
ชุมชนบ้านบางเทาเป็นชุมชนชาติพันธุ์ ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามที่ยังคงแบบแผนการดำเนินชีวิตตามบัญญัติของศาสนาอย่างเคร่งครัด และเป็นชุมชนมุสลิมที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในจังหวัดภูเก็ต
บ้านบางเทา ปรากฏข้อสันนิษฐานความเป็นมาของชื่อชุมชน ดังนี้
- ชื่อ “บางเทา” มีข้อสันนิษฐาน ว่ามาจาก “ต้นไม้” ชื่อ “ต้นเทา” ที่ขึ้น ปกคลุมบริเวณสองฝั่งคลองมีลักษณะคล้ายต้นไทร ลำต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาไปรอบ ๆ ทำให้บริเวณนี้มีอากาศร่มรื่น ดังนั้นผู้คนที่ผ่านไปมาจึงเรียกขานหมู่บ้านแห่งนี้ว่า “คลองต้นเทา” หรือ “บางต้นเทา” ซึ่ง “บางเทา” คลองบางเทา มีต้นน้ำไหลมาจาก “น้ำตกเหนือโตน” ไหลผ่านมัสยิดเก่าและมัสยิดใหม่ออกทะเลบริเวณหาดบางเทา
- ชื่อ “บางเทา” มีข้อสันนิษฐาน ว่ามาจากการทำเหมืองแร่ดีบุกบริเวณน้ำตกเหนือโตน ซึ่งน้ำจากการล้างแร่ มีสีขุ่นเทาไหลลงบาง (คลอง) จึงเรียก บางเทา
- ชื่อ “บางเทา” มีข้อสันนิษฐาน บ้านบางเทา ในอดีตสภาพหมู่บ้านที่มีลำคลองขนาดใหญ่ไหลผ่านชาวบ้านเรียกว่า “บาง” ลำคลองแห่งนี้ในอดีตมีความเจริญด้านการค้า เพราะมีเรือสำเภาจากต่างประเทศเข้ามาค้าขายสินค้า ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า ในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้มีคนขุดพบแร่ทองคำจำนวนมาก จนเป็นที่เรียกขานของคนทั่วไปว่า “บ้านบางทอง” และได้เรียกเพี้ยนมาเป็น “บ้านบางเทา” จนถึงปัจจุบัน
ชุมชนบ้านบางเทาเป็นชุมชนชาติพันธุ์ ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามที่ยังคงแบบแผนการดำเนินชีวิตตามบัญญัติของศาสนาอย่างเคร่งครัด และเป็นชุมชนมุสลิมที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในจังหวัดภูเก็ต
ชุมชนบางเทา มีอายุประมาณ 200 ปี คาดว่าก่อตั้งเป็นชุมชนหลังศึกถลาง กลุ่มที่ตั้งถิ่นฐานแรกเริ่มของชุมชนเป็นคนในท้องถิ่นซึ่งแต่เดิมนั้นมีชาวท้องถิ่นอาศัยอยู่บ้าง ต่อมามีบางส่วนอพยพมาจากอาเจ๊ะ เกาะสุมาตราประเทศอินโดนีเซีย ผู้ที่เดินทางเข้ามาตั้งถิ่นฐานมีผู้นำศาสนาอิสลามมาด้วยคือ ต้นตระกูลคหาปนะและต้นตระกูลจำปาดะ ต่อมามีบางส่วนมาจากมาเลย์ ปากีสถาน และอื่น ๆ เมื่อเข้ามาได้ทำการประกอบอาชีพประมงเพราะอ่าวบางเทามีที่จอดเรือที่สามารถหลบลมหลบฝนได้ ขณะที่บางส่วนประกอบอาชีพเหมืองแร่ ค้าขาย เกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรมจากการแต่งงานกระทั่งเป็นบางเทาเป็นชุมชนชาติพันธุ์มุสลิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภูเก็ต
