
บ้านกล้อทอ ชุมชนปกาเกอะญอบนยอดดอยสูงในอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก หมู่บ้านที่รุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งนำมาสู่การพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาที่มีอยู่ให้เกิดเป็นมูลค่า สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์สินค้า "ผ้าทอจอมป่า" จากผืนป่าตะวันตก บ้านกล้อทอ
กล้อทอ เป็นภาษาปกาเกอะญอ โดยคำว่า "กล้อ" มีความหมายว่า "วัว" ส่วนคำว่า "ทอ" มีความหมายว่า "ยาว" โดยรวมคำว่า "กล้อทอ" ในภาษาปกาเกอะญอหมายความว่า "มีวัวเป็นทางยาว" โดยมีการสันนิษฐานว่าหมู่บ้านแห่งนี้คงเคยมีการเลี้ยงวัวเป็นจำนวนมาก หรืออาจเคยเป็นตลาดค้าวัวในอดีต
บ้านกล้อทอ ชุมชนปกาเกอะญอบนยอดดอยสูงในอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก หมู่บ้านที่รุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งนำมาสู่การพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาที่มีอยู่ให้เกิดเป็นมูลค่า สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์สินค้า "ผ้าทอจอมป่า" จากผืนป่าตะวันตก บ้านกล้อทอ
ในอดีตหมู่บ้านกล้อทอเคยเป็นหมู่บ้านร้าง เนื่องจากเกิดโรคระบาดร้ายแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ต่อมามีชาวปกาเกอะญอสองคน คือ พือโหย่พะโด้ และพือโหย่โพ ได้อพยพมาจากทางตอนเหนือบริเวณลำน้ำสาละวิน ทั้งสองเป็นผู้มีความรู้ด้านอาคมและมีความสามารถในการใช้อาวุธดาบเป็นอย่างดี ทั้งคู่ได้ทำพิธีผูกเสี่ยวหรือการเป็นสหายร่วมสาบาน และร่วมกันสร้างหมู่บ้านกล้อทอขึ้นมา โดยพือโหย่พะโด้เป็นผู้สร้างหมู่บ้านทางฝั่งตะวันออกของลำห้วยกล้อทอบริเวณเขาวงศ์พระจันทร์ และได้สร้างวัดประจำหมู่บ้านในบริเวณดังกล่าว ส่วนพือโหย่โพได้สร้างหมู่บ้านทางฝั่งตะวันตก และได้สร้างวัดพม่าขึ้นในหมู่บ้าน โดยอัญเชิญพระสงฆ์จากหมู่บ้านสะโถ่ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตประเทศพม่าเข้ามาประจำวัด ต่อมาได้เกิดโรคระบาดขึ้นอีกครั้ง ทำให้ต้องอพยพออกจากหมู่บ้านชั่วคราว เมื่อสถานการณ์กลับคืนสู่ปกติ ประชาชนจึงได้อพยพกลับมาและมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังมีผู้คนจากหมู่บ้านใกล้เคียงอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะราษฎรจากหมู่บ้านจะกะหวะ และหมู่บ้านชุกะลี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตประเทศพม่า ส่งผลให้จำนวนประชากรในหมู่บ้านกล้อทอเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันหมู่บ้านกล้อทอตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของลำห้วยกล้อทอ และประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวปกาเกอะญอที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนไว้ โดยที่ของชื่อหมู่บ้าน "กล้อทอ" นั้นมาจากคำว่า "กล้อทอ" ในภาษาปกาเกอะญอ โดย "กล้อ" หมายถึง "วัว" และ "ทอ" หมายถึง "ยาว" เมื่อนำมารวมกันจึงมีความหมายว่า "มีวัวเป็นทางยาว" เนื่องจากในอดีตพื้นที่แห่งนี้อาจเคยเป็นศูนย์กลางการเลี้ยงวัวหรือเป็นตลาดค้าขายวัวที่สำคัญ
ลักษณะภูมิประเทศ
