Advance search

บ้านไร่, บ้านกองหิน

มีความหลากหลายทั้งทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น การฟ้อนล้านนา ศิลปะพื้นการทำเครื่องจักสานและเครื่องปั้นดินเผาที่โดดเด่น รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และกิจกรรมพิเศษ "คืนถิ่นคนหางดง" 

หมู่ที่ 3
บ้านไร่กองขิง
หนองควาย
หางดง
เชียงใหม่
ผู้ใหญ่สมศักดิ์ อินทะชัย โทร. 09-2515-5652
สุพัตทรา แพ่งกล่อม
17 ม.ค. 2025
สุพัตทรา แพ่งกล่อม
17 ม.ค. 2025
บ้านไร่กองขิง
บ้านไร่, บ้านกองหิน

ชื่อ "ไร่กองขิง" มีความหมายที่สะท้อนถึงลักษณะทางภูมิศาสตร์และความเป็นมาของชุมชน โดย "ไร่" หมายถึงดินที่ใช้ในการเกษตร ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนในชุมชน การใช้คำว่า "ไร่" สะท้อนถึงการทำเกษตรกรรมและการอยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีการปลูกพืชผลต่าง ๆ เช่น ข้าวโพด และ "กองขิง" มาจากในอดีต ชุมชนบริเวณนี้ปลูกขิงเป็นจำนวนมาก และขิงที่เก็บเกี่ยวได้จะถูกนำมากองรวมกันไว้ในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า กองขิง กลายเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่จนใช้เป็นชื่อหมู่บ้าน


มีความหลากหลายทั้งทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น การฟ้อนล้านนา ศิลปะพื้นการทำเครื่องจักสานและเครื่องปั้นดินเผาที่โดดเด่น รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และกิจกรรมพิเศษ "คืนถิ่นคนหางดง" 

บ้านไร่กองขิง
หมู่ที่ 3
หนองควาย
หางดง
เชียงใหม่
50230
18.726469270542587
98.90975783588037
องค์การบริหารส่วนตำบลหนองควาย

ชุมชนแห่งนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 100-150 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากครอบครัวเล็ก ๆ ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานจากพื้นที่ใกล้เคียงในเขตล้านนา เช่น เมืองเชียงใหม่หรือพื้นที่ราบลุ่มที่แออัด เนื่องจากพื้นที่นี้มีทรัพยากรธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ พื้นที่ลุ่มดินดีเหมาะสำหรับการทำการเกษตร และใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติ โดยในช่วงแรกมีเพียงไม่กี่ครัวเรือน สมาชิกในชุมชนมักพึ่งพาอาศัยกันในรูปแบบเครือญาติ และเมื่อจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น ชุมชนจึงมีการขยายตัว โดยมีการจัดตั้งกลุ่มบ้านอย่างเป็นระบบตามเขตการปกครอง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลได้เข้ามาส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ชนบท เช่น การตัดถนนเข้าสู่หมู่บ้านและการจัดหาแหล่งน้ำสำคัญสำหรับการเกษตรและอุปโภคบริโภค

บ้านไร่กองขิงพบกับเหตุการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติ ได้แก่ น้ำท่วม เนื่องจากพื้นที่บางส่วนตั้งอยู่ใกล้ลำธารและพื้นที่ต่ำ ภัยแล้ง ในบางช่วงชุมชนเคยประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการเกษตรและการดำรงชีวิต ทำให้เกิดการรวมกลุ่มของชาวบ้านเพื่อขุดบ่อและวางระบบชลประทานพื้นฐาน

พ.ศ. 2539 มีการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลหนองควาย ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ช่วยพัฒนาชุมชนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการทรัพยากร และการสนับสนุนกิจกรรมของหมู่บ้านในพื้นที่

พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา มีการขยายถนน การติดตั้งไฟฟ้าและน้ำประปาที่ครอบคลุม รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน เช่น การจัดแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

บ้านไร่กองหิน ตั้งอยู่ในเขตหมู่ที่ 3 ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบเชิงเขา ผสมผสานกับพื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่ชุมชน