อย่างไรก็ดีในทางเศรษฐกิจชุมชนบ้านบางเทาผนวกตนเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบทุนนิยมโลกจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ดีบุกด้านฝั่งอันดามันที่รุ่งเรืองอย่างถึงขีดสุด สมาชิกในชุมชนจำนวนไม่น้อยต่างก็มีประสบการณ์เศรษฐกิจเหมืองแร่ทั้ง “การร่อนแร่” โดยใช้ “เลียง” อุปกรณ์พื้นบ้านทำจากไม้รูปทรงคล้ายกระทะรวมถึง “การทำเหมืองแร่ในทะเล” โดยใช้เรือ ขุดแร่บริหน้าอ่าวบางเทา อ่าวเชิงทะเล และอ่าวกมลา กระทั่งสิ้นสุดของยุคเหมืองแร่ และเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกระทั่งปัจจุบัน ทุกวันนี้บ้านบางเทาก็ยังผนวกตนเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายใต้กระแสของทุนโลกเช่นเดียวกับอดีตในยุคอุตสาหกรรมเหมืองแร่
หมู่บ้านบางเทา ตั้งอยู่ที่ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ห่างจากอำเภอถลางไปทางทิศเหนือ ประมาณ 8 กิโลเมตร พื้นที่ของหมู่บ้านทั้งหมด 1,500 ไร่
- ทิศตะวันออก ติดกับ ภูเขา
- ทิศใต้ ติดกับ ตำบลกมลา
- ทิศตะวันตก ติดกับ ทะเลอันดามัน
- ทิศเหนือ ติดกับ เทศบาลเชิงทะเล
หมู่บ้านบางเทา แบ่งพื้นที่เป็นบางเทานอก บางเทาในและบางเทาใต้ โดยมีขอบเขตดังนี้
- บางเทานอก บริเวณจาก อบต.เชิงทะเล ถึงบ้านสารวัตรกำนันประทีป ประกอบด้วย เกาะค้างคาว ในเหมือง โหนขี้ทราย บ้านตากแดด นอกหนน สาเหตุที่เรียกว่า บางเทานอก เพราะว่าพื้นที่อยู่ด้านนอกติดกับทางออกนอกหมู่บ้าน
- บางเทาใน หรือ ในบ้าน เป็นชุมชนดั้งเดิมของหมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านเหนือ เหนือโตนและนอกนา
- บ้านใต้ เริ่มตั้งแต่ รร.บางเทา ถึงหาดสุรินทร์ ประกอบด้วย นอกเล พลายโหนด (หาดสุรินทร์) ลุ่มเฟื่อง ควนกลาง ควนตาหนู
ชุมชมบางเทามีลักษณะของพื้นที่ประกอบด้วยแนวชายฝั่งทะเลและภูเขา หรือสามารถกล่าวได้ว่าด้านหลังติดภูเขาและด้านหน้าติดทะเล ภูเขาในพื้นที่ทอดตัวแนวเหนือใต้ขนานกับชายฝั่งทะเล ลักษณะภูมิประเทศเป็นชายหาดแนวยาวที่มีลักษณะเป็นอ่าวเว้ารวมถึง เกาะและแหลม ได้แก่ อ่าวบางเทา เกาะกระทะ เกาะแวะ แหลมสิงห์ บริเวณบางเทามีหาดทราย 4 หาด คือ หาดแหลมสิงห์ หาดสุรินทร์ หาดบางเทา และหาดลายัน
ภูมิอากาศอากาศแบบร้อนชื้น มี 2 ฤดู คือ ฤดูฝนกับฤดูร้อน ซึ่งฤดูฝนคนในพื้นที่เรียกว่า “หน้าโยก” คือ ลมพัดแรงทะเลมีคลื่นสูงในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม เป็นช่วงนักท่องเที่ยวจะไม่นิยมท่องเที่ยว ชาวบ้านจะเรียกว่า หน้าโลว์ หรือ (Low Season) ช่วงนี้สมาชิกในชุมชนบางส่วนเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น เช่น ทำสวน หรือ ทำประมงชายฝั่ง และฤดูท่องเที่ยว คือ ช่วงหน้าไฮน์ (Hi Season) ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดภูเก็ตจำนวนมากนำรายได้มาสู่คนในพื้นที่
