Advance search

ทิโพ๊ะโค๊ะ

หมู่บ้านติดชายแดนไทย-เมียนมา ติดเทือกเขาตะนาวศรี มีสถานที่ท่องเที่ยวแก่งส้มแมว ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มีพรรณไม้หลากหลายชนิด ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

หมู่ที่ 3
บ้านห้วยม่วง
ตะนาวศรี
สวนผึ้ง
ราชบุรี
อบต.ตะนาวศรี โทร. 0-3239-5426
พิชามญชุ์ ธูปหอม
25 ส.ค. 2023
ผจญ อินต๊ะมูล
28 ก.ย. 2023
สุดารัตน์ ศรีอุบล
15 พ.ค. 2024
บ้านห้วยม่วง
ทิโพ๊ะโค๊ะ

สมัยก่อนมีต้นมะม่วงป่าจำนวนมากขึ้นอยู่บริเวณใกล้ลำห้วย ชาวบ้านจึงเรียกว่า ห้วยม่วง


หมู่บ้านติดชายแดนไทย-เมียนมา ติดเทือกเขาตะนาวศรี มีสถานที่ท่องเที่ยวแก่งส้มแมว ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มีพรรณไม้หลากหลายชนิด ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

บ้านห้วยม่วง
หมู่ที่ 3
ตะนาวศรี
สวนผึ้ง
ราชบุรี
70180
13.39246763
99.26549122
องค์การบริหารส่วนตำบลตะนาวศรี

บ้านห้วยม่วง เป็นหมู่บ้านที่มีพื้นที่ติดชายแดนที่มีเทือกเขาตะนาวศรี เป็นเส้นกั้นพรมแดนของประเทศไทยกับประเทศสหภาพเมียนมาร์ ระยะทางจากชุมชนถึงชายแดนช่องโป่งแห้ง ประมาณ 7 กิโลเมตร

บ้านห้วยม่วงมีลุ่มน้ำภาชีตอนบนเป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลมาจากตอนใต้ตามพื้นที่หุบเขาสู่พื้นที่ทางทิศเหนือ ผ่านเทือกเขาตะนาวศรีเข้ามายังฝั่งไทยและผ่านมายังหมู่ที่ 3 บ้านห้วยม่วง จากความเป็นธรรมชาติของพื้นที่ที่มีดิน น้ำ ป่า พื้นที่แห่งนั้นย่อมมีความอุดมสมบูรณ์ และสายน้ำยังเป็นตัวหลักที่นำความอุดมสมบูรณ์มายังบริเวณที่น้ำท่วมถึงหรือไหลผ่าน บ้านห้วยม่วง เช่นกัน พื้นที่ที่น้ำไหลผ่านจะมีลำห้วยเป็นตัวแยกของสายน้ำภาชีเข้าไปยังบริเวณชุมชนของบ้านห้วยม่วง ในอดีตพื้นที่แห่งนี้จะมีต้นมะม่วงขึ้นอยู่มากมายบริเวณลำห้วย จึงได้มีการตั้งชื่อตามสภาพของพื้นที่ว่า "บ้านห้วยม่วง" มาจนทุกวันนี้

พื้นที่บ้านห้วยม่วง ยังเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ และมีกะเหรี่ยงกลุ่มปกาเกอะญออยู่ที่บ้านโป่งแห้ง ในอดีตบ้านห้วยม่วงมีประชากรอยู่ประมาณ 30 คน ใน พ.ศ. 2507 ได้มีพรานเที่ยวหาสัตว์ป่าเข้ามาในพื้นที่บ้านห้วยม่วงพบพื้นดินเป็นทรายสีดำ จึงได้นำทรายสีดำกลับไปยังกรุงเทพฯ เพื่อตรวจสอบปรากฏว่าทรายดำนั้นเป็นแร่ดีบุก ทำให้มีนายทุนเข้ามาสำรวจและเริ่มทำเหมืองแร่เล็ก ๆ ที่บริเวณห้วยม่วง ในปีนั้นเหมืองแร่ได้ขยายกิจการเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีผลกำไร จึงทำการระดมหาคนงานที่มีความสามารถในการทำเหมืองแร่จากหลายจังหวัด เช่น ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ทำให้ชุมชนบริเวณนี้กลายเป็นชุมชนใหญ่