  • ทิศเหนือ ติดต่อ พื้นที่หมู่บ้านในตำบลแพร่
  • ทิศใต้ ติดต่อ พื้นที่หมู่บ้านในตำบลแพร่ และพื้นที่การเกษตรบริเวณเชิงเขา
  • ทิศตะวันออก ติดต่อ เขตชุมชนในตำบลหนองควาย และเส้นทางเชื่อมไปยังตัวเมืองหางดง
  • ทิศตะวันตก ติดต่อ พื้นที่ป่าและภูเขาในเขตตำบลหนองควาย

ตามข้อมูลจากเทศบาลตำบลหนองควาย ณ เดือนสิงหาคม 2567 บ้านไร่หินกองมีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 848 ครัวเรือน เป็นประชากรชาย 609 คน และประชากรหญิง 789 คน โดยในพื้นที่ชุมชนบ้านไร่กองหินมีประชากรที่อยู่ร่วมกันอย่างหลากหลาย ประกอบไปด้วย ชาวไทยพื้นเมือง (ล้านนา) กะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ) และชาวไทยเชื้อสายจีนบางส่วน

จีน, ปกาเกอะญอ

ชาวบ้านในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ข้าวโพด ข้าว และพืชผักสวนครัว ปลูกผลไม้ เช่น ลิ้นจี่ ลำไย กล้วย เลี้ยงสัตว์ เช่น โค กระบือ ไก่ หมู และอาชีพรับจ้าง ชาวบ้านบางส่วนทำงานรับจ้างในไร่ สวน หรือเป็นแรงงานก่อสร้าง 

อาชีพเสริม คือ งานหัตถกรรมและแปรรูป เช่น การทำผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ เช่น กระบุง ตะกร้า การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เช่น การทำแยมลำไย การแปรรูปสมุนไพร และการทำข้าวแต๋น 

นอกจากนี้คนในชุมชนยังมีการออกไปทำงานนอกชุมชนเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือนของตน เช่น ออกไปทำงานรับจ้างในตัวเมืองเชียงใหม่หรือพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง มีการรวมกลุ่มเพื่อสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาชุมชนในด้านต่าง ๆ โดยลักษณะการรวมกลุ่มที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กลุ่มศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มสตรีและเยาวชน กลุ่มออมทรัพย์และสหกรณ์ กลุ่มช่วยเหลือและดูแลสังคม ซึ่งการรวมกลุ่มเหล่านี้ช่วยสร้างความสามัคคีในชุมชน และเพิ่มศักยภาพของชาวบ้านในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่

วิถีชีวิตของชุมชนบ้านไร่หินกองได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตของชาวบ้าน โดยแบ่งออกได้หลายมิติ ดังนี้

ปฏิทินวัฒนธรรมของชุมชน

ศาสนาพุทธมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการทำบุญ และการปฏิบัติตามประเพณีต่าง ๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สะท้อนความเคารพต่อธรรมชาติ และยังมีอิทธิพลจากวัฒนธรรมล้านนา เห็นได้จากการพูดภาษาคำเมืองและการรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่องการทอผ้า

มกราคม-กุมภาพันธ์

  • งานสืบชะตาและตานขันข้าว เป็นการทำบุญตักบาตรเพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ชาวบ้าน โดยชาวบ้านจะร่วมกันนำอาหารไปถวายที่วัด

เมษายน

  • ประเพณีสงกรานต์และปีใหม่เมือง รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อขอพรตามประเพณีดั้งเดิม และเล่นน้ำสงกรานต์ จัดกิจกรรมรื่นเริงในหมู่บ้าน

พฤษภาคม

  • พิธีบวชต้นไม้และการปลูกป่า กิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยชาวบ้านร่วมกันปลูกป่า และบวชต้นไม้เป็นพิธีกรรมตามความเชื่อเพื่อแสดงถึงการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ

กรกฎาคม

  • งานแห่เทียนเข้าพรรษา ชาวบ้านร่วมกันหล่อเทียนพรรษาและนำไปถวายวัด จัดขบวนแห่เทียนพรรษาเพื่อสืบสานประเพณีและสืบทอดวัฒนธรรมล้านนา