ชุมชนบางเทา เป็นชุมชนมุสลิม 100 เปอร์เซ็นต์ ความสัมพันธ์ของชุมชนบางเทาเปรียบเสมือน “ครอบครัวใหญ่” เมื่อพบเจอมักจะทักทายกันถามสารทุกข์สุขดิบกันแบบคนในครอบครัว ฉะนั้นการถามว่า “เป็นลูกใคร” “หลานใคร” จะสามารถสืบได้ถึงพ่อ แม่ ผู้ปกครอง หรือนับญาติกันได้ ชุมชนบางเทาประกอบด้วยนามสกุลที่พบมากดังนี้
- จำปาดะ
- คหาปนะ
- มานะบุตร
- เกราะเหล็ก
- สาเหล่
- ปะหนัน
- เชื้อสมัน
- สำราญ
- พันธ์ฉลาด
กลุ่มอาชีพในชุมชนบ้านบางเทามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือกันและกันของสมาชิกในชุมชนทั้งด้านการสร้างอาชีพ การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ การดูแลสุขภาพ การจัดหาเงินทุน เช่น กลุ่มน้ำพริกเกาะค้างคาว สมาชิกสร้างรายได้จากการขายน้ำพริก โดยกลุ่มเริ่มจากการทำน้ำพริกเพื่อมากินข้าวร่วมกันทุกคนเห็นว่ามีรสชาติดี จึงลงความเห็นร่วมกันว่า ควรสร้างกลุ่มทำน้ำพริกขายเพื่อสร้างรายได้ จากนั้นมีการพัฒนาสูตรและรูปแบบผลิตภัณฑ์กระทั่งได้รับรางวัลสินค้าชุมชน ปัจจุบันกลุ่มนี้มีความเข้มแข็งมากพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดเวลา ซึ่งน้ำพริกสูตรใหม่ที่คิดค้นและจะผลิตเพื่อจำหน่ายคือ น้ำพริกสัปปะรด โดยใช้วัตถุดิบสัปปะรดภูเก็ตเป็นส่วนประกอบสำคัญและสาเหตุที่เรียกว่า “กลุ่มน้ำพริกเกาะค้างคาว” เพราะสมัยก่อนบริเวณที่ตั้งของกลุ่มเป็นพื้นที่การทำนามีต้นตาลขึ้นกระจายไปทั่วทำให้มีค้างคาวจำนวนมากมาเกาะที่ต้นตาล ชาวบ้านจึงเรียกพื้นที่บริเวณนี้ว่า "เกาะค้างคาว" และเมื่อลูกตาลสุกก็นำลูกตาลมาบีบให้เละเพื่อใช้ทำขนมตาลขายในชุมชน
ปฏิทินกิจกรรมของชุมชนบ้านบางเทามีความสัมพันธ์กับศาสนาอิสลาม ในรอบปีชุมชนจัดงงานสำคัญคือ
- “วันอีด” หมายถึง รื่นเริง เฉลิมฉลอง หรือ “ตรุษ” ประกอบด้วย “วันตรุษอีดิ้ลฟิตร” และ “วันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา” เป็นวันรื่นเริงของพี่น้องมุสลิม ซึ่งชาวบางเทาได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างช้านาน ใน “วันอีด” มีมหกรรมวันอีด จัดโดยกลุ่มโดยเยาวชนในพื้นที่ เพื่อให้คนในชุมชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้รื่นเริงสนุกสนาน ในรูปแบบฮาลาลร่วมกันภายในชุมชน
- วันตรุษอีดิ้ลฟิตร หรือวันออกบวช หลังจากการถือศีลอด ในวันนี้มุสลิมชำระล้างร่างกายให้สะอาด สวมใส่ชุดสวยงามประกอบศาสนกิจที่มัสยิด หลังจากเสร็จพิธีกรรมทางศาสนาสมาชิกทุกคนในครอบครัวร่วมกันรับประทานอาหารหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันในหมู่เครือญาติ และเป็นวันที่สมาชิกในครอบครัวและชุมชนให้ให้อภัยซึ่งกันและกัน หากปฏิบัติต่อกันไม่เหมาะสมในห้วงที่ผ่านมา
- วันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา หรือ วันกุรบาน เป็นวันที่มุสลิมชุมชนบางเทาและมุสลิมทั่วโลก ประกอบพิธีกรรมเชือดสัตว์เพื่อพลีทาน โดยมัสยิดประกาศเชิญชวนสมาชิกในชุมชนที่สามารถเป็นเจ้าภาพบริจาคเงินเพื่อซื้อวัว มาใช้ในพิธีกรรมซึ่งเนื้อวัวจากการประกอบพิธีกรรมมีการแจกจ่ายไปยังสมาชิกในชุมชน
- พิธีเข้าสุนัต การขลิบที่ปลายอวัยวะเพศชายของเด็กชาวมุสลิมเพื่อความสะอาด และในรอบปีชุมชนมีการจัดให้เด็กที่สามารถเข้าร่วมในพิธีกรรมได้ มาใช้บริการกับทีมแพทย์ที่ทางหน่วยงาน องค์การบริหารส่วนตำบล เชิงทะเลจัดเตรียมไว้ การทำกิจกรรมจัดแบ่งเป็น 2 วัน ในช่วงเดือนเมษายน เพราะเป็นช่วงที่โรงเรียนปิดเทอม โดยวันแรกของพิธีเป็นการนำเด็ก ๆ ไปท่องเที่ยวเพื่อให้ผ่อนคลาย วันที่ 2 เป็นวันที่จัดพิธี
1. นายยุโสป สำราญ : ผู้เชี่ยวชาญการทำพิธีโกนผม ขึ้นเปลเด็กในชุมชนอดีตอิหม่ามมัสยิด
2. นายสมุทร สาเหล่ : บิหลั่นประจำมัสยิด (บิหลั่น หมายถึง ผู้อาซาน หรือผู้เรียกร้องผู้คนให้มาละหมาดที่มัสยิด)
3. วิลาส สมาน : ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ อัล-อิสลามียะห์ กรรมการอิสลามประจำมัสยิด
ทุนของชุมชนบ้านบางเทาสามารถจำแนกได้ทั้งทุนทางภาพ ทุนทางชีวภาพ ทุนทางวัฒนธรรมและทุนมนุษย์ ทุนดังกล่าวมีบทบาทและส่งเสริมให้ชุมชนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่สมาชิกในชุมชน
ทุนกายภาพ ลักษณะภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นชายหาดและอ่าว ส่งเสริมให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวแก่ชุมชน ถ้าหากย้อนกลับไปยังอดีตลักษณะทางกายภาพเอื้อให้เกิดการสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เมื่อหมดยุคเหมืองแร่ดีบุกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเข้ามาแทนที่ก็ยังเอื้อให้ชุมชนสร้างรายได้จากทรัพยากรธรรมชาติ
ทุนชีวภาพ ความอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพของบ้านบางเทาสามารถไล่เรียงจากพื้นที่ท้องทะเลที่อุดมด้วยสัตว์ทะเลนานาชนิด กระทั่งไต่ระดับความสูงถึงภูเขาที่วางตัวแนวเหนือใต้ทางตะวันออกของหมู่บ้านที่เอื้อต่อพืชพรรณนานาชนิดที่ชุมชนนำมาเป็นอาหาร และการเพาะปลูกพืชทั้งพืชเศรษฐกิจ เช่น ยางพารา รวมทั้งสวนผลไม้ที่ผลิตผลนำมาค้าขายในชุมชน เช่น จำปาดะ สัปปะรด ทุเรียนบ้าน
ทุนวัฒนธรรม บ้านบางเทาเป็นชุมชนมุสลิมที่สมาชิกของชุมชนปฏิบัติตนตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด ดังนั้นศาสนาจึงเป็นที่มาของภูมิปัญญาที่สำคัญของชุมชน เช่น ภูมิปัญญาพิธีสุนัต ที่สัมพันธ์กับด้านสุขอนามัย ภูมิปัญญาการขึ้นเปลของมุสลิม ที่สัมพันธ์กับการดูแลเอาใจใส่บุตรหลาน ภูมิปัญญาจากการละหมาดที่เป็นอุบายเพื่อให้เกิดการทำจิตใจให้มีสมาธิ ภูมิปัญญาการแบ่งปันและการให้ที่ซ่อนอยู่ในการซักกาด เป็นต้น ความเข้มแข็งและจุดแข็งของชุมชนบ้านบางเทาด้านศาสนา ในฐานะที่ศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตส่งเสริมให้ชุมชนสามารถรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือกันและกันเพราะความเป็นพี่น้องทางศาสนา
