Advance search

ชุมชนรามัญกลุ่มสุดท้ายแห่งเมืองหริภุญไชยผู้เชื่อว่าตนสืบเชื้อสายมาจากชาวมอญตั้งแต่สมัยหริภุญไชยพร้อมกับการกำเนิดของพระนางจามเทวีดังหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏที่วัดเกาะกลางและตำนานโยนกนคร 

หมู่ที่ 1
หนองดู่
บ้านเรือน
ป่าซาง
ลำพูน
วิไลวรรณ เดชดอนบม
15 ก.พ. 2024
ธำรงค์ บริเวธานันท์
16 ก.พ. 2024
ธำรงค์ บริเวธานันท์
29 ก.พ. 2024
บ้านหนองดู่

ในอดีตทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่บ้านมีหนองน้ำใหญ่อยู่หนองหนึ่ง มีความลึกมาก รอบหนองน้ำนั้นมีต้นประดู่ขึ้นอยู่ ชาวบ้านจึงเรียกว่า "บ้านหนองดู่"


ชุมชนรามัญกลุ่มสุดท้ายแห่งเมืองหริภุญไชยผู้เชื่อว่าตนสืบเชื้อสายมาจากชาวมอญตั้งแต่สมัยหริภุญไชยพร้อมกับการกำเนิดของพระนางจามเทวีดังหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏที่วัดเกาะกลางและตำนานโยนกนคร 

หนองดู่
หมู่ที่ 1
บ้านเรือน
ป่าซาง
ลำพูน
51120
18.522189
98.895314
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเรือน

บ้านหนองดู่ เป็นหมู่บ้านชาวมอญที่มีอายุเก่าแก่หลายร้อยปีแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูน สาเหตุที่ได้ชื่อว่าหมู่บ้านหนองดู่ ก็เนื่องมาจากในอดีตกาลที่ผ่านมาภายในหมู่บ้านมีหนองน้ำกว้างใหญ่ซึ่งมีความลึกมากอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่บ้าน และบริเวณริมหนองน้ำนั้นมีต้นประดู่ขึ้นอยู่ ชาวบ้านจึงเรียกว่า “บ้านหนองดู่” ซึ่งในภาษามอญที่ใช้พูดกันในหมู่บ้านนั้นจะเรียกว่า “กวานหนองดู่”

แรกเริ่มเดิมทีบ้านหนองดู่แห่งนี้เป็นแต่เพียงหมู่บ้านร้าง ภายในหมู่บ้านมีวัดร้างวัดหนึ่ง คือ วัดเกาะกลาง เป็นวัดเก่าแก่มาก มีหนองน้ำล้อมรอบบริเวณวัด สังเกตจากสิ่งปลูกสร้างและสภาพวัดสันนิษฐานว่าน่าจะเคยมีหมู่บ้านและวัดที่เจริญมาก่อน เพราะมีลักษณะการปลูกสร้างอย่างวิจิตรพิสดาร จากตำนานการสร้างวัดเกาะกลาง ซึ่งก็คือหมู่บ้านหนองดู่ในสมัยนั้นได้กล่าวไว้ว่า “วัดนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1176 โดยตระกูลของท่านเศรษฐีอินตา พระบิดาของพระนางจามเทวี” ซึ่งตามประวัติพระนางจามเทวีที่ถูกอ้างถึงในเรื่องเล่ามุขปาฐะ พระนางมีเชื้อสายมอญบ้านหนองดู่โดยกำเนิด จึงสันนิษฐานได้ว่า ในสมัยก่อนคงจะมีชาวบ้านมอญอพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณบ้านหนองดู่แห่งนี้ และกาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวัฏจักร จึงได้รกร้างไประยะหนึ่ง

