Advance search

ดอยอ่างขาง

แหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรม ผลไม้ตามฤดูกาล ชา บัวหิมะ ผ้าทอ และชุดแต่งกายชาวดาราอาง

หมู่ที่ 14
นอแล
ม่อนปิ่น
ฝาง
เชียงใหม่
อบต.ม่อนปิ่น โทร. 0-5388-6366
สมพร อาจารย์
30 ต.ค. 2023
พุทธรักษ์ ลายเฮิง
31 ต.ค. 2023
ปริญญ์ รุจิรัชกุล
17 ก.ค. 2024
บ้านนอแล
ดอยอ่างขาง

คำว่า "นอ" แปลว่า พื้นที่บ้าน "แล" แปลว่า เที่ยวชม รวมกันเป็น "นอแล" บ้านแห่งการท่องเที่ยว


แหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรม ผลไม้ตามฤดูกาล ชา บัวหิมะ ผ้าทอ และชุดแต่งกายชาวดาราอาง

นอแล
หมู่ที่ 14
ม่อนปิ่น
ฝาง
เชียงใหม่
50110
19.940546669844167
99.0417024575544
องค์การบริหารส่วนตำบลม่อนปิ่น

ดาราอางเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ที่อาศัยอยู่ในเมียนมา ติดกับจีน และได้มีรัฐเป็นของตัวเองเมื่อนานมาแล้วแต่ล่มสลายเนื่องจากสงครามที่คุกคามถึงชานเมือง และแพ้จากสงครามระหว่าง ดาราอาง-เมียนมา-ว้า-ไทยใหญ่ ในครั้งเคยสู่รบกันเนือง ๆ

ชาวดาราอางได้หนีจากสงครามที่ร้อนแรง เข้ามาอาศัยในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2515 ได้อพยพมาทาง โปงปาแคม ชายแดนไทย-เมียนมา

ปี พ.ศ. 2515 เป็นครั้งแรกที่ดาราอางเข้ามาในประเทศไทย แต่ก็มีการกล่าวว่าก่อนที่จะอพยพเข้าม ในประเทศไทยก็มีชาวดาราอางเข้า - ออกเส้นทางธรรมชาติ ทางอรุโณทัย และ ทางดอยอ่างขาง

โดย นายนาโม หมั่นเฮิง ได้พาชาวดาราอางเข้ามาในประเทศไทยราว 20 ครอบครัว ได้อาศัยในพื้นที่ หมู่ 14 ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และอาศัยการปลูกฝิ่นในการทำการค้ากับพ่อค้าข้ามแดนระหว่างประเทศไทย-เมียนมาในการค้าขายผิดกฎหมาย และแลกข้าวปลาอาหาร กับชาวลาหู่ และไทยใหญ่ที่มาอาศัยอยู่ก่อน

เมื่อปี พ.ศ. 2516 ก็มีทหารที่เข้าประจำการขับไล่ชาวดาราอางให้กลับประเทศเมียนมา นายนาโม หมั่นเฮิง ก็กำลังจะพาชาวบ้านกลับเพราะกลัว ทหารจับ และทำร้าย ประชาชนดาราอาง แต่มีผู้นำไทใหญ่ ที่อยู่บ้านคุ้ม หมู่ที่ 5 ต.แม่งอล อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ บอกว่าไม่ต้องเดินทางกลับ เร็ว ๆ นี้พ่ออยู่หัว (รัชกาลที่ 9) จะเสด็จมาเยี่ยมชาวเขา

นายนาโม หมั่นเฮิง ก็ไม่ค่อยเข้าใจทั้งหมดแต่ก็หวังจะได้อาศัยในประเทศไทยต่อไป จึงตัดสินใจ อยู่ต่อไปเพื่อรอพ่ออยู่หัวเสด็จมา และในปี พ.ศ. 2527 นายนาโม หมั่นเฮิง จึงได้เข้าเฝ้า ในหลวง ร.9 เพื่อขออาศัยอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร และได้กราบทูลขออาศัยอยู่ในพื้นแผ่นดินไทยตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา

ดาราอาง ขยายมาจาก "ดาอาง" เป็น "ดาราอาง" "ดา" แปลว่าบรรพบุรุษ "รา" แปลว่า กิ่งก้านสาขา การกระจายตัวออกจากพื้นที่ดั่งเดิม "อาง" แปลว่า ที่สูง ที่เหน็บหนาว และแปลได้อีกความหมายหนึ่ง คือ อาง ที่แปลว่า ไสยศาสตร์

โดยดาราอางในประเทศไทยเป็น รา ของคำว่า ดาอาง เพราะย้ายถิ่นที่อยู่ จากแผ่นดินใหญ่ มาอาศัยตามเขาต่าง ๆ ของประเทศไทย เมียนมา จีน และอื่น ๆ โดยสังเกตจากการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของ ดาราอาง ในการแยกกลุ่มชาติพันธุ์ และชนเผ่า การแต่งกาย จะออกคล้ายคลึงกันบ้างกับหลาย ๆ กลุ่มชาติพันธุ์