ตลาดนัดในฐานะทุนทางวัฒนธรรม พื้นที่ทางสังคมที่สมาชิกในชุมชนบ้านบางเทา ผู้คนละแวกใกล้เคียงรวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาพักอาศัยในบริเวณหาดสุรินทร์ หาดบางเทา และหาดกมลา มาปะทะสังสรรค์ทางสังคมร่วมกัน เช่น ตลาดนัด โรงเรียน ที่ตั้งของกลุ่มอาชีพ กุโบร์หรือสุสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดนัด เป็นพื้นที่ทางสังคมที่กล่าวได้ว่านี่คือเสน่ห์ของชุมชนบ้านบางเทาที่คนในชุมชนบ้านบางเทา ชุมชนละแวกใกล้เคียง นักท่องเที่ยว มักมาจับจ่ายซื้อของอย่างไม่ขาดสายเพราะราคาไม่แพงอาหารรสชาติดี และหากเป็นอาหารทะเลมีความสด เพราะได้มาจากชุมชนประมงพื้นบ้านในพื้นที่ ตลาดนัดในชุมชนมี 3 จุด คือ
- ตลาดนัดหมู่บ้านบางเทา เป็นตลาดนัดลำดับแรกของชุมชน เปิดตลาดวันพุธและวันศุกร์
- ตลาดนัดนอกเล เป็นตลาดนัดลำดับสองของชุมชน เปิดตลาดวันอังคารและวันศุกร์
- ตลาดนัดหลังโลตัส เป็นตลาดนัดหลังสุด เปิดตลาดวันจันทร์และวันพฤหัสบดี
ภาษาพื้นถิ่นภาคใต้ภูเก็ต
การขยายตัวของเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากหลากหลายวัฒนธรรม รวมถึงผู้คนหลากหลายที่ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นเข้ามาทำงานและพักอาศัยทั้งในและรอบชุมชนบ้านบางเทา ส่งผลให้รูปแบบการดำรงชีวิตของผู้คนมีความแตกต่างหลากหลาย ทว่าชุมชนบ้านบางเทาซึ่งเป็นชุมชนมุสลิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต ยังสามารถดำรงอัตลักษณ์วัฒนธรรมอิสลามได้ท่ามกลางความหลากหลายโดยเฉพาะ “อาหาร” ที่ยังคงความเป็น “อาหารฮาลาล” และ “ชุมชนอาหารฮาลาล” ซึ่งแม้แต่ร้านสะดวกซื้อรวมถึงร้านค้าในชุมชนก็ไม่ขายอาหารที่ทำจากเนื้อสุกรและสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอร์
ความท้าทายจากเศรษฐกิจทางการท่องเที่ยวที่รายรอบชุมชนบ้านบางเทานี้ ทำให้ชุมชนเล็งเห็นถึง “การสร้างมูลค่า” จาก “ทุนวัฒนธรรมด้านอาหาร” โดยเฉพาะ “อาหารฮาลาล” ที่มีร้านค้ากระจายทั่วไปในชุมชน และอาหารที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของท้องถิ่นทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และอาหารที่เกี่ยวข้องกับประเพณีทางศาสนาอิสลาม อาทิ แกงแพะ ข้าวยำ ขนมเดือน ขนมก้านบัว น้ำพริกเกาะค้างคาว เป็นต้น อาหารเหล่านี้ถึงแม้ว่าพื้นที่อื่นหรือชุมชนอื่นจะมีการทำอาหารในลักษณะคล้าย ๆ กัน ทว่ารสชาติ วัตถุดิบ หรือสูตรการทำอาหาร ก็มีความเฉพาะถิ่นที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์อาหารมุสลิมบ้านบางเทา
