Advance search

ชุมชนริมแม่น้ำตรัง มีป่าจากที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตรัง อีกทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้งานฝีมือจากต้นจาก เช่น การสานตะกร้า การสานกระเช้า การทำหมาตักน้ำ ภูมิปัญญาชาวบ้านที่สร้างรายได้ให้ชุมชน

หมู่ที่ 3
ย่านซื่อ
กันตัง
ตรัง
องค์การบริหารส่วนตำบลย่านซื่อ โทร. 075-2704967
พลอยไพลิน พวงภาคีศิริ
12 ก.พ. 2024
ปวินนา เพ็ชรล้วน
19 ก.พ. 2024
ปวินนา เพ็ชรล้วน
20 ก.พ. 2024
บ้านย่านซื่อ

เมื่อสมัยก่อนได้มีชาวจีนจากโพ้นทะเลกลุ่มหนึ่งได้อพยพมา โดยล่องเรือมาตามแม่น้ำตรังเรื่อยมา เมื่อมาถึงเห็นทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมก็ได้ขึ้นฝั่งที่บริเวณแม่น้ำตรัง จากนั้นก็ได้ชักชวนพรรคพวกที่เดินทางมาด้วยกันตั้งถิ่นฐานบริเวณแม่น้ำตรัง โดยได้ตั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในลักษณะเรียงต่อ ๆ กันไปในแนวเดียวกันชาวบ้านจึงเรียกว่า “บ้านย่านซื่อ” หรือ “ตำบลย่านซื่อ”


ชุมชนชนบท

ชุมชนริมแม่น้ำตรัง มีป่าจากที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตรัง อีกทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้งานฝีมือจากต้นจาก เช่น การสานตะกร้า การสานกระเช้า การทำหมาตักน้ำ ภูมิปัญญาชาวบ้านที่สร้างรายได้ให้ชุมชน

หมู่ที่ 3
ย่านซื่อ
กันตัง
ตรัง
92110
7.4674167
99.5400278
องค์การบริหารส่วนตำบลย่านซื่อ

ตำบลย่านซื่อ เป็นตำบลหนึ่งใน 10 ตำบลของอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ตำบลย่านซื่อ มีผู้เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยก่อนได้มีชาวจีนจากโพ้นทะเลกลุ่มหนึ่งได้อพยพมา โดยล่องเรือมาตามแม่น้ำตรังเรื่อยมา เมื่อมาถึงเห็นทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมก็ได้ขึ้นฝั่งที่บริเวณแม่น้ำตรัง จากนั้นก็ได้ชักชวนพวก ที่เดินทางมาด้วยกันตั้งถิ่นฐานบริเวณแม่น้ำตรัง โดยได้ตั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในลักษณะเรียงต่อ ๆ กันไปในแนวเดียวกันชาวบ้านจึงเรียกว่า “บ้านย่านซื่อ” หรือ “ตำบลย่านซื่อ” ในปัจจุบัน ซึ่งในตำบลย่านซื่อ ประกอบไปด้วย 4 หมู่บ้านดังนี้

หมู่ที่ 1 บ้านโคกทราย เป็นการเรียกชื่อหมู่บ้านตามลักษณะภูมิประเทศ กล่าวคือ ได้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้มาตั้งถิ่นฐานบริเวณที่ที่มีลักษณะเป็นเนินสูง ๆ ต่ำ ๆ ลักษณะพื้นดินส่วนมากเป็นดินร่วนเป็นทราย ชาวบ้านเลยเรียกว่า “บ้านโคกทราย” จนถึงปัจจุบัน

หมู่ที่ 2 บ้านตก เป็นการเรียกชื่อหมู่บ้านตามทิศของการตั้งถิ่นฐาน กล่าวคือ ได้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้มาตั้งถิ่นฐานทางทิศตะวันตก ชาวบ้านเลยเรียกว่า “บ้านตก” จนถึงปัจจุบัน

