คำว่าคำชะอี มีที่มาพอเชื่อถือได้ 2 กรณีคือ
- กล่าวกันว่าทางทิศเหนือของหมู่บ้านคำชะอี ซึ่งเป็นบริเวณป่าช้าของหมู่บ้านหรือบริเวณที่เรียกว่า ดานตึง (ดานภาษาท้องถิ่นหมายถึง ลานหิน ตึงหมายถึง เสียงก้อง แปลรวมกันน่าจะหมายถึง ลานหินก้อง เมื่อเดินผ่านแล้วจะมีเสียงก้อง เพราะบริเวณใต้ลานหินลงไปเป็นถ้ำ) นั้นเดิมเป็นป่าทึบและมีหนองน้ำอยู่ด้วย หนองน้ำนี้เกิดจากน้ำคำ ซึ่งหมายถึง น้ำซับไหลรินอยู่ตลอดทั้งปีจนเกิดเป็นหนองน้ำไหลลงสู่ที่ลุ่มทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านและในป่าทึบดังกล่าว มีแมลงชนิดหนึ่งคล้ายจักจั่นแต่ตัวเล็กมีชื่อว่า แมงอี อยู่มากมาย แมลงเหล่านี้ก็จะตายรวมกันบริเวณหนองน้ำเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณดังกล่าวว่า คำแมงอี(มาจากน้ำคำ+แมงอี) และเรียกหมู่บ้านนี้ว่า บ้านคำแมงอี ต่อมาจึงกลายเป็น คำชะอีจนถึงปัจจุบัน
- กล่าวกันว่า หมู่บ้านคำชะอี มีต้นไม้ชนิดหนึ่งเรียกว่า “ต้นคำชะอี” เป็นต้นไม้ที่มีดอกสีเหลือง มีกลิ่นหอม เปลือกและแก่นลำต้นก็มีกลิ่นหอมเหมือนดอกเช่นเดียวกัน ชาวบ้านจึงนิยมนำไปใช้อบเสื้อผ้าให้มีกลิ้นหอม ต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นไม้ที่หายากและปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว
ชุมชนท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดมุกดาหาร ชุมชนเป็นกลุ่มชาติพันธ์ผู้ไทดำ เดิมมีพื้นที่เดิมอยู่ เมืองแถน หรือ เมืองแถง เมืองนี้ในปัจจุบันคือ เมืองเดียนเบียนฟู ประเทศเวียดนาม
ชาวผู้ไทคำชะอี เป็นเทือกเขาเหล่ากอเดียวกันกับผู้ไทเมืองหนองสูงซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลกัน ฉะนั้นประวัติเมืองหนองสูงและประวัติชาวผู้ไทคำชะอีจึงเป็นประวัติชาวผู้ไทกลุ่มเดียวกันซึ่งมีความเปนมาดังนี้ หนองสูง เป็นชื่อเดิมของอำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ส่วนตำบลหนองสูงนั้นขึ้นกับอำเภอคำชะอี หนองสูงเคยเป็นที่ว่าการอำเภอหนองสูงใน พ.ศ.2447 ต่อมาย้ายอำเภอไปตั้งที่นาแกแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอนาแก เมื่อพ.ศ.2450 บรรดาศักดิ์ของเจ้าเมืองหนองสูง มีบรรดาศักดิ์เป็นคุณพระ ชื่อพระไกรสรราช ชาวผู้ไทเมืองหนองสูง คำชะอี และชาวเรณูนั้น กองทัพหลวงกรุงเทพฯ ได้กวาดต้อนมาจากเมืองแสนภายหลังการปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทร์ เมื่อพ.ศ.2387 รัชกาลที่3 โปรดเกล้าให้ตั้งเมืองหนองสูงขึ้นให้ท้าวสิงห์เป็น พระไกรสรราช เจ้าเมืองคนแรกขึ้นกับเมืองมุกดาหารจน พ.ศ.2409 จึงโปรดยกบ้านบางทรายขึ้นเป็นเมือง พาลุกากรภูมิ ให้ท้าวทัดบุตรท้าวทังราชวงศ์เป็น พระอมรฤทธิธาดา เป็นเจ้าเมือง ทำให้เมืองมุกดาหารมีเมืองขึ้นสองเมืองคือ
1. เมืองหนองสูง พระไกรสรราช(สิงห์) เป็นเจ้าเมือง
2. เมืองพาลุกากรภูมิ พระอมฤทธิธาดา(ทัด) เป็นเจ้าเมือง
บ้านคำชะอี ตำบลคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร เป็นตำบลหนึ่งที่มีชาวผู้ไทอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นถึง 8 หมู่บ้าน คือ บ้านคำชะอี บ้านกกไฮ บ้านนาปุง บ้านแก้งช้างเนียม บ้านหนองกะปาด บ้านห้วยทราย บ้านโนนสว่าง และบ้านศรีมงคล โดยบ้านคำชะอี เป็นที่ตั้งของตำบลคำชะอี มีอาณาเขตติดต่อดังนี้
- ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลบ้านเหล่า อำเภอคำชะอี
- ทิศใต้ ติดกับ อำเภอหนองสูง
- ทิศตะวันออก ติดกับ ตำบลน้ำเที่ยง และตำบลคำบก อำเภอคำชะอี
- ทิศตะวันตก ติดกับ เขตอำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร และเขตอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์
สถานที่ตั้งของตำบลคำชะอีในปัจจุบันเป็นที่ตั้งของอำเภอคำชะอีมาก่อน เหตุที่ต้องย้ายอำเภอคำชะอีออกมาตั้งที่ตำบลน้ำเที่ยงแทนนั้น เพราะเหตุว่า พ.ศ.2484 อำเภอคำชะอีมีฐานะเป็นกิ่งอำเภอ อยุ่ในการปกครองของอำเภอมุกดาหาร จังหวัดนครพนม สถานที่ตั้งกิ่งมีสภาพเป็นป่า มีภูเขาล้อมรอบถึง 3 ด้าน การคมนาคมไม่สะดวก และเป็นไปด้วยความยากลำบาก มีไข้ป่าชุกชุม สภาพอากาศบริเวณนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กลางวันอากาศร้อนจัด กลางคืนอากาศเย็นจัด ทำให้ข้าราชการและประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณนั้นมักจะเจ็บป่วยกันเป็นประจำและถึงแก่ความตายอยู่เสมอ ต่อมา พ.ศ.2492 ทางราชการจึงได้ย้ายกิ่งอำเภอคำชะอีไปอยู่ที่อำเภอคำชะอีปัจจุบัน มีระยะห่างจากตำบลคำชะอีประมาณ 10 กิโลเมตร คำว่าคำชะอี มีที่มาพอเชื่อถือได้ 2 กรณีคือ
1. กล่าวกันว่าทางทิศเหนือของหมู่บ้านคำชะอี ซึ่งเป็นบริเวณป่าช้าของหมู่บ้านหรือบริเวณที่เรียกว่า ดานตึง (ดานภาษาท้องถิ่นหมายถึง ลานหิน ตึงหมายถึง เสียงก้อง แปลรวมกันน่าจะหมายถึง ลานหินก้อง เมื่อเดินผ่านแล้วจะมีเสียงก้อง เพราะบริเวณใต้ลานหินลงไปเป็นถ้ำ) นั้นเดิมเป็นป่าทึบและมีหนองน้ำอยู่ด้วย หนองน้ำนี้เกิดจากน้ำคำ ซึ่งหมายถึง น้ำซับไหลรินอยู่ตลอดทั้งปีจนเกิดเป็นหนองน้ำไหลลงสู่ที่ลุ่มทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านและในป่าทึบดังกล่าว มีแมลงชนิดหนึ่งคล้ายจักจั่นแต่ตัวเล็กมีชื่อว่า แมงอี อยู่มากมาย แมลงเหล่านี้ก็จะตายรวมกันบริเวณหนองน้ำเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณดังกล่าวว่า คำแมงอี(มาจากน้ำคำ+แมงอี) และเรียกหมู่บ้านนี้ว่า บ้านคำแมงอี ต่อมาจึงกลายเป็น คำชะอีจนถึงปัจจุบัน
2. กล่าวกันว่า หมู่บ้านคำชะอี มีต้นไม้ชนิดหนึ่งเรียกว่า “ต้นคำชะอี” เป็นต้นไม้ที่มีดอกสีเหลือง มีกลิ่นหอม เปลือกและแก่นลำต้นก็มีกลิ่นหอมเหมือนดอกเช่นเดียวกัน ชาวบ้านจึงนิยมนำไปใช้อบเสื้อผ้าให้มีกลิ้นหอม ต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นไม้ที่หายากและปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว
- ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลบ้านเหล่า อำเภอคำชะอี
- ทิศใต้ ติดกับ อำเภอหนองสูง
- ทิศตะวันออก ติดกับ ตำบลน้ำเที่ยง และตำบลคำบก อำเภอคำชะอี
- ทิศตะวันตก ติดกับ เขตอำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร และเขตอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์
ปัจจุบันจำนวนประชากรบ้านหนองสูงมีทั้งหมด 5,714 คน มีครัวเรือนทั้งสิ้น 1,662 ครัวเรือน ชุมชนคำชะอีส่วนมากเป็นกลุ่มชาติพันธ์ผู้ไท
