Advance search

บ้านสันติสุข เป็นชุมชนกลางหุบเขาดอยผาจิ ที่รายล้อมด้วยภูเขา ลำห้วยน้อยใหญ่ (ตั้งตระหง่านเหนือระดับน้ำทะเล 1,458 เมตร เขตรอยต่อระหว่างจังหวัดน่านกับจังหวัดพะเยา) โดยมี "ลำน้ำสาว" เป็นแม่น้ำสายสำคัญและยังเป็นพื้นที่เรียนรู้ฐานทรัพยากรธรรมชาติและวิถีของชุมชน

หมู่ที่ 7
บ้านสันติสุข
ขุนควร
ปง
พะเยา
อบต.ขุนควร โทร. 0-5489-0552
กนกวรรณ เอี่ยมชัย
26 ก.พ. 2024
กนกวรรณ เอี่ยมชัย
17 มี.ค. 2024
กนกวรรณ เอี่ยมชัย
17 มี.ค. 2024
บ้านสันติสุข


บ้านสันติสุข เป็นชุมชนกลางหุบเขาดอยผาจิ ที่รายล้อมด้วยภูเขา ลำห้วยน้อยใหญ่ (ตั้งตระหง่านเหนือระดับน้ำทะเล 1,458 เมตร เขตรอยต่อระหว่างจังหวัดน่านกับจังหวัดพะเยา) โดยมี "ลำน้ำสาว" เป็นแม่น้ำสายสำคัญและยังเป็นพื้นที่เรียนรู้ฐานทรัพยากรธรรมชาติและวิถีของชุมชน

บ้านสันติสุข
หมู่ที่ 7
ขุนควร
ปง
พะเยา
56140
19.0447749
100.4896495
องค์การบริหารส่วนตำบลขุนควร

พ.ศ. 2495 โอนอำเภอปง เว้นตำบลสะเอียบและตำบลสวดจังหวัดน่าน ไปขึ้นกับจังหวัดเชียงราย (พระราชบัญญัติ เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย และจังหวัดแพร่ พ.ศ. 2495. (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. ตอนที่ 77 เล่ม 69 : 1440-41. 30 ธันวาคม 2495)

พ.ศ. 2500 มีประชาชนอพยพย้ายมาจากบ้านสบบง ตำบลสบบง อำเภอเชียงคำ จังหวัดเชียงราย และมากับเผ่าเย้าที่บ้านปง ทางดอยผาจิ ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดเชียงราย มีนายจงจอ แซ่ม้า และญาติพี่น้อง จำนวน 15 ครัวเรือน

พ.ศ. 2503 นายเยี้ยโก๊ะ แซ่ม้า ย้ายมาจากอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย จำนวน 5 หลังคาเรือน มาอยู่ด้วยกันรวมเป็น 20 หลังคาเรือน สมัยนั้นชาวบ้านได้เรียกบ้านสันติสุขว่า “บ้านปงอาง” มีนายเยี่ยโก๊ะ แซ่ม้า เป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านปงอาง และยังมีส่วนหนึ่งย้ายมาจากบ้านสบบงตามมาอยู่ด้วย

พ.ศ. 2510 โดยประมาณ ได้มีขบวนการทางการเมืองหรือพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ได้เข้ามาเคลื่อนไหวบริเวณบ้านปงอาง ปลุกระดมลัทธิคอมมิวนิสต์ในพื้นที่บริเวณบ้านผาจิ แนวแถบดอยผาจิ เมื่อทางเจ้าหน้าที่จังหวัดน่าน ทราบข่าวว่ามีขบวนทางการเมืองเข้ามาเคลื่อนไหวปลุกระดมประชาชน จึงส่งกำลังทหารเข้ามาปราบปรามทันที ทำให้ชาวบ้านปงอางอยู่ไม่ได้เนื่องจากภัยสงครามจึงได้หนีเข้าไปอาศัยอยู่ในป่า

