Advance search

ตลาดบางลี่ ศูนย์กลางการค้าของท้องถิ่นที่สำคัญของอำเภอสองพี่น้อง ทั้งพืชผลทางการเกษตร อาหารสด อาหารแปรรูป และสินค้าพื้นเมืองต่าง ๆ สินค้าขึ้นชื่อที่ดึงดูดทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนอกพื้นที่ให้แวะเวียนเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้า กระตุ้นเศรษฐกิจในตลาดแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย

ถนนราษฎร์นิยม
สองพี่น้อง
สองพี่น้อง
สุพรรณบุรี
ทม. สองพี่น้อง โทร. 035-531012
ฤชุอร เกษรมาลา
27 มี.ค. 2025
วิไลวรรณ เดชดอนบม
30 มี.ค. 2025
ตลาดบางลี่

คำว่า "บางลี่" สันนิษฐานกันว่ามาจาก "บางอีลี่" หรือ "บางนางลี่"


ตลาดบางลี่ ศูนย์กลางการค้าของท้องถิ่นที่สำคัญของอำเภอสองพี่น้อง ทั้งพืชผลทางการเกษตร อาหารสด อาหารแปรรูป และสินค้าพื้นเมืองต่าง ๆ สินค้าขึ้นชื่อที่ดึงดูดทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนอกพื้นที่ให้แวะเวียนเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้า กระตุ้นเศรษฐกิจในตลาดแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย

ถนนราษฎร์นิยม
สองพี่น้อง
สองพี่น้อง
สุพรรณบุรี
72110
14.231995
100.037127
เทศบาลเมืองสองพี่น้อง

ตลาดบางลี่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในฐานะที่เป็นตลาดการค้าขนาดใหญ่และมีเครือข่ายการค้ากว้างขวาง ตลาดบางลี่ตั้งอยู่ริมคลองสองพี่น้องทางฝั่งทิศใต้ โดยอยู่ในเขตเทศบาลตำบลสองพี่น้อง มีฐานะเป็นศูนย์กลางการค้าประจำอำเภอสองพี่น้องมาอย่างยาวนาน แม้ว่าในอดีตที่ทำการอำเภอจะตั้งอยู่ห่างไกลและมีตลาดเล็ก ๆ คือ ตลาดสานอยู่ติดกับอำเภอก็ตาม แต่การค้ากับชาวบ้านต่างถิ่นทั้งหมดจะมาทำกันที่ตลาดบางลี่ ซึ่งต่อมาตลาดบางลี่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในฐานะศูนย์กลางท้องถิ่นอย่างแท้จริงเมื่อมีการย้ายที่ว่าการอำเภอสองพี่น้องมาใกล้กับตลาดบางลี่ โดยมาตั้งที่ริมถนนบางลี่-หนองวัลย์เปรียง เมื่อ พ.ศ. 2507 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดบางลี่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่สำคัญ คือ เกิดเส้นทางถนนเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเดินทางของคนในพื้นที่แทนที่แม่น้ำลำคลองที่ใช้กันมาแต่อดีต

การเรียกชุมชนบางลี่ในที่นี้อาจใช้คำว่า "ตลาดบางลี่" "ชุมชนบางลี่" หรือ "บางลี่" ในความหมายเดียวกันแต่มีบริบทแวดล้อมต่างกันไป ทั้งนี้มีความหมายหมายถึงการรวมเป็นหน่วยเดียวกันทางสังคมของผู้คนที่เรียกตัวเองว่า "คนบางลี่" ส่วนตลาดซึ่งหมายถึงสถานที่สำหรับประกอบกิจกรรมทางการค้านั้นจะใช้คำว่า "ตลาด" หรืออาจมีชื่อเฉพาะต่อท้าย เช่น "ตลาดเก่า" "ตลาดกลาง" "ตลาดท่าตานาค" "ตลาดสด" "ตลาดท่ารถ" เป็นต้น

เรื่องเล่าเกี่ยวกับที่มาของชื่อ "บางลี่"

สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้บางลี่ก่อตัวขึ้นมาเป็นชุมชนการค้าที่สำคัญ โดยมีเรื่องราวซึ่งเล่าผ่านกันมาจากคนเก่าคนแก่ถึงการก่อกำเนิดชุมชนที่ต่างกันไปอยู่สองเรื่อง ทว่ามีเค้าโครงใกล้เคียงกัน