- กลุ่มเกษตรกรทำนา
- กลุ่มแม่บ้านในชุมชน
ชาวบ้านคำชะอีประกอบอาชีพทำนาเป็นหลักทุกครัวเรือน
ทุนชุมชนบ้านคำชะอีที่สำคัญ คือ ภาษาและวัฒนธรรมภูไท ที่มีการรักษาต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น มีสถานที่สำคัญ ดังนี้
- สิมวัดโพธิ์ศรีแก้ว บ้านคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหารจารึกที่โคนเสาของมุขหน้าปรากฎปีที่สร้างเมื่อ พ.ศ.2487 ข้อมูลขัดกับที่แจ้งไปยังกรมการศาสนาระบุว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. 2495 สิมหลังนี้เป็นงานฝีมือช่างญวน มีมุขหน้า ประดับคิ้วล้อซุ้มวงโค้ง และสิ่งที่สำคัญที่น่าสนใจคือรูปแบบเฉพาะร่วมของกลุ่มนี้มักจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาดและเรื่องของการประดับตกแต่งลวดลายปูนปั้น โดยการรับส่งผ่านรูปแบบเฉพาะภายในจังหวัดมุกดาหาร มีความชัดเจนมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ในแถบจังหวัดมุกดาหาร นครพนม สกลนคร มักปรากฏสิมในรูปแบบดังกล่าวนี้ให้เห็นอยู่มาก
- หินแก้วขัด มหัศจรรย์หินแก้วผัด วัดป่าสุภัททาราม (วัดถ้ำเกีย) บ้านคำชะอีเป็นความเชื่อของชาวบ้านที่มีปรากฎการณ์ ดวงไฟในคืนเพ็ญลอยมาจากท้องฟ้า แล้วมาหมุน (ผัด) ทำให้เกิดร่องรอยตามภาพ มีมาเกือบร้อยปีแล้ว
- หอไตรกลางน้ำ บ้านคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร หอไตรหรือหอพระไตรปิฎก เป็นสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์ พระธรรมวินัย และตำราต่างๆ ด้านพระพุทธศาสนา ปรากฏอยู่ 2 ลักษณะ คือ หอไตรบกที่ตั้งบนดินและหอไตรกลางน้ำสร้างอยู่กลางสระน้ำเพื่อป้องกันหนู ปลวก มด และแมลงต่างๆ ที่จะมาทำลายหนังสือสมุดไทยหรือใบลานผูก นอกจากนี้ภูมิปัญญาของคนโบราณที่เชื่อว่าไอชื้นจากสระน้ำที่อยู่ใต้อาคารจะช่วยให้เกิดความชุ่มเย็นสามารถรักษาเอกสารโบราณให้ยืนยาวกว่าปกติ
ภาษาที่ใช้ในชุมชนสำหรับคนในชุมชนสื่อสารกันจะใช้ภาษาผู้ไท
วิญญู ผลสัวัสดิ์. (2564). พิธีกรรมการเลี้ยงผีบรรพบุรุษของชาวผู้ไทยตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร.วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาไทยคดี.มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
สิมโบราณ,. (2562).สิมวัดโพธิ์ศรีแก้ว บ้านคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร. (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 13 เมษายน 2566.จาก https://www.facebook.com/photo/?fbid=792773741108647&set=pcb.792774577775230
หอไตรกลางน้ำ. (2563).หอไตรกลางน้ำ บ้านคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร. (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 27 เมษายน 2566,จาก https://www.facebook.com/photo/?fbid=794030430982978&set=pcb.794024727650215
โรงเรียนชุมชนบ้านคำชะอี. (2566).โรงเรียนชุมชนบ้านคำชะอี.(ออนไลน์).สืบค้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566,จาก https://www.facebook.com/chumchonbankhamchaischool/photos/a.119798323196825/644518094058176