หมู่ที่ 3 บ้านในลุ่ม เป็นการเรียกชื่อหมู่บ้านตามลักษณะของทำเลที่ตั้งถิ่นฐาน ได้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้มาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มริมแม่น้ำตรัง ชาวบ้านเลยเรียกว่า “บ้านในลุ่ม” จนถึงปัจจุบัน

หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งอิฐ เป็นการเรียกชื่อหมู่บ้านตามลักษณะภูมิประเทศ กล่าวคือ พื้นที่ส่วนมากเป็นที่ราบ สภาพที่ดินเป็นดินเหนียว ซึ่งดินเหนียวดังกล่าวเหมาะแก่การนำมาใช้ทำอิฐดินเผา ชาวบ้านจึงได้นำดินเหนียวดังกล่าว มาทำอิฐดินสำหรับสร้างบ้าน ชาวบ้านเลยเรียกว่า “บ้านทุ่งอิฐ” จนถึงปัจจุบัน

ลักษณะที่ตั้งชุมชนบ้านย่านซื่อ โดยทั่วไปมีสภาพเป็นที่ราบลุ่ม ๆ ดอน ๆ คล้ายลูกคลื่น ซึ่งกระจายไปทั่วทั้งตำบล พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้ในการทำการเกษตร มีแหล่งน้ำธรรมชาติที่เกษตรกรสามารถนำน้ำจากแหล่งน้ำไปใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตร ซึ่งแต่ละแห่งจะมีปริมาณน้ำใช้ได้ตลอดปี แต่บางแห่งจะขาดน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติ คือ แม่น้ำตรัง โดยจะไหลผ่าน หมู่ที่ 1, 2, 3 และหมู่ที่ 4

อาณาเขตติดต่อดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลโคกยาง
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ แม่น้ำตรัง และตำบลบ่อน้ำร้อน
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ แม่น้ำตรัง
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลคลองลุ และตำบลบ่อน้ำร้อน

จำนวนประชากรในตำบลย่านซื่อ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ปี 2566 มีที่มาจากข้อมูลประชากรจากทะเบียนราษฎร์ ปี 2566 ของจังหวัดตรัง ซึ่งมีประชากรทั้งหมด 2,299 คน ซึ่งมีแบ่งย่อยได้เป็นประชากรชาย 1,177 คน และประชากรหญิง 1,122 คน มีหลังคาเรือนทั้งหมด 731 เรือน

การศึกษา

โรงเรียนในพื้นที่ตำบลย่านซื่อ 2 แห่ง ดังนี้ 

  1. โรงเรียนบ้านย่านซื่อ หมู่ที่ 2 
  2. โรงเรียนบ้านทุ่งอิฐ หมู่ที่ 3 

ข้อมูลด้านสาธารณสุข มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลย่านซื่อ จำนวน 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 1 ตำบลย่านซื่อ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 

ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีป้อมตำรวจชุมชนประจำตำบล 1 แห่ง ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านโคกทราย 

การประกอบอาชีพของผู้คนในชุมชน

มีการประกอบอาชีพ ดังต่อไปนี้ อาชีพปากกัดตีนถีบ ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนในชุมชนมีเกี่ยวข้องกับการแปรรูปใบจาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากใบจาก ได้แก่ ตับจาก ยาสูบมวนใบจาก เป็นต้น, อาชีพชาวประมง ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของคนในชุมชน, อาชีพเกษตรกรรม, อาชีพพ่อค้าแม่ค้า, อาชีพบริการ และอาชีพรับจ้าง 

สาเหตุที่คนในชุมชนย่านซื่อมีอาชีพหลากหลาย เนื่องจากสภาพพื้นที่มีทั้งป่าชายเลน แม่น้ำ และพื้นที่เกษตรกรรม, ทรัพยากรธรรมชาติ มีทั้งใบจาก ปลา และสัตว์น้ำหลากหลายแบบ และภูมิปัญญาท้องถิ่น มีทั้งการแปรรูปใบจาก การประมง และการเกษตร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเป็นอาชีพให้ผู้คนในชุมชนย่านซื่อได้ประกอบอาชีพกัน