พ.ศ. 2511 เดือนพฤศจิกายน ชาวบ้านบ้านปงอาง บนดอยผาจิทั้งหมดจึงได้พร้อมใจกันเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จับอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาล ในช่วง 14 ปี ที่ชาวบ้านบนดอยผาจิอยู่กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เพื่อความสะดวกในการควบคุมและดูแลเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของ พคท. ได้จัดแบ่งชาวบ้านผาจิออกเป็น 3 หมู่บ้านดังนี้ 1.บ้านธงแดง 2.บ้านเอกราช 3.บ้านต่อสู้ แต่ละหมู่บ้านมีการตั้งทำงานรวมหมู่ในระบบสหกรณ์ โดยได้รับส่วนแบ่งตามแรงงาน ที่ได้ทำอย่างเท่าเทียมกัน อย่างเสมอภาค เพื่อความสะดวกในการควบคุมและดูแลพรรคให้สิทธิเท่าเทียมกันแก่ประชาชน กับผู้ที่ปฏิบัติงานหรือหัวหน้าเขตปกครองดูแลให้หัวหน้าหมู่บ้านมีคณะกรรมการช่วยกันดูแลในแต่ละฝ่ายมีดังนี้

  1. กรรมการฝ่ายปกครอง
  2. กรรมการฝ่ายป้องกัน หัวหน้าทหารบ้าน
  3. กรรมการฝ่ายเศรษฐกิจ และสหกรณ์
  4. กรรมการฝ่ายอนามัย
  5. กรรมการฝ่ายสตรีและเยาวชน

ได้ช่วยกันลาดตระเวนรอบเขตปกครองไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามซึ่งคือฝ่ายรัฐบาล เข้ามาในเขต และในแต่ละหมู่บ้านยังจัดให้มีผู้ปฏิบัติงานมาให้ความรู้แก่ชาวบ้าน ให้รู้จักและสามัคคีกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันมีเสรีภาพเท่าเทียมกัน เหมือนพี่เหมือนน้อง อยู่ครอบครัวเดียวกัน ยึดระเบียบวินัย เป็นที่เคารพของผู้ใหญ่และเด็ก

ต่อมาประชาชนบ้านผาจิได้ร่วมกับประชาชนผาช้างน้อยหรือบ้านฉลองกรุงตั้งขึ้นอีก 3 หมู่บ้านคือ 1.บ้านร่วมใจ 2.บ้านยืนหยัด 3.บ้านลูกไฟ ประชาชนทั้ง 6 หมู่บ้านได้จัดตั้งเป็นสภาตำบลขึ้น ขึ้นมาเป็นเขตงาน ที่ 7 เรียกว่าเขต 7 เป็นสำนัก ดังนี้

  1. สำนัก 5 อ. คือ ถ้ำพบาลหรือก่ำหมอ
  2. ถ้ำสื่อสารเพื่อติดต่อภายในเมือง
  3. สำนัก 46 เป็นที่เก็บอาวุธปืน
  4. สำนัก 44 เป็นที่กองบัญชาการทหาร
  5. สร้างโรงไฟฟ้าเพื่อออกวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

พ.ศ. 2515 โดยที่คณะปฏิวัติพิจารณาเห็นว่า หมู่บ้านหมู่ที่ 10 ตำบลควน อำเภอปง จังหวัดเชียงราย อยู่ใกล้และสะดวกในการติดต่อกับอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน และท้องที่ตำบลยอด อำเภอปง จังหวัดเชียงราย อยู่ใกล้และสะดวกในการติดต่อกับเชียงกลาง จังหวัดน่าน (ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 137 เรื่องเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดเชียงรายและจังหวัดน่าน. (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 89 ตอนที่ 70 ฉบับพิเศษ : 8-9. 2 พฤษภาคม 2515)

พ.ศ. 2516 ได้มีนิสิตนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ นับพันคนขึ้นมาอยู่ร่วมกันโดยอยู่อย่างเป็นพี่เป็นน้องกัน

พ.ศ. 2520 อำเภอเมืองพะเยาได้ยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดพะเยา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ฯ มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งจังหวัดพะเยา ตามพระราชบัญญัติ เรื่อง ตั้งจังหวัดพะเยา พ.ศ. 2520 ประกอบด้วยอำเภอ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอจุน อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงม่วน อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง และอำเภอแม่ใจ (พระราชบัญญัติ ตั้งจังหวัดพะเยา พ.ศ. 2520. (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 94 ฉบับพิเศษ ตอนที่ 69 : 1-4. 28 กรกฎาคม 2520) และมีนายสัญญา ปาลวัฒน์วิไชย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาคนแรก (สำนักงานจังหวัดพะเยา)

