Advance search

ชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต และการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน จุดเด่นของชุมชนแห่งนี้สะท้อนผ่านการอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่น ภูมิปัญญาพื้นบ้าน และรูปแบบการใช้ชีวิตที่ยังคงรักษาความเป็นดั้งเดิมไว้

หมู่ที่ 3,7,8,10 และ 16
ชุมชนสายยาว
ถลุงเหล็ก
เมืองบุรีรัมย์
บุรีรัมย์
อบต. ถลุงเหล็ก โทร. 0 3670 8801
ฤชุอร เกษรมาลา
27 ก.พ. 2025
วิไลวรรณ เดชดอนบม
28 มี.ค. 2025
สายยาว


ชุมชนชนบท

ชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต และการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน จุดเด่นของชุมชนแห่งนี้สะท้อนผ่านการอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่น ภูมิปัญญาพื้นบ้าน และรูปแบบการใช้ชีวิตที่ยังคงรักษาความเป็นดั้งเดิมไว้

ชุมชนสายยาว
หมู่ที่ 3,7,8,10 และ 16
ถลุงเหล็ก
เมืองบุรีรัมย์
บุรีรัมย์
3100
15.111718
103.066470
องค์การบริหารส่วนตำบลถลุงเหล็ก

ในปี พ.ศ. 2493 กลุ่มประชาชนจากอำเภอศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ และอำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ได้อพยพเข้ามาจับจองพื้นที่บริเวณที่มีสภาพดินอุดมสมบูรณ์และแหล่งน้ำอันเหมาะสมสำหรับการตั้งถิ่นฐานและประกอบอาชีพ เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม พบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีป่าทึบขึ้นอยู่หนาแน่นและมีเครือเถาวัลย์ปกคลุมอยู่ทั่วไป ต่อมาบริเวณนี้ได้รับการเรียกขานจากชาวบ้านว่า "หนองเครือ" และได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งหมู่บ้าน  

ภายหลังจากการตั้งถิ่นฐาน ประชากรได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของชุมชน จนกระทั่งมีการจัดตั้งเป็นห้าหมู่บ้าน ได้แก่  

1. บ้านโนนศิลา หมู่ที่ 3  

2. บ้านสำราญราษฎร์ หมู่ที่ 7  

3. บ้านเสม็ดราษฎร์ หมู่ที่ 8  

4. บ้านหนองเครือ หมู่ที่ 10  

5. บ้านโนนสำราญ หมู่ที่ 16  

หมู่บ้านทั้งห้าแห่งนี้ตั้งอยู่เรียงต่อเนื่องกันจากทิศตะวันตกไปจนถึงทิศตะวันออก เป็นระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร โดยมีลำดับการเรียงตัวของชุมชนเริ่มจากบ้านเสม็ดราษฎร์ หมู่ที่ 8 ตามด้วยบ้านสำราญราษฎร์ หมู่ที่ 7 บ้านโนนสำราญ หมู่ที่ 16 บ้านหนองเครือ หมู่ที่ 10 และบ้านโนนศิลา หมู่ที่ 3  

หมู่บ้านทั้งห้านี้ถูกเรียกรวมกันว่า "ชุมชนสายยาว" ซึ่งสะท้อนถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของผู้คนในชุมชน ที่เปรียบเสมือนเครือญาติเดียวกัน ชุมชนแห่งนี้มีรากฐานมาจากบรรพบุรุษที่ร่วมกันก่อตั้งหมู่บ้าน และได้สืบทอดวิถีชีวิตและวัฒนธรรมมาจนถึงปัจจุบัน สายสัมพันธ์ระหว่างประชากรในพื้นที่มีความเข้มแข็งดุจเกลียวเถาวัลย์ที่ร้อยรัดเชื่อมโยงกัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชุมชน นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ชุมชนสายยาว ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 17 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 2074 สายบุรีรัมย์ - พุทไธสง โดยสามารถเข้าถึงชุมชนได้โดยการเลี้ยวขวาบริเวณกิโลเมตรที่ 14-15 ซึ่งเป็นแยกด้านหน้าของที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลถลุงเหล็ก  