ใน พ.ศ. 2509 มีการจัดตั้งการทำเหมืองแร่เป็นรูปบริษัทภายใต้ชื่อบริษัทราชบุรีพัฒนาการจำกัด เจ้าของ คือ พลตำรวจเอกประเสริฐ รุจิรวงศ์ มีผู้จัดการเหมืองคือ นายประหยัด เนียมสกุล เป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการหาแหล่งทรัพยากรอันมีค่ามากมายที่อยู่ในพื้นที่และใต้ภูเขาแห่งห้วยม่วง คือ แร่ดีบุก ในการระดม คนงานและนำเครื่องจักรมาขุดพื้นที่บ้านห้วยม่วงที่เคยมีความสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณตามธรรมชาติก็ถูกทำลายจากการทำแร่ แร่ดีบุก แต่สร้างความร่ำรวยให้นายทุนเป็นอย่างมาก กรรมกรทำแร่ได้ค่าตอบแทน ค่าแรงในการทำงานวันละ 15-25 บาท ส่วนหัวหน้าคนงานเหมืองจะได้ค่าแรงวันละ 40 บาท คนงานเหมืองจะมีประมาณ 200 คน มีทั้งชายและหญิง ทั้งชาวไทยและชาวกะเหรี่ยงทำให้กำเนิดบุตรหลานเพิ่มมากขึ้น เจ้าของกิจการเหมืองแร่จึงได้จัดตั้งโรงเรียนเล็ก ๆ ขึ้นในเหมือง เพื่อให้บุตรหลานของคนงานได้เรียนหนังสือ นักเรียนชุดแรกมีประมาณ 30 คน 

ต่อมาในปี พ.ศ. 2512 บริษัทราชบุรีพัฒนาการจำกัด ได้จัดหาพยาบาลที่จบจากโรงพยาบาลศิริราชมาประจำที่เหมือง เพื่อรักษาคนงานที่เจ็บป่วย เนื่องจากระยะทางเหมืองไปยังจังหวัดราชบุรีไกลมากและทุรกันดารคนงานเหมืองป่วยกันด้วยโรคประจำถิ่นก็คือ ไข้มาลาเรีย และอุบัติเหตุจากการทำงานจนกระทั่งใน พ.ศ. 2514 เหมืองแร่เริ่มผลิตได้น้อยลง และมีบุคคลอื่นมาทำต่อ คนงานก็เริ่มกลับภูมิลำเนาเดิมบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงประกอบอาชีพร่อนแร่ หาของป่า และยึดอาชีพทำไร่ มากขึ้นใน พ.ศ. 2519 กิจการเหมืองแร่เลิกทำโดยสิ้นเชิง เจ้าของเหมืองแร่ท่านเดิม จึงได้ยกโรงเรียนให้กับทางราชการเพื่อนำไปใช้เพื่อการศึกษาต่อไป พร้อมทั้งยกอาคารที่ใช้เป็นสถานที่รักษาพยาบาลให้กับคนงานในเหมืองให้กับทางราชการจัดทำเป็นสถานีอนามัยให้กับคนในชุมชน และจัดหาคนที่มีการศึกษาสูง มีความรู้ดีไปศึกษาที่โรงพยาบาลศิริราช คือ นายผล ร่มโพธิ์ ไปเรียนเกี่ยวกับการแพทย์ เพื่อให้มาทำงานรักษาคนไข้ในเขตบ้านห้วยม่วง

ใน พ.ศ. 2519 เจ้าของเหมืองคนเดิมได้ก่อสร้างอาคารเรียนขึ้นใหม่ เนื่องจากจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น พร้อมตั้งชื่อโรงเรียนว่า "รุจิรพัฒน์" ช่วงนั้นมีนักเรียนเพิ่มขึ้น 100 กว่าคน เปิดสอนตั้งแต่ประถมศึกษาชั้นปีที่ 1-4 มีการจ้างครูให้มาสอนเพิ่มขึ้นด้วย เงินเดือน ๆ ละ 600 บาท เงินค่าจ้างครูที่สอนนั้นเจ้าของเหมืองได้จ่ายให้อยู่หลายปี จนกระทั่งโอนโรงเรียนมาเป็นของรัฐและเปิดทำการสอนตั้งแต่ประถมศึกษาชั้นปีที่ 1 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยจะมีนักเรียนที่อยู่ห่างไกล เช่น บ้านห้วยน้ำหนักมาพักค้างที่โรงเรียน