ต่อมาราว พ.ศ. 2265 ได้มีชาวมอญอพยพมาจากเมืองเมาะตะมะและหงสาวดี (ประเทศเมียนมาในปัจจุบัน) ประมาณ 6-7 ครอบครัว เข้ามาทำไร่ทำสวนและทำขนมจีนขายเป็นอาชีพ นอกจากนี้ชาวบ้านที่เป็นผู้ชายและเป็นหัวหน้าครอบครัวยังมีอาชีพเสริม คือ รับจ้างทำแพและล่องแพขนส่งสินค้าตามลำน้ำปิงไปยังจังหวัดตาก-นครสวรรค์ จนเป็นที่เลื่องลือกันว่าชาวบ้านหนองดู่เป็นผู้ชำนาญในการล่องแพ หากพ่อค้าคนใดจะขนสินค้าไปทางน้ำก็มักจะว่าจ้างชาวบ้านหนองดู่เป็นผู้ล่องแพเพื่อนำสินค้าไปส่งให้ (ส่วนมากจะเป็นพ่อค้าจากจังหวัดเชียงใหม่)

ในอดีตบ้านหนองดู่เป็นหมู่บ้านเดียวกันกับบ้านบ่อคาว แต่ใน พ.ศ. 2526 ได้มีการแยกเป็น 2 หมู่บ้าน เนื่องจากชาวบ้านมีความคิดเห็นตรงกันว่าเพื่อความสะดวกในด้านการปกครอง และด้านการพัฒนาจึงแบ่งแยกหมู่บ้านหนองดู่-บ่อคาวออกเป็น 2 หมู่บ้าน คือ บ้านหนองดู่ หมู่ที่ 1 ในปัจจุบัน และบ้านบ่อคาว หมู่ 8 ที่แยกออกไป อย่างไรก็ตาม มีการสันนิษฐานถึงความเป็นมาเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานของชุมชนชาวมอญบ้านหนองดู่ที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำปิง 4 ประการ ดังนี้

ประการแรก มีข้อสันนิษฐานว่ากลุ่มชาวมอญที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มีการเข้ามาตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ก่อนสมัยพระนางจามเทวีจะเสด็จมาครองเมืองหริภุญไชย โดยมีนิทานปรัมปราจากผู้สูงอายุในพื้นที่ที่กล่าวถึงพระนางจามเทวีว่าเป็นธิดาของเศรษฐีอินตาชาวบ้านหนองดู่ เมื่อพระนางประสูติแล้วจึงได้ไปอยู่ที่เมืองละโว้ โดยกล่าวถึงหลักฐานอ้างอิง คือ โบราณสถานที่บริเวณบ้านบ่อคาว หมู่ที่ 8 ในปัจจุบัน

ประการที่สอง กล่าวถึงการเสด็จมายังเมืองหริภุญไชยของพระนางจามเทวีที่มีกลุ่มชาวมอญเดินทางมาด้วยในคณะนั้น เนื่องจากชาวมอญอาศัยอยู่ในพื้นที่แถบนี้ตั้งแต่สมัยอาณาจักรทวารวดี และมีการติดต่อค้าขายกันระหว่างกลุ่มชาวมอญบริเวณอ่าวเมาะตะมะกับพื้นที่แผ่นดินใหญ่ของอาณาจักรทวารวดีอันมีเมืองละโว้เป็นราชธานีที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากในสมัยนั้น จึงมีข้อสันนิษฐานว่า ประชากรชาวมอญที่อาศัยอยู่ ณ บ้านหนองดู่ในปัจจุบันอาจมีการสืบเชื้อสายมาจากคณะเดินทางของพระนางจามเทวีที่มีชาวมอญปะปนอยู่ด้วย 