เรื่องแรกกล่าวว่าก่อนที่จะมีตลาดบางลี่ชาวบ้านทำการค้าขายกันที่ตลาดสานมาก่อน เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอสองพี่น้องและสถานีตำรวจ ชาวบ้านในพื้นที่ย่านนั้นจึงอาศัยตลาดสานทำการค้าโดยมีพวกเกวียนที่เดินทางมาไกลจากป่าดอนบรรทุกเอาของป่ามาขายด้วย สภาพพื้นที่ก่อนถึงตลาดสานนั้นมีลำรางสองแห่งกั้นขวางอยู่ คือ ลำรางบางน้อยและลำรางบางใหญ่ ในหน้าแล้งน้ำในลำรางทั้งสองก็จะแห้งขอด แต่เมื่อถึงหน้าน้ำ น้ำจากคลองสองพี่น้องจะหนุนขึ้นมาเอ่อลำรางทั้งสอง ทำให้การเดินทางข้ามไปมาลำบากเกวียนที่เดินทางมาจากแดนไกลไม่สามารถข้ามลำรางไปได้จึงมาจอดปักหลักรอกันอยู่บริเวณพื้นที่ว่างก่อนถึงลำรางบางน้อย ซึ่งต่อมาบริเวณนี้ได้เกิดเป็นชุมชนขึ้นมา เนื่องจากมีคนจีนคิดทำมาหากินกับพวกเกวียนเหล่านี้ด้วยการเปิดเล่นการพนันแล้วซักชวนพวกเกวียนให้ซื้อขายสินค้ากันที่ตรงนั้น ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเจของชุมชนบางลี่ในทุกวันนี้ด้วย โดยกลุ่มที่เล่นการพนันนี้ทางอำเภอไม่อาจดูแลได้ทั่วถึง ต่อมาจึงได้ขยายตัวเกิดเป็นแหล่งชุมชนแห่งใหญ่ขึ้นมาในบริเวณนี้ และได้มีการปลูกห้องแถวแห่งแรกขึ้นให้คนจีนเช่าอยู่อาศัยและทำมาค้าขายกัน ต่อมาก็ได้มีชาวจีนตามมาสมทบมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ นั่นก็คือ ตลาดบางลี่นั่นเอง

เรื่องที่สองว่ากันว่าตลาดบางลี่นั้นเกิดจากบรรดาพ่อค้าชาวจีนที่เคยประกอบการค้าอยู่ในหมู่บ้านสองพี่น้องพากันย้ายมาปักหลักทำการค้าที่บางลี่ ซึ่งหมู่บ้านสองพี่น้องนั้นเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ตั้งอยู่ริมคลองสองพี่น้องโดยอยู่กึ่งกลางระหว่างตลาดสานกับตลาดบางลี่ในปัจจุบัน มีชาวจีนรุ่นบุกเบิกมาอาศัยร่วมกับชาวไทยดั้งเดิมจนเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ชาวจีนเหล่านี้บ้างก็ทำการเกษตรเช่นชาวไทยทั่วไป แต่ส่วนหนึ่งก็ทำการค้าขายตามความถนัดของตน ลักษณะการอยู่อาศัยของคนในหมู่บ้านสองพี่น้องยุคนั้นมีทั้งปลูกเป็นบ้านเรือนไทยริมฝั่งคลอง และส่วนหนึ่งก็อาศัยปลูกเป็นเรือนแพอยู่ในลำคลอง เรือนแพเหล่านี้เองที่เป็นแหล่งค้าขายของชาวบ้านสองพี่น้องในยุคก่อน ซึ่งนอกจากของกินของใช้จำเป็นแล้ว มีบางรายก็รับทำทองรูปพรรณและขายเครื่องประดับด้วย

ส่วนเหตุผลที่ทำให้พ่อค้าในหมู่บ้านสองพี่น้องโยกย้ายบ้านเรือนมาอยู่อาศัยและทำการค้าขายที่ตลาดบางลี่ก็เนื่องจากปัจจัยทางด้านสภาพพื้นที่เป็นสำคัญ ด้วยเหตุว่าหมู่บ้านสองพี่น้องตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มกว่า เมื่อถึงช่วงฤดูน้ำหลากน้ำจะท่วมพื้นที่เร็วกว่าและกว่าจะลดระดับลงก็กินเวลานานกว่า พื้นที่บางลี่ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สูงกว่า เรื่องน้ำท่วมทำให้การค้าขายไม่สะดวกเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ต้องโยกย้าย และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรทั้งจากการให้กำเนิดบุตรหลานของคนที่อยู่ในพื้นที่เอง และการโยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาของคนจากต่างถิ่นซึ่งส่วนหนึ่งก็คือชาวจีนที่อพยพจากเมืองจีนตามญาติพี่น้องเข้ามาทำมาหากินในเมืองไทย ทำให้ชุมชนขยายตัวมากขึ้นจำเป็นต้องหาสถานที่ใหม่เพื่อรองรับ และเมื่อเห็นว่าพื้นที่บริเวณบางลี่มีความเหมาะสมต่อการทำการค้า ชาวจีน ส่วนใหญ่จึงไม่รีรอที่จะโยกย้ายเข้าไปอยู่และตั้งหลักทำการค้าอย่างจริงจัง ต่อมาเมื่อชุมชนขยายตัวก็มีชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่อีกจำนวนมากที่อพยพตามเข้ามาทำมาหากิน จนบางลี่กลายเป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ในทุกวันนี้ ซึ่งแม้ว่าจะมีคนเชื้อชาติอื่นเข้ามาอยู่อาศัยปะปนอยู่ด้วยก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีเชื้อสายจีนผสมผสานอยู่