บ้านกล้อทอตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก อยู่ในเขตการปกครองของเทศบาลตำบลแม่จัน มีตำแหน่งที่ตั้งทางเหนือสุดในพื้นที่ตำบลแม่จัน ตั้งอยู่ทางตะวันตกของอำเภออุ้มผาง ห่างจากที่ว่าการอำเภออุ้มผาง ประมาณ 45 กิโลเมตรโดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1288 คุ้มผาง-เปิ่งเคลิ่ง และห่างจากศาลากลางจังหวัดตาก ประมาณ 290 กิโลเมตรอยู่ห่างจากชายแดนประเทศสหภาพเมียนมาประมาณ 5 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในที่ราบสูงหุบเขา มีภูเขารายรอบหมู่บ้านในทุก ๆ ด้าน มีการทำการเกษตรในพื้นที่เชิงเขา พื้นที่หุบเขาที่เป็นพื้นที่ราบใช้เป็นที่อยู่อาศัยและที่นา เทือกเขาส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน ซึ่งมีความหนาของชั้นดินที่ตื้น บางพื้นที่มีลักษณะเป็นโพงถ้ำ บางพื้นที่มีลักษณะเป็นช่องว่าง หุบเขามีน้ำท่วมขังจนกลายเป็นหนองน้ำภายในหมู่บ้าน มีการสันนิษฐานว่าอาจเคยเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ดับไปแล้ว มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี และมีน้ำผุดออกมาจากถ้ำใต้น้ำ พื้นที่ภูเขาภายใน พื้นที่เป็นป่าโปร่ง ป่าดงดิบ มีแหล่งน้ำสำคัญคือ ลำห้วยกล้อทอ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของหมู่บ้าน และเป็นต้นน้ำของน้ำตกทีลอซู ซึ่งมีต้นกำเนิดจากบริเวณถ้ำน้ำ ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ทางด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน ห่างไปประมาณ 5 กิโลเมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี
บ้านกล้อทอ อยู่ในระดับความสูงประมาณ 700-800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะภูมิประเทศเหมาะสมสำหรับการทำการเกษตรในพื้นที่สูง พื้นที่ส่วนใหญ่ในหมู่บ้านกล้อทอเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รองลงมาเป็นพื้นที่บริเวณทำนาในช่วงฤดูทำนา หลังจากฤดูการทำนา จะปลูกพริกกะเหรี่ยง และพืชอื่น ๆ พื้นที่หมู่บ้านกล้อทอบางส่วนอยู่ในเขตพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเขตผืนป่าตะวันตก พื้นที่มรดกโลก จึงทำให้หมู่บ้านกล้อทอเหมาะสมกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตามธรรมชาติ
ลักษณะทางภูมิอากาศ
บ้านกล้อทอมีลักษณะภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยทั่วไปมีภูมิอากาศทั้ง 3 ฤดูกาล ทั้งฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ซึ่งฤดูร้อน อากาศจะร้อนมีเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เฉพาะในช่วงเดือนเมษายนเพียง 1 เดือนเท่านั้น ฤดูฝนจะมีฝนที่ตกซุกมาก ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากยังมีป่าไม้ที่ยังค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ สำหรับช่วงฤดูหนาวจะมีอากาศที่หนาวจัด ช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนมีนาคมของทุกปี โดยภาพรวมแล้วสภาพอากาศที่นี่จะค่อนข้างเย็นและเปียกชื้นตลอดทั้งปี มีละอองฝนลักษณะคล้ายหมอก ในช่วงฤดูฝนจะไม่ค่อยได้รับแสงแดด
สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 2 บ้านกล้อทอ ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 4,134 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 1,455 คน ประชากรหญิง 2,090 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 1,043 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567) ประชาชนในหมู่บ้านเป็นชาวปกาเกอะญอ
ปกาเกอะญอบ้านกล้อทอเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย พึ่งพาอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวนาและชาวไร่ โดยปลูกพืชผลทางการเกษตรที่สำคัญ เช่น ข้าว ข้าวไร่ ข้าวโพด ถั่วเหลือง และพริก อาชีพเกษตรกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งรายได้หลักของชุมชน แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่
