปติดไว้บริเวณทางเข้าหมู่บ้าน เป็นสัญลักษณ์ว่า ห้ามคนนอกเข้าในหมู่บ้าน ขณะทำพิธีหากมีคนนอกเข้ามาจะทำให้ผิดผี จะต้องทำพิธีใหม่ให้หมด คนที่เข้ามาจะต้องรับผิดชอบ ชดใช้ค่าใช้จ่ายในการประกอบพิธีใหม่ทั้งหมด พิธีกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 - 22.00 น.

ขั้นตอนการประกอบพิธี

  1. ปิดหมู่บ้านไม่ให้คนนอกเข้าไปในหมู่บ้าน โดยปิดตั้งแต่ เวลา 08.00 น. ถึงเช้าวันถัดไป
  2. ทั้งหมู่บ้านจะนำหมู 1 ตัว และทุกหลังคาเรือนจะต้องนำไก่ 1 ตัว และเหล้าขาว 1 ขวด มารวมกันที่สถานประกอบพิธี (โรงผี)
  3. บุคคลที่จะเข้าในพิธีจะต้องเป็นผู้ชายสวมผ้าของชนเผ่ากะเหรี่ยง (ผ้าต้อยเต็บ)
  4. นำหมูและไก่ที่นำมารวมกันทั้งหมดต้มให้สุกแล้วนำขึ้นถวายศาลเจ้า (ผีชาวบ้าน)
  5. นำเหล้าไปขอพรจากเก๊าผี (ประธานการประกอบพิธี) ซึ่งมีทั้งหมด 3 คน
  6. หลังจากนั้นนำเหล้ามาแจกกันดื่มจนเหล้าหมด
  7. เอาไก่และหมูใส่กระด้งแล้วยกขึ้นเหนือศีรษะเพื่อขอพรจากศาลเจ้า
  8. แล้วยกลงให้เก๊าผีกินก่อนแล้วแบ่งให้ลูกบ้านที่มาร่วมพิธีกินเป็นอันเสร็จพิธี
  9. นำหมูและไก่ที่ยำไว้มากินที่บ้าน

ประเพณีปีใหม่ (อังปี้มัย) จะจัดขึ้นปีละ 3 ครั้ง ในเดือนมิถุนายน ใช้เวลาในการประกอบพิธีทั้งหมด 3 วัน คือ

วันที่ 1 วันดา (วันเตรียม) ทุกหลังคาเรือนจะต้องเตรียมไก่ 2 ตัว เหล้าขาว 2 ขวด ทำขนมห่อใบตองก๋ง เพื่อนำไปประกอบพิธีผูกข้อมือในวันปีใหม่

วันที่ 2 วันปีใหม่

  1. แต่ละหลังคาเรือนจะนำไก่ไปที่ประตูบ้านของตนและทำพิธีเรียกขวัญ สมาชิกในครอบครัว เมื่อทำพิธีเรียกขวัญเสร็จก็ฆ่าไก่ที่ประตูบ้านที่ทำพิธีแล้วนำไก่เข้ามาในบ้าน
  2. นำไก่ไปต้มให้สุก แล้วนำมาใส่กระด้งไม้ (กั๊วข้าว) ซึ่งภายในประกอบไปด้วยข้าวเหนียว 1 ปั้น ขนมใบตองกง 3 หัว เหล้าขาว 1 ขวด ด้ายสำหรับใช้ผูกข้อมือ กล้วย 1 ลูก น้ำ 1 แก้ว
  3. เชิญผู้อาวุโสในหมู่บ้านมาทำพิธีผูกข้อมือและกวาดน้ำ (ใช้เหล้าแทนน้ำ) เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้าที่และบรรพบุรุษที่ล่วงลับ
  4. เมื่อเสร็จพิธีนำไก่มาปรุงและรับประทานร่วมกันเจ้าของบ้านนำเหล้ามาคารวะผู้นำร่วมพิธี
  5. ทุกครัวเรือนจะเตรียมน้ำอบน้ำหอมไปที่บ้านเก๊าผี เพื่อทำพิธีรดน้ำดำหัวให้กับกลองมโหระทึก (ฆ้องกบ) ผู้นำพิธีกรรม ผู้อาวุโสในหมู่บ้าน จากนั้นมีการสังสรรค์ตลอดวัน

