
ตลาดเก่าศาลายา ชุมชนเก่าแก่ที่เคยเปรียบเสมือนด่านหน้าของการเดินทางจากกรุงเทพมหานครเพื่อล่องเรือไปยังจังหวัดนครปฐม อดีตศูนย์กลางการค้าของตำบลศาลายาที่คึกคักตลอดทั้งวันคืน
ตลาดเก่าศาลายา ชุมชนเก่าแก่ที่เคยเปรียบเสมือนด่านหน้าของการเดินทางจากกรุงเทพมหานครเพื่อล่องเรือไปยังจังหวัดนครปฐม อดีตศูนย์กลางการค้าของตำบลศาลายาที่คึกคักตลอดทั้งวันคืน
ศาลายา เดิมเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ในมณฑลนครชัยศรี ไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัดว่าชุมชนในแถบนี้เริ่มมีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่เมื่อใด กระทั่งช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์เริ่มมีการบันทึกเกี่ยวกับชุมชนในย่านนี้ในฐานะที่เป็นเส้นทางการเดินทางจากพระนครไปยังเมืองต่าง ๆ ทางตะวันตก เช่น นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี เนื่องจากเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่เชื่อมต่อแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำท่าจีน โดยแต่เดิมจะใช้คลองโยงเป็นเส้นทางสัญจรหลัก ดังที่ปรากฏในนิราศพระประธมของสุนทรภู่ และนิราศของกวีในสมัยนั้นอีกหลายท่าน ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้า ฯ ให้มีการขุดคลองเจดีย์บูชา และคลองมหาสวัสดีขึ้นเพื่อความสะดวกสบายในการเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ในปี พ.ศ. 2398 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2403 ถือเป็นคลองที่มีความกว้างที่สุดในสมัยนั้น (ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อคลองจากมหาสวัสดีเป็นคลองมหาสวัสดิ์) นำมาสู่การตั้งถิ่นฐานของประชาชนตามแนวริมคลองที่ขุดใหม่สายนี้ ในระหว่างที่มีการขุดคลองมหาสวัสดิ์นั้นได้มีการสร้างศาลาไว้ริมทางเป็นระยะ ๆ ทุก 100 เส้น หรือประมาณ 4 กิโลเมตร (คลองมหาสวัสดิ์ยาวประมาณ 27 กิโลเมตรเศษ) โดยมีจำนวนศาลาทั้งสิ้น 7 หลัง
นิราศพระปฐม ของหลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์) ได้เรียกชื่อศาลาทั้ง 7 หลังเรียงตามลำดับว่า ศาลาหนึ่ง ศาลาสอง ไปจนถึงศาลาเจ็ด ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงบันทึกไว้ว่า เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ได้สั่งให้เขียนตำรายารักษาโรคต่าง ๆ ใส่แผ่นกระดานไว้เป็นกุศล คนจึงเรียกศาลานี้ว่า "ศาลายา" เป็นที่มาของชื่อศาลายาในปัจจุบัน ซึ่งต่อมาชื่อศาลายาได้กลายเป็นชื่อตำบลและชื่อสถานีรถไฟที่ผู้คนเรียกกันจนติดปาก โดยเป็นทางเชื่อมระหว่างเมืองเพื่อขนส่งสินค้าทางการเกษตร และขึ้นชื่อว่ามีเจ้านายหลายพระองค์เสด็จพระราชดำเนินผ่าน แสดงให้เห็นถึงหลักภูมิศาสตร์ที่ดีในการคมนาคม ซึ่งส่งผลให้ชุมชนศาลายาที่ตั้งอยู่ริมคลองมหาสวัสดิ์เปรียบเสมือนเมืองท่าศูนย์กลางที่มีการพัฒนาและเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ศาลายาส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีนที่มารับจ้างขุดคลอง หลังการขุดคลองแล้วเสร็จจึงพากันตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณริมคลอง ส่งผลให้บริเวณนี้มีความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยเริ่มมีการค้าขายกันในคลองก่อนเป็นลำดับแรก ก่อนจะเริ่มขึ้นมาค้าขายบนบก และตั้งเป็นตลาดเก่าศาลายาในทุกวันนี้
