
แหล่งผลิตงานหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือรายใหญ่อันเลื่องชื่อแห่งหนึ่งของไทย ซึ่งอยู่คู่กับวิถีชีวิตมาแต่ดั้งเดิม และเป็นชุมชนที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานกว่า 200 ปี
เดิมทีหมู่บ้านดอนหลวงมีชื่อว่า "หมู่บ้านกอถ่อน" ซึ่งเป็นชุมชนของชาวยองที่อพยพมาจากเมืองเชียงรุ่ง ต่อมาชาวบ้านเรียกชื่อหมู่บ้านใหม่ว่า "บ้านดอนหลวง" เนื่องจากที่ตั้งหมู่บ้านมีลักษณะเป็นที่ดอน และชาวยองเข้ามาตั้งรกรากในพื้นที่เป็นชุมชนใหญ่ ซึ่งคำว่า "หลวง" แปลว่า "ใหญ่" ในภาษาเหนือ
แหล่งผลิตงานหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือรายใหญ่อันเลื่องชื่อแห่งหนึ่งของไทย ซึ่งอยู่คู่กับวิถีชีวิตมาแต่ดั้งเดิม และเป็นชุมชนที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานกว่า 200 ปี
บ้านดอนหลวงเป็นหมู่บ้านชาวยองที่อพยพมาจากเมืองเชียงรุ้งของแคว้นสิบสองปันนาในจีนตอนใต้ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ค้าวัวต่างมาก่อน ต่อมาในสมัยพระเจ้ากาวิละได้กวาดต้อนผู้คนจากเมืองยอง ประเทศพม่า เข้ามาตั้งบ้านเรือนในเขตเมืองลำพูนเป็นชุมชนใหญ่ วิถีชีวิตของคนยองในสมัยก่อนจะทำไร่ทำนาและเลี้ยงวัวควาย เมื่อเว้นว่างจากงานดังกล่าว ผู้หญิงชาวยองจะทอผ้าเพื่อใช้ในครัวเรือน ในภาษายองเรียกการทอผ้าว่า "ตำหูก" แต่ละบ้านจะทอผ้าจากฝ้ายที่ปลูกเอง แล้วนำมาผ่านกระบวนการปั่นฝ้ายให้เป็นเส้นด้าย จากนั้นย้อมสีเส้นด้ายด้วยวัสดุจากธรรมชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นสีพื้น จากนั้นจึงนำมาขึ้นกี่ที่มีอยู่ใต้ถุนบ้านแทบทุกหลังคาเรือนเพื่อทอเป็นผืนผ้า จากนั้นนำผ้าทอมาตัดเย็บเพื่อทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม ในสมัยก่อนเด็กผู้หญิงในหมู่บ้านจะทอผ้าด้วยกันเป็นเกือบทุกคน การทอผ้ามือที่บ้านดอนหลวงจึงเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านที่สืบทอดมายาวนานนับร้อยปี
ช่วงเฟื่องฟูของการทอผ้า การทอผ้าฝ้ายมีความเฟื่องฟูมาตั้งแต่ช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากเจ้าดารารัศมี พระราชชายา ได้นำความรู้เรื่องการทอผ้ามาเผยแพร่ให้กับเจ้าในเมืองลำพูน ซึ่งเป็นเครือญาติกับเจ้าหญิงส่วนบุญ ชายาเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าผู้ปกครองลำพูนองค์สุดท้าย และเมื่อเจ้าหญิงส่วนบุญเห็นว่าชาวเวียงยองทอผ้าเป็น จึงให้ไปทอผ้าในคุ้ม ภายหลังคนที่ทอเป็นก็ออกมาสอนคนข้างนอก ทำให้ความรู้เรื่องการทอผ้าแพร่หลายและเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปมากขึ้นตามลำดับ
การทอผ้า อาชีพที่สร้างรายได้ ต่อมาเมื่อมีถนนตัดผ่านถึงตัวอำเภอป่าซางไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ การทอผ้ามือของช่างทอผ้าบ้านดอนหลวงจึงกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ แทนการทำไร่ทำนาอย่างในอดีต นอกจากนี้ยังมีโรงงานทอผ้าก่อตั้งในตัวเมืองอำเภอป่าซาง ทำให้ช่างทอผ้าจากบ้านดอนหลวงหลายคนไปทำงานที่โรงงานทอผ้า และได้คิดค้นลวดลายใหม่ ๆ ที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น
ความร่วมมือของชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ภูมิปัญญา พ.ศ. 2535 เกิดกลุ่มทอผ้าบ้านดอนหลวงเพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาการทอผ้าของชุมชน ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชนและการสนับสนุนจากภาครัฐ ในช่วงแรกมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 15 คน โดยสมาชิกในกลุ่มทำหน้าที่ส่งเสริม พัฒนา และกระจายสินค้าให้แก่สมาชิก ซึ่งมีศูนย์จำหน่ายสินค้าจากผ้าฝ้ายทอมือตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน
พ.ศ. 2532 เกิดศูนย์รวมผลิตภัณฑ์เครือข่ายกลุ่มทอผ้าหัตถกรรมพื้นบ้าน โดยได้รับงบประมาณจากกองทุนเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ (ก.น.ช.) งบประมาณส่วนหนึ่งมาสร้างศาลาประชาธิปไตยในพื้นที่ของวัดดอนหลวง และได้จัดพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นศูนย์หัตถกรรม ต่อมาอาคารดังกล่าวทรุดโทรมลง
