Advance search

ปางห้าหน้าใส ใยไหมทองคำ

หมู่ที่ 1
บ้านปางห้า
เกาะช้าง
แม่สาย
เชียงราย
คุณธีรพล สุพรหม (ผู้ประสานงานการท่องเที่ยวชุมชน) โทร. 08-5032-3465
ตรีทิพภา ฤทธิลา
21 ม.ค. 2025
ตรีทิพภา ฤทธิลา
1 ก.พ. 2025
บ้านปางห้า

บริเวณนี้เดิมทีเป็นเส้นทางเดินเท้าของชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้า ต่อมาได้มีการสร้างที่พักชั่วคราวที่คนเหนือจะเรียกกันว่า "ปาง" สำหรับพักผ่อนระหว่างการเดินทาง บริเวณรอบข้างมีต้นหว้าต้นใหญ่อยู่ คนเหนือจะเรียกว่าต้นห้าที่ร่องน้ำ ชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า ร่องห้า จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน "ปางห้า"


ปางห้าหน้าใส ใยไหมทองคำ

บ้านปางห้า
หมู่ที่ 1
เกาะช้าง
แม่สาย
เชียงราย
57130
20.433918624478995
99.96654731445238
องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะช้าง

ก่อนจะมาเป็นหมู่บ้านปางห้า เดิมทีบริเวณนี้เป็นเส้นทางเดินเท้าของชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้า สำหรับเดินทางสัญจรไปมา ต่อมาได้มีการสร้างที่พักชั่วคราวที่คนเหนือจะเรียกกันว่า "ปาง" สำหรับพักผ่อนระหว่างการเดินทาง บริเวณรอบข้างมีต้นหว้าต้นใหญ่อยู่ คนเหนือจะเรียกว่าต้นห้าที่ร่องน้ำ ชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า ร่องห้า จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน "ปางห้า" ความหมายคือที่พักชั่วคราวตรงต้นหว้า และในเวลาช่วงนั้นบริเวณนี้มีสัตว์ป่าชุกชุม เช่น เสือ หมูป่า ไก่ป่า และมีช้างหลายเชือก ตรงบริเวณที่มีแม่น้ำล้อมรอบซึ่งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านปางห้า จึงเป็นที่มาของตำบลเกาะช้าง

โดยมีเรื่องเล่าจากชาวบ้านในชุมชน พ่ออุ้ยเบี้ยว แสนลี ได้เล่าว่า ตนได้ย้ายมาจากป่ากุ๊ก ประเทศเมียนมา (พม่า) มาอยู่ที่ปางห้าเพื่อ พ.ศ. 2476 ตอนอายุ 3 ขวบ ตอนที่ย้ายมาอยู่แรก ๆ ตอนนั้นมีบ้านเพียง 7 หลังคาเรือน มีพ่ออุ้ยปุ้ด เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของหมู่บ้านปางห้า ตอนนั้นหมู่บ้านไม่มีถนนตัดผ่าน ส่วนแม่สายก็ยังไม่มีฐานะเป็นอำเภอแม่สาย มีเพียงอำเภอเชียงแสน ต่อมาทางราชการได้มาจัดตั้งโรงงานบ่มใบยาสูบ มีชื่อว่า โรงงานบ่มใบยาสูบเวียงแก้ว หลังจากนั้นก็มีผู้คนทยอยเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านกันมากขึ้นเพื่อหารายได้ โดยการรับจ้างปลูกใบยาสูบ เมื่อมีชาวบ้านมากขึ้น ทางผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านจึงสร้างวัดและโรงเรียนขึ้น และพัฒนาต่อมาเป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีคนจีนยูนนานที่มาถึงที่นี่หลังจบสิ้นสงครามระหว่างรัฐบาลไทยกับพรรคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยช่วงปี พ.ศ. 2523 ขณะที่ชายแดนเปิดต้อนรับคนไทยภูเขาเผ่าอาข่าไว้ตามไหล่ดอย คนไทยใหญ่ไทยลื้อ และปกาเกอะญอ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันในพื้นที่บ้านปางห้าร่วมกับอีกหลายบ้านในตำบลเกาะช้าง