ต่อมาได้มีการสร้างวัดสาลวัน วัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายอันเป็นศาสนสถานที่ตั้งอยู่ตรงข้ามตลาดเก่าศาลายาเพียงข้ามคลอง นำมาสู่การค้าขายที่เป็นกิจจะลักษณะยิ่งขึ้น ต่อมามีการสร้างสถานีรถไฟศาลายา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับตลาดเก่าศาลายา เป็นผลทำให้การคมนาคมทางน้ำเริ่มบทบาทลดลง และเมื่อการคมนาคมทางบกสะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้ชุมชนตลาดเก่าศาลายาที่ตั้งอยู่ในละแวกของสถานีรถไฟศาลายามีความหนาแน่นและเจริญยิ่งขึ้น
กระทั่งช่วง พ.ศ. 2532 เป็นต้นมา เป็นยุคซบเซาของตลาดเก่าศาลายาซึ่งมีสาเหตุการสร้างถนนและการเปลี่ยนแปลงระบบการคมนาคมหลักเป็นถนน ส่งผลให้ตลาดเก่าศาลายาที่รุ่งเรืองจากการคมนาคมทางน้ำและระบบรางถูกลดความสำคัญลง อีกทั้งการก่อตั้งตลาดศาลายาหรือตลาดเหลืองยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นำความซบเซามาสู่ตลาดเก่าศาลายาอย่างแท้จริง ด้วยตลาดศาลายาตั้งอยู่ติดริมถนน และมีระบบขนส่งสาธารณะเข้าถึงได้ง่าย ทำให้ประชาชนหันไปใช้บริการตลาดศาลายาแทน ทำให้ตลาดเก่าศาลายาที่เคยคึกคักค่อย ๆ ซบเซาลงในปัจจุบัน
ชุมชนตลาดเก่าศาลายา ตั้งอยู่ในตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม มีอาณาเขต ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ คลองมหาสวัสดิ์
- ทิศใต้ ติดต่อกับ ซอยโยธาธิการ นครปฐม 2008
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ซอยสุขาภิบาล 11/1
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ซอยสุขาภิบาล 14/1
การใช้ประโยชน์อาคาร
1.อาคารเพื่อการอยู่อาศัย โดยส่วนใหญ่มักอยู่นอกบริเวณตลาดเก่าศาลายา เนื่องจากเป็นอาคารที่อยู่อาศัยจึงมักได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง โดยลักษณะอาคารส่วนใหญ่เป็นอาคารปูน หรือปูนผสมไม้ 1-2 ชั้น
2.อาคารเพื่อการพาณิชยกรรม อาคารที่ใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชยกรรมนั้นมักเป็นอาคารที่ตั้งอยู่ติดกับถนน เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายยา ซึ่งอาคารประเภทพาณิชยกรรมนั้นส่วนมากสร้างด้วยปูนและมีจำนวนชั้น 1-2 ชั้น
3.อาคารเพื่อการอยู่อาศัยกึ่งพาณิชยกรรม การใช้ประโยชน์อาคารในลักษณะนี้พบได้มากในบริเวณตลาดเก่าศาลายา เนื่องด้วยวิถีชีวิตแต่เดิมของประชาชนในตลาดเก่าศาลายาเป็นตลาดที่มักเปิดชั้นที่ 1 ของบ้านเป็นร้านค้าหรือบริการและใช้ชั้นที่ 2 ของตัวบ้านเป็นที่อยู่อาศัยและคลังสินค้า โดยส่วนใหญ่มักเป็นอาคารที่สร้างด้วยปูนในชั้นแรกและใช้ไม้ในชั้นที่ 2 แต่จะมีบางส่วนซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่ทั้งหลังใช้วัสดุเป็นไม้
4.อาคารเพื่อเป็นสถาบันราชการ สาธารณูปการและสาธารณูปโภค ในพื้นที่ชุมชนตลาดเก่าศาลายามีอาคารบริเวณหน้าทางเข้าตลาดเป็นอาคารที่เดิมทีเป็นที่ทำการราชการของผู้นำชุมชนไว้ใช้นัดประชุมชาวบ้าน ทั้งยังเคยเป็นที่ทำการของเทศบาลตำบลศาลายาเดิมก่อนจะย้ายไปที่ทำการใหม่ อาคารมีลักษณะเป็นอาคาร 1 ชั้น ครึ่งหน้าเป็นปูนครึ่งหลังเป็นไม้ แต่ปัจจุบันเนื่องจากไม่ได้ใช้ประโยชน์เป็นเวลานานทำให้อาคารดังกล่าวถูกทิ้งร้างและเสื่อมโทรมลง