นอกจากการเกษตรแล้ว ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่ประกอบอาชีพค้าขาย โดยร้านค้าส่วนใหญ่มักเดินทางไปซื้อสินค้าจากอำเภอแม่สอดมาจำหน่ายในหมู่บ้าน สินค้าที่นำมาขายนั้นมีความหลากหลาย ครอบคลุมทั้งอาหารสด เช่น เนื้อหมู ไก่ ผักสด และลูกชิ้น อาหารแห้ง เช่น เกลือ ปลาเค็ม เครื่องปรุงรส และขนม รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน อาทิ สบู่ แป้ง ยาสีฟัน ผงซักฟอก นอกจากนี้ยังมีสินค้าทางการเกษตร เช่น อุปกรณ์ทำไร่ เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง รวมไปถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่จำหน่ายในรูปแบบปั๊มหลอด อีกหนึ่งอาชีพที่พบในหมู่บ้านคือการรับจ้างทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานภายในพื้นที่ชุมชนเอง งานเหล่านี้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจในท้องถิ่น เพราะช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมและสามารถดำรงชีพได้อย่างมั่นคง
จากอาชีพหลักที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าชาวบ้านกล้อทอยังคงดำเนินชีวิตไปตามวิถีดั้งเดิมที่อิงกับการเกษตรเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็มีการค้าขายและการรับจ้างเป็นทางเลือกในการสร้างรายได้เสริม แม้ว่าจะเป็นชุมชนเล็ก ๆ แต่ก็มีระบบเศรษฐกิจที่เกื้อกูลกันและสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นเสน่ห์ของวิถีชีวิตในชนบทที่ยังคงคุณค่าและความสำคัญมาจนถึงปัจจุบัน
กลุ่มองค์กรในชุมชน
- กลุ่มกองทุนเงินล้าน
- กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะลิ
- กลุ่มเกษตรกรบ้านกล้อทอ
- กลุ่มผู้เลี้ยงโค-กระบือบ้านกล้อทอ
- กลุ่มร้านค้า
- กลุ่มไม้กวาด
- กลุ่มทอผ้า
- กลุ่มแม่บ้านบ้านกล้อทอ
- กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) บ้านกล้อทอ
- กลุ่มอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) บ้านกล้อทอ
- กลุ่มชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)
- กลุ่มเยาวชนบ้านกล้อทอ
บ้านกล้อทอเป็นหมู่บ้านที่มีความหลากหลายทางศาสนาและประเพณี ซึ่งสะท้อนถึงความกลมกลืนในวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มีการผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์ พร้อมทั้งมีการสืบทอดประเพณีดั้งเดิมของชาวปกาเกอะญอ ในเรื่องของศาสนา บ้านกล้อทอมีประชากรส่วนใหญ่ที่นับถือศาสนาพุทธประมาณ 80% และศาสนาคริสต์ประมาณ 20% โดยในพื้นที่หมู่บ้านมีสถานที่สำคัญทางศาสนาหลายแห่ง รวมถึงวัดและคริสตจักรที่สะท้อนถึงความเชื่อและการปฏิบัติทางศาสนาของชุมชน
ศาสนาพุทธ ในหมู่บ้านกล้อทอมีสำนักสงฆ์ 2 แห่ง ได้แก่
- สำนักสงฆ์เขาวงศ์พระจันทร์ เป็นสำนักสงฆ์ที่มีพระสงฆ์นิกายธรรมกาย ซึ่งมีกิจกรรมทางศาสนาที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญทางพุทธศาสนา และกิจกรรมที่มาจากศูนย์ธรรมกาย
- สำนักสงฆ์ไตรรงค์คีรี เป็นวัดพม่าที่มีวิถีปฏิบัติแบบพุทธศาสนาพม่า โดยมีบทสวดภาษาบาลีแต่ทำนองแบบพม่า และการปฏิบัติที่เป็นเอกลักษณ์
ศาสนาคริสต์
- คริสตจักรเซเวนธ์เดย์แอ็ดเวนติส มีกิจกรรมทางศาสนาในวันเสาร์
- คริสตจักรกะเหรี่ยงแบ๊บติสท์แม่จัน มีกิจกรรมทางศาสนาในวันอาทิตย์ โดยจัดโครงการ "พัฒนาเด็กคริสตจักรแม่จัน" เพื่อช่วยเหลือเด็กในชุมชน
ประเพณีของบ้านกล้อทอ บ้านกล้อทอมีการสืบทอดประเพณีทั้งจากศาสนาพุทธและประเพณีดั้งเดิมของชาวปกาเกอะญอ โดยการแบ่งประเพณีออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาและประเพณีของชาวปกาเกอะญอดั้งเดิม
ประเพณีทางพุทธศาสนา
- วันสำคัญทางพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา ชาวบ้านจะทำบุญตักบาตรและจุดเทียนที่พระธาตุ
- การทอตุง เป็นประเพณีที่สำคัญในช่วงออกพรรษา โดยชาวบ้านจะร่วมกันทอตุงและเปลี่ยนตุงผืนเก่าที่พระธาตุในวัด