การปกครองของชุมชนห้วยม่วง เคยอยู่ภายใต้การดูแลของหมู่บ้านท่ามะขาม หมู่ที่ 5 ตำบลตะนาวศรี มาก่อนจนกระทั่งปี พ.ศ. 2525 ชุมชนห้วยม่วงมีประชากรเพิ่มขึ้นจากเดิม จึงแยกชุมชนห้วยม่วง ออกมาเป็นหมู่ที่ 8 ของตำบลสวนผึ้ง เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2525 

ใน พ.ศ. 2527 ทางราชการเห็นความสำคัญของบ้านห้วยม่วง ซึ่งอยู่ห่างไกลและอยู่ติดแนวชายแดนและมีชาวไทยตะนาวศรีอาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านใหญ่ และอยู่ในถิ่นทุรกันดาร จึงได้จัดตั้งเป็นหมู่บ้านอาสาพัฒนาป้องกันตนเอง ตามแนวชายแดน

ใน พ.ศ. 2528 ช่วงเดือนตุลาคม เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ทำให้ราษฎรเสียชีวิต ถูกกระแสน้ำป่าพัดไปจำนวน 12 คน ทำให้ทางราชการมองเห็นเป็นความเดือดร้อนของประชาชนบ้านห้วยม่วง จึงระดมเจ้าหน้าที่ ทุกกระทรวงเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ ซึ่งสมัยนั้น ท่านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเยี่ยมด้วยตนเองถึงหมู่บ้าน ตั้งแต่นั้นมาบ้านห้วยม่วงจึงได้ปรับปรุงอาคารเรียนโรงเรียนรุจิรพัฒน์ สร้างสถานีอนามัย สำนักสงฆ์ห้วยม่วง ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นวัดห้วยม่วง มีพระจำพรรษาอยู่เป็นประจำ

ใน พ.ศ. 2540 ได้แยกตำบลตะนาวศรีออกจากสวนผึ้ง บ้านห้วยม่วงจึงเป็นหมู่ที่ 3 ของตำบลตะนาวศรี โดยมีผู้นำหมู่บ้าน คือ ผู้ใหญ่เสริม นวลเขียว เป็นผู้ดูแลหมู่บ้านมาจนถึงปี พ.ศ. 2548 ได้เกษียณอายุแล้วจึงได้มีการเลือกตั้งใหม่เป็นนางทัศนีย์ ชุ่มนาค 

พ.ศ. 2542 เมื่อบ้านห้วยม่วง มีประชากรมากเกินกำลังที่จะดูแลอย่างทั่วถึง คือมีจำนวนครัวเรือน ถึง 362 ครัวเรือน รัฐจึงได้มีการแยกหมู่บ้านห้วยน้ำหนัก หมู่ที่ 6 ออกจากบ้านห้วยม่วงเป็นอีกหมู่บ้านหนึ่ง

บ้านห้วยม่วง มีเนื้อที่ของหมู่บ้าน จำนวน 42.06 กิโลเมตร หรือ 26,287.5 ไร่ ห่างจากอำเภอสวนผึ้งประมาณ 28 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดราชบุรี 88 กิโลเมตร สภาพเส้นทางคมนาคมมีถนนลาดยาง จากอำเภอสวนผึ้งถึงบ้านห้วยม่วงตลอดสาย การเดินทางมีรถโดยสารประจำทางผ่านหน้าอำเภอสวนผึ้งและสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลได้ตลอด

ลักษณะพื้นที่ของบ้านห้วยม่วง เป็นพื้นที่ราบเชิงเขา และมีบางส่วนเป็นพื้นที่บนภูเขาสูง อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้เบญจพรรณ อาณาเขตติดต่อดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ บ้านบ่อหวี หมู่ที่ 4 ตำบลตะนาวศรี
  • ทิศใต้ ติดกับ บ้านห้วยน้ำหนัก หมู่ที่ 6 ตำบลตะนาวศรี และอำเภอบ้านคา
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ตำบลบ้านคา อำเภอบ้านคา และบ้านบ่อเก่าบน ตำบลตะนาวศรี
  • ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านห้วยแห้ง บ้านท่ามะขาม ตำบลตะนาวศรี

มีพื้นที่มีอ่างเก็บน้ำ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบ้านห้วยม่วง อ่างเก็บน้ำผาชลแดน อ่างเก็บน้ำห้วยจันทร์มาก อ่างเก็บน้ำบ้านโป่งแห้ง และฝ่ายทดน้ำบ้านห้วยม่วง 