ปัจจุบันชุมชนบ้านปางห้า เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่อยู่ตอนเหนือสุดของประเทศไทย ติดกับประเทศเมียนมา (พม่า) เรียบชายฝั่งแม่น้ำรวก กั้นเขตพรมแดนระหว่างเมียนมาและไทย และมีบางส่วนเชื่อมต่อกับลาว ชุมชนหมู่บ้านปางห้า เป็นชุมชนเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเพาะปลูกและทำงานฝีมือ ชุมชนหมู่บ้านปางห้าจึงถูกพัฒนาให้เป็นชุมชนท่องเที่ยว ที่แฝงแหล่งเรียนรู้เชิงวัฒนธรรมและนิเวศ มีภูมิปัญญาพื้นบ้านจากปราชญ์ชุมชนมากมาย ที่จะทำให้ผู้มาเยือนได้รับประสบการณ์ดี ๆ น่าทึ่งกลับไป

ที่ตั้งและอาณาเขต ชุมชนหมู่บ้านปางห้า ตั้งอยู่ในเขตตำบลเกาะช้าง โดยตำบลเกาะช้างอยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่สายไปทางทิศตะวันออก บนถนนสายเหมืองแดง-ทุ่งเกลี้ยง ประมาณ 7 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับตำบลต่าง ๆ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ ประเทศเมียนมา (พม่า) มีแม่น้ำรวกเป็นแนวกั้นอาณาเขต
  • ทิศใต้ ติดกับ ตำบลศรีเมืองชุม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่ตำบลเกาะช้างเป็นพื้นที่ราบหุบเขา โดยพื้นที่ตอนบนทิศเหนือเป็นที่ราบลุ่มฝั่งแม่น้ำรวก เป็นพื้นที่เกษตรกรรมและที่ตั้งของชุมชนในเขตหมู่บ้าน หมู่ที่ 6, 11, 5, 10, 9, 7, 12, รวมถึงหมู่ที่ 1 บ้านปางห้า และ หมู่ที่ 2 โดยเรียงจากทิศตะวันตกมาทิศตะวันออก และพื้นที่ตอนล่างทิศใต้ เป็นที่ราบหุบเขาต่อจากพื้นที่ตอนบน เป็นพื้นที่เกษตรกรรม และที่ตั้งของชุมชนในเขตหมู่บ้าน หมู่ที่ 8, 4, 13, 3 โดยเรียงจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปจะเป็นพื้นที่ราบน้ำท่วมถึง มาจากการระบายน้ำไม่ทัน ประกอบกับน้ำฝน ในช่วงฤดูฝน ที่มีการสะสมตามแม่น้ำ ทำให้น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรในตำบลเป็นประจำทุกปี

ลักษณะดิน ส่วนใหญ่ดินในตำบลเกาะช้าง เป็นดินร่วนปนดินเหนียว ซึ่งเหมาะสำหรับทำการเกษตร บางส่วนมีปัญหาเรื่องคุณภาพดินที่มีลักษณะเป็นดินดาน ดินมีกรวดทราย

ข้อมูลสถิติจำนวนประชากรพื้นที่ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงใหม่ ข้อมูลล่าสุดเดือน ธันวาคม 2567 หมู่ที่ 1 บ้านปางห้า มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,325 คน เป็นคนไทย 869 คน จำแนกเป็น ชาย 425 คน หญิง 444 คน และไม่ใช่ไทย 456 คน ชาย 202 คน หญิง 254 คน

ตารางแสดงจำนวนประชากรคนไทย

ชาย หญิง รวม
425 444 869

 

ตารางแสดงจำนวนประชากรที่มิใช่คนไทย

ชาย หญิง รวม
202 254 456

 

ไตหย่า, ไทลื้อ, ไทใหญ่, ปกาเกอะญอ, จีนยูนนาน(จีนฮ่อ)