พ.ศ. 2523 รัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้ประกาศนโยบายโดยมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 เป็นคำสั่งรัฐบาลไทยที่กำหนดนโยบายสำคัญ ในการต่อสู้กับการก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์ช่วงปลายสงครามเย็น คำสั่งดังกล่าวออกเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2523 และลงนามโดยนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ คำสั่งนี้ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากท่าทีทหารสายแข็งที่ดำเนินมาแต่รัฐบาลฝ่ายขวาธานินทร์ กรัยวิเชียร (ครองอำนาจ 2519 ถึง 2520) มาสู่สายกลางมากขึ้นซึ่งให้ความสำคัญมาตรการทางการเมืองเหนือการปฏิบัติทางทหารอย่างเป็นทางการ คำสั่งนี้กำหนดให้มีการจัดการความอยุติธรรมทางสังคม และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองและกระบวนการประชาธิปไตย มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเมื่อประกอบกับการเสื่อมลงของการสนับสนุนจากต่างชาติ นำไปสู่การเสื่อมลงของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

พ.ศ. 2525 โดยนโยบายของรัฐบาลตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 แผนยุทธการการเมืองนำการทหารมาโฆษณาให้ประชาชน เขตที่ 7 ประธานผาจิทั้งหมด ซึ่งเป้นกลุ่มชาติพันธ์ม้ง จึงพร้อมใจกันเข้ามอบตัวกับทางรัฐบาลที่ศูนย์กรุงเทพฯ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เป็นระยะเวลา 8 เดือน ประชาชนที่เข้ามอบตัวถือได้ว่าเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เพื่อพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปตามโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคง กองทัพภาค ที่ 3 ได้อพยพกลุ่มบ้านเล็ก ๆ ของชาวเขาเผ่าม้งมาอยู่ร่วมกันที่บ้านสันติสุข และจัดตั้งเป็นหมู่บ้านผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยขึ้น ตามโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงของกองทัพภาคที่ 3 และได้ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นป่าไม้ เพื่อดำเนินงานตามโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อความมั่นคงดอยยาว-ผาหม่น-ผาจิ โดยมีการจัดสรรที่ดินทำกินให้ (กรมป่าไม้, 2543 : 3-26-3-27) 

พ.ศ. 2526 กองทัพภาคที่ 3 ก็ได้เริ่มดำเนินการตามโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสันติสุข-ขุนกำลัง จังหวัดพะเยา (สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) โดยเริ่มสร้างถนนจากบ้านผาจิ เข้าถึงบริเวณลำน้ำสาว และออกไปยังบ้านสบขุ่นและอีกสายหนึ่งจากบ้านปี้เหนือมาบรรจบที่ลำน้ำสาว และพัฒนาพื้นที่ลำน้ำสาวให้ชาวบ้านเข้ามาอยู่อาศัย เพื่อให้ทั้ง 2 หมู่บ้าน คือ บ้านสันติสุข-ขุนกำลัง ตำบลขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยาลดการขยายพื้นที่การแผ้วถางป่า และปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวไร่มาเป็นการทำนาขั้นบันได เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างผสมผสานกลมกลืน โดยคนเป็นผู้พิทักษ์รักษาป่า และป่าให้ความร่มเย็น และเป็นแหล่งผลิตอาหารของคน

พ.ศ. 2527 ชาวบ้านเข้ามาตั้งหมู่บ้านในพื้นที่จัดสรรในบริเวณลำน้ำสาวตามโครงการพัฒนาความมั่นคง

พ.ศ. 2528 บ้านปงอางก็ตั้งเป็นหมู่บ้านขึ้นโดยใช้ชื่อหมู่บ้านว่า หมู่บ้านสันติสุข หมู่ที่ 7 ตำบลควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา โดยประกาศทางกระทรวงมหาดไทยได้จัดเป็นหมู่บ้านโดยถูกต้องตามกฎหมายโดยชื่อว่า หมู่บ้านสันติสุข จนถึงปัจจุบัน 

พ.ศ. 2534 ตั้งตำบลขุนควร ในเขตอำเภอปง จังหวัดพะเยา โดยโอนหมู่บ้านจากตำบลควร จำนวน 8 หมู่บ้าน บ้านสันติสุข หมู่ 17 ตำบลควร ได้โอนไปเป็นบ้านสันติสุข หมู่ที่ 7 ตำบลขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2534 (ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอปง จังหวัดพะเยา. (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 118 ตอนที่ 169 : 9474-9479. 26 กันยายน 2534)

พ.ศ. 2541 เนื่องด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กำหนดเขตตำบลภายในท้องที่ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 ตำบลขุนควรมี 9 หมู่บ้าน บ้านสันติสุข หมู่ 7 ตำบลขุนควร อำเภอปง (ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอปง จังหวัดพะเยา (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 115 ตอนพิเศษ 93 ง : 332-353. 12 ตุลาคม 2541)