- ตักบาตรเทโวโรหณะ เป็นประเพณีหลังวันออกพรรษา
นอกจากนี้ยังมีประเพณีดั้งเดิมของชาวปกาเกอะญอที่มีการสืบทอดประเพณีที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตและอาชีพการเกษตร โดยในแต่ละเดือนจะมีพิธีกรรมที่แตกต่างกันไปตามเดือนต่าง ๆ ซึ่งเชื่อมโยงกับการทำการเกษตรและการปฏิบัติชีวิตประจำวัน ดังนี้
1.เดือนมกราคม หรือเตอะเหล่ เป็นเดือนที่ชาวปกาเกอะญอจะจัดพิธีทำบุญให้กับบรรพบุรุษและญาติพี่น้องที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อแสดงความระลึกถึงความดีที่ได้ทำในชีวิต และขอให้ดวงวิญญาณได้ไปสู่สุคติ พิธีนี้จะจัดขึ้นทุกปีในเดือนเตอะเหล่ ซึ่งตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 3 ค่ำ โดยในช่วงนี้ชาวบ้านจะร่วมกันทำบุญจัดอาหารและสวดมนต์ร่วมกันตลอด 3 วัน 3 คืน
พิธีเริ่มต้นด้วยการทำบุญและอธิษฐานเพื่อส่งดวงวิญญาณไปสู่ภพภูมิที่ดี การทำบุญนี้จะมีการใช้เทียนไขขี้ผึ้ง 2 เล่ม และข้าวปลาอาหารต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ในจานเพื่อนำไปให้กับคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ในพิธีจะมีการร้องเพลงจากกลุ่มหนุ่มสาวในหมู่บ้านที่แต่งกายชุดพื้นเมือง พร้อมกับการเล่นกระทบไม้และร้องเพลงที่ชี้ทิศทางทั้ง 4 ทิศ เพื่อเสริมสร้างความศรัทธาและความเชื่อในวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ
พิธีนี้ยังมีการสร้างเตอะเหล่ (ศาลเพียงตา) ซึ่งมีลักษณะคล้ายบ้าน โดยจะนำเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตมาฉีกให้ขาดแล้วใส่ไว้ในศาลนี้ เพื่อเป็นการเคารพและระลึกถึงผู้ที่จากไป นอกจากนี้ยังมีการทำพิธีส่งบุญนก หรือเซอท้อโท้ ซึ่งเป็นการบูชานกที่ถือเป็นการเชื่อมโยงกับเทวดาในตำนานของชาวปกาเกอะญอ โดยในพิธีนี้จะมีการหุงข้าวและอาหารต่าง ๆ เพื่อส่งบุญไปยังนก โดยเชื่อว่าเมื่อทำเช่นนี้จะช่วยให้การเกษตรในปีนั้นอุดมสมบูรณ์
หลังจากพิธีส่งบุญนกแล้ว ชาวบ้านจะทำพิธีอ้อบือซอโค๊ะหรือพิธีการกินข้าวใหม่ เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จสิ้น โดยในพิธีนี้ชาวบ้านจะร่วมกันหาหอย ปู กุ้ง ปลาก้าง ตุ่น และอ้น เพื่อมาทำอาหารร่วมกัน ทั้งนี้จะมีการร้องเพลงและการละเล่นต่าง ๆ
ในช่วงเดือนเตอะเหล่ ชาวปกาเกอะญอจะมีผูกข้อมือเพื่อเรียกขวัญบ้านใหม่ เพื่อเสริมสร้างความสุขและความเจริญให้กับทุกคนในหมู่บ้าน การทำกิจกรรมนี้จะทำกันทั้งหมู่บ้านตลอด 3 วัน 3 คืน ถือเป็นกิจกรรมใหญ่ที่แสดงถึงความสามัคคีและความเคารพต่อบรรพบุรุษ รวมถึงความเชื่อในวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอที่ยังคงยึดมั่นในประเพณีดั้งเดิม
2.เดือนกุมภาพันธ์ หรือเคแผะ ในเดือนนี้เป็นช่วงเวลาที่จะหาพื้นที่ทำกินใหม่ของชาวปกาเกอะญอ ตามวิถีการทำการเกษตรแบบไร่หมุนเวียน และจะมีการทำนายทายทักว่าจะหาที่ทำกินใหม่ที่ไหนดี ไปตรวจดูว่าที่ทำไร่ใหม่นั้นดีหรือไม่ โดยมีอุปกรณ์ในการทำพิธีกรรม คือ ไม้ไผ่ที่ตัดความยาว 1 วา เมื่อได้ที่ที่เหมาะสมแล้ว เจ้าของที่ก็จะแผ้วถางพื้นที่นั้น โดยจะตัดต้นไม้ที่เล็กที่สุดก่อนไปหาต้นที่ใหญ่ที่สุดทีหลัง
3.เดือนมีนาคม หรือเคกู่ ในช่วงเดือนเคกู่ ผู้ชายในหมู่บ้านจะไปเข้าไร่ที่ได้ดูไว้เมื่อเดือนที่แล้ว จะไปเอาแรงช่วยกัน ตัดต้นไม้ใหญ่ในไร่ เพื่อเอาไว้เป็นฟืน และเมื่อตัดเสร็จแล้วก็จะตากแห้งไว้ 1 เดือนที่ไร่ จนถึงเดือนเมษายน เมื่อแห้งแล้วจึงเผา เพื่อที่จะเตรียมพื้นที่ ที่จะปลูกพืชต่อไป
เดือนเคกู่เป็นช่วงสงกรานต์ของพระฤๅษี ถือว่าเป็นเทศกาลสงกรานต์ดั้งเดิมของชาวปกาเกอะญอ มีการทำบุญเจดีย์ทรายตั้งแต่วันขึ้น 8 ค่ำ ไปจนถึงขึ้น 14 ค่ำ ในคืนสุดท้ายมีกิจกรรมมากมายอย่างคึกคัก กลุ่มคนหนุ่มสาวก็จะมาตีกลองร้องเพลงทำบุญเจดีย์กัน มีการแข่งขันกันร้องเพลงกลอนตอบโต้กัน และรับประทานอาหารร่วมกัน