ขอบเขตที่ตั้งของชุมชนสายยาว

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านหนองผักแว่น หมู่ที่ 5 ตำบลถลุงเหล็ก 
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลกลันทา อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ 
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านถลุงเหล็ก หมู่ที่ 1 ตำบลถลุงเหล็ก 
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลพระครู อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์  

ลักษณะภูมิประเทศของชุมชนสายยาวมีความลาดเทจากทางด้านทิศเหนือไปทางทิศใต้ ส่งผลให้ในช่วงฤดูฝน น้ำฝนจะไหลลงไปสู่บริเวณห้วยตาแป้นและห้วยยาง ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของชุมชน

ชุมชนสายยาวเป็นกลุ่มหมู่บ้านที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นทั้งในด้านเครือญาติและวิถีชีวิตของประชากร โดยมีการบริหารจัดการภายในชุมชนอย่างเป็นระบบและมีการแบ่งเขตการปกครองชัดเจน ทำให้สามารถพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย 5 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 3 บ้านโนนศิลา หมู่ที่ 7 บ้านสำราญราษฎร์ หมู่ที่ 8 บ้านเสม็ดราษฎร์ หมู่ที่ 10 บ้านหนองเครือ หมู่ที่ 16 บ้านโนนสำราญ โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรทั้ง 5 หมู่บ้าน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567) ดังนี้

หมู่ที่ 3 บ้านโนนศิลา ตำบลถลุงเหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 314 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 163 คน ประชากรหญิง 151 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 94 หลังคาเรือน

หมู่ที่ 7 บ้านสำราญราษฎร์ ตำบลถลุงเหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์  มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 359 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 182 คน ประชากรหญิง 177 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 103 หลังคาเรือน

หมู่ที่ 8 บ้านเสม็ดราษฎร์ ตำบลถลุงเหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์  มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 275 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 141 คน ประชากรหญิง 134 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 103 หลังคาเรือน

หมู่ที่ 10 บ้านหนองเครือ ตำบลถลุงเหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 286 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 143 คน ประชากรหญิง 143 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 80 หลังคาเรือน

หมู่ที่ 16 บ้านโนนสำราญ ตำบลถลุงเหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์  มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 228 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 108 คน ประชากรหญิง 120 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 53 หลังคาเรือน

สายยาวเป็นชุมชนที่มีอาชีพหลักคือการทำเกษตรกรรม ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร มีการเพาะปลูกพืชหลากหลายชนิด เช่น อ้อย ข้าว ยางพารา ถั่ว งา และข้าวโพด นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาชีพเสริม อย่างไรก็ตาม พื้นที่ของชุมชนมีลักษณะแห้งแล้ง ดินไม่อุ้มน้ำ ทำให้การเพาะปลูกเป็นไปได้ยาก อีกทั้งยังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการดำรงชีพของชาวบ้าน  

สินค้าที่ผลิตในชุมชนสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มอาชีพหลักและกลุ่มอาชีพเสริม กลุ่มอาชีพหลักเป็นการผลิตพืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย ข้าว ยางพารา ข้าวโพด และกล้วย ซึ่งเป็นผลผลิตที่สำคัญของชุมชน ส่วนกลุ่มอาชีพเสริมเป็นการผลิตสินค้าที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน เช่น การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การทอผ้า การแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมถึงการเลี้ยงกบในบ่อซีเมนต์ โดยการทอผ้าเป็นกิจกรรมที่กลุ่มแม่บ้านนิยมทำในช่วงเวลาว่างจากการเกษตร มีการรวมกลุ่มกันทอผ้าไหมมัดหมี่หางกระรอก ผ้าพันคอ ผ้าขาวม้า ผ้าซิ่นตีนแดง และผ้าไหมอื่น ๆ ซึ่งกลายเป็นสินค้า OTOP ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ ยังมีการแปรรูปอ้อยเพื่อผลิตน้ำตาลปึก และการผลิตกระถางซีเมนต์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับชุมชน

ในชุมชนสายยาวมีผลิตภัณฑ์สำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นและมีบทบาทในการส่งเสริมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของชุมชน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น แต่ยังช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนให้คงอยู่ และเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศและในตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนและช่วยรักษาความยั่งยืนในการดำเนินชีวิตของคนในท้องถิ่น ได้แก่