พ.ศ. 2541 ชุมชนสร้างอาคารศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ผ้าทอขึ้นใหม่ในที่เดิม โดยได้รับงบประมาณจากโครงการมิยาซาวา ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมสินค้าหัตถกรรมของกลุ่มเครือข่ายและฝึกอบรมสมาชิกเกี่ยวกับการทอผ้า การย้อมสีผ้า รวมทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์
ต่อมา พ.ศ. 2542 ชุมชนบ้านดอนหลวงได้รับรางวัลหมู่บ้านอุตสาหกรรมดีเด่น จึงเปิดรับสมาชิกเพิ่มเพื่อขยายความร่วมมืออนุรักษ์และพัฒนาการทอผ้าฝ้าย
พ.ศ. 2549 บ้านดอนหลวงยังได้เป็นหมู่บ้าน OTOP แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (หมู่บ้าน OVC)
ปัจจุบัน การทอผ้าฝ้ายของชุมชนบ้านดอนหลวงได้รับการพัฒนารูปแบบ สีสัน และลวดลายให้ร่วมสมัย และผลิตเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ เช่น เสื้อผ้า ผ้าคลุมไหล่ ปลอกหมอน ผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะ ผ้าปูเตียง และผลิตเป็นของที่ระลึกให้กับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้นชุมชนบ้านดอนหลวงจึงเป็นแหล่งผลิตสินค้าจากผ้าฝ้ายทอเมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในไทย นอกจากนี้ ชุมชนบ้านดอนหลวงมีการจัดงาน "แต่งสีอวดลาย ผ้าฝ้ายดอนหลวง" ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าประจำปีของหมู่บ้าน (จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2546)
ชุมชนบ้านดอนหลวงเป็นชุมชนขนาดเล็ก ในหมู่บ้านมีตรอกซอกซอยต่าง ๆ ของชุมชนแห่งนี้ โดยคนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกันและรู้จักกันเกือบหมด บริเวณกลางหมู่บ้านมีศูนย์รวมผลิตภัณฑ์เครือข่ายกลุ่มทอผ้าหัตถกรรมพื้นบ้าน ซึ่งเป็นสถานที่เรียนรู้งานหัตถกรรมผ้าแบบโบราณที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาเยี่ยมเยือนและศึกษาดูงาน นอกจากนี้ในหมูบ้านมีวัดประจำหมู่บ้านคือ วัดดอนหลวง
อาณาเขตติดต่อ
- ทิศเหนือ ติดกับ บ้านต้นผึ้ง
- ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านสะปุ๋ง
- ทิศใต้ ติดกับ บ้านดอนน้อย
- ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านหนองเงือก
ประชากรในชุมชนบ้านดอนหลวงส่วนใหญ่เป็นชาวยองและคนเมือง ประกอบด้วย 221 ครัวเรือน และประชากรทั้งสิ้น 717 คน
ยองบ้านดอนหลวงเป็นแหล่งผลิตงานหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือรายใหญ่ และเป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ภูมิปัญญา
งานหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือ สร้างรายได้ให้กับชุมชน สะท้อนวัฒนธรรมและประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์มาช้านาน เป็นแหล่งหัตถกรรม เป็นแหล่งกำเนิดผ้าฝ้ายทอมืออันเลื่องชื่อของจังหวัดลำพูน
วิถีชีวิตทางวัฒนธรรม
การจัดกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหาบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา วันธรรมสวนะ วันยี่เป็ง วันสงกรานต์ รดน้ำดำหัว
วิถีชีวิตทางเศรษฐกิจ
บ้านดอนหลวงเป็นแหล่งผลิตงานหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือรายใหญ่และเป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ภูมิปัญญา
งานหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือ สร้างรายได้ให้กับชุมชน สะท้อนวัฒนธรรมและประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์มาช้านาน เป็นแหล่งหัตถกรรม เป็นแหล่งกำเนิดผ้าฝ้ายทอมืออันเลื่องชื่อของจังหวัดลำพูนมาแต่โบราณกาล
ผ้าซิ่นที่บ้านดอนหลวงมีความสวยงาม สัมผัสที่นุ่มมือ ตลาดบ้านดอนหลวงเป็นหมู่บ้าน OTOP ผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายทอมือที่ส่งออกผลิตภัณฑ์สินค้าให้กับร้านค้าใหญ่ ๆ ในจังหวัดลำพูน และจังหวัดเชียงใหม่
สินค้างานหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือ "บ้านดอนหลวง" ชุมชนชาวบ้านทอผ้าฝ้ายพื้นเมือง และมีชื่อเสียงมากที่สุดของอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน จนกลายเป็นของฝากขึ้นชื่อชั้นดี “ผ้าฝ้ายดอยหลวง” ถือได้ว่าเป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อของภาคเหนือ