ประการที่สาม กล่าวถึงกลุ่มชาวมอญที่อพยพเข้ามาในพื้นที่ช่วงสมัยอาณาจักรหริภุญไชยตอนต้น เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์โรคระบาดในสมัยพญากมลราช หรือ จุลเรละราช กษัตริย์ลำดับที่ 23 แห่งจามเทวีวงศ์ ที่มีการกวาดต้อนเอาชาวเมืองที่อพยพหนีโรคระบาดไปอยู่ที่หัวเมืองมอญในเมืองสุธรรมวดี หรือเมืองพะโค กับเมืองหงสาวดีกลับคืนสู่อาณาจักรหริภุญไชย ซึ่งในการกลับเข้ามายังหริภุญไชยสันนิษฐานว่ามีกลุ่มชาวมอญอพยพเข้ามาด้วย ด้วยปรากฏหลักฐาน คือ พระพุทธรูปแบบพุกามในรูปแบบซุ้มพระรอดมหาวัน รวมทั้งการใช้อักษรมอญโบราณก็น่าจะรับเข้ามาในยุคนี้มากเสียกว่าครั้งมากกับคณะเดินทางของพระนางจามเทวี ตลอดจนหลักศิลาตารึกอักษรมอญโบราณก็เทียบอายุได้กับยุคนี้ทั้งสิ้น 

ประการสุดท้าย กล่าวถึงชาวมอญลุ่มน้ำอิรวดีที่ถูกพม่าเข้ายึดครองจึงได้อพยพเข้ามายังสยามในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น และหลังจากนั้นก็มีชาวมอญอีกหลายกลุ่มที่อพยพเข้ามาสมทบอีกหลายระลอกโดยตั้งรกรากกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะที่หนีขึ้นเหนือไปสู่ล้านนา รวมถึงบริเวณริมน้ำปิงที่บ้านหนองดู่ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูนด้วย 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่อาจชี้ชัดได้ว่าข้อสันนิษฐานที่กล่าวมาทั้ง 4 ประการนั้นเป็นจริงด้วยไม่มีการจดบันทึกประวัติศาสตร์ชุมชนไว้เป็นลายลักษณ์อักษรแน่ชัด ทำให้ไม่สามารถสรุปได้ว่าชาวบ้านบ้านหนองดู่ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน มีประวัติความเป็นมาอย่างไร จะอพยพมาจากเมืองมอญโดยตรง หรือโยกย้ายมาจากภาคกลางของไทย หรือจะสืบเชื้อสายมาจากชาวมอญในสมัยหริภุญไชยพร้อม ๆ กับการกำเนิดของพระนางจามเทวีตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ คือ เจดีย์โบราณ ที่ปรากฏที่วัดเกาะกลาง ตามตำนานว่ากันว่าพระนางจามเทวีได้สร้างไว้เมื่อครั้งเดินทางมาลพบุรี และแวะที่วัดเกาะกลางแห่งนี้ก่อนที่จะเสด็จเยือนเมืองหริภุญไชยเพื่อเสวยราชย์เป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญไชย อันเป็นเหตุให้ชาวมอญบ้านหนองดู่นับถือพระนางจามเทวีเป็นสมือนบรรพบุรุษ และทุกปีจะมีพิธีบวงสรวงวิญญาณเจ้าแม่จามเทวี อันเป็นประเพณีที่ชาวมอญยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา ซึ่งจะทำพิธีภายในเดือน 4 ของมอญ  หรือเดือน 5 ของล้านนา หรือราวเดือนกุมภาพันธ์

ทั้งนี้ จากข้อมูลการตั้งถิ่นฐานของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมอญจะเห็นได้ว่าในพื้นที่บริเวณบ้านหนองดู่มีการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของชาวมอญมาอย่างยาวนาน และขยายชุมชนใหญ่ขึ้นตามพัฒนาการทางสังคม อีกทั้งยังคงเป็นชุมชนชาวมอญโบราณที่รักษาขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี

ที่ตั้งและอาณาเขต

บ้านหนองดู่ ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอป่าซางเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร และห่างจากอำเภอเมือง จังหวัดลำพูนเป็นระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร พื้นที่ชุมชนเป็นบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำ การตั้งบ้านเรือนของชาวบ้านจะกระจายกันไปตามแนวริมฝั่งแม่น้ำปิง เป็นชุมชนขนาดใหญ่ โดยมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านหนองสะลีก ตำบลปางบ่อง อำเภอป่าซาง
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านเหล่า และบ้านเรือน ตำบลบ้านเรือน
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านบ่อคาว และบ้านกองงาม ตำบลแม่แรง
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำปิง

ทรัพยากรธรรมชาติ

บริเวณชุมชนบ้านดู่เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์มาก มีทั้งแหล่งน้ำและป่าไม้ในพื้นที่ มีแม่น้ำปิงเป็นแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน มีแหล่งต้นน้ำมาจากเทือกเขาบริเวณอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ไหลผ่านอำเภอป่าซางทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผ่านพื้นที่ตำบลปากบ่อง บ้านเรือน ท่าตุ้ม และน้ำดิบ มีระยะทางความยาวในพื้นที่ประมาณ 20 กิโลเมตร และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านบางส่วนจะจับจองพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำในการทำเกษตรกรรมเพื่อยังชีพ

ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการสร้างเขื่อนภูมิพลทำให้การขึ้นลงของระดับน้ำไม่คงที่ตามฤดูกาล ในส่วนของทรัพยากรป่าไม้ในปัจจุบันยังคงเป็นป่าธรรมชาติตามพื้นที่หัวไร่ปลายนา และส่วนใหญ่เป็นป่าปลุกเพื่อประโยชน์ใช้สอย โดยพรรณไม้ที่ชาวบ้านที่ยมปลูกและตัดมาใช้งาน ได้แก่ ไม้ประดู่ ไม้รัง ไม้จิก และมีการปรับพื้นที่ป่าเดิมให้กลายเป็นป่าเศรษฐกิจ คือ การทำสวนไม้ผลต่าง ๆ ทำให้ป่าธรรมชาติลดน้อยลง

สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 1 บ้านหนองดู่ ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 572 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 256 คน ประชากรหญิง 316 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 303 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2566) ประชากรในชุมชนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์มอญที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มาเป็นเวลานานจนกลายเป็นชุมชนมอญขนาดใหญ่ และเป็นชุมชนชาวมอญกลุ่มสุดท้ายในจังหวัดลำพูน

มอญ

การประกอบอาชีพขอชาวมอญบ้านหนองดู่ ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ในอดีตชาวบ้านมีอาชีพการถ่อเรือ (ทําให้เรือเดินด้วยใช้ไม้ยันแล้วดันไป) ล่องแพ และการทำประมงพื้นบ้าน จับปลาในแม่น้ำปิงเป็นอาชีพหลัก ต่อมาเมื่อมีการสร้างเขื่อนภูมิพลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงลดลง และระดับน้ำขึ้นลงไม่คงที่ ส่งผลต่อการประกอบอาชีพของชาวบ้าน และทรัพยากรปลาในแหล่งน้ำก็ลดน้อยลง ชาวบ้านจึงหันมายึดอาชีพด้านการทำเกษตรกรรม ทำนา ทำสวนผลไม้เป็นหลัก ในปัจจุบันอาชีพด้านการทำเกษตรกรรมยังคงเป็นอาชีพหลักสำคัญที่ชาวบ้านทำเพื่อนำรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว โดยมีการทำนาข้าว แบ่งเป็นการเพาะปลูกข้าวจ้าวร้อยละ 90 และทำนาข้าวเหนียวร้อยละ 10 และทำสวนผลไม้ เช่น สวนลำไย นอกจากนี้ชาวบ้านยังประกอบอาชีพอื่น ๆ อีก ได้แก่ อาชีพรับราชการ อาชีพรับจ้างทั่วไป อาชีพด้านการค้าขาย เป็นต้น

