Advance search

พลาญข่อย

ประชากรในชุมชนมาจากหลายพื้นที่ไม่ได้มีลักษณะเป็นชาติพันธุ์เดียวกันและไม่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ เหมือนกับชุมชนอื่น ๆ ชาวบ้านจึงมีทั้งคนไทย คนไทยเชื้อสายจีน และคนไทยเชื้อสายลาว การตั้งบ้านเรือนจึงตั้งตามกลุ่มที่อพยพเข้ามาโดยมีการตั้งชื่อเป็นคุ้มต่าง ๆ อยู่ด้วยกันอย่างสันติ

บ้านแหลมทอง
โนนก่อ
สิรินธร
อุบลราชธานี
อบต.โนนก่อ โทร. 0-4595-9720
มะลิวัลย์ คำมานิตย์
22 พ.ค. 2024
ปวินนา เพ็ชรล้วน
30 พ.ค. 2024
ปวินนา เพ็ชรล้วน
24 พ.ค. 2024
บ้านแหลมทอง
พลาญข่อย

ชุมชนเริ่มใหญ่ขึ้นและไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มชาวบ้านที่เรียกตนว่าทัพขอนแก่น ดังนั้นชุมชนนี้จึงเรียกตนรวมกันว่า "พลาญข่อย" ซึ่งคําว่า "พลาญข่อย" มีที่มาจากลักษณะสภาพของพื้นที่ชุมชนที่มีลักษณะบางส่วนเป็นลานกว้างและเป็นเหวลึก คําว่า "พลาญ" มีความหมายเช่นเดียวกับคํา ว่า "ลาน" ส่วน "ข่อย" มาจากการเตือนให้ลูกหลานเดินค่อย ๆ เบา ๆ ให้เดินบนลานอย่างระมัดระวังเพราะอาจจะลื่นตกเหวลงไป


ประชากรในชุมชนมาจากหลายพื้นที่ไม่ได้มีลักษณะเป็นชาติพันธุ์เดียวกันและไม่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ เหมือนกับชุมชนอื่น ๆ ชาวบ้านจึงมีทั้งคนไทย คนไทยเชื้อสายจีน และคนไทยเชื้อสายลาว การตั้งบ้านเรือนจึงตั้งตามกลุ่มที่อพยพเข้ามาโดยมีการตั้งชื่อเป็นคุ้มต่าง ๆ อยู่ด้วยกันอย่างสันติ

บ้านแหลมทอง
โนนก่อ
สิรินธร
อุบลราชธานี
34350
15.010278707085153
105.41401216142552
องค์การบริหารส่วนตำบลโนนก่อ

ก่อนปี พ.ศ. 2515 ชุมชนบ้านแหลมทองเป็นที่รกร้างและเป็นป่าเสื่อมโทรมเนื้อที่ส่วนใหญ่เป็นป่าหญ้าคามีไม้ยืนต้น ไม้เลื้อย รวมถึงพืชตระกูลหนา มีสัตว์อาศัยอยู่ เช่น ช้าง เก้ง กวาง หมูป่า ไก่ป่า เป็นต้น ชาวบ้านที่มาในช่วงแรกหรือช่วงบุกเบิกนั้นจะเข้ามาหาปลาจากแหล่งน้ำ ในปี พ.ศ. 2519 ได้มีการเข้ามาจับจองพื้นที่และเข้ามาตั้งถิ่นฐานอย่างถาวร พวกที่มาพวกแรกชาวบ้านเรียกว่าพวก "ทัพขอนแก่น" คือกลุ่มคนที่มีพื้นเพอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นและอพยพย้ายเข้ามาจับจองพื้นที่เป็นกลุ่มแรกและเรียกชุมชนนี้ในช่วงนั้นว่า "ทัพขอนแก่น" กลุ่มสองคือกลุ่มคนจากจังหวัดชัยภูมิ กลุ่มสามมาจากจังหวัดบุรีรัมย์ และกลุ่มอื่น ๆ จากจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม ยโสธร รวมถึงจังหวัดอุบลราชธานี