บ้านดอนหลวงยังยึดวิถีดังกล่าวไว้เพราะชาวบ้านมีรายได้ นอกจากมีอาชีพทำนา ทำงานจักสาน ยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวทั้งการนำเที่ยว การเปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาพัก บ้านดอนหลวงมีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ไว้บริการนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่แสดงถึงวิถีคนยองให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัส และเรียนรู้ เช่น เมนูอาหารคนยอง การฟ้อนรำสไตล์ยอง บ้านดอนหลวงพยายามอนุรักษ์เรื่องราวที่สะท้อนและแสดงความเป็นตัวตนคนยองเอาไว้ให้มากที่สุด ชวนเที่ยว กาดยองกองคราฟท์ ภายในงานพบกับ อาหารสร้างสรรค์, ดนตรี, งาน DIY, Workshop และงานคราฟท์น่ารัก ๆ ที่จะทำให้เป๋าตังค์สั่นสะเทือนแน่นอน นักท่องเที่ยว สามารถเดินเที่ยวได้ทั้งสองโซน
1.นายไชยวัฒน์ บุญสม (ชื่อเล่น สุม)
เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2496
ภูมิลำเนา หมู่ 7 บ้านดอนหลวง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
บทบาทสำคัญ
- ส่งเสริม อนุรักษ์ และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับก๋องปู๋จา มีการจัดการแข่งขันตีก๋องปู๋จาทั้งในจังหวัดลำพูน และจังหวัดใกล้เคียงเพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมต่อไป
- เป็นแหล่งเรียนรู้และสืบทอด อนุรักษ์เผยแพร่แก่นักเรียน นักศึกษา เยาวชน แม่บ้าน พ่อบ้าน ได้แก่
ผลงานดีเด่น
- ชนะเลิศการประกวดตีกลองปู๋จา งานสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ รอยพระพุทธบาทและรอยตากผ้า วัดพระพุทธบาทตากผ้า อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน 3 ปีซ้อน พ.ศ. 2559 2560 2561
- ชนะเลิศการประกวดตีกองปู๋จา งานวันเกิดครูบาศรีวิชัย ณ บริเวณลานประรูปครูบาศรีวิชัยดอยติ จังหวัดลำพูน
ทุนวัฒนธรรม
มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมยองไว้หลากหลายแขนง ทั้งศิลปะการแสดง อย่าง การฟ้อนยอง การฟ้อนเล็บ ศิลปะหัตถกรรม คือ การทอผ้าฝ้ายของยองที่ยังมีการทำกันแบบดั้งเดิม ซึ่งภูมิปัญญาการทอผ้าฝ้าย ลวดลายของผ้าได้แรงบันดาลใจต่อสิ่งต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กับวิถีชีวิต คติความเชื่อ และพุทธศาสนา ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน ได้แก่ ลายกล้วยไม้ ลายพิกุล ลายกนก และลายดอกบานไม่รู้โรย ซึ่งเป็นมรดกตกทอดทางภูมิปัญญาที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
คนในชุมชนส่วนใหญ่สื่อสารกันด้วยภาษายองและภาษาคำเมือง
บ้านดอนหลวง เป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้ายทั้งทอมือ ทอเครื่อง มีลวดลายใหม่ ทันสมัยเข้ากับปัจจุบันเป็นที่นิยมและจำหน่ายในราคาต้นทุนการผลิตที่ย่อมเยา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของ ททท. โดยเฉพาะงาน “แต่งสีอวดลาย ผ้าฝ้ายดอนหลวง” ที่จัดขึ้นทุกปี ในศุกร์แรกของเดือนเมษายน สร้างรายได้ให้กับชุมชน และผู้จำหน่ายที่มาจำหน่ายในงาน
- ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบภาษายองร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- มีการดัดแปลง พัฒนาท่วงท่าของการฟ้อนแบบต่าง ๆ ของชาวยอง
จังหวัดลำพูน. (2562). หมู่บ้านหัตถกรรมบ้านดอนหลวง. https://www.lamphun.go.th/
ประภัสสร แสนไชย. (2554). กระบวนการถ่ายทอดความรู้หัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือของชุมชนบ้านดอนหลวง จังหวัดลำพูน. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. (2564). วิถีชาวยองบ้านดอนหลวง จ.ลำพูน ชุมชนที่รักษาอัตลักษณ์พื้นถิ่นให้คงอยู่. https://www.dasta.or.th/
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. (2566). รายงานโครงการสำรวจและจัดการข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ยอง. ปีงบประมาณ 2566. กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).