อาชีพหลักของชาวบ้านชุมชนบ้านปางห้า คือ การทำเกษตรกรรม เช่น การทำนา ทำไร่ข้าวโพด สวนผลไม้ และการเลี้ยงสัตว์ บางส่วนทำอาชีพค้าขาย รับจ้างทั่วไป ธุรกิจส่วนตัว ทำงานในโรงงานใกล้กับหมู่บ้าน ทำอาชีพรับราชการ และอีกบางส่วนทำงานฝีมือ เช่น การทำกระดาษสา การตีมีด การทำเทียน ศูนย์ผ้าทอ ฯลฯ และมีกลุ่มที่ผลิตสินค้าชุมชน เช่น ผลิตภัณฑ์กระดาษสา, ผลิตภัณฑ์ใยไหมทองคำ, ชาปอสาหญ้าหวาน, หน้ากากอนามัยใยไหมทองคำ, ชุด DIY กระดาษสา, ลำใยอบแห้ง

วิถีชีวิตทางวัฒนธรรม

ชุมชนบ้านปางห้ามีวัฒนธรรมประเพณีอันงดงามของชุมชนที่สืบสานต่อกันมานั่นก็คือ การตักปิ่นโต โดยทุก ๆ เย็น จะมีสามเณรเอาปิ่นโตมาวางไว้ตามหน้าบ้านของชาวบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านนำปิ่นโตไปจัดอาหารเพื่อรอถวายพระในตอนเช้า และมีการสืบสานวัฒนธรรมการรำของชุมชนโดยมีคุณครูสอน เวลามีงานหรือมีนักท่องเที่ยวมาที่ชุมชนก็จะจัดการแสดงให้ดู การรำของชุมชนปางห้า เช่น ฟ้อนสาวไหมไทลื้อ ฟ้อนบอกรักปางห้า และฟ้อนสืบสานปางห้าที่ยังมีการสอนอยู่ทุกวัน นอกจากนี้ยังมีการละเล่นพื้นบ้านที่อยู่คู่ชุมชนมานาน และได้นำมาเป็นการแสดงให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสตลอดปีที่มีนักท่องเที่ยว เช่น การเดินไม้โกงกาง และการเล่นลูกข่าง

วิถีชีวิตทางภูมิปัญญา

ในชุมชนบ้านปางห้ามีบ้านตีมีด เป็นแหล่งตีมีดแห่งเดียวในชุมชนที่ยังคงอนุรักษ์ศิลปะการตีมีดดั้งเดิมจากพม่า ที่เปิดเป็นอาชีพ และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับผู้ต้องการเรียนรู้วิธีการตีมีด

วิถีชีวิตทางเศรษฐกิจ

ชุมชนบ้านปางห้า ได้ปรับเปลี่ยนชุมชนให้เป็นชุมชนท่องเที่ยว โดยได้ชักชวนชาวบ้านในหมู่บ้านมาเข้าร่วมโครงการ ทำให้ชาวบ้านมีงาน นำเอาความสามารถ ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาจัดเป็นกิจกรรมฐานการเรียนรู้ เกิดเป็นรายได้ของชุมชนและครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็น การตีมีด การทำกระดาษสา การทำมาร์กทองคำใยไหม บ้านสวนคำอุ้ย บ้านหยก บ้านทำเทียน บ้านเกษตรอินทรีย์ บ้านอิ่มอุ่น บ้านขนมล็อคนา

1.ดร.ธีรพล สุรพรหม

ผู้นำประธานชุมชนท่องเที่ยวบ้านปางห้า มีหน้าที่ประสานงานกับชาวบ้าน ในหลากสาขาอาชีพต่าง หลายกลุ่ม และฐานการเรียนรู้ต่าง ๆ ของชุมชนท่องเที่ยวบ้านปางห้า ทำให้เกิดกลุ่มชุมชนท่องเที่ยวบ้านปางห้าได้สำเร็จ