แม้มิอาจพิสูจน์ได้ว่าเรื่องเล่าใดที่มีความถูกต้อง แต่เมื่อมาพิจารณาจากเรื่องเล่าทั้งสองข้างต้นจะพบว่ามีเค้าโครงเรื่องหลักที่ใกล้เคียงกัน และน่าจะถือว่าเป็นเรื่องเล่าฉบับย่อของบางลี่ได้ ก็คือ บางลี่กำเนิดขึ้นมาจากกลุ่มชาวจีนที่ซึ่งต้องการพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการทำการค้า ได้โยกย้ายเข้ามาอยู่อาศัยและทำการค้าขายกับชาวบ้านต่างถิ่นจนเป็นหลักแหล่ง แล้วก็ส่งข่าวคราวให้ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงที่อยู่เมืองจีนให้ตามมาสมทบจนกลายเป็นตลาดใหญ่โต และขณะเดียวกันในด้านวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของพ่อค้าจีนเหล่านี้ก็ทำให้บางลี่ก่อตัวขึ้นเป็นชุมชนชาวจีนที่มีความสัมพันธ์ภายในที่เหนียวแน่นด้วยเช่นกัน

ส่วนที่มาของคำว่า "บางลี่" ก็เช่นกัน ไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันได้ว่ามาจากแหล่งใดและมีความหมายอย่างไร แม้จะมีคนรุ่นหลังสันนิษฐานกันว่าน่าจะมาจาก "บางอีลี่" หรือ "บางนางลี่" แต่ก็ไม่มีผู้อาวุโสท่านใดยืนยันได้ว่ามาจากชื่อเหล่านี้จริง

อย่างไรก็ตาม ชื่อบางลี่นี้มาจากชาวจีนแต้จิ๋วซึ่งเป็นผู้ริเริ่มเข้ามาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินในบริเวณนี้ ซึ่งมีชัยภูมิดีเลิศตามตำราของคนจีน โดยอธิบายว่าหากยืนอยู่ ณ จุดกึ่งกลางตลาดแล้วหันหน้าเข้าหาคลองสองพี่น้อง จะเห็นได้ว่าพื้นที่บริเวณตลาดบางลี่นี้เป็นเสมือนปากปู โดยมีลำคลองทั้งสองข้างเป็นเสมือนก้ามปูที่คอยปัดกวาดความมั่งมีเข้าสู่ปากปู ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพิจารณาถึงสภาพพื้นที่เป็นที่ลุ่มอุดมสมบูรณ์ ในคลองมีปลาซุกชุมและมีพืชพรรณธรรมชาติอุดมและที่สำคัญมีชุมชนหมู่บ้านตั้งอยู่โดยรอบสามารถทำการค้าขายได้ตามถนัด จึงได้เลือกพื้นที่บริเวณนี้ตั้งรกรากทำมาหากินจนตั้งตัวได้ และด้วยความภาคภูมิใจในพื้นที่ทำมาหากินที่พวกตนได้แสวงหามากับมือนี้ พวกชาวจีนแต้จิ๋วเหล่านี้จึงได้ตั้งชื่อชุมชนของตนว่า "หมังหลี่" ซึ่งมีความหมายว่าไปแสวงโชคให้ไกลจากจากถิ่นฐานกำเนิดจนเจอผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้ อันเป็นเสมือนอนุสรณ์แห่งความสำเร็จของตนที่ได้ดั้นด้นหนีความอดอยากมาจากเมืองจีน และต่อมาจึงได้มีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องจากเมืองจีนอพยพตามมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยทุกคนมีจุดมุ่งหมายเหมือนกันว่าจะมาหาญาติที่เมืองไทยซึ่งค้าขายอยู่ที่ "หมังหลี่" คำว่า "หมังหลี่" อันเกี่ยวเนื่องกับชาวจีนแต้จิ๋วยุคบุกเบิกพื้นที่ ได้รับคำอธิบายว่ามาจากคำภาษาจีนที่ออกเสียงว่า "หมัง" แปลว่าเครื่องมือจับปลาชนิดแห อวน ตาข่าย ซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากิน ประกอบกับคำว่า "หลี่คุยตี่เต้า" แปลว่าไปเสี่ยงโชคให้ไกลจากถิ่นที่เดิม ความหมายโดยรวมของ "หมังหลี่" จึงมีความหมายว่าไปเสี่ยงโชคหาที่ทำมาหากินให้ไกลจากถิ่นฐานบ้านเกิด โดยเป็นการตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับพวกตนที่หนีความแห้งแล้งอดอยากจากเมืองจีนเข้ามาเสี่ยงโชคในเมืองไทยและได้พบกับพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ที่นี่ ซึ่งแม้จะมีแค่แหอวนหรือตาข่ายผืนเดียวก็ไม่มีทางอดตายแล้ว ทั้งนี้หากพิจารณาจากข้อมูลที่ว่าตลาดบางลี่เกิดขึ้นจากการก่อตั้งของพ่อค้าชาวจีนที่มาของบางลี่จากคำว่า "หมังหลี่" 