กันยายน

  • ประเพณีก๋วยตาลสลาก ชาวบ้านร่วมกันนำข้าวสารอาหารแห้ง และผลผลิตทางการเกษตรถวายแด่พระสงฆ์ และมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านในงาน

พฤศจิกายน

  • ประเพณีลอยกระทง ทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ จัดกิจกรรมประกวดกระทงและขบวนแห่

ธันวาคม

  • งานทำบุญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ชาวบ้านรวมตัวกันที่วัดเพื่อทำบุญส่งท้ายปี มีกิจกรรมรื่นเริง เช่น การแสดงดนตรีพื้นบ้าน การเลี้ยงอาหาร

ปฏิทินการเกษตรของชุมชน

มกราคม

  • ในช่วงต้นเดือนเป็นช่วงเริ่มต้นการปลูกข้าวโพด และช่วงปลายเดือนเป็นการเตรียมดินให้พร้อมสำหรับการปลูกพืชผักในช่วงต้นฤดูร้อน

กุมภาพันธ์

  • เริ่มการเพาะปลูกข้าในช่วงฤดูการทำนา และปลูกผลไม้ในช่วงปลายเดือน เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการปลูกต้นลำไย ลิ้นจี่ และพืชผลไม้ท้องถิ่น

มีนาคม-เมษายน

  • การดูแลและการปักดำต้นข้าวหลังจากที่ข้าวงอก และการรดน้ำพืชผล เนื่องจากในช่วงฤดูร้อน การรดน้ำพืชทุกวันเป็นการรักษาความชื้นในดิน

พฤษภาคม

  • การปลูกพืชผักในฤดูฝน เช่น ผักกาด ขิง และข่า และในช่วงกลางเดือนเป็นการปลูกต้นไม้เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ

มิถุนายน-กรกฎาคม

  • ช่วงดูแลรักษาข้าวและพืชผักผลไม้ ให้น้ำและกำจัดวัชพืชจากแปลงนาและสวนผลไม้ เตรียมพื้นที่สำหรับการปลูกพืชต่าง ๆ ที่จะออกผลในช่วงปลายฤดูฝน

สิงหาคม

  • เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวโพดที่ปลูกเมื่อต้นปีในช่วงปลายฤดูฝน ดูแลรักษาและเก็บเกี่ยวผลผลิตพืชผักสวนครัว

กันยายน

  • เก็บเกี่ยวข้าวช่วงหลังฝน โดยเก็บเกี่ยวข้างในช่วงที่ผลข้าวสุก เตรียมแปลงปลูกพืชผักที่ใช้เวลาสั้น เช่น ผักบุ้ง คะน้า

ตุลาคม-พฤศจิกายน

  • เริ่มเก็บเกี่ยวผลไม้ที่ปลูกในช่วงต้นปี และเริ่มปลูกพืชใหม่ในช่วงต้นฤดูหนาว เพื่อเตรียมผลผลิตสำหรับการขายในปีถัดไป

ธันวาคม

  • ตัดแต่งต้นผลไม้ เพื่อลดความหนาแน่นและกระตุ้นการเจริญเติบโตของผลไม้ และเก็บเกี่ยวผลผลิตที่สะสมมาตลอดปี

หมอชาวบ้าน เป็นบุคคลสำคัญในชุมชนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน โดยอาศัยองค์ความรู้จากภูมิปัญญาดั้งเดิมในการรักษาและดูแลสุขภาพของคนในชุมชน โดยแบ่งประเภทการเชี่ยวชาญ ดังนี้

1.หมอคำปัน อินต๊ะวงศ์ : หมอสมุนไพรพื้นบ้าน มีความรู้การใช้สมุนไพรเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย เช่น แก้ปวดเมื่อย แผลติดเชื้อ หวัด ด้วยการทำยาต้ม ยาทา และยาพอก นิยมใช้สมุนไพร เช่น ใบหนาด ไพล ขมิ้นชัน และฟ้าทะลายโจร

2.หมอแสงหล้า วงศ์แก้ว : หมอนวดแผนโบราณ เชี่ยวชาญด้านการบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและปรับสมดุลร่างกาย โดยการนวดแผนโบราณและการจับเส้นแบบล้านนา