วิถีชีวิตชาวบ้านย่านซื่อกับป่าจาก

ลักษณะชุมชนย่านซื่อ ตำบลย่านซื่อ จังหวัดตรัง มีทรัพยากรที่สำคัญ คือ ต้นจาก เป็นพืชเศรษฐกิจที่เกิดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำตรังและอยู่คู่วิถีชีวิตของชุมชนย่านซื่อมานาน สภาพพื้นที่ป่าจากเป็นโคลนเลนที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของต้นจาก ทำให้สามารถนำมาประกอบเป็นอาชีพของคนในชุมชน อีกทั้งความโดดเด่นของต้นจาก ที่มีต้นจากอยู่มากที่สุดของตรัง ประมาณ 4-5 พันไร่ และเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย กลายเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกของชุมชนที่สำคัญอันดับหนึ่ง เพราะคุณภาพของใบจากย่านซื่อ มีคุณภาพที่พิเศษเหนือกว่า ต้นจาก ที่อยู่ในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งความโดดเด่นนี้กลายเป็นวิถีชีวิตที่ดำรงอยู่เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมา ซึ่งในการศึกษา เรื่อง วิถีวัฒนธรรมใบจากมวนยาสูบของชุมชนย่าซื่อ จังหวัดตรัง ทำให้ทราบถึงวัฒนธรรมใบจากยามวนสูบของชุมชนย่านซื่อ จังหวัดตรัง ที่เกี่ยวข้องมาจากการทำมาหากินของคนในชุมชนย่านซื่อมีทรัพยากรป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นที่อยู่ของต้นจากที่ขึ้นอยู่เองตามธรรมชาติ ทำให้วัฒนธรรมใบจากยามวนสูบกลายเป็นวัฒนธรรมที่มีความเข้มแข็งและการสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบันของวัฒนธรรมใบจากมวนยาสูบ

วิถีของใบจากมวนยาสูบคือ อาชีพการทำมวนจาก (ยาสูบใบจาก) ที่ชุมชนย่านซื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้หลักให้แก่ชาวชุมชนเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงในด้านของคุณภาพโดยวิธีการทำมวนจากมีขั้นตอนโดยการเริ่มจากการตัดทางจากอ่อนอายุประมาณ 2 เดือน เอาเฉพาะส่วนทางอ่อนนำทางจากอ่อนที่ตัดมาได้ ตัดออกเป็นใบ ๆ 1 ทางจะได้ประมาณ 20 ใบ จากนั้นนำทางจากอ่อนที่ตัดเป็นใบ มาลอกอีกครั้ง เป็นใบย่อยได้ประมาณ 4 ใบ นำใบย่อยที่ลอกได้มามัดรวมกันประมาณ 8 ใบ หรือม้วนเป็นพวง จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้งสนิท เมื่อตากได้แห้งสนิทแล้ว จะตัดเป็นท่อน ๆ ประมาณ 7-8 เซนติเมตร สามารถใช้เป็นมวนจากไว้มวนยาเส้น และสามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน การกระทำเช่นนี้เป็นเทคนิคพิเศษที่คนในชุมชนแห่งนี้ได้คิดค้นและดำเนินการสืบต่อกันมาที่ไม่มีที่ใดเหมือนจนกลายเป็นความเฉพาะเจาะจงและเป็นวิถีของใบจากมวนยาสูบของชุมชนย่านซื่อ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ที่เกี่ยวข้องมาจากการทำมาหากินของคนในชุมชนประกอบกับชุมชนย่านซื่อมีทรัพยากรป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นที่อยู่ของต้นจากที่ขึ้นอยู่เองตามธรรมชาติ ทำให้วัฒนธรรมใบจากยามวนสูบกลายเป็นวัฒนธรรมที่มีความเข้มแข็งและการสืบทอดกันมา