ชุมชนตลาดบางลี่ ตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของชาวบ้านในพื้นที่อำเภอสองพี่น้อง เนื่องจากมีความเจริญทางเศรษฐกิจและการค้าขาย ด้วยทำเลที่ตั้งที่เชื่อมต่อกับถนนหลักและเส้นทางสัญจร ทำให้ชุมชนตลาดบางลี่เป็นศูนย์กลางการค้า สภาพแวดล้อมในพื้นที่ประกอบด้วยบ้านเรือนที่สร้างขึ้นตามแนวทางของชาวบ้านแบบดั้งเดิม และการเกษตรกรรมที่ครอบคลุมไปทั้งพื้นที่

ชุมชนตลาดบางลี่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีแหล่งน้ำธรรมชาติทั้งในรูปของแม่น้ำ ลำคลอง และบ่อน้ำ ซึ่งใช้ในการเกษตรกรรมและการดำรงชีวิตของชาวบ้านในชุมชน พื้นที่การเกษตร เช่น การทำนาและการปลูกพืชผลทางการเกษตรเป็นแหล่งรายได้หลักสำหรับชาวบ้าน สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติยังเอื้อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน เช่น การปลูกข้าวโพด ข้าวไร่ และการปลูกพืชผักต่าง ๆ

ลักษณะภูมิอากาศ

สภาพอากาศโดยทั่วไปมีลักษณะร้อนชื้น ได้แก่ ฤดูร้อน ได้รับอิทธิพลจากลมตะวันออกเฉียงเหนือและลมฝ่ายใต้ พัดผ่านตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ฤดูฝน ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม และฤดูหนาว ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์

ในยุคก่อตั้งชุมชน ชาวจีนรุ่นแรกที่อพยพจากประเทศจีนเข้ามาตั้งรกรากในตลาดบางลี่ มีแนวโน้มที่จะสร้างครอบครัวใหม่ในประเทศไทย แม้ว่าบางคนจะมีภรรยาอยู่ที่ประเทศจีนแล้วก็ตาม แต่เมื่อย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ ก็มักจะแต่งงานกับสตรีชาวไทยที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านโดยรอบ ทั้งนี้ บางรายหลังจากแต่งงานแล้วเลือกที่จะอาศัยอยู่กับครอบครัวของฝ่ายหญิงก่อน แล้วจึงขยับขยายเข้าสู่ตลาดบางลี่เพื่อประกอบอาชีพค้าขาย ในขณะที่บางส่วนเลือกเข้ามาประกอบธุรกิจในตลาดบางลี่ก่อน จนกระทั่งมีฐานะมั่นคงจึงแต่งงาน  

จากการแต่งงานระหว่างชาวจีนและชาวไทยในท้องถิ่น ทำให้เกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรมจนกระทั่งความแตกต่างระหว่างสองเชื้อชาติเลือนลางลง ส่งผลให้ประชากรรุ่นหลังของชุมชนส่วนใหญ่เป็นลูกหลานที่มีเชื้อสายจีน-ไทยผสมกัน ส่วนระบบครอบครัวของชาวตลาดบางลี่ก็ถือว่ามีประวัติความเป็นมายาวนานเพียงไม่กี่รุ่น โดยเครือญาติที่เก่าแก่ที่สุดจะอยู่ในช่วงรุ่นทวด อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุในชุมชนที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่อยู่ในรุ่นปู่ย่าตายาย และมีหลานที่อยู่ในวัยรุ่น ในขณะที่ประชากรวัยกลางคนที่มีอายุประมาณ 50-60 ปี มักมีหลานที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้ ค่านิยมด้านการศึกษาและแนวคิดของสังคมสมัยใหม่ส่งผลให้คนรุ่นใหม่ในตลาดบางลี่นิยมศึกษาต่อในระดับสูง และมักแต่งงานช้ากว่าคนในยุคก่อน  