ประชากรในชุมชนตลาดเก่าศาลายากลุ่มแรกเป็นชาวไทยในพื้นที่ใกล้เคียงที่ย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานภายในชุมชนช่วงการขุดคลองมหาสวัสดิ์ ในปี พ.ศ. 2402 ต่อมาได้มีการอพยพเข้ามาของชาวจีนเพื่อเข้ามาทำการค้าในตำบลศาลายา จังหวัดนครปฐม ชาวจีนส่วนใหญ่อพยพมาจากมณฑลแต้จิ๋ว กวางตุ้ง และซัวเถา นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่พลัดถิ่นเข้ามาตั้งถิ่นฐาน โดยส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวที่แต่งงานและย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนตามสามี
เมื่อมีการสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ กับนครปฐม ส่งผลให้การคมนาคมสะดวกขึ้น และเศรษฐกิจในนครปฐมเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง ผู้คนจึงหลั่งไหลเข้ามาจับจองพื้นที่ตั้งถิ่นฐาน เกิดเป็นชุมชนที่ขายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไปทั่วทั้งพื้นที่ในเขตศาลายา เพื่อเข้ามาค้าขายและแสวงหาโอกาสในการใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีความเจริญกันอย่างคับคั่ง ซึ่งกระจายกันอยู่ตามแหล่งการค้าต่าง ๆ ในบริเวณตลาดพระปฐมเจดีย์ บริเวณริมคลองมหาสวัสดิ์ และบริเวณชุมชนตลาดเก่าศาลายา ในระยะต่อมาพื้นที่บริเวณศาลายายังเป็นแหล่งที่ตั้งของหน่วยงานราชการเพิ่มเติมอีกหลายแห่ง มีการตั้งสถาบันการศึกษาเกิดขึ้นในพื้นที่ และมีการสร้างศูนย์การค้า ส่งผลให้กลุ่มประชากรในพื้นที่ศาลายามีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งกลุ่มผู้อยู่อาศัยเดิม ผู้ที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยทางเศรษฐกิจ กลุ่มการค้าการลงทุน เจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชน กลุ่มวัยทำงาน ลูกจ้าง และกลุ่มนักเรียนนักศึกษา
เดิมตลาดเก่าศาลายาเป็นพื้นที่แหล่งการค้าที่สำคัญ แต่ในปัจจุบันเศรษฐกิจของตลาดเก่าศาลายาซบเซาลงอย่างมาก สาเหตุหลักมาจากการคมนาคมทางบกที่สะดวกมากขึ้น ผู้คนหันมาใช้รถส่วนตัวแทนการขนส่งทางน้ำ ท่าเทียบเรือเก่าถูกปิด ส่งผลต่อการขนถ่ายสินค้า และด้วยต้นทุนการขนส่งทางบกที่สูงขึ้น การเข้าถึงตลาดที่ยากลำบาก และการเกิดขึ้นของตลาดศาลายาที่ทันสมัยและเข้าถึงได้ง่ายกว่า สินค้าในตลาดเก่าศาลายาจึงมีความหลากหลายน้อยลง เน้นไปที่สินค้าทั่วไป ทำให้ตลาดสูญเสียเอกลักษณ์และความโดดเด่น
ในปัจจุบันตลาดเก่าศาลายาจึงเปิดให้บริการหลัก ๆ แค่เพียงช่วงเช้า คือ ช่วงเวลาตี 5 ถึง 7 โมงเช้า เป็นเวลาที่บริเวณตลาดเก่าศาลายาจะมีร้านอาหารมาเปิดขายให้กับประชาชนที่กำลังเดินทางไปทำงานในช่วงเช้า แต่ก็ยังมีร้านค้าบางส่วนนี่เปิดทั้งวัน เช่น ร้านขายของชำ ร้านตัดผม เป็นต้น
ชุมชนตลาดเก่าศาลายาเป็นชุมชนชาวพุทธ ประชาชนส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชน มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่อยู่คู่กับคนในพื้นที่มาอย่างยาวนาน โดยมีวัดสำคัญที่อยู่คู่ชุมชนมาอย่างยาวนาน คือ วัดสาลวัน ที่อยู่ห่างกันเพียงสะพานข้ามคลอง
ภาษาพูด : ภาษาไทยกลาง ภาษาจีน
ภาษาเขียน : อักษรไทย