สถานที่สำคัญในชุมชน

1.วัดห้วยม่วง

วัดห้วยม่วง เป็นศาสนสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เดิมเมื่อ พ.ศ. 2522 เป็นสำนักสงฆ์ ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 14 ไร่ วัดได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ว่าด้วยการป่าไม้ สร้างวัดเมื่อปี 2545 โดยมีผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ร่วมมือกันสร้างวัดห้วยม่วงขึ้นมา สภาพพื้นที่ของวัดอยู่บนเนินเขาเตี้ย ๆ สูง ๆ ต่ำ ๆ กลางหมู่บ้านซึ่งวัดมีประชาชนให้ความอุปถัมภ์ และเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2536 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 เสด็จประทับทรงงานบนศาลาการเปรียญวัดห้วยม่วง ในคราวเสด็จเยี่ยมราษฎร ชาวอำเภอสวนผึ้ง วัดห้วยม่วง ได้รับการพัฒนาสร้างถาวรวัตถุด้วยศรัทธาของชาวบ้านมาตลอด มีการแสดงพระธรรมเทศนาทุกวันพระในพรรษา ปัจจุบันมีพระสุรเดช ฐิตธมฺโม เป็นเจ้าอาวาส

2.โรงเรียนรุจิรพัฒน์ 

โรงเรียนตั้งอยู่หมู่บ้านพัฒนาตนเองชายแดนไทย-พม่า บ้านห้วยม่วง หมู่ที่ 3 ตำบลตะนาวศรีอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เดิมชื่อว่า โรงเรียนห้วยม่วง เปิดทำการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 โดยคุณประหยัด เนียมสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทเหมืองแร่ราชบุรีจำกัด ได้สร้างอาคารเรียนชั่วคราวเพื่อให้การศึกษาแก่บุตรหลานของคนงานเหมืองแร่และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 พลตำรวจเอกประเสริฐ รุจิรวงศ์ อธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งเป็นประธานบริษัท เหมืองแร่ราชบุรี จำกัด ได้มอบงบประมาณสร้างอาคารเรียนแบบถาวร และเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายอาคารเรียนและส่งมอบให้กับรัฐบาลด้วยตนเอง

ปีการศึกษา 2535 โรงเรียนได้เข้าโครงการขยายโอกาสทางการศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ เปิดทำการสอนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัจจุบันโรงเรียนรุจิรพัฒน์ เปิดทำการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 จนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

3.สถานประกาศคริสเตียนโป่งแห้ง

ในชุมชนบ้านห้วยน้ำหนัก มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ จึงมีสถานประกาศคริสเตียนโป่งแห้ง เป็นสถานที่จัดพิธีกรรมทางศาสนา หรือกิจกรรมต่าง ๆ ตามเทศกาล ประเพณีของชาวคริสต์

4.แก่งส้มแมว 

แก่งส้มแมว ตั้งอยู่ในพื้นที่ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ บริเวณบ้านห้วยม่วง บนเทือกเขาตะนาวศรี ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีลักษณะจะเป็นโขดหินเล็กใหญ่วางตัวสลับซ้อนขวางแม่น้ำลำภาชีไว้ เลยทำให้แนวโขดหินมีรูปร่างแปลกตา แต่ถึงจะแปลกก็นับว่าเป็นแก่งที่สวยงามมาก ๆ ในบางบริเวณของแก่งส้มแมว น้ำจะไม่เชี่ยวและไม่แรงมากแต่อาจจะมีโขดหินขนาดใหญ่เป็นแอ่งกว้าง น้ำไม่ลึก เลยทำให้สามารถลงเล่นน้ำได้ 

5.ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

เป็นศูนย์ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ เป็นศูนย์รวมพันธุ์ไม้นานาชนิดอันมีค่าทางเศรษฐกิจและเป็นแหล่งศึกษาทางธรรมชาติ ในการเรียนรู้ผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ได้รวบรวมพรรณไม้ป่านานาชนิด ท่ามกลางป่าเขา และมี "แก่งส้มแมว" เป็นแหล่งท่องเที่ยวอยู่ภายในศูนย์ แก่งหินขนาดใหญ่ที่คอยสร้างความชุ่มฉ่ำ ให้กับพื้นที่ โดยภายในสวนป่าแห่งนี้ มีทั้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติ สวนป่า สวนหย่อม และศูนย์จำหน่ายเซรามิกของชาวบ้าน โดยนับเป็นสถานที่ที่รวมพันธุ์ไม้อันมีค่าทางเศรษฐกิจนานาชนิด และเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติที่ดีเยี่ยมสำหรับคนที่สนใจ เดิมทีนั้นมีพื้นที่เพียง 3,000 ไร่ ต่อมาได้ขยายพื้นที่ โครงการฯ ออกไปครอบคลุมผืนป่าอีก 465,000 ไร่ และได้ผนวกอุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 136,000 ไร่ รวมเป็น 601,000 ไร่ในท้ายที่สุด สามารถเข้าชุมชนได้ทุกวัน