2.คุณจินนาลักษณ์ ชุ่มมงคล เจ้าของ จินนาลักษณ์ มิราเคิล ออฟ สา

เป็นผู้ก่อตั้งโรงงานผลิตกระดาษสาทำมือ เดิมโรงงานนี้ผลิตเพียงกระดาษสาแผ่นเพื่อส่งต่อให้โรงงานอื่นในประเทศไทย และพัฒนาต่อมาจนถึงปัจจุบัน คุณจินนาลักษณ์ ได้ค้นพบว่าพืชที่มีเส้นใยสามารถนำมาทำเป็นกระดาษได้ เช่น ดาหลา ใยมังกร เบิร์ด ออฟ พาราไดซ์ ฯลฯ ด้วยความหลากหลายของรูปกระดาษนี้ทำให้มีตลาดเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ และมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มความหลากหลายตามความต้องการ ทำให้บ้านปางห้ามีผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักและส่งออก ซึ่งต่อมาได้เปิดโรงงานให้สามารถเข้ามาเยี่ยมและเวิร์คชอปกระดาษสาได้

3.ป้าลัดดา เจ้าของกิจการสวนฝรั่งกิมจู เจ้าของสวนบ่าก๋วยก๋า (ฝรั่ง)

เป็นเจ้าของสวนฝรั่งกิมจู เมื่อเกือบ 10 ปีก่อน พื้นที่สวนฝรั่งนี้เป็นเพียงไร่ข้าวโพดธรรมดา หลังจากนั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นสวนฝรั่งกิมจูแบบเกษตรอินทรีย์ ออแกนิค 100% โดยป้าลัดดาที่ผ่านการลองผิดลองถูกมานับไม่ถ้วน จนได้เป็นฝรั่งกิมจูด้วยเทคนิคสะอาด กรอบหวาน ป้าลัดดาได้นำเข้าฝรั่งสายพันธุ์จากเกาะไต้หวันทุกต้นในสวน ซึ่งเอามาปลูกบนพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงนี้ ทำให้ได้ผลผลิตเป็นฝรั่งที่มีรสชาติหวานกรอบและชุ่มน้ำ มีความโดดเด่น สวนฝรั่งกิมจูของป้าลัดดา ได้เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องการทำเกษตรปลอดสารพิษ พืชผักปลอดภัย ทำกิจกรรมเดินเก็บฝรั่งจากสวน การแปรรูปน้ำฝรั่งสด เทคนิคดูแลต้นฝรั่งด้วยวิถีเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยวอย่างมาก

4.คุณลุงดงแสง ชาวไทยใหญ่

คุณลุงดงแสง ชาวไทยใหญ่ที่อพยพมาจากสิบสองปันนา มาปักหลักอยู่ที่บ้านปางห้าตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ โดยมีอาชีพหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวด้วยการตีมีดขาย เป็นแหล่งตีมีดแห่งเดียวในชุมชนที่ยังคงอนุรักษ์ศิลปะการตีมีดดั้งเดิมจากพม่า หลังจากบ้านปางห้าเปลี่ยนมาเป็นชุมชนท่องเที่ยวและการตีมีดนับเป็นปราชญ์เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่หาดูได้ยากแล้ว จึงได้นำการตีมีดเข้ามาเป็นหนึ่งในกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวสามารถมาหัดตีด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมี ป้าคำ ภรรยาของลุงดงแสง ชาวไทยใหญ่เช่นกัน ที่ยังคงอนุรักษ์อาหารของกลุ่มไทยใหญ่ ซึ่งหากินได้ยากแล้วในปัจจุบันนั่นก็คือ "ข้าวซอยน้อย" เมนูต้นตำรับสืบทอดมาจากชาวไทใหญ่ตัวจริง