วันที่ 3 ทำพิธีกรรมบ้าน ปิดหมู่บ้านไม่ให้คนนอกเข้า

พิธีสงเคราะห์บ้าน จัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง ในเดือน 5 เหนือ (กุมภาพันธ์)

ขั้นตอนการประกอบพิธี

  1. ทุกครัวเรือนจะเตรียมเก็บใบผลไม้ที่ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ใบมะม่วง ใบมะขาม ใบมะนาว นำมาหั่นเป็นฝอย แล้วนำมาคลุกกับพริก เกลือ หอม ปลาร้า เรียกว่า แกงส้มแกงหวาน นำของที่เตรียมไว้ไปยังสถานที่ประกอบพิธี
  2. สถานที่ประกอบพิธีชาวบ้าน เตรียมไก่และเหล้า ขัดแตะ 4 อัน (ไม้ไผ่สานคล้ายกระด้ง) นำแกงส้มแกงหวานของแต่ละบ้านมารวมกันในขัดแตะที่วางบนไม้ไผ่คล้ายที่ดักปลา
  3. ผู้อาวุโสของหมู่บ้านนำไก่มาเชือดและต้มให้สุก เพื่อประกอบพิธี มีการยิงปืนเพื่อไล่เสนียดจัญไร จากนั้นผู้นำหมู่บ้านจะนำขัดแตะทั้ง 4 อันไปเก็บขี้เถ้าแต่ละหลังคาเรือน (เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข) เมื่อเก็บขี้เถ้าทุกหลังคาเรือนแล้วจะนำขัดแตะทั้ง 4 อันไปทิ้งตามทิศต่าง ๆ รองหมู่บ้านแล้วยิงปืน
  4. ผู้อาวุโสทำพิธีเซ่นไหว้ผีและให้หญิงหม้ายในพิธี 2 คนให้พรเป็นอันเสร็จพิธี
  5. นำไก่มาปรุงให้ผู้เข้าร่วมพิธีรับประทานร่วมกัน

ศาสนา/ความเชื่อและการเคารพนับถือ ชาวบ้านแม่จองไฟนับถือศาสนาพุทธ มีความเชื่อในผีและจิตวิญญาณของบรรพบุรุษ ซึ่งการแสดงออกถึงการนับถือผีนั้น คือ การรักษาบำบัดการเจ็บไข้ จะมีการบนบานและมีการเลี้ยงผี ถ้าอาการเจ็บป่วยหายและมีการทำบุญตักบาตร การถือศีล ตามคำสอนของพระพุทธศาสนา ซึ่งการไปวัดหรือการทำบุญ จะไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน เพราะที่บ้านแม่จองไฟนี้ไม่มีวัด

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ใช้ภาษากะเหรี่ยงสื่อสารกันในหมู่บ้าน และสามารถพูดภาษาคำเมืองและเข้าใจภาษากลางได้เป็นอย่างดี


บ้านแม่จองไฟ มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ เช่น ป่าไม้ ป่าชุมชน โดยมีการจัดให้มีการอนุรักษ์ พิทักษ์ป่าโดยชาวบ้านช่วยกันดูแลและหวงแหนไม่เกิดการทำลาย มีการบริหารโดยส่วนบริหารจัดการพื้นที่ป่าที่ 13 สวนป่าแม่ลาน-แม่กาง กำกับดูแล และการจัดระบบกรรมสิทธิ์ในการถือครองนั้น ยังไม่มีการจัดระบบแต่ชาวบ้านก็เกิดการสมัครใจในการดูแลและอนุรักษ์ป่าของพื้นที่หมู่บ้านเป็นอย่างดี


ป่าแม่ลาน-แม่กาง
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอลอง จังหวัดแพร่. (2559). ประวัติบ้านแม่จองไฟ. ค้นจาก http://banmaechongfai.longnfe.go.th/

สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง. (2566). สถิติจำนวนประชากร ปี พ.ศ. 2565. ค้นจาก https://stat.bora.dopa.go.th/

เทศบาลตำบลแม่ลานนา. (2564). แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ. 2566 - 2570. ค้นจาก https://www.maelanna.go.th/

Icemedia Channel (2561, 14 พฤศจิกายน). บ้านแม่จองไฟ หมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดแพร่ [วิดีโอ]. ยูทูบ. https://www.youtube.com/