นอกจากนี้ ในพื้นที่บ้านห้วยม่วง ยังมีส่วนราชการต่าง ๆ เข้ามาตั้งอยู่หลายภาคส่วน เช่น สถานีอนามัยตำบลตะนาวศรี กองร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 1403 สถานีควบคุมไฟป่าราชบุรี ศูนย์โรคเมืองร้อนนานาชาติราชนครินทร์ และหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยม่วง

บ้านห้วยม่วง มีประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้สืบเชื้อสายกะเหรี่ยง กับคนไทยจากพื้นที่ต่าง ๆ ที่เข้ามาตั้งแต่สมัยมีการทำเมืองแร่ในพื้นที่ โดยเป็นคนที่มีเชื้อสายกะเหรี่ยง ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และคนไทย ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ อาศัยอยู่ร่วมกันในชุมชนอย่างสามัคคีปรองดองกัน และประชากรบางส่วนที่ไม่ใช่สัญชาติไทย หรือไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบุคคลพื้นที่สูง

ข้อมูลประชากร บ้านห้วยม่วง หมู่ 3 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี มีจำนวนครัวเรือน 759 ครัวเรือน ประชากรรวม 2,651 คน

  • สัญชาติไทย ชาย 784 คน หญิง 708 คน รวม 1,492 คน
  • มิใช่สัญชาติไทย หรือบุคคลพื้นที่สูง ชาย 620 คน หญิง 539 คน รวม 1,159 คน (ข้อมูลสำนักงานสถิติจังหวัดราชบุรี ณ กรกฎาคม 2566)

การปกครองจำแนกออกเป็นกลุ่มหมู่บ้าน แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ บ้านตะเคียน บ้านไทรงาม บ้านโป่งแห้ง และบ้านห้วยม่วง

การนับถือศาสนา

  • ศาสนาพุทธ ประชากรส่วนใหญ่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นกลุ่มคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ดั้งเดิมในชุมชน โดยมีวัดห้วยม่วงเป็นสถานที่ทำกิจกรรมทางพุทธศาสนา
  • ศาสนาคริสต์ ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ (นิกายโปรเตสแตนต์) ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นกะเหรี่ยง และมีสถานประกาศคริสเตียนโป่งแห้ง เป็นศูนย์รวมในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทางศาสนาคริสต์
โพล่ง

ประชากรบ้านห้วยม่วง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ และอาชีพรับจ้างทั่วไป และหาหน่อไม้ป่าไปขายโดยจะมีหน่อไม้มากประมาณปลายเดือนกันยายน เมื่อหาได้แล้วจะนำหน่อไม้ไปต้ม และอัดใส่ปี๊บส่งให้พ่อค้าคนกลางไปจำหน่ายต่อไป ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้ที่ดีของคนในชุมชน ประชากรอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข สามัคคีปรองดองกัน และชุมชนมีการรวมกลุ่มแบบเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ คือ

  • กลุ่มแบบเป็นทางการ ได้แก่ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง กลุ่ม อสม. กลุ่มกองทุนแม่ของแผ่นดิน กลุ่มหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.) กลุ่มสัจจะออมทรัพย์ และกลุ่มหมู่บ้านป้องกันตนเองตามแนวชายแดน
  • กลุ่มไม่เป็นทางการ ได้แก่ กลุ่มดับไฟป่า กลุ่มแปรรูปหนอไม้ปี๊บ