ระบบเครือญาติ

การแต่งงานข้ามชุมชนเป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ออกไปศึกษาในสถานที่อื่นและมีคู่ครองที่อยู่นอกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนรุ่นพ่อแม่ยังคงมีการจัดให้มีการดูตัวของบุตรหลานผ่านแม่สื่อแม่ชัก ซึ่งเป็นค่านิยมที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมจีน วิธีการนี้ได้รับความนิยมในหมู่ครอบครัวที่มีฐานะดี โดยมุ่งหวังให้บุตรหลานได้คู่ครองที่มีฐานะและสถานะทางสังคมที่เหมาะสม หากการดูตัวเป็นที่พึงพอใจของทั้งสองฝ่าย ฤกษ์แต่งงานจะถูกกำหนดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ รูปแบบการแต่งงานในลักษณะนี้ทำให้เกิดเครือข่ายทางเครือญาติที่กว้างขวางขึ้น และเป็นรากฐานสำคัญที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างชุมชนที่มีประสิทธิภาพ ในการนับเครือญาติ ชาวตลาดบางลี่ให้ความสำคัญกับญาติทั้งฝ่ายบิดาและมารดา อย่างไรก็ตาม ภายหลังการแต่งงาน ฝ่ายหญิงมักต้องย้ายไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของฝ่ายชาย แต่ในบางกรณี เช่น หากฝ่ายหญิงเป็นบุตรคนเดียว หรือมีฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่าฝ่ายชาย การสร้างครอบครัวใหม่อาจเริ่มต้นที่บ้านของฝ่ายหญิงก่อน  

ลักษณะโครงสร้างครอบครัว

ชาวตลาดบางลี่ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวขยาย กล่าวคือ บุตรหลานมักอาศัยอยู่ในบ้านของบิดามารดาหลังจากแต่งงาน อย่างไรก็ตาม เมื่อมีความพร้อมทางด้านเศรษฐกิจ คู่แต่งงานใหม่จะค่อย ๆ แยกครอบครัวออกไปตั้งบ้านเรือนของตนเอง ในบางกรณี หากคู่แต่งงานยังไม่พร้อมที่จะแยกบ้านออกไป เช่น ยังมีฐานะไม่มั่นคง บุตรหลานและคู่สมรสสามารถอาศัยอยู่กับพ่อแม่ได้ชั่วคราว แต่ในที่สุดก็มักจะขยับขยายออกไปสร้างครอบครัวเดี่ยวของตนเอง และพ่อแม่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจช่วยเหลือบุตรหลานในการตั้งตัวโดยการมอบทรัพย์สินหรือกิจการบางส่วนให้เป็นทุนในการเริ่มต้นครอบครัวใหม่ ดังนั้น โครงสร้างครอบครัวในตลาดบางลี่จึงมีลักษณะที่เปลี่ยนแปลงจากครอบครัวขยายไปสู่ครอบครัวเดี่ยวมากขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป 

ตลาดบางลี่ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่อำเภอสองพี่น้อง ด้วยลักษณะที่เป็นตลาดค้าส่งและค้าปลีกขนาดใหญ่ ตลาดแห่งนี้จึงเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนสินค้าที่สำคัญ โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร อาหารสด อาหารแห้ง เสื้อผ้า เครื่องใช้ในครัวเรือน และสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน  

เศรษฐกิจในตลาดบางลี่มีความหลากหลายและขับเคลื่อนโดยหลายปัจจัย หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือภาคการเกษตร เนื่องจากพื้นที่รอบตลาดบางลี่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าว อ้อย และพืชผักที่สำคัญ พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางมายังตลาดแห่งนี้เพื่อซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรรายย่อยที่นำผลผลิตของตนมาขาย หรือพ่อค้าคนกลางที่รับซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายต่อในตลาดขนาดใหญ่ เช่น ตลาดในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง  

นอกจากภาคการเกษตรแล้ว ตลาดบางลี่ยังมีธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ร้านค้าหลายแห่งนำเข้าสินค้าจากแหล่งผลิตต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงผู้ค้ารายย่อยที่เดินทางมาซื้อของไปขายต่อ สินค้าที่ได้รับความนิยมมีทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ อาหารสำเร็จรูป รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมในครัวเรือนและสินค้าหัตถกรรม เช่น เครื่องจักสาน ผ้าทอ และของที่ระลึกจากชุมชน  