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ทุนวัฒนธรรม

  • วัฒนธรรมใบจากมวนยาสูบ เป็นวิถีชีวิตในการทำมวนจากที่มีการสืบทอดต่อกันมา ถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านในการนำต้นจากมาใช้ประโยชน์โดยการทำให้ใบจากที่มีอยู่ในชุมชนย่านซื่อถูกนำมาใช้ในการทำมวนยาสูบจนกลายเป็นสินค้าโอท็อปที่มีชื่อเสียงของชุมชนย่านซื่อ
  • ตับจาก เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาเป็นเวลาช้านานตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ทวด ของชุมชนชายฝั่ง บริเวณปากแม่น้ำ ซึ่งจะใช้ใบจากแก่ มาเย็บเป็นตับ เรียกว่า ตับจาก ใช้มุงหลังคาบ้านเรือนตั้งแต่อดีตสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ตับจากนี้มีความแตกต่างจากที่อื่นเนื่องจากใบจะมีขนาดที่ใหญ่และแข็งแรง ที่สำคัญใช้ระยะเวลาในการตากแดดไม่นานมากก็สามารถที่นำไปใช้เย็บต่อหรือเตรียมนำไปใช้ประโยชน์ได้เป็นวิถีชีวิตในการทำมวนจากที่มีการสืบทอดต่อกันมา ถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านในการนำต้นจากมาใช้ประโยชน์โดยการทำให้ใบจากที่มีอยู่ในชุมชนย่านซื่อถูกนำมาใช้ในการทำมวนยาสูบจนกลายเป็นสินค้าโอท็อปที่มีชื่อเสียงของชุมชนย่านซื่อ
  • การทำเชือกมัดปูม้า เป็นยอดจากอ่อนสามารถใช้แทนเชือก ไว้สำหรับมัดปูทะเล (ปูดำ) ที่หามาได้จากป่าชายเลน และ ป่าจาก สมัยก่อนไม่มีเชือกฟาง ชาวบ้านได้ใช้ยอดจากในการมัดปูทะเลที่จับมาได้ ซึ่งสะดวกในการหาปูทะเลในป่าชายเลน โดยมีวิธีการทำเชือกมัดปูดำจากยอดจาก
  • กระแชง หรือแชง เรือในช่วงสมัยก่อนในการออกเรือหาปลาของชาวประมงพื้นบ้าน จะใช้ทางจาก มาทำเป็นหลังคากันแดดกันฝน มีลักษณะคล้ายหลังคามุงจาก แชงเรือจะทำจากทางจากมาซ้อนทับกัน เป็นหลังคา นำมาครอบเรือหัวโหง ใช้ออกหาปลา บังแดดบังฝนได้เป็นอย่างดี 
  • ขนมจาก เป็นขนมหวานที่ทุกคนต่างรู้จักมาเป็นเวลาช้านาน ที่มาของขนมจาก มาจากการที่ใช้ใบจากในการห่อขนม ซึ่งทำมาจากแป้ง น้ำตาล และเนื้อมะพร้าว เนื่องจากใบจากมีขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับใบมะพร้าว จึงเหมาะที่นำมาห่อขนม จึงเรียกต่อกันมาว่า ขนมจาก แม้บางพื้นที่จะใช้ใบมะพร้าวแทนใบจาก แต่ก็ยังเรียกว่า ขนมจาก มาจนถึงปัจจุบัน ขนมจากมีมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ ย่า ตา ทวด สมัยก่อนจะนิยมทำในช่วงเทศกาลถือศีลอด และงานประเพณีต่าง ๆ ด้วย รสชาติที่อร่อย หวาน มัน จึงเป็นที่นิยมชมชอบกันทุกเพศทุกวัย ทำให้ปัจจุบันขนมจากจึงมีขายกันทั่วไปจนสามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับชุมชนชายฝั่ง
  • ขนมหวานจากลูกจาก เป็นผลจาก หรือลูกจาก มีลักษณะเป็นผลสีน้ำตาล เป็นกาบ ห่อหุ้มนี้เนื้อในสีขาว ซึ่งเนื้อในสีขาวนี้ที่สามารถรับประทานได้ จึงถูกนำมาใช้ทำเป็นขนมหวาน กินคู่กับน้ำเชื่อม และน้ำแข็ง ในฤดูร้อน ปัจจุบันยังมีขนมหวานจากลูกจากให้ได้รับประทานกัน ส่วนใหญ่จะมีขายตามร้านค้าในชุมชน