ปฏิทินทางเกษตรกรรม

เดือนการทำเกษตรกรรม/ผลผลิตทางการเกษตร
มกราคมลำไย ข้าวโพด มะเขือเทศ
กุมภาพันธ์ลำไย ข้าว ข้าวโพด มะเขือเทศ
มีนาคมลำไย ข้าว ข้าวโพด มะเขือเทศ
เมษายนลำไย ข้าว ข้าวโพด
พฤษภาคมลำไย ข้าว
มิถุนายนลำไย
กรกฎาคมลำไย
สิงหาคมลำไย
กันยายนลำไย ข้าว
ตุลาคมลำไย ข้าว
พฤศจิกายนลำไย ข้าว
ธันวาคมลำไย ข้าว มะเขือเทศ

บ้านหนองดู่ ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมอญที่มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่มีลักษณะเฉพาะตัว เนื่องด้วยชุมชนตั้งอยู่บนพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ วิถีชีวิตของชาบ้านในพื้นที่จึงมีความผูกพันกับการพึ่งพาอาศัยแหล่งน้ำในการดำเนินชีวิต และวิถีด้านการทำเกษตรกรรมที่เป็นอาชีพหลักสำคัญของคนในท้องถิ่น และด้วยความเป็นชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์มอญด้านประเพณี วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมจึงมีความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกับชาวพื้นเมืองหรือกลุ่มคนล้านนาในพื้นที่โดยทั่วไป ซึ่งสามารถจำแนกปฏิทินวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชาวมอญบ้านหนองดู่ได้ดังรายละเอียดตามตารางต่อไปนี้

ปฏิทินวิถีชีวิตการหาปลา

เดือนปลาในแม่น้ำ
มกราคมปลากระสูบ/ปลาช่อน/ปลากด
กุมภาพันธ์ปลากระสูบ/ปลาช่อน/ปลากด
มีนาคมปลาช่อน
เมษายนปลาช่อน
พฤษภาคมปลาตะเพียน
มิถุนายนปลาตะเพียน
กรกฎาคมปลาตะเพียน
สิงหาคมปลาตะเพียน
กันยายน-
ตุลาคมปลาชะโด
พฤศจิกายนปลาชะโด/ปลากระสูบ
ธันวาคมปลาชะโด/ปลากระสูบ

ปฏิทินวัฒนธรรม

เดือนกิจกรรม
มกราคมทำบุญข้าวใหม่
กุมภาพันธ์พิธีบวงสรวงเจ้าแม่จามเทวี วันมาฆบูชา
มีนาคมพิธีบรรพชาสามเณรและพระสงฆ์
เมษายนประเพณีสงกรานต์ ทำบุญข้าวแช่ แห่หงส์ธงตะขาบ
พฤษภาคมวันวิสาขบูชา
มิถุนายนพิธีเลี้ยงผีมอญ ฟ้อนผีมอญ
กรกฎาคมวันเข้าพรรษา ตักบาตรดอกไม้
สิงหาคมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บูรพาจารย์
กันยายนทานสลากภัตร ตักบาตรน้ำผึ้ง
ตุลาคมวันออกพรรษา ตักบาตรเทโว
พฤศจิกายนบุญกฐิน ลอยกระทง-พิธีลอยเรือสำเภา
ธันวาคม-

อาหารถิ่นตามฤดูกาลของชาวมอญ

อาหารถิ่นม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
แกงมัน///
แกงมะตาด/////
แกงดอกส้าน//
แกงกะเพรา///
แกงบอน////////////
แกงขี้เหล็ก////////////
แกงกระเจี๊ยบ////////////
แกงกล้วยดิบ////////////
แกงปลาปั้น////////////
แกงหยวก////////////
แกงปลีกล้วย////////////
แกงฟักเขียว////////////
แกงตูน////////////

แกงผักเชียงดา

-ผักปั๋ง

////////////

แกงหน่อไม้

-ผักชะอม

////////////
แกงถั่วฝักยาว////////////

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

บ้านหนองดู่ ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมอญ ภาษาที่ชาวบ้านใช้ในการสื่อสารส่วนใหญ่จึงเป็นภาษามอญทั้งภาษาพูด และภาษาเขียน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความชำนาญในการใช้ภาษาถิ่นของตน ทั้งนี้เยาวชนรุ่นใหม่ก็มีความสนใจและให้ความสำคัญในการใช้ภาษามอญเช่นเดียวกัน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