1. น้ำตาลปึก เป็นผลิตภัณฑ์สำคัญในชุมชน โดยเฉพาะในชุมชนปลูกอ้อย การผลิตน้ำตาลปึกเป็นกระบวนการที่ชาวบ้านใช้ทำน้ำตาลจากอ้อยที่ปลูกเอง และนำมาทำการเคี่ยวให้เป็นก้อนแข็ง ที่สามารถใช้ได้หลากหลายทั้งในด้านการปรุงอาหารและการทำขนมไทยพื้นบ้าน เช่น การทำขนมจากน้ำตาลปึก ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและตลาดในพื้นที่

2. ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในชุมชนแถบภาคอีสาน โดยชาวบ้านจะใช้ไหมที่ปลูกในท้องถิ่นมาทอเป็นผ้าทอมือ โดยมีลวดลายเฉพาะที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น การทอผ้าไหมเป็นงานหัตถกรรมที่ยังคงรักษาไว้และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน

3. หัตถกรรมจากไม้และเครื่องปั้นดินเผา เช่น กระถางดินเผา เครื่องปั้นดินเผาประเภทต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันหรือเพื่อการตกแต่งบ้าน ซึ่งมีเอกลักษณ์และเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนชุมชน

4. ผลิตภัณฑ์จากเกษตรอินทรีย์ เช่น ข้าวอินทรีย์ ผักผลไม้ที่ไม่ใช้สารเคมี ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพให้กับผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับความนิยมจากตลาดทั้งในและต่างประเทศ

5. ผลิตภัณฑ์จากการเลี้ยงสัตว์ เช่น ควายหรือวัว ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม หรือแม้กระทั่งการใช้มูลสัตว์ในการทำปุ๋ยอินทรีย์ เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมการเกษตรในชุมชน

6. ขนมไทยและอาหารพื้นบ้าน ผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านในชุมชนสายยาวมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะขนมหวานที่ทำจากน้ำตาลปึก เช่น ขนมจากน้ำตาลปึกที่มีรสหวานธรรมชาติ รวมถึงอาหารพื้นบ้านอื่นๆ เช่น แกงขี้เหล็ก ข้าวต้มมัด และข้าวเหนียวหมูปิ้ง เป็นต้น ซึ่งมักจะมีส่วนผสมจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและวัตถุดิบที่หาได้ในชุมชน

ด้านการจำหน่ายสินค้าของชุมชนสายยาว มีการกระจายสินค้าไปยังแหล่งต่าง ๆ โดยผลผลิตทางการเกษตร เช่น อ้อยจะถูกส่งไปยังโรงงานน้ำตาล ข้าวจะถูกนำไปขายที่โรงสีภายในจังหวัด และยางพาราจะถูกขายให้กับโรงงานที่รับซื้อโดยตรง ผลไม้และพืชผลอื่น ๆ เช่น แตงโม ข้าวโพด กล้วย ฝรั่ง มันเทศ มะพร้าว และมะม่วง จะถูกนำมาขายตามร้านค้าภายในชุมชน และตามหน้าบ้านของชาวบ้าน ซึ่งทำให้เกิด “ถนนคนเดิน” ที่ทอดยาวตลอดเส้นทางสายหลักของชุมชน กว่า 3 กิโลเมตร นับเป็นถนนคนเดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทย  

การจำหน่ายสินค้าจากอาชีพเสริมยังเป็นอีกช่องทางสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับชุมชน สินค้าประเภทปศุสัตว์ เช่น กบในบ่อซีเมนต์ มักจะมีพ่อค้าทั้งจากภายในและภายนอกชุมชนเข้ามาติดต่อซื้อขายโดยตรง สินค้าประเภทสิ่งทอ เช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย และผ้าพันคอ มักจะจำหน่ายให้กับคนในชุมชน นักท่องเที่ยว รวมถึงเป็นของฝากที่ได้รับความนิยม ส่วนสินค้าประเภทแปรรูป เช่น น้ำอ้อย และผลิตภัณฑ์จากผ้า ถูกจำหน่ายให้กับคนในชุมชนและเป็นสินค้าส่งออกไปยังพื้นที่อื่น ๆ นอกจากนี้ สินค้าประเภทสิ่งประดิษฐ์ เช่น กระถางซีเมนต์ สำหรับปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ก็ถูกนำไปขายยังร้านค้าต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่ง  