ทุนทรัพยากรธรรมชาติ

  • ป่าจาก เป็นต้นจากที่ขึ้นเป็นจำนวนมากริมฝั่งแม่น้ำตรัง มักจะขึ้นเป็นดงขนาดใหญ่ หรืออาจเรียกว่า ดงจาก ในบริเวณน้ำจืด และน้ำกร่อย ที่มีน้ำเค็มขึ้นถึง สามารถเติบโตได้ดีในดินโคลน ที่มีไม้ให้ร่มเงาปะปนอยู่ด้วย มักอยู่ในช่วงที่มีน้ำจืดและน้ำกร่อยปนกัน และป่าจากเป็นร่องรอยในอดีตชิ้นสำคัญที่สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของชุมชนชายฝั่ง ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ในการเข้าไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิต ในพื้นที่ป่าจาก ซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ สิทธิในการทำมาหากินในพื้นที่ของชุมชนอย่างถูกต้อง มีการใช้ป่าจากเป็นแหล่งอาหารและสร้าอาชีพต่อไป พื้นที่ป่าจากก็ยังคงดำรงอยู่คู่กับชุมชนชายฝั่งมาจนถึงปัจจุบัน วิถีชีวิตมนุษย์มีความเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ มีความสัมพันธ์แบบพึ่งอาศัยกันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะชาวบ้านในชุมชนควรอนุรักษ์และรักษาความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณที่ต้นจากเจริญเติบโตเพื่อให้วัฒนธรรมใบจากมวนยาสูบยังคงอยู่คู่ชาวบ้านย่านซื่อ จังหวัดตรัง สืบไป

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

1. ศึกษาค้นคว้า และรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์หรือที่มาของใบจากยามวนสูบไว้แล้ว และยังไม่ได้ศึกษา เพื่อทราบความหมาย และความสำคัญ ซึ่งความรู้ดังกล่าวถือเป็นรากฐานของการดำเนินชีวิต เพื่อให้เห็นคุณค่า ร่วมกันรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชุมชนและของท้องถิ่นเพื่อสร้างความเข้าใจและมั่นใจแก่ประชาชนในการปรับเปลี่ยนและตอบสนองกระแสวัฒนธรรมอื่นๆ อย่างเหมาะสมต่อไป

2. ส่งเสริมให้ทุกคนเห็นคุณค่า ร่วมกันรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชุมชนและของท้องถิ่นเพื่อสร้างความเข้าใจและมั่นใจแก่ประชาชนในการปรับเปลี่ยนและตอบสนองกระแสวัฒนธรรมอื่นๆ อย่างเหมาะสม

3. สร้างทัศนคติ ความรู้ และความเข้าใจว่า ทุกคนมีหน้าที่เสริมสร้าง ฟื้นฟู และการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติกับทางวัฒนธรรมที่เป็นสมบัติของชุมชน และมีผลโดยตรงของความเป็นอยู่ของทุกคน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (ม.ป.ป.). ชุมชนบ้านย่านซื่อ. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2567. เข้าถึงได้จาก https://thai.tourismthailand.org/Attraction/ชุมชนบ้านย่านซื่อ

ณัฐนรี ชอบชื่น. (2559). วิถีวัฒนธรรมใบจากมวนยาสูบของชุมชนย่านซื่อ จังหวัดตรัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

สำนักทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. (2565). ข้อมูลประชากรจากทะเบียนราษฎร์ปี 2566 ของจังหวัดตรัง. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2567. เข้าถึงได้จาก http://www.tro.moph.go.th/

องค์การบริหารส่วนตำบลย่านซื่อ. (ม.ป.ป.). สภาพทางสังคม. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2567. เข้าถึงได้จาก http://www.yansuetrang.go.th/general3.php

องค์การบริหารส่วนตำบลย่านซื่อ โทร. 075-2704967