สภาพเศรษฐกิจของชุมชนตลาดเก่าศาลายาในปัจจุบันนับว่าซบเซาอย่างมาก กิจการร้านค้าต่าง ๆ ทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากการเปลี่ยนแปลงระบบคมนาคมจากการสัญจรทางน้ำเป็นการสัญจรทางบก ทำให้การพัฒนาส่วนใหญ่ถูกดึงไปบริเวณถนนใหญ่ ซึ่งตลาดเก่าศาลายาไม่ได้อยู่ติดกับถนนใหญ่ การพัฒนาพื้นที่จึงเป็นไปได้ยาก ทั้งยังต้องเผชิญกับภัยพิบัติน้ำท่วมขัง ทำให้สภาพอาคารบ้านเรือนและทัศนียภาพของชุมชนเกิดความเสื่อมโทรมลงจนไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ แม้จะมีการเข้าช่วยเหลือของหน่วยงานต่าง ๆ อยู่หลายครั้งในการพยายามจะฟื้นฟูตลาดเก่าศาลายาให้กลับมามีชีวิตชีวา แต่กลับไม่ประสบผลสำเร็จ ในท้ายที่สุดตลาดเก่าแก่ที่เคยเปิดตลอด 24 ชั่วโมง กลับเหลือแค่เพียงช่วงเช้า ตี 5 ถึง 7 โมงเช้าเท่านั้น
ด้วยบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบอย่างมากต่อชุมชนตลาดเก่าศาลายาในปัจจุบัน ผู้ที่เคยอาศัยอยู่ในตลาดเก่าศาลายาได้ย้ายถิ่นฐานและกิจการค้าขายไปอยู่บริเวณอื่น ๆ เช่น ตลาดใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้กับที่ตั้งใหม่ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง ทั้งยังเป็นบริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น ส่งผลให้ผู้คนในตลาดเก่าศาลายาเกิดการพลัดถิ่นอันเนื่องมาจากการย้ายถิ่นฐาน นอกจากนี้บริบททางสังคมยังนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงของระบบครอบครัว เดิมทีนั้นประชาชนในชุมชนตลาดเก่าศาลายาจะอาศัยอยู่รวมกันเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ แต่ในระยะหลังกลับพบเป็นครอบครัวขนาดเล็ก เนื่องจากบุตรหลานได้ย้ายถิ่นฐานออกไปประกอบอาชีพ หรือสร้างบ้านที่ถิ่นอื่น เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดการละทิ้งพื้นที่ ละเลยที่จะดูแล รักษาอัตลักษณ์อันงดงามของชุมชน นอกจากนี้เมื่อผู้เฒ่าผู้แก่ล้มหายตายจากไป ความสัมพันธ์ของคนรุ่นลูกหลานก็เริ่มห่างเหินกันจากการที่ไม่มีพื้นที่ให้ได้มาพบปะหรือสร้างปฏิสัมพันธ์ กระทั่งในปัจจุบันสภาพสังคมของชุมชนตลาดเก่าศาลายาจึงมีลักษณะต่างคนต่างอยู่มากกว่าการถ้อยทีถ้อยอาศัยดังที่เคยเป็น
กนกพรรณ แย้มเดช. (2566). การพัฒนาพื้นที่ชุมชนตลาดเก่าศาลายา จังหวัดนครปฐม. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง.
ตลาดเก่า ศาลายา. (16 มิถุนายน 2555). [ภาพเก่า วิถีชีวิตผู้คนตลาดเก่าศาลายา]. สืบค้น 19 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/
ปิติ มณีเนตร. (2554). รายงานการวิจัยอัตลักษณ์สถาปัตยกรรมภายใน กรณีศึกษา ชุมชนริมคลองมหาสวัสดิ์ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
ปิติมนัส บรรลือ. (2553). รายงานการวิจัยโครงการวิจัยและพัฒนาสื่อวิดิทัศน์ปลูกจิตสำนึกรักบ้านเกิด ชุมชนตลาดเก่าศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
สมรักษ์ ชัยสิงห์กานานนท์. (2549). ตลาดในชีวิต ชีวิตในตลาด. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร.
สุวิมล ณ ตะกั่วทุ่ง. (2535). ตลาดบก ย่านชุมชนแห่งนครสยาม. เมืองโบราณ.
ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศคณะสงฆ์ภาค 14. (2564). วัดสาลวัน. สืบค้น 19 มีนาคม 2568, จาก https://www.sangha14.org/
GoGoTown. (ม.ป.ป.). สถานีรถไฟศาลายา. สืบค้น 19 มีนาคม 2568, จาก https://gogo.town/route/