4.เดือนเมษายน หรือตาลา หรืออีกชื่อว่าเดือนลาเซอ เป็นเดือนเผาไฟ หรือเดือนส่งไฟ เพราะในเดือนนี้ชาวปกาเกอะญอจะเผาไร่ ในเดือนตาลานี้เมื่อเข้าสู่วันที่ 13-15 เมษายนของทุกปี จะเป็นวันสงกรานต์ คนในหมู่บ้านจะมีพิธีกรรมทั่วไปที่เหมือนคนในพื้นราบ คือจะมีการเล่นน้ำสงกรานต์ มีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ สรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำพระเจดีย์ สรงน้ำพระสงฆ์ในวัด แล้วก็จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติมิตรที่ล่วงลับไปแล้ว และในช่วงนี้ชาวบ้านก็จะทอตุง เพื่อเปลี่ยนตุงผืนเก่าที่นำมาปักไว้เมื่อออกพรรษาที่ผ่านมา ตอนกลางคืนชาวบ้านก็จะเอาน้ำส้มป่อยพรมตุง เจดีย์ และพระพุทธรูป และมีการละเล่นในช่วงกลางคืน
5.เดือนพฤษภาคม หรืเด๊ะญาลา เป็นเดือนที่ชาวบ้านจะเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ซ่อมแซมเครื่องไม้เครื่องมือให้ใช้งานได้ดี เตรียมเมล็ดพันธุ์ คัดเลือกกล้าพันธุ์ที่ดีในการปลูกพืช และในช่วงเดือนนี้ผักในป่าก็เริ่มแตกใบอ่อน เริ่มมีหน่อไม้ขึ้น ชาวบ้านก็จะเก็บผักป่าหาหน่อไม้มารับประทาน
ในช่วงเดือนนี้จะมีพิธีทำบุญต้นไทรในวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งตรงกับช่วงวันวิสาขบูชา โดยชาวบ้านจะเอาน้ำส้มป่อยไปพรมที่ต้นไทร แล้วเอาไม้ง่ามไปค้ำที่ต้นไทรคนละ 1 อัน เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์
6.เดือนมิถุนายน หรือลานุย จะเริ่มลงพืช ลงเมล็ดพันธุ์
7.เดือนกรกฎาคม หรือลาโขะ เป็นช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ชาวพุทธทุกครอบครัวจะเข้าไปทำบุญที่วัด ถวายเทียนพรรษาให้พระภิกษุ สามเณรใช้ในช่วงเข้าพรรษา ผู้ชายชาวพุทธในหมู่บ้านที่มีอายุ 21 ปี ที่สามารถบวชพระได้ ก็จะบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ 1 พรรษา ในทุกวันพระในช่วงเข้าพรรษา คนเฒ่าคนแก่จะถือศีล 8 และไปนอนวัด ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ชาวบ้านในหมู่บ้านกล้อทอจะจัดประเพณีแห่เทียนพรรษา โดยมีขบวนแห่เทียนพรรษา เดินไปรอบ ๆ หมู่บ้าน แล้วไปถวายเทียนพรรษาที่สำนักสงฆ์
8.เดือนสิงหาคม หรือลาขุ ลาขุ เป็นชื่อเรียกพิธีกรรมที่สำคัญที่สุดของชาวปกาเกอะญอ เป็นพิธีผูกข้อมือเรียกขวัญ หรือการบายศรีสู่ขวัญ (กี้จือลาขุ) ชาวปกาเกอะญอในหมู่บ้านกล้อทอจะพร้อมเพรียงกันจัดกิจกรรมใหญ่ประจำปี มีการร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน ดื่มเหล้าต้ม มีการเตรียมอาหารคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะต้องอยู่บ้านในช่วงเดือนลาขุ ทุกคนในหมู่บ้านจะขอพรจากคนเฒ่าคนแก่ มีการบรรเลงเพลงโดยใช้กลองเหล็กตี กลองยาว เป่าปี่ควายและร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน ในเดือนลาขุนี้ทางหมู่บ้านและทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติด้วย
9.เดือนกันยายน หรืฉิมื่อ ในเดือนฉิมื่นนี้ชาวบ้านจะไปถางหญ้าในไร่ โดยจะลงแขกช่วยกันหมุนเวียนทำไปทุก ๆ ไร่ และจะมีพิธีทำบุญเรือ (หม่าบุคลี) โดยชาวบ้านจะร่วมกันสร้างเรือ แล้วยกเอาเรือไปไว้ที่วัด จากนั้นจะนำเอาผลไม้ ขนมต่าง ๆ ไปใส่ในเรือ แล้วนำเรือไปถวายพระสงฆ์ เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีเสร็จแล้วชาวบ้านจะนำเรือนั้นไปปล่อยในแม่น้ำหรือในหนองน้ำในเวลากลางคืน
10.เดือนตุลาคม หรือฉิชะ เป็นเดือนออกพรรษา ชาวปกาเกอะญอจะตักเอาข้าวที่ตักครั้งแรกไปทำบุญที่เจดีย์ และในวันวันนี้จะมีการแห่ตุง เปลี่ยนผืนตุงผืนใหม่แทนตุงเก่าที่ตั้งขึ้นเมื่อเดือนเมษายน