วิถีชีวิตทางวัฒนธรรม 

  • วันสงกรานต์ ช่วงวันที่ 12-15 เมษายน ของทุกปี ชาวบ้านผู้นับถือพุทธศาสนาจะถือปฏิบัติตามประเพณีสงกรานต์อย่างไทย ซึ่งจะไปวัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับของตนที่วัดสวนผึ้ง มีการจัดกิจกรรมสรงน้ำพระ และที่สำคัญคือ ชาวกะเหรี่ยงจะไปร่วมงานประเพณีพระสงฆ์เหยียบหลังกะเหรี่ยง นมัสการหลวงพ่อนวม และอดีตเจ้าอาวาสวัดแจ้งเจริญ อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี ที่จัดขึ้นในช่วงเดือน 5 ขึ้น 14, 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำของทุกปี ตามความเชื่อของกลุ่มชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงในพื้นที่จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ที่จะมาร่วมงาน ร่วมทำบุญที่วัดเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เกิดความสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว 
  • ประเพณีผูกแขนเรียกขวัญ กินข้าวห่อ เป็นพิธีกรรมการเรียกขวัญตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ โดยจัดขึ้นในช่วงเดือน 9 ของทุกปี ในช่วงราว ๆ เดือนสิงหาคม-กันยายน และมีอาหารที่ใช้ในงานคือ ข้าวห่อ บางพื้นที่จึงเรียกว่า "งานกินข้าวห่อ" ซึ่งแต่ละหมู่บ้านที่มีชาวกะเหรี่ยงอาศัยอยู่ จะกำหนดวันจัดงานประเพณีเวียนกันไปตามหมู่บ้าน และแต่ละบ้าน แต่ละครอบครัวก็จะทำพิธีในครอบครัวด้วย เพื่อเรียกขวัญให้กลับมาสู่ตัวลูกหลาน ให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีความสุข ความเจริญ มีอายุมั่นขวัญยืน มีความรักสามัคคี ซึ่งผู้ทำพิธีกรรมเรียกขวัญจะเป็นผู้สูงอายุในครอบครัว หรือถ้าจัดเป็นการจัดงานรวมของหมู่บ้านก็จะให้ผู้สูงอายุที่ชุมชนให้การเคารพนับถือมาเป็นผู้ทำพิธีผูกแขนเรียกขวัญให้กับผู้ร่วมพิธี เป็นช่วงโอกาสเยี่ยมเยือนญาติต่างหมู่บ้าน เพื่อนฝูงก็จะมาหาสู่กันในแต่ละบ้าน มาร่วมกินข้าวห่อที่ทำไว้ไหว้และต้อนรับแขก ถือเป็นประเพณีที่ช่วยสร้างความสามัคคี รักใคร่ปรองดอง
  • วันคริสต์มาส ชาวกะเหรี่ยงที่นับถือศาสนาคริสต์ จะมีการรวมตัวจัดงานวันคริสต์มาส ที่โบสถ์ในพื้นที่ จะทำพิธีกันในวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปีเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาตามความเชื่อและร่วมเฉลิมฉลองในช่วงวันขึ้นปีใหม่

วิถีชีวิตทางเศรษฐกิจ

ประชากรบ้านห้วยแห้ง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกแตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือ พริก เลี้ยงสัตว์หมู เป็ด ไก่ และอาชีพรับจ้างทั่วไป และหาหน่อไม้ ไปขายโดยจะมีหน่อไม้มากประมาณปลายเดือนกันยายน เมื่อหาได้แล้วจะนำหน่อไม้ไปต้ม และอัดใส่ปี๊บ ส่งให้พ่อค้าคนกลางไปจำหน่ายต่อไป ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้ที่ดีของคนในชุมชน

ภัยทางธรรมชาติ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นชุมชนบ้านห้วยแห้งในแต่ละปี ได้แก่

  • ไฟป่า เกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อน เดือนมกราคม-เมษายน ของทุกปี จากความแห้งแล้งของใบไม้ ต้นไม้ และบางส่วนเกิดจากฝีมือมนุษย์ ชุมชนมีกลุ่มจิตอาสาช่วยกันเฝ้าระวัง ดับไฟป่า มีการทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลาม
  • ภัยแล้ง เกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อน เดือนมกราคม-เมษายน ของทุกปี แม้ว่าชุมชนจะมีลำภาชีไหลผ่าน แต่ในช่วงหน้าแล้งชาวบ้านก็ขาดน้ำกินน้ำใช้ บางครั้งแต่ละครัวเรือนต้องซื้อน้ำจากภายนอกชุมชนมาใช้สำหรับกิจวัตรประจำวัน