ทุนสถานที่

  • โรงบ่มใบยาเวียงแก้ว เป็นสถานที่สำคัญของชาวบ้านในชุมชนบ้านปางห้า เพราะเป็นที่แรกเริ่มสำหรับการสร้างอาชีพของชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ แม้ในปัจจุบันจะไม่ได้เปิดใช้งานแล้ว แต่ก็ยังคงสภาพที่สวยงามเอาไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปเรียนรู้ประวัติศาสตร์
  • วัดปางห้า ตั้งอยู่ที่บ้านปางห้า เป็นสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา(พม่า) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2484 โดยชาวบ้านในหมู่บ้านที่มีประมาณ 30 กว่าครอบครัว (ในตอนนั้น) ช่วยกันสร้างศาลาไม้ไผ่ไว้เป็นที่บำเพ็ญบุญและเป็นสถานที่พักของพระสงฆ์ ได้รับการบริจาคพื้นที่จากโรงบ่มใบยาเวียงแก้ว ชาวบ้านร่วมกันพัฒนาวัดสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ และได้รับพระราชวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2536 
  • จุดผ่อนปรนไทย-เมียนมา (พม่า) เป็นเหมือนกับด่านสำหรับข้ามไปมาของไทยกับเมียนมา ใช้เดินทางข้ามไปมาด้วยเรือเพื่อใช้ไปเรียนหนังสือหรือเพื่อการค้าขายของทั้งสองฝั่ง เปรียบเสมือนพื้นที่ของวิถีชีวิตที่ผูกพันของมิตรประเทศที่พรมแดนติดกันมาอย่างยาวนาน ตั้งอยู่บริเวณท่าบ้านปางห้า-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน เปิดปิดในเวลา 06.00-18.00 น. ของทุกวัน
  • บ้านสวนอุ้ยคำ เป็นบ้านพักสไตล์ล้านนาที่ตั้งอยู่ในชุมชนท่องเที่ยวปางห้าโฮมสเตย์ มีการออกแบบห้องพักสไตล์ล้านนาประยุกต์ท่ามกลางไม้พรรณนานาชนิด ตกแต่งด้วยของสะสมที่มาจากยุคเก่าที่ผ่านมาแล้วหลายสิบปี นอกจากนี้ยังมีการอนุรักษ์ของเก่าภายในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นยุ้งข้าวสมัยก่อนที่หาดูได้ยาก คนเหนือจะเรียกว่า หลองข้าว รวมถึง เรือโบราณ เรือลำแรกที่ใช้สัญจรไปมาที่จุดผ่อนปรนระหว่างหมู่บ้านปางห้าและหมู่บ้านป่ากุ๊ก เมืองพงษ์ ประเทศเมียนมาตอนยังไม่มีการแบ่งเขตชัดเจน

ทุนวัฒนธรรม

  • ประเพณี พิธีกรรม ความเชื่อ ชาวบ้านในหมู่บ้านปางห้า ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีส่วนน้อยที่นับถือศาสนาอื่น ดังนั้นความเชื่อของคนในหมู่บ้านก็จะเป็นไปตามแนวทางคำสอนของพระพุทธศาสนา เช่น เรื่องของกรรม บุญกุศล และมีความเชื่อในท้องถิ่นผสมผสานอยู่ด้วย เช่น การรักษาโรคด้วยพิธีกรรมท้องถิ่น เช่น การสงเคราะห์ การฮ้องขวัญ ขึ้นข้าวทั้งสี่ฯ ประเพณีในหมู่บ้านจะคล้าย ๆ กับหมู่บ้านล้านนาทั่ว ๆ ไป แต่จะมีประเพณีที่เป็นของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ ประเพณีที่เป็นของคนพื้นเมืองในหมู่บ้าน คือ งานบุญต่าง ๆ ประเพณีดำหัว (สงกรานต์) ประเพณีเลี้ยงป่อบ้าน สรงน้ำพระ ประเพณี 12 เป็ง ประเพณียี่เป็ง (ลอยกระทง) ตานข้าวใหม่สี่เป็ง
  • ภูมิปัญญาท้องถิ่น ชุมชนบ้านปางห้า เป็นชุมชนที่มีกลุ่มชาติพันธุ์อยู่อาศัยร่วมด้วยเป็นจำนวนหนึ่ง มีการแสดงของกลุ่มที่สะท้อนอัตลักษณ์ชุมชน เช่น ฟ้อนสาวไหมไทลื้อ ฟ้อนบอกรักปางห้า และฟ้อนสืบสานปางรัก โดยชุมชนท่องเที่ยวบ้านปางห้าจะจัดแสดงเป็นการต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือตามงานประเพณี พิธีต่าง ๆ
  • การแต่งกาย ชุมชนปางห้ามีการแต่งกายแบบคนพื้นเมืองล้านนาทั่วไป และมีการแต่งกายที่เป็นชุดแต่งกายประจำแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งจะพบเห็นเมื่อเวลามีงานบุญและประเพณีต่าง ๆ เช่น เทศกาลสงกรานต์ ประเพณีสรงน้ำพระธาตุ งานทำบุญเข้าพรรษา ออกพรรษา งานบุญที่วัด ประเพณีเดือนยี่เป็ง (ลอยกระทง) และมีการแต่งกายแบบสากลนิยมแบบคนภาคกลางมากขึ้นตามกระแสสังคมกลุ่มวัยรุ่น