11.เดือนพฤศจิกายน หรือลานอ เป็นช่วงเวลาที่ข้าวไร่ออกรวง ชาวไร่ชาวนาก็จะช่วยลงมือลงแรงลงแขกกันเกี่ยวข้าวหมุนเวียนไปทุก ๆ แปลง ช่วงลานอนั้นมีประเพณีลอยกระทง โดยในหมู่บ้านกล้อทอนั้นทางเทศบาลตำบลแม่จันจะจัดงานประเพณีลอยกระทงกันที่หมู่บ้านกล้อทอ จะมีงานรื่นเริง มีการประกวดกระทงกัน
12.เดือนธันวาคม หรือลาปลื่อ หากบ้านไหนมีคนตายภายในปีนี้ ญาติจะเก็บถุงย่าม หรือเสื้อผ้าคนตายไว้แล้วเอาไปทำบุญพร้อมกันในเดือนนี้ และช่วงนี้ชาวบ้านก็จะจัดงานวันพ่อแห่งชาติ ต่อด้วยเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ศูนย์เรียนรู้โครงการผ้าทอจอมป่า บ้านกล้อทอ
ศูนย์เรียนรู้โครงการผ้าทอจอมป่า บ้านกล้อทอ เป็นแหล่งศึกษาและอนุรักษ์ศิลปะการทอผ้าแบบดั้งเดิมของชาวปกาเกอะญอ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น การทอผ้าถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของวัฒนธรรมปกาเกอะญอ โดยสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อ วิถีชีวิต และความสัมพันธ์ของชุมชนกับธรรมชาติ ผ้าทอของชาวปกาเกอะญอมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ มีจุดเด่นอยู่ที่กระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม ตั้งแต่การปลูกฝ้าย การย้อมสีด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ ไปจนถึงการทอมือที่ใช้เทคนิคซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น การเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต และความนิยมในการใช้เสื้อผ้าสำเร็จรูป ส่งผลให้การทอผ้าแบบดั้งเดิมลดลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อปัญหาดังกล่าว ชุมชนบ้านกล้อทอได้ริเริ่มโครงการ "ศูนย์เรียนรู้ผ้าทอจอมป่า" ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อฟื้นฟูและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการทอผ้า ส่งเสริมการสร้างงานให้กับคนในชุมชน และพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผ้าทอให้เหมาะสมกับตลาดสมัยใหม่
ความสำคัญต่อชุมชน
- อนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้า ศึกษาและรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับการทอผ้าของชาวปกาเกอะญอ ถ่ายทอดเทคนิคการปลูกฝ้าย การย้อมสีจากพืชธรรมชาติ และการทอผ้าแบบดั้งเดิม
- ส่งเสริมการสร้างอาชีพและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มสตรีในชุมชน ตลอดจนพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์จากผ้าทอให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
- เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวชุมชน จัดกิจกรรมเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการทอผ้า เพื่อให้ความรู้แก่เยาวชนและผู้ที่สนใจ และพัฒนาเป็นศูนย์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาและสัมผัสกระบวนการทอผ้า
- สร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในการสนับสนุนการอนุรักษ์และพัฒนาศิลปะการทอผ้า และพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ลักษณะเด่นของผ้าทอจอมป่า
- การใช้เส้นใยธรรมชาติ ผ้าทอผลิตจากฝ้ายที่ปลูกในพื้นที่โดยไม่ใช้สารเคมี ส่งเสริมแนวทางการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- การย้อมสีจากพืชธรรมชาติ ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น เปลือกไม้ ใบไม้ และดอกไม้ เพื่อให้ได้สีที่เป็นเอกลักษณ์และปลอดสารพิษ