หลังจากนั้นได้มีการย้ายเข้ามาจับจองพื้นที่มากขึ้นตามลําดับโดยใช้การบอกกันจากปากต่อปาก บางรายก็มาทําการขอซื้อต่อจากผู้ที่มาจับจองพื้นที่อยู่ก่อนแล้ว ในระยะแรกนี้คนที่อพยพเข้ามาจะนั่งเรือข้ามฟากมาโดยอาศัยเรือหางยาวและเรือรับจ้าง เนื่องจากชุมชนยังไม่มีถนนจากการที่เป็นชุมชนที่ใหญ่ขึ้นและไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มชาวบ้านที่เรียกตนว่า ทัพขอนแก่น ดังนั้นชุมชนนี้จึงเรียกตนรวมกันว่า "พลาญข่อย" อย่างไรก็ตามในช่วงนั้นพื้นที่พลาญข่อยนี้เป็นเขตคอมมิวนิสต์ หน่วยงานของทางราชการจึงต้องเข้ามาดูแล โดยตํารวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เป็นหน่วยงานแรกที่เข้ามาบุกเบิกรวมถึงหน่วยงานอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) และกลุ่มไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) ที่เข้ามาทําการสํารวจดูแลและช่วยเหลือ ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้ชุมชนถูกกลืนไปกับลัทธิคอมมิวนิสต์ เนื่องจากสภาพพื้นที่ยังถูกปกคลุมไปด้วยป่าเป็นส่วนใหญ่และเมื่อได้ตั้งหมู่บ้านขึ้นมาอย่างเป็นทางการจึงได้ตั้งชื่อขึ้นมาใหม่อีกครั้งว่า "ชุมชนบ้านแหลมทอง" ในระยะนั้นบ้านแหลมทองจัดเป็นหมู่บ้านที่ 15 ตําบลโนนกลาง และขึ้นตรงต่ออําเภอพิบูลมังสาหาร เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่ได้มีอําเภอสิรินธรและได้ทําการย้ายมาอยู่กับอําเภอสิรินธรเมื่อปี พ.ศ. 2535

ชุมชนบ้านแหลมทองในอดีตพื้นที่บริเวณโนนก่ออยู่ภายใต้การกํากับดูแลของอําเภอพิบูลมังสาหาร แต่เมื่อปี พ.ศ. 2529 สภาพหมู่บ้านต่าง ๆ ได้ถูกน้ำท่วมจากเขื่อนสิรินธร ประกอบกับอําเภอสิรินธรได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาเป็นอําเภอใหม่พื้นที่บริเวณโนนก่อจึงได้ถูกโอนย้ายมาอยู่กับอําเภอสิรินธรแทน และยกฐานะขึ้นเป็นตําบล เมื่อ พ.ศ. 2529 โดยมีนายพร ทองแสง เป็นกํานันคนแรก สภาพทั่วไปของตําบลเป็นพื้นที่ราบสูงมีภูเขาปิดกั้นตามแนวชายแดนสาธารณะประชาธิปไตยประชาชนลาว

อาณาเขตตําบล

  • ทิศเหนือ ติดต่อ ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี
  • ทิศใต้ ติดต่อ ต.คอแลน อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี
  • ทิศตะวันออก ติดต่อ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
  • ทิศตะวันตก ติดต่อ ต.โนนกลาง อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

ปัจจุบันทั้งชุมชนแหลมทองมีจํานวนประชากรทั้งสิ้น 652 คนเป็นชาย 322 คน เป็นหญิง 330 คน 

อาชีพที่สําคัญภายในชุมชนบ้านแหลมทอง ได้แก่ การทําไร่ปอ ไร่มันสําปะหลัง ไร่ผลไม้ ไร่นา สวนผสม การหาปลาในเขื่อน รับจ้างทั่วไป การทํางานกับกลุ่มแปรรูปดินลูกรัง กลุ่มแปรรูปผลไม้พื้นเมือง กลุ่มพลังงานธรรมชาติ

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ภาษาอีสาน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

วิษณุ พลอยศรี. (2522). การบริหารจัดการชุมชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน : ศึกษากรณีศูนย์การเรียนชุมชนพลาญข่อย ต.โนนก่อ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อบต.โนนก่อ โทร. 0-4595-9720