ใช้ภาษาท้องถิ่นภาคเหนือ คือ ภาษาเหนือ ในการสื่อสารในชีวิตประจำวันเป็นหลัก และสามารถสื่อสารกับคนภาคอื่นด้วยภาษาไทยกลาง นอกจากนี้มีภาษาไทใหญ่ ไทลื้อ อาข่า พม่า ที่จะพูดคุยกันในกลุ่มของตัวเอง


ชุมชนบ้านปางห้าดึงจุดเด่นของชุมชนออกมาขายนักท่องเที่ยว โดยนำกิจกรรมจากภูมิปัญญาท้องถิ่นออกมาให้นักท่องเที่ยวเรียนรู้ มีบ้านพักโฮมสเตย์สำหรับพักผ่อน เป็นชุมชนท่องเที่ยวที่ดึงจุดเด่นความเป็นหมู่บ้าน กิจกรรมน่าสนใจอย่าง การทำกระดาษสา การตีมีด การหล่อเทียน ฯลฯ และผลิตภัณฑ์ในชุมชนเป็นของสิ่งเดียวในโลก คือ มาส์กใยไหมทองคำ (CEILK) ที่ทำจากน้ำลายของตัวไหม ผลิตเป็นเครื่องสำอางที่ทำจากชาวบ้านโดยตรง ส่งออกทั้งในและนอกประเทศ สร้างรายได้กำไรให้กับชุมชนบ้านปางห้าสูง

แม้ชุมชนบ้านปางห้าจะมีจุดเด่นเรื่องชุมชนท่องเที่ยว แต่เศรษฐกิจในหมู่บ้านอาจจะไม่ได้ดีทั่วถึง ชาวบ้านบางกลุ่มรายได้ไม่พอกับรายจ่ายในครอบครัว เช่น จากคลิปสัมภาษณ์ ที่นี่บ้านเรา เรียนรู้ชุมชนบ้านปางห้า คุณลุงดงแสง กล่าวว่า อาชีพตีมีดออกไปทำที่อื่นไม่ได้ ถ้าออกไปรายได้ทางนี้ก็ไม่มี ถ้ามีคนมาหาเขาจะไม่เจอเรา จำเป็นต้องอยู่บ้านตลอด บางครั้งเขาต้องการ เขาจะมาเวลาไหนเราก็ไม่รู้ ถ้าไม่อยู่ก็ไม่มีรายได้ และภรรยาคุณลุงดงแสงกล่าวต่อว่า ข้าวซอยน้อย ทำขายที่บ้าน ถ้าไม่มีคนมาซื้อก็จะใส่มอเตอร์ไซค์ไปขาย ถ้าคุณลุงอยู่บ้าน มีคนมาก็พอได้รายได้อยู่ ได้วันละ 100-200 ก็พอกิน แต่ก็ขัดสนนิดหน่อย พอมีเงินใช้บ้างไม่พอใช้บ้าง (ThaiPBS, 2565)


ชุมชนบ้านปางห้าอยู่ติดกับแม่น้ำรวกและแม่น้ำสาย เป็นพื้นที่รับน้ำโดยตรงตั้งอยู่บริเวณโค้งน้ำ เมื่อมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ ระบายได้ช้า ส่งผลต่อพื้นที่ทำการเกษตรในหมู่บ้าน