ปัจจัยที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของตลาดบางลี่มีหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือกำลังซื้อของประชาชน ซึ่งขึ้นอยู่กับรายได้ของเกษตรกรเป็นหลัก หากราคาพืชผลอยู่ในเกณฑ์ดี ชาวบ้านก็จะมีกำลังซื้อมากขึ้น ทำให้การค้าขายในตลาดคึกคักมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเส้นทางคมนาคมที่สะดวกยังช่วยให้การขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ตลาดมีสินค้าไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเทศกาลและงานประเพณีของอำเภอสองพี่น้อง เช่น งานแห่พระเล่นเพลง ยังช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมและจับจ่ายใช้สอยในตลาดมากขึ้น  

จากปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าตลาดบางลี่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอำเภอสองพี่น้อง ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งค้าขายที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในการกระจายสินค้าไปยังภูมิภาคอื่น ๆ อีกด้วย ด้วยระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยภาคการเกษตร การค้าปลีก และการค้าส่ง ตลาดบางลี่จึงเป็นตัวอย่างของตลาดชุมชนที่สามารถพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมและเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน

ตลาดบางลี่เป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ โดยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธและยังคงไว้ซึ่งความเชื่อและขนบธรรมเนียมประเพณีของจีนอยู่ในลักษณะของการผสมกลมกลืนไปกับขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ในวันสำคัญของชาวจีน เช่น ตรุษจีน สารทจีน เช็งเม้ง ไหว้พระจันทร์ ยังคงเป็นวันที่ชาวจีนในตลาดประกอบพิธีกรรมกันอยู่ทุกปี นอกจากนั้นในประเพณีสำคัญของไทย เช่น สงกรานต์ เข้าพรรษา ออกพรรษา และวันสำคัญทางศาสนาต่าง ๆ ก็ยังมีชาวจีนจำนวนมากไปทำบุญที่วัดกันจนกลายเป็นกิจวัตร

สำหรับชาวจีนในตลาดบางลี่มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องไปกราบไหว้บูชาอยู่เป็นประจำถึง 2 แห่งด้วยกัน คือ โรงเจฮุกเฮงตั๋ว และศาลเจ้าคลองมะดันโรงเจอกเฮงตั๋ว ตั้งอยู่บนที่ดินริมคลองสองพี่น้อง มีความเก่าแก่มากจนไม่สามารถสืบขึ้นไปได้ถึงว่าก่อตั้งมาตั้งแต่เมื่อใด คนเก่าแก่เล่าว่าตั้งแต่จำความได้ก็ได้มีโรงเจตั้งอยู่ริมคลอง ณ จุดที่ตั้งใน ปัจจุบันอยู่แล้ว เชื่อว่าก่อสร้างมาแล้วมากกว่า 100 ปีขึ้นไป และเชื่อว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เก่าแก่ที่สุดและอาจมีมาก่อนที่จะมีการก่อตั้งตลาดบางลี่ด้วยซ้ำ ในเทศกาลกินเจทุกปีชาวจีนที่ตลาดบางลี่จะจัดพิธีกินเจที่โรงเจแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นประเพณีปฏิบัติ แม้แต่ชาวบางลี่ที่ย้ายถิ่นที่อยู่ไปแล้วก็นิยมกลับมาร่วม พิธีที่ตลาดบางลี่ หรืออย่างน้อยที่สุดก็หาโอกาสมากราบไหว้บูชา "สุกโจ้ว" พระพุทธรูปทองคำเก่าแก่สมัยเชียงแสนที่ประดิษฐานอยู่ภายในโรงเจ ซึ่งได้รับความนับถือเป็นอย่างมากสำหรับชาวบางลี่ โดยเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก เมื่อเกิดปัญหาใดที่แก้ไขไม่ได้หรือต้องการกำลังใจในการกระทำสิ่งใดชาวตลาดบางลี่ก็มักมากราบไหว้ขอพรและบนบานกันอยู่เป็นประจำ

ศาลเจ้าคลองมะดัน เป็นสถานที่ประดิษฐาน "บูเชียงกงเอี๊ย" หรือเจ้าที่ปกป้องคุ้มครองดูแลในระดับอำเภอ ต่างจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองที่มีเจ้าเจี่ยอึงเถ่ากงดูแลพื้นที่ระดับเมือง ในแต่ละปีจะมีงานประเพณีบูชา 2 ครั้ง ช่วงกลางเดือนอ้ายและกลางเดือนแปดของจีน ซึ่งการบูชาเชียงกงเอี้ยนี้ก็ไม่สามารถสืบสาวขึ้นไปได้ว่าใครเป็นผู้ริเริ่มประเพณีดังกล่าว โดยส่วนศาลเจ้าคลองมะดันเป็นการร่วมใจของชาวตลาดบางลี่ช่วยกันบูรณะใหม่จากศาลไม้เก่ารกร้างสร้างเป็นอาคารตึกโดยเลือกสถานที่บนดอนซึ่งน้ำไม่ท่วมอยู่ห่างจากตัวตลาดราว 2 กิโลเมตร ส่วนการจัดการงานต่าง ๆ เกี่ยวกับศาลเจ้าคลองมะดันนี้จะมีการตั้งกรรมการศาลเจ้าขึ้นมา 1 ชุด เรียกว่า เล่านั้ง โดยวิธีการเสี่ยงทายจากตัวแทนของชาวบางลี่ที่มารวมกลุ่มกัน

นอกจากการกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิสิทธิ์ตามความเชื่อของจีนแล้ว ชาวจีนในตลาดบางลี่ก็ยังนิยมไปทำบุญที่วัดเป็นประจำด้วย โดยมีวัดดงตาลเป็นวัดประจำชุมชน ซึ่งแม้จะอยู่ฝั่งคลองตรงข้าม แต่ก็มีประวัติการก่อตั้งมาจากชาวตลาดบางลี่ที่เมื่อก่อนต้องเดินทางไปทำบุญถึงวัดท่าจัด ในเขตตำบลบางพลับ ทว่าการทำบุญของชาวบ้านในตลาดบางลี่ก็ไม่ได้ผูกขาดอยู่ที่วัดดงตาลเพียงแห่งเดียว ชาวบางลี่จำนวนไม่น้อยนิยมเดินทางไปทำบุญยังวัดที่อยู่ห่างไกลออกไป โดยให้เหตุผลว่าวัดดงตาลมีคนทำบุญมากแล้ว ขณะที่มีวัดอื่น ๆ อีกจำนวนมากที่อยู่ห่างออกไปมีชาวบ้านไปทำบุญกันน้อย วัยรุ่นหนุ่มสาวจึงนิยมเดินทางไปทำบุญยังวัดที่อยู่ไกลออกไป ซึ่งนอกจากจะได้ชื่อว่าทำบุญแล้วยังได้ความสนุกสนานในกลุ่ม และอาจได้เจอเพื่อนใหม่ที่อยู่ต่างหมู่บ้านอีกด้วย

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ภาษาพูด : ภาษาไทยกลาง (จะมีสำเนียงค่อนข้างเหน่อ เรียกว่า เหน่อสุพรรณ ซึ่งเป็นสำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวสุพรรณบุรี)

ภาษาเขียน : อักษรไทย


ตลาดบางลี่เคยเป็นแหล่งชุมชนที่มีการค้าขายสินค้าพื้นเมืองและของฝากมากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความต้องการของนักท่องเที่ยวและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ตลาดบางลี่เริ่มมีการพัฒนาและปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการเหล่านี้ จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงจากตลาดบางลี่เป็นถนนคนเดินบางลี่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการพัฒนาของแหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่

การพัฒนาจากตลาดธรรมดาสู่ถนนคนเดิน ตลาดบางลี่เดิมเป็นเพียงตลาดในพื้นที่ชนบทที่จัดขึ้นเป็นประจำในช่วงเวลาหรือเทศกาลต่าง ๆ แต่เมื่อการท่องเที่ยวเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ผู้ประกอบการท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เริ่มต้นการพัฒนาตลาดให้เป็นถนนคนเดิน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนมากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังเกี่ยวข้องกับการนำเสนอวัฒนธรรมท้องถิ่น และสินค้าพื้นบ้านอย่างเต็มรูปแบบ

การเปลี่ยนแปลงจากตลาดสู่ถนนคนเดินได้มีการปรับปรุงพื้นที่ให้เหมาะสมกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเพิ่มการตกแต่งพื้นที่ให้มีความสวยงามและสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของท้องถิ่น เช่น การตกแต่งด้วยโคมไฟและวัสดุจากธรรมชาติที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมพื้นบ้าน รวมทั้งการสร้างพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นเพื่อรองรับผู้คนในช่วงเทศกาล การใช้ป้ายแนะนำ และแผนที่ในการนำทางนักท่องเที่ยวทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้น

การพัฒนาตลาดบางลี่สู่ถนนคนเดินยังคำนึงถึงการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้ความรู้และความสนุกสนานแก่ผู้มาเยือน เช่น การจัดแสดงการละเล่นพื้นบ้าน การบรรเลงดนตรีไทย การเชิดสิงโต หรือแม้กระทั่งการจัดขบวนแห่พระเล่นเพลงในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความตื่นตาตื่นใจและเสริมสร้างความเข้าใจในวัฒนธรรมท้องถิ่น

จากที่กล่าวมาถนนคนเดินนั้นช่วยสร้างรายได้ ให้แก่ชุมชนมากขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่ตลาดไม่เพียงแต่จะซื้อสินค้า แต่ยังช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในกิจกรรมต่าง ๆ อีกทั้งยังสร้างโอกาสในการจ้างงานในพื้นที่ เช่น งานขายของในตลาด งานบริการต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาทักษะการจัดการธุรกิจท้องถิ่น