- ลวดลายที่สะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ลวดลายที่ทอขึ้นมามีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เช่น ลายที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และลายที่สื่อถึงความเชื่อทางจิตวิญญาณของชาวปกาเกอะญอ
ศูนย์เรียนรู้ผ้าทอจอมป่า ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งอนุรักษ์ศิลปะการทอผ้า แต่ยังเป็นสถานที่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเรียนรู้และสัมผัสวัฒนธรรมปกาเกอะญอผ่านกระบวนการทอผ้าแบบดั้งเดิม นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การปั่นฝ้าย การย้อมสีธรรมชาติ และการทอผ้าด้วยตนเอง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ช่วยสร้างความเข้าใจและการตระหนักถึงคุณค่าของศิลปะการทอผ้าในบริบทของสังคมร่วมสมัย กิจกรรมที่จัดขึ้นภายในศูนย์เรียนรู้ ได้แก่ การสาธิตและอบรมเทคนิคการทอผ้า กิจกรรมเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการย้อมสีธรรมชาติ การจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของการทอผ้าของชาวปกาเกอะญอ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผ้าทอ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน
ปัจจุบันศูนย์เรียนรู้โครงการผ้าทอจอมป่า บ้านกล้อทอ เป็นศูนย์กลางสำคัญในการอนุรักษ์และฟื้นฟูวัฒนธรรมการทอผ้าของชาวปกาเกอะญอ โดยมีบทบาททั้งในด้านการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น การสร้างอาชีพ และการเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาศึกษาและสัมผัสกับศิลปะการทอผ้าแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ ศูนย์แห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและสร้างความยั่งยืนให้กับวัฒนธรรมการทอผ้าของชาวปกาเกอะญอให้คงอยู่ต่อ
ภาษาพูด : ปกาเกอะญอ ภาษาไทยถิ่นเหนือ ภาษาไทยกลาง
ภาษาเขียน : อักษรโรมัน อักษรขาว อักษรไทย
บ้านกล้อทอเคยเป็นแหล่งผลิตผ้าทอที่มีชื่อเสียง ผลิตภัณฑ์ผ้าทอจากบ้านกล้อทอได้รับการยอมรับในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ส่งผลให้การผลิตผ้าทอเริ่มลดลง เนื่องจากการผลิตที่ไม่สามารถแข่งขันกับเทคโนโลยีการทอผ้าที่มีราคาถูกกว่าและรวดเร็วกว่า ในขณะเดียวกันพื้นที่เกษตรกรรมที่เคยใช้ในการปลูกฝ้ายซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการทอผ้าก็เริ่มลดลง ทำให้ชุมชนต้องเผชิญกับการขาดแคลนวัตถุดิบและการพึ่งพิงการท่องเที่ยวแทนการค้าผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน
ชุมชนบ้านกล้อทอได้เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากร เนื่องจากคนรุ่นใหม่จำนวนมากได้ย้ายไปทำงานในเมืองหรือภาคอุตสาหกรรม สถานการณ์นี้ทำให้แรงงานในชุมชนลดลงและการถ่ายทอดภูมิปัญญาการทอผ้าจากรุ่นสู่รุ่นเริ่มห่างเหิน อย่างไรก็ตาม บางกลุ่มในชุมชนยังคงพยายามรักษาและส่งเสริมการทอผ้าในฐานะมรดกทางวัฒนธรรม
ดอยพระพุทธบาท บ้านกล้อทอ
ดอยพระพุทธบาท บ้านกล้อทอ เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชนปกาเกอะญอในอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก นอกจากจะเป็นสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทิวทัศน์สวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความเงียบสงบและความงดงามของธรรมชาติท่ามกลางขุนเขา เนื่องจากพื้นที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลหลายร้อยเมตร ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของป่าเขาและสายหมอกยามเช้าได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว พื้นที่โดยรอบเป็นป่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งพันธุ์ไม้หายากและสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
ดอยพระพุทธบาทเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านกล้อทอให้ความเคารพและศรัทธา เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่เคยมีรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่ จึงได้รับการบูรณะและพัฒนาให้เป็นจุดสักการบูชา ภายในพื้นที่มีศาสนสถานและรูปเคารพทางพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีกรรมสำคัญของชุมชน เช่น พิธีทำบุญประจำปี พิธีแห่ผ้าห่มพระพุทธบาท การบวชป่าเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ นอกจากนี้ ดอยพระพุทธบาทยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญนิยมเดินทางมาเพื่อปฏิบัติธรรมและสวดมนต์ เนื่องจากบรรยากาศที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยพลังแห่งศรัทธา
ดอยพระพุทธบาทได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สำคัญของบ้านกล้อทอ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปสัมผัสกับบรรยากาศของป่าเขาและเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอในพื้นที่ การท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น บริการนำเที่ยวโดยไกด์ท้องถิ่น การจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถกรรมพื้นเมือง เช่น ผ้าทอและเครื่องประดับจากวัสดุธรรมชาติ การให้บริการที่พักแบบโฮมสเตย์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน
การพัฒนาดอยพระพุทธบาทเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชน ขณะเดียวกันก็ช่วยปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมให้แก่คนในพื้นที่ ดอยพระพุทธบาท บ้านกล้อทอ ถือเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทั้งในด้านศาสนา วัฒนธรรม และธรรมชาติ ชุมชนบ้านกล้อทอให้ความสำคัญกับการรักษาสถานที่แห่งนี้ให้คงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ทั้งในแง่ของความศักดิ์สิทธิ์และความงดงามของธรรมชาติ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ดอยพระพุทธบาทยังคงเป็นแหล่งศรัทธาและเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าประทับใจของผู้มาเยือนตลอดไป
พิรุณห์ ด้วงรัก. (2555). ผลกระทบจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ต่อสภาพเศรษฐกิจของชุมชน: กรณีศึกษา: บ้านกล้อทอ ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์.
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร. (29 ตุลาคม 2561). ผ้าทอจอมป่า ผลิตภัณฑ์ชุมชน ในผืนป่าตะวันตก. สืบค้น 25 มีนาคม 2568, จาก https://www.seub.or.th/
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร. (7 ธันวาคม 2565). จากอุ้มผาง สู่แม่จัน การเดินทางบนสายใยผ้าทอ. สืบค้น 25 มีนาคม 2568, จาก https://www.seub.or.th/
ผ้าทอ จอมป่า - ผลิตภัณฑ์ชุมชนในผืนป่าตะวันตก. (15 ตุลาคม 2567). สินค้าเข้าใหม่จ้า. สืบค้น 15 มีนาคม 2568, จาก
ผ้าทอ จอมป่า - ผลิตภัณฑ์ชุมชนในผืนป่าตะวันตก. (27 เมษายน 2568). สินค้า “ผ้าทอจอมป่า”. สืบค้น 15 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/
ผ้าทอ จอมป่า - ผลิตภัณฑ์ชุมชนในผืนป่าตะวันตก. (24 พฤษภาคม 2568). สินค้าเข้าใหม่จ้า. สืบค้น 15 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. (ม.ป.ป.). บ้านกล้อทอ. สืบค้น 25 มีนาคม 2568, จาก https://communityarchive.sac.or.th/
SANOOK. (22 ตุลาคม 2561). ปลายฝน-ต้นหนาวนี้ เดินทางมาห่มหมอกด้วยกัน ได้ที่จุดชมวิวดอยพระพุทธบาท จ.ตาก. สืบค้น 25 มีนาคม 2568, จาก https://www.sanook.com/