ชุมชนบ้านปางห้า ได้รับการคัดเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เป็นหนึ่งในสิบสถานที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเชียงราย โดยที่นี่เน้นการให้บริการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และยั่งยืน พร้อมเปิดประตูสู่ประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า โดยเฉพาะกระดาษสาที่ได้รับรางวัลกินรีทองคำ สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ในปี 2562 และผลิตภัณฑ์ใยไหมทองคำที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับในระดับนวัตกรรมทั้งในประเทศและทั่วโลก สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแค่เที่ยวได้ แต่ยังได้เรียนรู้ และสัมผัสคุณค่าของวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชุมชนอย่างแท้จริง

กระทรวงมหาดไทย. (ม.ป.ป.). จุดผ่านแดนบริเวณชายแดนไทย - เมียนมา. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2568. http://www.fad.moi.go.th/Point-of-Entry-Myanmar.pdf

กลุ่มกิจการพิเศษ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย. (2564). ชุมชนคุณธรรมบ้านปางห้า. สืบค้นเมื่อ 21 มกราคม 2568. https://anyflip.com/voqhu/vcnh/basic

ชนบทที่รัก. (ม.ป.ป.). ชุมชนปางห้าโฮมสเตย์ จ.เชียงราย. สืบค้นเมื่อ 21 มกราคม 2568. https://www.ชนบทที่รัก.com/pang-ha-homestay-community/

ฐากูร โกมารกุล ณ นคร. (2563.). บ้านปางห้า... ถิ่นฐาน บ้านไร่ และสายใยชีวิต. สืบค้นเมื่อ 23 มกราคม 2568. https://gridmag.safesavethai.com/bann-pang-ha/

ที่นี่บ้านเรา. (2565). เรียนรู้ชุมชนบ้านปางห้า. สืบค้นเมื่อ 23 มกราคม 2568. https://www.thaipbs.or.th/program/Banrao

สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง. (ม.ป.ป.). สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร(รายเดือน). สืบค้นเมื่อ 22 มกราคม 2568. https://stat.bora.dopa.go.th/stat/

เชียงใหม่นิวส์. (2566). จ.เชียงราย เปิดศูนย์ผ้าทอบ้านปางห้า ชูอัตลักษณ์ผ้าทอชนเผ่า 10 ชาติพันธุ์. สืบค้นเมื่อ 31 มกราคม. https://www.chiangmainews.co.th/กิจกรรมภาคเหนือ/

Chiangrai Focus. (2564). เที่ยวชุมชนทำกระดาษสา หมู่บ้านปางห้า อ.แม่สาย. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2568. https://www.chiangraifocus.com/

Chillpainai. (2562). บ้านสวนอุ้ยคำ วิถีชีวิตล้านนา แท้ๆ ที่รอคุณมาสัมผัส. สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2567. https://chillpainai.com/scoop/

Hello LOCAL. (ม.ป.ป.). ท่องเที่ยวชุมชนปางห้าโฮมสเตย์. สืบค้นเมื่อ 30 มกราคม 2568. https://www.hellolocal.asia/th/tour/pangha-homestay-2/

Jatuporn. (2563). บ้านปางห้า ท่องเที่ยวชุมชนวิถีล้านนา สร้างสรรค์กระดาษสาด้วยตัวเอง. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2568. https://jobschiangrai.com/html

News.ch7. (2567). รายงานพิเศษ : ชุมชนที่ถูกลืม ทนทุกข์น้ำท่วมกว่า 11 วัน จ.เชียงราย. สืบค้นเมื่อ 28 มกรารม 2567. https://news.ch7.com/detail/

Peeranat P. (2562). เล่าเรื่องม่วน ณ บ้านปางห้า จังหวัดเชียงราย. สืบค้นเมื่อ 31 มกราคม 2568. https://www.sanook.com/travel/

คุณธีรพล สุพรหม (ผู้ประสานงานการท่องเที่ยวชุมชน) โทร. 08-5032-3465