บ้านหนองดู่ ชุมชนมอญกลุ่มสุดท้ายแห่งเมืองลำพูน

บ้านหนองดู่ ชุมชนคนมอญแห่งเมืองหริภุญชัยกลุ่มสุดท้ายที่ยังปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีที่วัดเกาะกลาง (บ้านบ่อคาว) ซึ่งมีทั้งโบราณสถานที่อยู่ภายในบริเวณวัดและกลุ่มโบราณสถานที่อยู่รอบ ๆ วัด รูปแบบของโบราณสถานที่ปรากฏอยู่ในวัดเกาะกลางเป็นศิลปกรรมล้านนา คือ ตัวเจดีย์เป็นทรงมณฑปแบบล้านนา ข้างล่างเป็นฐานจตุรมุข ข้างบนเป็นทรงระฆังคว่ำ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแต่ยังไม่ได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซม

หลักฐานทางโบราณคดีที่วัดเกาะกลางแห่งนี้น่าจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการสืบค้นอดีต แม้ว่าคนมอญส่วนใหญ่ในหมู่บ้านนี้จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตให้เข้ากับยุคสมัยของสังคมในปัจจุบันไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยสายเลือดของคนมอญที่ฝังรากอยู่ในมโนสำนึกแล้ว ทุก ๆ ปีชาวบ้านเกาะกลางจะจัดงานเทศกาลฟ้อนผีเม็งซึ่งเป็นวัฒนธรรมเดียวที่ยังถูกถ่ายทอดมาจนถึงลูกหลานเป็นการสานต่อวัฒนธรรมของชาวมอญไว้ไม่ให้สูญสลาย

เอกลักษณ์ของชาวมอญบ้านหนองดู่ที่ยังคงสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน คือ การแต่งกายและภาษา คนมอญ นิยมเรียกตนเองว่า “เม็ง” การแต่งกายของคนเมงคือ ผู้ชาจะใส่โสร่ง มีผ้าขาวม้าคาดบ่า สวมเสื้อคอมน ผู้หญิงจะใส่ชุดลูกไม้สีชมพู หากแต่ปัจจุบันการแต่งกายจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ใส่โสร่ง การแต่งกายแบบมอญจะมีในโอกาสพิเศษเท่านั้น เช่น งานวันบวงสรวงเจ้าแม่จามเทวี วันเปิงสังกรา (วันสงกรานต์) วันลอยหะมด (วันลอยกระทง) และวันฟ้อนผีเท่านั้น

จันทร์ เขียวพันธุ์ และคณะ. (2557). กระบวนการฟื้นฟูอาหารพื้นบ้านสู่การเชื่อมโยงวัฒนธรรมชุมชน องค์ความรู้ท้องถิ่นและความมั่นคงด้านอาหารของชุมชนบ้านหนองดู่-บ่อคาว ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน: รายงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นฉบับสมบูรณ์. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.

เชียงใหม่นิวส์. (2559). บ้านหนองดู่ ชุมชนมอญกลุ่มสุดท้ายในลำพูน. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2567จาก https://www.chiangmainews.co.th/

นัฐวัฒน์ มีทองแสน (2561). คุณภาพชีวิต ความว้าเหว่และกิจกรรมเครือข่ายทางสังคมของผู้สูงอายุ: กรณีศึกษา บ้านหนองดู่ หมู่ 1 ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์.

วัดหนองดู่ ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน. (2565). สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2567, จาก https://www.facebook.com/

วัดหนองดู่ ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน. (2567). สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2567, จาก https://www.facebook.com/

องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเรือน. (2567). สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2567, จาก https://banruan.go.th/