3.หมอพิมพา ใจแก้ว : ทำคลอดพื้นบ้าน ในอดีตมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือหญิงตั้งครรภ์ในชุมชน มีการใช้สมุนไพรในการดูแลแม่และเด็กหลังคลอด

4.หมอบุญมา ทองคำ : ผู้นำทางจิตวิญญาณและความเชื่อ มีบทบาทสำคัญในการประกอบพิธีกรรมทางความเชื่อ เช่น พิธีสะเดาะเคราะห์ ทำขวัญ หรือขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และยังช่วยดูแลด้านจิตใจและสร้างขวัญกำลังใจให้กับคนในชุมชน

5.หมอประจวบ นาคคำ : หมอสมุนไพรเฉพาะโรค เช่น ยาแก้เบาหวาน ยาแก้ไอ และยาสำหรับโรคทางเดินอาหาร

6.หมอหนานปั๋น ศรีวงศ์ : หมอสมุนไพรด้านสัตว์มีพิษ รักษาอาการจากสัตว์มีพิษและการฟื้นฟูสุขภาพจิตจากพิษในธรรมชาติ รวมถึงคอยช่วยเหลือชาวบ้านในกรณีฉุกเฉิน

บ้านไร่กองขิงมีทุนวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชน เช่น การเก็บรักษาความรู้ในด้านการเกษตร การแพทย์แผนไทย การทำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่สามารถจำหน่ายหรือส่งออกได้ นอกจากนี้ยังมีทุนเศรษฐกิจ เป็นแหล่งกู้ยืมเงินในหมู่บ้านไร่กองหินเพื่อสนับสนุนการประกอบอาชีพของชาวบ้านในชุมชน เช่น กลุ่มออมทรัพย์ในชุมชน โครงการเงินกู้ยืมจาก อบต. เงินทุนจากองค์กรเอกชนหรือ NGO เช่น โครงการพัฒนาเกษตรยั่งยืน การส่งเสริมทักษะวิชาชีพ หรือโครงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

เนื่องจากในชุมชนมีประชากรที่อาศัยอยู่อย่างหลากหลายภาษาที่ใช้จึงมีหลากหลายเช่นกัน แต่จะใช้ภาษาไทยเป็นภาษาทางการ กลุ่มชาวไทยพื้นเมืองจะใช้ภาษาไทยเหนือหรือคำเมืองในชีวิตประจำวัน ส่วนชาวกะเหรี่ยงจะพูดภาษากะเหรี่ยงและภาษาไทย


การเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองของชุมชนบ้านไร่กองหินได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการเมืองและการบริหารจัดการภายในชุมชน ได้แก่ การจัดตั้งและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองควาย ได้สร้างโครงสร้างส่วนท้องถิ่นที่มีการเลือกตั้งผู้นำท้องถิ่น (ผู้ใหญ่บ้าน/นายกองค์การบริหารส่วนตำบล) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจและการนำแผนพัฒนาท้องถิ่นไปสู่การปฏิบัติในระดับหมู่บ้านหรือชุมชน นอกจากนี้ชาวบ้านยังมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านหรือสมาชิกท้องถิ่นผ่านการเลือกตั้งที่จัดขึ้นตามระยะเวลา เป็นกระบวนการที่เปิดอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนาชุมชน


การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจในชุมชนมีการพัฒนาและปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ดังนี้

1.การพัฒนาเกษตรกรรม : ชุมชนมีการปรับตัวทางเศรษฐกิจ โดยปรับตัวจากวิธีการเกษตรแบบดั้งเดิมสู่การใช้เทคโนโลยีและวิธีการใหม่ ๆ ในการทำการเกษตร เช่น การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ใช้เมล็ดพันธุ์ที่ทนทานต่อโรคและภัยธรรมชาติ และการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ลำไย ส้ม มะม่วง หรือพืชผักต่าง ๆ ที่สามารถขายและสร้างรายได้ที่ยั่งยืน มีการส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืน โดยมีการสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชผสมผสานและการเกษตรทางเลือก เช่น การทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งรายได้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