อาณาเขตติดต่อ

  • ทิศเหนือ ติดกับ บ้านขุนกำลัง หมู่ที่ 4 ตำบลขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา
  • ทิศใต้ ติดกับ บ้านปี้ อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน
  • ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านสบขุ่น อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
  • ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านขุนกำลัง หมู่ที่ 4 ตำบลขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา

บ้านสันติสุขเป็นหมู่บ้านที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขาล้อมรอบหมู่บ้านทางตะวันออก มีลักษณะภูเขาเป็นรูปผาช้างและผาวัวซึ่งในฤดูหนาวจะมีความสวยงามมาก เหมาะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และยังมีพื้นที่ติดต่อกับ จ.น่าน ซึ่งมีทางลูกรังสามารถข้ามไป จ.น่านได้ มีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน คือ แม่น้ำสาวซึ่งกั้นเขตแดนระหว่าง จ.พะเยา และ จ.น่าน

จำนวนประชากรหมู่บ้านสันติสุข ชาย 801 คน หญิง 772 คน รวมประชากร 1,573 คน

ประชากรบ้านสันติสุข ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธ์ม้ง ในอดีตมีการปกครองแบบสังคมนิยมผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้นำในชุมชนจะต้องเป็นที่ยอมรับของคนในชุมชนจะต้องเป็นคนที่มีความกล้าในด้านความสามารถมีความรู้และมีคุณธรรม จริยธรรม และ ศีลธรรมสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลคนในชุมชนได้ เป็นผู้ปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนได้เพื่อที่จะให้คนในชุมชนประพฤติปฏิบัติตามได้การพัฒนาสมัยก่อนทุกคนร่วมไม้ร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกันมีการเคารพในกฎกติกาของชุมชนมีการนำเรื่อง ผีปู่ ย่า ตา ทวด มาเป็นเครื่องร้อยรัดบุคคลในชุมชนเอาไว้เพื่อให้เกิดความสามัคคี 

ม้ง

ผู้ใหญ่บ้านสันติสุข

  • นายสันติ วรกิจพาณิชย์
  • นายอิสระ วรกิจพาณิชย์
  • นายชาญชัย อัศวะจินดาพล
  • นายอิทธิพล วรกิจพาณิชย์ (ปัจจุบัน)

กลุ่ม/แกนนำที่แต่งตั้ง (จากประชาชน)

  • กลุ่มแม่บ้าน สมาชิก 50 คน
  • กลุ่มผู้สูงอายุ สมาชิก 20 คน
  • กลุ่มเพาะเห็ด สมาชิก 15 คน

ประกอบอาชีพ

ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ มีการทำมาหากินแบบยังชีพทำกินทำใช้เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องหากมีมากเหลือกินเหลือใช้ก็จะทำการแลกเปลี่ยนภายในชุมชนมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ดินดำ น้ำชุ่ม ป่าเขียว เข้าป่าได้กินเห็ด ตกเบ็ดได้กินปลา ไปมาหาสู่กินสบายยามใดที่ล้มป่วยก็มียาสมุนไพรช่วยรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นมีมากมายซึ่งได้ถ่ายทอดไปสู่ลูกหลาน เมื่อถึงการณ์ปีใหม่หนุ่มสาวโยนลูกช่วงเพื่อหาเนื้อคู่ พ่อแม่ปู่ย่าตายายบรรพบุรุษผู้ล่วงลับโดยการจัดพิธีภายในบ้านของตนเองและกล่าวคำอวยพรปีใหม่งานที่ใหญ่ที่สุดของประเพณีม้งตลอดปีก็มีเพียงงานเดียวและงานนี้ก็จะยังคงสืบทอดกันมาจนปัจจุบัน

ยังคงยึดถือวัฒนธรรมดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมต่าง ๆ ก็ยังคงยึดถือปฏิบัติกันมาโดยเฉพาะวัฒนธรรมด้านภาษาซึ่งเป็นการสื่อสารให้เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย คนในหมู่บ้านก็ยังคงรักษาและใช้สื่อสารกันมา วัฒนธรรมที่คนในชุมชนยังสืบทอดกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นั้นก็คือ วัฒนธรรมการเล่นปีใหม่ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่พบเห็นได้ชัดที่สุดเป็นวัฒนธรรมที่มีความสวยงาม น่าพึงเก็บรักษา และสืบทอดต่อ ๆ ไป