ชนเผ่าดาราอางในประเทศไทยได้จดทะเบียนข้อมูลราษฎรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา และบ้านขอบด้ง (นอแล) เป็นหมู่บ้านแรกที่เข้ามาอาศัยในพื้นแผ่นดินไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 เป็นต้นมา และได้กระจายตัวกันออกไปอาศัยและรับจ้างในเขตของเชียงใหม่ ในบริเวณ ฝาง แม่อาย ไชยปราการ เชียงดาว

ต่อมา ชุมชนดาราอางก็ได้ตั้งขึ้นอีกหลาย ๆ ชุมชนเนื่องจากประชากรที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา และพื้นที่ทำกินที่จำกัด ทำให้มีการกระจายตัวไปตั้งชุมชนใหม่

บ้านนอแล เป็นชุมชนที่ตั้งบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,928 เมตร ที่ดอยอ่างขาง หมู่ 14 ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ บ้านจะนิยมสร้างเป็นทรงเดียวกัน ตามโครงการอ่างขางโมเดล

สาธารณูปโภค ชุมชนบ้านนอแล เป็นชุมชนที่มีไฟฟ้าเข้าถึงและมีน้ำบาดาลในการอุปโภคบริโภคในการใช้ชีวิตประจำวัน และเข้าถึงอาหาร ยารักษาโรค และสัญญาณโทรศัพท์ รวมถึงการคมนาคมในการเข้าถึงในตัวเมือง

การถือครองที่ดิน

ในอดีต ที่ดินที่อยู่อาศัยจำเป็นที่จะต้องเช่าอยู่ โดยการเช่ารายปีเพื่อปลูกสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยและสะดวกต่อการไปทำงานเพราะใกล้ต่อสถานที่จ้างงานต่าง ๆ และสมัยนั้นก็ค่าเช่าไม่ค่อยแพงและด้วยญาติพี่น้องอยู่กันหลายคนจึงสะดวกต่อการไปเยี่ยมในช่วงเทศกาลและประเพณีต่าง ๆ ในปี พ.ศ. 2553 ได้เริ่มทยอยซื้อที่ดินกันเพื่อเก็บไว้ให้รุ่นหลังได้อยู่อาศัยแบบยั่งยืน จนถึงปัจจุบันกลายเป็นชุมชนที่กว้าง ประชากรที่หลากหลาย มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ สิทธิในการครอบครองที่ดินก็ยังขัดแย้งกับสถานะพลเมืองบางส่วน เนื่องด้วยต้องขอญาติในการเป็นผู้ครอบครองแทนเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ใช่คนไทย ไม่มีสัญชาติไทยจึงต้องให้ญาติเป็นผู้ใช้สิทธิครอบครองแทน

จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 263 ครัวเรือน จำนวนประชากรที่อาศัยอยู่จริงทั้งหมด 1,418 คน แบ่งเป็น เพศชาย 725 คน และเพศหญิง 693 คน

  • ผู้ใหญ่วัยทำงาน 650 คน
  • ผู้สูงอายุ 385 คน
  • เยาวชน 235 คน
  • เด็ก 147 คน

ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่เป็นดาราอาง มีครอบครัวชาวจีน 2 ครอบครัว และพี่น้องไทยใหญ่ 1 ครอบครัว โดยมีประชาการ จีน 7 คน ไทยใหญ่ 5 คน 

จีน, ดาราอาง, ไทใหญ่

องค์กรทางเศรษฐกิจในชุมชน

ส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดร้านค้าขายของชำต่าง ๆ มีทั้งอาหาร ผัก เครื่องดื่ม ชุดชาติพันธุ์ ส่วนใหญ่จะเป็นทุนของชาวบ้านของครัวเรือนนั้น ๆ ที่มีงบประมาณในการจัดตั้งร้านสะดวกซื้อให้กับประชากรในชุมชนเอง และมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านนอแล โดยมีสองกลุ่ม กลุ่มแม่บ้าน กับกลุ่มเยาวชน และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนของเยาวชน จะเป็นกลุ่มที่ดูแลเรื่องการเข้าถึงสิทธิและการละเมิดสิทธิของคนในชุมชน

เดือน กิจกรรมทางเกษตร กิจกรรมทางวัฒนธรรม
มกราคม เก็บเกี่ยวบัวหิมะ เผาหลัวตานพระเจ้า
กุมภาพันธ์ เก็บเกี่ยวบัวหิมะ ปลูกผัก -
มีนาคม รับจ้าง เก็บบัวหิมะเดือนสุดท้าย -
เมษายน เตรียมแปลงบัวหิมะ รดน้ำดำหัว
พฤษภาคม ปลูกบัวหิมะ -
กรกฎาคม ทำเกษตร ปลูกผัก ปลูกบัวหิมะ -
สิงหาคม เก็บลำไย -
กันยายน ปลูกผักรอบเดือน เก็บผักรอบเดือน เข้าพรรษา แห่ต้นเทียน ต้นเงิน ต้นทอง งานลายหล่ำแต่ละป๊อก
ตุลาคม เก็บเกี่ยวบัวหิมะ ปลูกผัก เก็บผัก -
พฤศจิกายน เก็บบัวหิมะ ปลูกผัก ทอดกฐิน
ธันวาคม เก็บบัวหิมะ บลอย ซานัม กะมาย (ปีใหม่)