2.การพัฒนาอาชีพเสริม : การทำหัตถกรรม เช่น การจักสาน การทำไม้ไผ่หรือเครื่องจักสานจากวัสดุท้องถิ่น ซึ่งสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับครัวเรือน ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างธุรกิจเล็ก เช่น การทำผลิตภัณฑ์ OTOP หรือเปิดร้านค้าชุมชนเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน ทำให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นมีความหลากหลายและเพิ่มโอกาสการจ้างงาน

3.การพัฒนาการท่องเที่ยว : ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมของชุมชนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การแนะนำการทำเกษตร การเยี่ยมชมวัดหรือโบราณสถานในพื้นที่ ซึ่งสามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวและส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรม


การเพิ่มขึ้นของประชากรในชุมชนส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของครัวเรือนใหม่ รวมถึงการย้ายถิ่นฐานจากต่างพื้นที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในชุมชน วิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนบ้านไร่กองหินมีการปรับเปลี่ยนจากการเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมเป็นการเกษตรสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี มีการเปลี่ยนแปลงด้านวิถีชีวิตโดยได้รับอิทธิพลมาจากภายนอกจากการพัฒนาเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมภายนอก ซึ่งส่งผลต่อวิถีชีวิตดั้งเดิม เช่น การจัดประเพณีท้องถิ่นดั้งเดิม การรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่สำคัญ


ชาวบ้านมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ทำให้ประชาชนในชุมชนมีโอกาสในการมีส่วนร่วมในกระบวนการการเลือกตั้งตัวแทนท้องถิ่น เช่น การเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ช่วยให้ชุมชนมีเสียงในการตัดสินใจเกี่ยวกับการพัฒนาและนโยบายท้องถิ่น นอกจากนี้ชุมชนยังมีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในกิจกรรมที่ผลต่อการพัฒนา เช่น การประชุมชุมชน การร่วมวางแผนการพัฒนาและนโยบายท้องถิ่น

การได้รับความคุ้มครองด้านกฎหมาย โดยเฉพาะในด้านสิทธิการได้รับบริการพื้นฐาน เช่น การเข้าถึงการศึกษา การรักษาพยาบาล การได้รับสวัสดิการจากทางรัฐ การเข้าถึงสิทธิในที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ ประชาชนสามารถทำเกษตรกรรมหรือดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชนอย่างเต็มที่

สิทธิของกลุ่มประชากรที่ถูกกีดกัน กลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มชนพื้นเมืองได้รับการส่งเสริมสิทธิในการรักษาภาษาวัฒนธรรม และวิถีชีวิตดั้งเดิม การสนับสนุนในด้านสิทธิพื้นฐาน ช่วยให้คนเหล่านี้มีส่วนร่วมในกิจกรรมและการพัฒนาชุมชนอย่างเต็มที่ การพัฒนาสิทธิของผู้หญิงในชุมชนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการเข้าถึงการศึกษา การประกอบอาชีพ และการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในระดับครัวเรือนและชุมชน มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน เช่น การใช้อินเทอร์เน็ตและการสื่อสารที่ทันสมัยช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับตนเองมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ชุมชนยังมีการอบรมหรือประชุมเพื่อเพิ่มความรู้ด้านสิทธิพลเมือง เช่น การอบรมเกี่ยวกับสิทธิในการเลือกตั้ง สิทธิในที่ดิน หรือการเข้าถึงบริการสาธารณะ ซึ่งเป็นการช่วยให้ประชาชนมีความรู้ด้านสิทธิของตนเอง


มีการพัฒนาระบบขนส่ง ปรับปรุงและสร้างเส้นทางการคมนาคมในชุมชน ทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น พัฒนาแหล่งน้ำ สร้างระบบประปาหรือบ่อน้ำในชุมชน ทำให้ชาวบ้านสามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดได้ง่ายขึ้น


การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในด้านสาธารณสุข คือ การเข้าถึงบริการสุขภาพที่ดีขึ้น โดยการสร้างสถานีอนามัยหรือศูนย์บริการสุขภาพในพื้นที่ ทำให้ประชาชนในชุมชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพพื้นฐานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เช่น การใช้วัคซีน การตรวจรักษาโรคทั่วไป การเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันโรค มีการรณรงค์ป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพในชุมชน เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับโรคระบาด การส่งเสริมสุขอนามัยพื้นฐาน การจัดโครงการต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดี เช่น โครงการออกกำลังกายสำหรับคนทุกวัย 


การเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาในชุมชนบ้านไร่กองหินสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาที่ต่อเนื่อง โดยในช่วงแรกใช้ศาลาวัดในชุมชนหรือพื้นที่ชั่วคราวเป็นสถานที่เรียน ต่อมาโรงเรียนได้รับการพัฒนาให้มีอาคารเรียนที่มั่นคง พร้อมด้วยอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มครูผู้สอนและมีการสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การกีฬาและศิลปะ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ และในปัจจุบันมีการพัฒนาปรับปรุงด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง มีการขยายการเข้าถึงการศึกษาโดยไม่แบ่งแยก เช่น การให้การศึกษาฟรีสำหรับเด็กจนถึงระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ส่งเสริมและสร้างโอกาสสำหรับกลุ่มชนเผ่าพื้นเมือง สนับสนุนการใช้เทคโนโลยี การพัฒนาฝึกอบรมครูเพื่อพัฒนาคุณภาพครู และการศึกษาด้านอาชีพและทักษะชีวิต เพื่อเป็นการพัฒนาความสามารถในการใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ


การเติบโตของการสื่อสารและเทคโนโลยีทำให้ชุมชนได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมต่างชาติ เช่น การแต่งกาย อาหาร และการใช้ภาษา คนรุ่นใหม่ในชุมชนรับเอาแนวคิดและค่านิยมใหม่จากเมืองใหญ่ ส่งผลให้การดำเนินชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงไป ภาษาพื้นเมือง (เหนือ) เริ่มลดลงในชีวิตประจำวัน บางประเพณีดั้งเดิม เช่น การฟ้อนเล็บ การแห่ผ้าขึ้นดอย หรือพิธีกรรมในวันพระ เริ่มลดความสำคัญลง เนื่องจากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการจัดโครงการเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์วัฒนธรรมบางอย่างโดยหน่วยงานท้องถิ่น เช่น การจัดกิจกรรมวัฒนธรรมในงานเทศกาล

ชุมชนมีอาหารพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น น้ำพริกอ่อง แกงฮังเล และไส้อั่วที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากท้องถิ่น ชุมชนมีองค์ความรู้ด้านสมุนไพรท้องถิ่นและการแพทย์พื้นบ้าน มีหมอพื้นบ้านที่เชี่ยวชาญด้านการนวดแผนโบราณและการใช้ยาสมุนไพรในชีวิตประจำวัน เช่น การรักษาโรคเบื้องต้นด้วยสมุนไพรที่หาได้ในพื้นที่ ชุมชนมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลผลิตทางการเกษตร เช่น แยมลำไย น้ำพริกลำไย และสินค้า OTOP ที่มีชื่อเสียงอย่าง ผ้าทอมือ เครื่องจักสาน และผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ นอกจากนี้ชุมชนบ้านไร่กองหิน ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ยังได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนอีกด้วย

การท่องเที่ยวเชิงไฉไล. (2564). ชุมชนบ้านไร่กองขิง” พื้นที่ท่องเที่ยวชุมชนเพื่อคนรักสุขภาพ. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2568. https://chailaibackpacker.com

เทศบาลตำบลหนองควาย. (2567). ประวัติความเป็นมา. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2568. https://www.nongkhwai.go.th

องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน). (ม.ป.ป.). ท่องเที่ยววิถีใหม่ ใส่ใจสุขภาพ สไตล์ชาวล้านนา ณ บ้านไร่กองขิง จังหวัดเชียงใหม่. สืบค้นเมื่อ 17 มกราคม 2568. https://cbtthailand.dasta.or.th/

ผู้ใหญ่สมศักดิ์ อินทะชัย โทร. 09-2515-5652