อาชีพการทำลูกชิด หรือ ลูกต๋าว

ด้านศาสนาและการศึกษา

ศาสนา ชาวบ้านนับถือผี และศาสนาคริสต์เป็นส่วนใหญ่

บ้านสันติสุขเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล แต่การเรียนรู้ก็ถูกฝึกสอนมาจากบิดา มารดา ที่เคยร่ำเรียนมาและจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีความรู้มาจากกลุ่มผู้ปฏิวัติ

การศึกษา ระดับก่อนวัยเรียนเข้าเรียนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านสันติสุข ในระดับประถมศึกษาเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านสันติสุข ในระดับมัธยมศึกษาเข้าเรียนที่โรงเรียนขุนควรวิทยาคมและสถานศึกษาที่ใกล้เคียงเป็นบางส่วน สำหรับการศึกษาขั้นอุดมศึกษา ก็จะกระจายไปตามสถานศึกษาทั้งต่างจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงตามกำลังความสามารถของเด็กและผู้ปกครอง

ปราชญ์ชุมชนด้านวัฒนธรรม

1.นายทองพัน วรกิจพาณิชย์ พิธีงานแต่งงาน

2.นายท่อป้อ แซ่ว่าง เป่าในไม้

3.นายตง แซ่ว่าง สวดส่งวิญญาณ

4.นายน่อจื่อ อัศวจินดาพล ให้พร

5.นายน่อฟื่อ (สิริ) วรกิจพาณิชย์ ผู้จัดการงานศพ

6.นายสือ แซ่ม้า สวดงานศพ

      • สถาบันองค์กรทางศาสนา จำนวน 1 โบสถ์
      • ศูนย์สาธารณสุขมูลฐาน จำนวน 1 แห่ง
      • โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสันติสุข
      • โรงเรียนบ้านสันติสุข
      • การบริการพื้นฐาน
      • การโทรคมนาคม โทรศัพท์เคลื่อนที่
      • การไฟฟ้า มีไฟฟ้าใช้ครบทุกครัวเรือน
      • แหล่งน้ำธรรมชาติ แม่น้ำสาว ต้นกำเนิดที่ดอยผาจิ ไหลลงจากดอยมารวมกันเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำยม แม่น้ำสายหลักของประเทศ
      • ฝ่ายกั้นน้ำตามลำแม่น้ำ จำนวน 1 แห่ง

สาธารณประโยชน์ในชุมชน

          • ฝ่ายน้ำล้นในพื้นที่การเกษตร มีจำนวน 5 แห่ง
          • ประปาในชุมชน มีจำนวน 1 แห่ง
          • แหล่งน้ำธรรมชาติ มีจำนวน 1 แห่ง
          • ท่อเหลี่ยม มีจำนวน 5 แห่ง
          • ถนนคอนกรีตในหมู่บ้าน มีจำนวน 1 สาย
          • ถนนลุกรังดิน มีจำนวน 5 สาย

แหล่งท่องเที่ยว

ดอยผาจิมีระยะทางห่างจากที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลขุนควร ประมาณ 32 กิโลเมตร เป็นภูเขาที่มีความสูงชัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดดอยจะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของจังหวัดน่านได้อย่างชัดเจน ช่วงฤดูหนาวยามเช้าจะเห็นทะเลหมอก เมื่ออยู่บนยอดดอยตอนสายจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าได้อย่างสวยงาม ในปี พ.ศ. 2511-2525 ดอยผาจิเคยเป็นที่ตั้งของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มีสถานที่หลายแห่งทางประวัติศาสตร์ เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวศึกษาแหล่งประวัติศาสตร์

น้ำตกรัชดามีระยะทางห่างจากที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลขุนควร ประมาณ 28 กิโลเมตร ในบริเวณน้ำตกมีป่าไม้ที่อุดุมสมบูรณ์ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี

ภาษาจีน ภาษาไทยล้านนา ภาษาไทยกลาง


ประชากรบ้านสันติสุขยังคงยืดถือวัฒนธรรมดั่งเดิม ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมต่าง ๆ ก็ยังคงยืดถือปฏิบัติกันมาโดยเฉพาะวัฒนธรรมด้านภาษาซึ่งเป็นการสื่อสารให้เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย คนในหมู่บ้านก็ยังคงรักษาและใช้สื่อสารกันมา วัฒนธรรมที่คนในชุมชนยังสืบทอดกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นั้นก็คือ วัฒนธรรมการเล่นปีใหม่ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่พบเห็นได้ชัดที่สุดเป็นวัฒนธรรมที่มีความสวยงาม น่าพึงเก็บรักษา และสืบทอดต่อ ๆ ไป