การบริโภคและการใช้สอยภายในชุมชนสายยาวมีลักษณะการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก โดยผลผลิตจากกลุ่มอาชีพหลัก เช่น ข้าว ส่วนหนึ่งจะถูกเก็บไว้บริโภคภายในครัวเรือน ขณะที่ผลผลิตอื่น ๆ เช่น แตงโม ข้าวโพด กล้วย และฝรั่ง มักถูกนำไปจำหน่ายในร้านค้าภายในชุมชน สำหรับผลผลิตจากกลุ่มอาชีพเสริม เช่น กบในบ่อซีเมนต์ ผ้าไหม และผลิตภัณฑ์แปรรูป จะถูกนำไปขายให้กับผู้บริโภคทั้งภายในและภายนอกชุมชน โดยเฉพาะสินค้าประเภทสิ่งทอที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังชุมชน

นอกจากนี้ ชุมชนสายยาวยังมีโฮมสเตย์ที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านในท้องถิ่น โฮมสเตย์ในชุมชนนี้ไม่เพียงแค่เป็นที่พักเพื่อการพักผ่อน แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้และสัมผัสประเพณี วัฒนธรรม และกิจกรรมต่างๆ ของชาวบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณ โดยการพักในโฮมสเตย์ของชุมชนสายยาวทำให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดกับชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ โดยที่พักส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในบ้านของชาวบ้านในหมู่บ้าน ซึ่งบรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความสงบและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทุ่งนาและภูเขาที่ล้อมรอบสร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อน นอกจากนี้ เจ้าของบ้านมักจะต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง ทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนอยู่บ้านของตัวเอง

ดังนั้น เศรษฐกิจของชุมชนสายยาวเป็นระบบเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเองและพัฒนาควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมในครัวเรือน แม้ว่าจะมีปัญหาด้านสภาพแวดล้อมและข้อจำกัดทางทรัพยากร แต่ชาวชุมชนยังสามารถปรับตัวและสร้างรายได้จากอาชีพหลากหลายประเภท ทั้งภาคการเกษตรและการผลิตสินค้าหัตถกรรม ซึ่งช่วยให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถพัฒนาไปได้อย่างยั่งยืน

สายยาวเป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรมและจารีตประเพณีที่ดีงามซึ่งสืบทอดมาแต่โบราณ เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ จึงมีขนบธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาเป็นหลัก งานบุญและพิธีกรรมทางศาสนาเป็นหัวใจสำคัญของการดำรงชีวิตของชาวบ้าน และเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในชุมชน  

วัฒนธรรมประเพณีสำคัญของชุมชนสายยาว ได้แก่ การทำบุญเทศน์มหาชาติ ประเพณีสงกรานต์ การทำบุญในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา การแห่เทียนพรรษา การรักษาศีลอุโบสถ การทำบุญวันสารท การทำบุญกฐิน และประเพณีลอยกระทง ซึ่งล้วนเป็นประเพณีที่สะท้อนถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนาและการดำรงรักษาขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ  

หนึ่งในประเพณีที่สำคัญและเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนสายยาว คือ ประเพณีทำบุญเบิกบ้าน หรือ การทำบุญหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่สะท้อนถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของคนในชุมชนทั้งห้าหมู่บ้าน โดยจัดขึ้นในวันแรมสิบค่ำ เดือนหก ของทุกปี ซึ่งเป็นวันครบรอบการอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานของบรรพบุรุษ พิธีกรรมสำคัญในวันดังกล่าว ได้แก่ การก่อเจดีย์ทรายบริเวณหน้าบ้านแต่ละครัวเรือนและที่วัด การปักธงชาติ ธงธรรมจักร และธงประจำชุมชน รวมถึงการโยงด้ายสายสิญจน์จากทุกบ้านไปรวมกันที่วัดประจำหมู่บ้าน พิธีกรรมนี้เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชุมชน และถือเป็นการทำบุญครั้งใหญ่ในรอบปีเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว 

การโยงด้ายสายสิญจน์จากบ้านเรือนไปยังวัดยังเป็นสัญลักษณ์ของสายสัมพันธ์อันแนบแน่นของสมาชิกในชุมชน ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ แม้ว่าการแบ่งเขตการปกครองตามกฎหมายจะมีผลในทางราชการ แต่สำหรับชุมชนสายยาว ความเป็นเครือญาติและสายใยแห่งวัฒนธรรมยังคงเชื่อมโยงทุกคนไว้ด้วยกัน  

นอกจากพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว ชุมชนสายยาวยังมีประเพณีท้องถิ่นที่สืบทอดกันมา ได้แก่ การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษ การเลี้ยงปู่ตา ประเพณีแห่นางแมวเพื่อขอฝน ประเพณีแห่บุญขึ้นบ้านใหม่ และประเพณีแห่กลองยาวเพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยมเยือนหรือเข้ามาศึกษาดูงาน นอกจากนี้ ชุมชนยังให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นให้แก่บุตรหลาน เพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมอันดีงามของบรรพบุรุษ  

ประเพณีต่างปฏิบัติในชุมชนสายยาวมีความคล้ายคลึงกับฮีตสิบสองคองสิบสี่ ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฮีตสิบสองหมายถึงจารีตที่ต้องปฏิบัติในแต่ละเดือนของปี เช่น บุญข้าวจี่ บุญผะเหวด และบุญบั้งไฟ ส่วนคองสิบสี่เป็นแนวทางปฏิบัติที่เน้นความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข  

วัฒนธรรมและจารีตประเพณีของชุมชนสายยาวเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของผู้คนในชุมชน พิธีกรรมและขนบธรรมเนียมต่าง ๆ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับชุมชนเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือในการธำรงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและส่งต่อมรดกทางจิตวิญญาณจากรุ่นสู่รุ่น

ปฏิทินประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชนสายยาว

  • เดือนอ้าย ทำบุญลานสู่ขวัญข้าว
  • เดือนยี่ ตักบาตรเทโว วันขึ้นปีใหม่
  • เดือนสาม ทำบุญบ้าน บุญข้าวจี่
  • เดือนสี่ งานมหาชาติ ขึ้นบ้านใหม่ ฉลองอัฐิ
  • เดือนห้า บุญวันสงกรานต์
  • เดือนหก แต่งงาน บวชนาค บุญบั้งไฟ
  • เดือนเจ็ด บุญเบิกบ้าน
  • เดือนแปด แห่เทียนเข้าพรรษา
  • เดือนเก้า บุญข้าวประดับดิน
  • เดือนสิบ สารทน้อย สารทใหญ่
  • เดือนสิบเอ็ด บุญออกพรรษา
  • เดือนสิบสอง บุญกฐิน ลอยกระทง บุญมหาชาติ

ผู้นำและปราชญ์ชาวบ้านแห่งชุมชนสายยาว ประกอบด้วย

  1. นายแสวง จำปาแดง เป็นผู้มีความรู้ด้านสมุนไพรรักษาและบรรเทาโรคไต ภูมิแพ้ต่าง ๆ
  2. นายพุธ บุญเชิด เป็นผู้มีความรอบรู้ด้านศาสนา เป็นผู้นำในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ 
  3. นายนิล บุญอาจ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการจักสาน
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ชุมชนบ้านสายยาวยังคงใช้ภาษาอีสานซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ปิยวัฒน์ คงทรัพย์ และคณะ. (2560). โครงการบทบาทพระสงฆ์และชุมชนในการบริหารจัดการน้้าในพื้นที่แห้งแล้ง: กรณีศึกษาชุมชนสายยาว ตำบลถลุงเหล็ก อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์: รายงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นฉบับสมบูรณ์. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.

มติชนออนไลน์. (20 พฤษภาคม 2559). ชุมชนสายยาว ต้นแบบหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตร กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.matichon.co.th/

ศูนย์เรียนรู้ฯ ชุมชนสายยาว. (ม.ป.ป.). จังหวัดบุรีรัม์ "ชุมชนสายยาว". สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://rdpb-2.appspot.com/

หมู่บ้านท่องเที่ยวและศูนย์เรียนรู้ชุมชนสายยาว. (2562). [ภาพประกอบ]. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/

True ID. (16 กันยายน 2562). ชุมชนสายยาว ต่าง.ถลุงเหล็ก อ.เมืองบุรีรัมย์ หมู่บ้านท่องเที่ยวที่ยาวและหวานสุด ๆ. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://news.trueid.net/

อบต. ถลุงเหล็ก โทร. 0 3670 8801