1.นายนาโม หมั่นเฮิง ผู้นำคนแรกพาชาวบ้านเข้ามาอาศัยในชุมชนบ้านนอแล เมื่อปี 2515 จนถึง ปัจจุบัน

2.นายอ้อน สุนันตา ผู้เรียบเรียงประวัติความเป็นมาของดาราอางในประเทศไทย

3.นายรอด อาจารย์ นักร้อง และผู้ที่ศึกษา เรื่องวัฒนธรรม และชุดดาราอาง

4.ดาบูเมิง ผู้ที่เป็นสื่อกลางระหว่าง คนกับผีเจ้าเมือง

5.ดาฉาน ผู้นำทางศาสนา

ทุนกายภาพ

ธรรมชาติที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และป่าที่อุดมสมบูรณ์ อากาศที่บริสุทธิ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในชุมชนเป็นจำนวนมาก

ทุนวัฒนธรรม

การย้อมสีผ้าและการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของดาราอาง โดยการย้อมสีผ้าจะย้อมจากสีธรรมชาติ การเดินป่า การหาสมุนไพรจากป่า การอยู่คู่ป่าที่ยาวนาน และวิถีชีวิตที่เรียบง่าย

ภาษาชนเผ่าพื้นเมืองดาราอางเป็นภาษาที่สื่อสารกันในชุมชน โดยดาราอางมีภาษาเป็นของตัวเอง และมีตัวหนังสือของตัวเอง แต่ตอนหลังไม่มีโรงเรียนเปิดสอนภาษาดาราอาง เสี่ยงต่อการสูญหายในเรื่องของตัวหนังสือ


เมื่อปี พ.ศ. 2515 ชาวบ้านนอแล ทำอาชีพปลูกฝิ่น จนถึงปี พ.ศ. 2527 ได้เข้าร่วมโครงการหลวง เลยหันมาปลูกผักปลอดสารพิษ ทำอาชีพเกษตรกร ปลูกผลไม้เมืองหนาว และเมื่อปี พ.ศ. 2561 เริ่มหันมาปลูกบัวหิมะ และเริ่มขายของออนไลน์


โดยส่วนใหญ่จะถือบัตรบุคคลบนพื้นที่สูง (เลขนำหน้าด้วยเลข 6) ประมาณ 700 คน และบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน (หมายเลข 0/89) จำนวน 120 คน บุคคลตามมาตรา 38 วรรคสอง (เลข 0) จำนวน 200 คน บัตรคนไทย (หมายเลข 8) ตามมาตรา 7 ทวิวรรคสอง จำนวน 70-80 คน และอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้รับการสำรวจจำนวนหนึ่ง


มีน้ำใช้เป็นน้ำบาดาล และไฟฟ้าเข้าถึง รวมถึงการเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้น เพราะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้ชุมชนได้รับระบบสาธารณูปโภค


ชาวบ้านนอแลสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่สะดวกสบายมากขึ้นเนื่องจากมีรถสำหรับการเดินทาง และสถานีอานามัยก็อยู่ไม่ไกลจากชุมชน 


เยาวชนบ้านนอแลสามารถเข้าถึงการศึกษาที่ดีขึ้นมาก จากเมื่อปี พ.ศ. 2540 นักเรียนยังต้องใช้การเดินเท้า 4 กิโลเมตร เพื่อไปเรียนหนังสือ ปัจจุบันมีรถประจำทาง และเยาวชนได้รับทุนการศึกษาที่มากขึ้น เยาวชนบ้านนอแลโดยส่วนใหญ่เรียนในตัวเมือง จะมีระดับชั้นประถมศึกษาเท่านั้นที่ยังเรียนอยู่บนดอย ส่วนที่เหลือเยาวชน 90 เปอร์เซ็นต์ เรียนในตัวเมือง


ยังมีการปฏิบัติตามประเพณีของชาวดาราอางดั้งเดิม แต่มีความเสี่ยงที่จะหายไป เนื่องจากเยาวชน 90 เปอร์เซ็นต์ ไปศึกษาในตัวเมือง ไม่มีคนสืบสานวัฒนธรรม 


เมื่อปี พ.ศ. 2515 ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ น้ำที่มีใช้ตลอดทั้งปี ในระยะเวลา 50 ปี ที่ผ่านมา ธรรมชาติบ้านนอแล เหลือเพียงแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ธรรมชาติในปัจจุบันหายไป จากที่เคยอากาศหนาวทั้งปี กลับมีหน้าร้อนที่ร้อนมาก ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนบ้านนอแลไม่เคยร้อนเลย แต่เริ่มพบเห็นว่าบรรยากาศแย่ลง และฟ้าฝนก็ตกไม่ตรงตามฤดูกาล

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. (2566). รายงานโครงการสำรวจและจัดการข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ดาราอาง ปีงบประมาณ 2566. กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร.

อบต.ม่อนปิ่น โทร. 0-5388-6366