กลุ่มในชุมชนเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่เน้นด้านอาหารจึงเล็งเห็นว่าควรร่วมกันส่งเสริมวัฒนธรรมอาหาร เพื่อยกระดับให้ชุมชนบ้านบางเทาเป็น “ชุมชนอาหารฮาลาลภูเก็ต” ในอีกด้านหนึ่งเป็นการส่งเสริมให้ทุนวัฒนธรรมของชุมชนสามารถสร้างมูลค่า เพื่อให้สมาชิกในชุมชนได้รับประโยชน์จากทุนวัฒนธรรมของชุมชน
ชุมชนบ้านบางเทามีการปะทะประสานและมีความยืดหยุ่นทางวัฒนธรรมในการอยู่ร่วมกับความเปลี่ยนแปลง ดังกลุ่มเยาวชนบ้านบางเทาที่ก่อตั้งโดยองค์การบริการส่วนตำบลเชิงทะเล ชื่อ "กลุ่มชาบ๊าบ" ในด้านหนึ่งเป็นเสมือนการสร้างผู้นำทางวัฒนธรรมรุ่นใหม่ในชุมชนเยาวชนกลุ่มนี้มีการร่วมกันทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน
กลุ่มเยาวชนมีการใช้ทุนทางวัฒนธรรมที่เกิดจากการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีด้านการค้าออนไลน์ ด้านการกีฬา ด้านศิลปะ มาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนทั้งในกลุ่มผู้อาวุโส และกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ในชุมชนบ้านบางเทา เช่น การสร้างช่องทางค้าขายออนไลน์ให้ผู้ค้ารายย่อยในกลุ่มค้าออนไลน์ชื่ออันดามันฮาลาล ออนไลน์ ดังกรณีของพ่อค้าไก่ทอดรถเข็นในบ้านบางเทา ร้านขายกาแฟเล็ก ๆ ของวัยรุ่นในชุมชน ผู้ประกอบการแฮมเบอร์เกอร์โฮมเมด (homemade) โดยการสร้างช่องทางการค้าออนไลน์โดยไม่คิดมูลค่า
การใช้เทคโนโลยีในการสร้างให้เกิดมูลค่านี้ ด้านหนึ่งก็เป็นเครื่องมือในการปะทะประสานและมีความสำคัญในการเชื่อมโยงให้เกิดการอยู่ได้ อยู่ดี อยู่เด่นของชุมชนด้วยวัฒนธรรมชุมชนที่มีความสมสมัย ในท่ามกลางสภาพการณ์ของการปะทะประสานและความยืดหยุ่นในความเป็นชุมชนชาติพันธุ์มุสลิมบ้านบางเทากับความเป็นชุมชนเมือง/สังคมสมัยใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ทางเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรมให้ทั้งกับคนรุ่นพ่อ แม่ รวมถึงกลุ่มเยาวชนในชุมชนสามารถดำรงชีวิตได้ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง
ธำรงค์ บริเวธานันท์. (2565). โครงการการสำรวจเก็บข้อมูลชุมชนเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านทุนวัฒนธรรมกรณีชุมชนภาคใต้ (ชุมชนบ้านบางเทา ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต) : รายงานฉบับสมบูรณ์. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).
สำนักบริหารงานทะเบียน กรมการปกครอง. สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน), (ออนไลน์). 2556, สืบค้นจาก https://stat.bora.dopa.go.th/