การเปลี่ยนจากตลาดบางลี่สู่ถนนคนเดินไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว แต่ยังสะท้อนถึงความพยายามของชุมชนในการรักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสังคม โดยการพัฒนานี้จะเป็นพื้นฐานในการผลักดันให้ตลาดบางลี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในอนาคต

ตลาดคนเดินบางลี่ : สีสันแห่งวิถีชุมชนคนบางลี่

ตลาดคนเดินบางลี่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญของอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการค้าขายและการพบปะสังสรรค์ของคนในชุมชน ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งรวมอาหารพื้นเมือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก และกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวบางลี่ได้เป็นอย่างดี

ตลาดคนเดินบางลี่จัดขึ้นเป็นประจำในช่วงเย็นของวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและเทศกาลพิเศษ บรรยากาศของตลาดเต็มไปด้วยความคึกคักจากพ่อค้าแม่ค้าและนักท่องเที่ยวที่เดินเลือกซื้อสินค้าและชิมอาหารพื้นเมือง ภายในตลาดมีการตกแต่งที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของสุพรรณบุรี เช่น โคมไฟสไตล์ไทย บรรยากาศแบบย้อนยุค และเสียงดนตรีพื้นบ้านที่ขับกล่อมให้การเดินเที่ยวตลาดเป็นไปอย่างเพลิดเพลิน  

ตลาดคนเดินบางลี่เป็นแหล่งรวมของดีประจำท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แก่  

  • อาหารพื้นเมือง เช่น ข้าวห่อใบบัว ขนมเปี๊ยะบางลี่ หมูสะเต๊ะ ปลาสลิดทอด และก๋วยเตี๋ยวสูตรโบราณ
  • ขนมไทยโบราณขนมเบื้องไทย ขนมหม้อแกง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง 
  • สินค้าหัตถกรรม เครื่องจักสานจากไม้ไผ่ ผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมือง เครื่องประดับทำมือ 
  • ของที่ระลึกและของสะสม เช่น งานศิลปะ งานแกะสลักไม้ และของเก่าหายาก  

นอกจากนี้ ตลาดยังมีสินค้าเกษตรสดใหม่จากชาวบ้าน เช่น ผักปลอดสารพิษ ผลไม้ตามฤดูกาล และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเกษตรกรในพื้นที่  

ตลาดคนเดินบางลี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งซื้อขายสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สำหรับการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม โดยมีการแสดงดนตรีไทย การละเล่นพื้นบ้าน และการสาธิตงานฝีมือจากชาวบ้าน นอกจากนี้ ในบางช่วงเทศกาลยังมีการแสดงเชิดสิงโต ขบวนแห่วัฒนธรรม และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ตลาดคนเดินบางลี่มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น โดยเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้นำสินค้าพื้นเมืองและผลิตภัณฑ์จากชุมชนมาจำหน่าย ทำให้เกิดรายได้และช่วยส่งเสริมอาชีพในพื้นที่ นอกจากนี้ ตลาดยังเป็นจุดเชื่อมโยงทางสังคมที่ทำให้คนในชุมชนได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ และสืบสานวัฒนธรรมของท้องถิ่นของสุพรรณบุรี

กองจัดการสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม. (ม.ป.ป.). ชุมชนตลาดบางลี่. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://culturalenvi.onep.go.th/

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (ม.ป.ป.). ตลาดบางลี่ สุพรรณบุรี. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.tourismthailand.org/

ช็อป ชิม ริมเขื่อนบางลี่. (2567). [ภาพประกอบ]. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/

เดลินิวส์. (17 กันยายน 2567). เทศบาลสองพี่น้องดันอาหารพื้นถิ่นสู่ถนนคนเดินกระตุ้นนักท่องเที่ยว. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.dailynews.co.th/

เทศบาลเมืองสองพี่น้อง. (2564). ตลาดบางลี่. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://songpeenongcity.org/

วารสารเมืองโบราณ. (10 มกราคม 2566). ตลาดบางลี่ที่จำได้. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.muangboranjournal.com/

ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวสุพรรณบุรี. (ม.ป.ป.). วิถีชีวิตในชุมชนตลาดบางลี่. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก http://www.suphanburipao.go.th

สกุณา ฉันทดิลก (2541). บางลี่ กรณีศึกษาการเปลี่ยนแปลงของชุมชนการค้าในลุ่มน้ำท่าจีน. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

True ID. (8 มิถุนายน 2563). ตลาดบางลี่ “ตลาดเก่า 100 ปี“ สุพรรณบุรี. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://travel.trueid.net/

ทม. สองพี่น้อง โทร. 035-531012