1.นายพรหมา งามเถื่อน เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2472 สัญชาติไทย อยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เป็นผู้สูงอายุที่ชาวชุมชนเคารพนับถือ เคยเป็นมัคทายกวัดห้วยม่วง เป็นอดีตคนงานในเหมืองแร่ เป็นผู้รู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของหมู่บ้าน ปัจจุบันยังมีความจำที่ดีสามารถเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีตให้คนที่สนใจฟังได้ และมีความสมารถในด้านงานจักสาน แม้อายุจะมากแต่ก็ยังทำไม้กวาดทางมะพร้าวไว้จำหน่ายเป็นรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ

2.นายทิลี่ มัวยม เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2517 สัญชาติไทย อยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เป็นคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง มีความรู้ภูมิปัญญาเรื่องการตีผึ้ง เรียนรู้มาจากคนในครอบครัว การตีผึ้งจะตีช่วงข้างแรม ต้องหาต้นที่จะตีก่อน แล้วเตรียมของ จะมีคนไปช่วยในการตีครั้งละ 4-5 คน มีการเตรียมลูกทอย ค้อน ไม้ ถัง เชือก เทียน ไฟ โดยเริ่มแรกจะต้องจุดเทียนเพื่อขอขมาเจ้าที่เจ้าทางก่อน แล้วจะตอกทอยขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อทำการตีผึ้ง

 
  • ทุนวัฒนธรรม การตีผึ้งเป็นภูมิปัญญาที่ชาวกะเหรี่ยงสั่งสมสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น พื้นที่ไหนมีการตีผึ้งอยู่ก็จะบ่งบอกได้ว่ามีผืนป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์และมีความเชื่อประเพณีพิธีกรรมของชาวกะเกรี่ยงที่ยังสืบทอดกันมาจนปัจจุบัน เช่น ประเพณีผู้แขนเรียกขวัญ ในเดือน 9 
  • ทุนทางธรรมชาติ มีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีพรรณไม้ป่าที่หลากหลาย มีศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นแหล่งให้ได้ศึกษาเรียนรู้พรรณไม้ แหล่งศึกษาธรรมชาติที่สำคัญ ซึ่งการที่มีป่าไม้ ลำธาร อุดมสมบูรณ์ทำให้ในพื้นที่มีรีสอร์ท ที่พัก ลานกางเต้นท์อยู่จำนวนมากประมาณ 20 ราย ซึ่งทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ 
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

  • พ.ศ. 2508 มีโรงเรียนห้วยม่วง เปิดทำการในเหมืองแร่
  • พ.ศ. 2509 มีการทำเหมืองแร่ในรูปบริษัท ชื่อบริษัทราชบุรีพัฒนาการ จำกัด
  • พ.ศ. 2519 กิจการเหมืองแร่เลิกโดยสิ้นเชิง เจ้าของเหมืองแร่ จึงได้ยกโรงเรียนให้กับทางราชการ
  • พ.ศ. 2525 แยกชุมชนห้วยม่วง ออกมาเป็นหมู่ที่ 8 ของตำบลสวนผึ้ง 
  • พ.ศ. 2540 ได้แยกตำบลตะนาวศรีออกจากสวนผึ้ง บ้านห้วยม่วงจึงเป็นหมู่ที่ 3 ของตำบลตะนาวศรี 
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

วีระพงศ์ มีสถาน. (2550). ตนราชบุรี. จังหวัดราชบุรี : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดราชบุรี.

องค์การบริหารส่วนตำบลตะนาวศรี. (2566). แผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ. 2566-2570) องค์การบริหารส่วนตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี (แผนการดำเนินงาน). ราชบุรี : องค์การบริหารส่วนตำบลตะนาวศรี

เที่ยวราชบุรี.com. (ม.ป.ป.). แก่งส้มแมว. https://เที่ยวราชบุรี.com

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (ม.ป.ป.). ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์. https://thailandtourismdirectory.go.th/

นายบุญทิ้ง ลาเทศ, การสื่อสารส่วนบุคคล, 29 มิ.ย. 2566

นายทิลี่ มัวยม, การสื่อสารส่วนบุคคล, 29 มิ.ย. 2566

นายผจญ อินต๊ะมูล, การสื่อสารส่วนบุคคล, 29 มิ.ย. 2566

นายพรหมา งามเถื่อน, การสื่อสารส่วนบุคคล, 29 มิ.ย. 2566

นายอรุณ กุหลา, การสื่อสารส่วนบุคคล, 29 มิ.ย. 2566

อบต.ตะนาวศรี โทร. 0-3239-5426