ความท้าทาย การรับวัฒนธรรมจากที่อื่นมาผสมกับวัฒนธรรมเก่าในวิธีที่ไม่ถูกต้อง เช่น วัฒนธรรมในด้านการเคารพผู้หลักผู้ใหญ่


บ้านสันติสุขเป็นหมู่บ้านที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขา ล้อมรอบหมู่บ้านทางตะวันออกมีลักษณะภูเขาเป็นรูปผาช้างและผาวัวซึ่งในฤดูหนาวจะมีความสวยงามมาก เหมาะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นอย่างมากและยังมีพื้นที่ติดต่อกับ จ.น่าน ซึ่งมีทางลูกรังสามารถข้ามไป จ.น่านได้มีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน คือ แม่น้ำสาวซึ่งกั้นเขตแดนระหว่าง จ.พะเยา และ จ.น่านนั่นเอง

เป็นพื้นที่ภูเขาล้อมรอบลักษณะพื้นที่เป็นแอ่ง มีแม่น้ำไหลผ่านซึ่งเหมาะแก่การทำการเกษตร โดยเฉพาะการการทำนาและการปลูกพืชสวนผลไม้ คนในหมู่บ้านจึงนิยมการทำนาและการปลูกพืชสวนผลไม้แทบทุกหลังคาเรือน มีดินที่อุดมณ์สมบูรณ์ซึ่งเหมาะแก่การทำการเกษตร

ด้านศักยภาพ

บ้านสันติสุขแม้จะเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลแต่หมู่บ้านก็มีผู้นำที่มีวิสัยทัศย์ที่กว้างไกลสามารถพัฒนาหมู่บ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีรู้จักตามลอยในหลวงใช้เศรษฐกิจแบบพอเพียง สร้างกลุ่มพลังมวลชนในหมู่บ้าน เพื่อพัฒนาเมื่อบ้านต่อไป


ดอยผาช้าง
ดอยผาช้าง
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

องค์การบริหารส่วนตำบลขุนควร. (ม.ป.ป.). บ้านสันติสุข หมู่ที่ 7. https://khunkhuan.go.th/

เชียงรายโฟกัส. (2565, 4 มกราคม). ผาช้าง ผาวัว อ.ปง จ.พะเยา. https://www.chiangraifocus.com/

ที่นี่เมืองป๋ง อำเภอปง จังหวัดพะเยา. Facebook https://www.facebook.com/

สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ. (ม.ป.ป.). โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสันติสุข-ขุนกำลังจังหวัดพะเยา. https://www.rdpb.go.th/

นักข่าวพลเมือง. (2559, 26 เมษายน). ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์การต่อสู้พรรคคอมมิวนิสต์ ที่ บ.สันติสุข อ.ปง จ.พะเยา. https://thecitizen.plus/

กระทรวงวัฒนธรรม. (2555, 28 กันยายน). ชื่อบ้านนามเมืองบ้านสันติสุขตำบลขุนควรอำเภอปงจังหวัดพะเยา. ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม http://www.m-culture.in.th/

โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรพื้นที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสันติสุขและบ้านขุนกำลัง บ้านสันติสุขและบ้านขุนกำลัง ตำบลขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา. http://ourkingthai.com/

พระราชบัญญัติ ตั้งจังหวัดพะเยา พ.ศ. 2520. (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 94 ฉบับพิเศษ ตอนที่ 69 : 1-4. 28 กรกฎาคม 2520

ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 137 เรื่องเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดเชียงรายและจังหวัดน่าน. (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 89 ตอนที่ 70 ฉบับพิเศษ : 8-9. 2 พฤษภาคม 2515

พระราชบัญญัติ เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย และจังหวัดแพร่ พ.ศ.2495. (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. ตอนที่ 77 เล่ม 69 : 1440-41. 30 ธันวาคม 2495

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอปง จังหวัดพะเยา. (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 118 ตอนที่ 169 : 9474-9479 . 26 กันยายน 2534

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอปง จังหวัดพะเยา. (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 115 ตอนพิเศษ 93 ง : 332-353. 12 ตุลาคม 2541 

อบต.ขุนควร โทร. 0-5489-0552