
บ้านทุ่งสีหลง ชุมชนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชาวลาวครั่ง โดยเฉพาะการทอผ้าซิ่นมัดหมี่ต่อตีนจก และการสร้างสรรค์งานหัตถกรรมที่สืบทอดจากภูมิปัญญา พัฒนาจนเป็นรายได้ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและเต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ของชาวลาวครั่ง
ในอดีตมีเรื่องเล่าว่ามีชายคนหนึ่งชื่อตาสี ถือข้องมาหาปลาในทุ่งป่าใหญ่แห่งหนึ่งแล้วเกิดหลงป่า ชาวบ้านช่วยกันออกตามหาจนพบ จากนั้นตาสีได้ชักชวนให้คนในหมู่บ้านย้ายถิ่นฐานมาตั้งบ้านเรือนที่ทุ่งป่าใหญ่แห่งนี้ แล้วตั้งชื่อหมู่บ้านว่า "ทุ่งตาสีหลง" แต่ภายหลังเรียกเพี้ยนเป็น "ทุ่งสีหลง" จนถึงปัจจุบัน
บ้านทุ่งสีหลง ชุมชนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชาวลาวครั่ง โดยเฉพาะการทอผ้าซิ่นมัดหมี่ต่อตีนจก และการสร้างสรรค์งานหัตถกรรมที่สืบทอดจากภูมิปัญญา พัฒนาจนเป็นรายได้ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและเต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ของชาวลาวครั่ง
บ้านทุ่งสีหลง เป็นชุมชนชาวลาวครั่งที่สันนิษฐานอพยพมาจากเวียงจันทน์และหลวงพระบาง เข้าอาศัยอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย เช่น ในจังหวัดนครปฐม จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัด อุทัยธานี ก่อนอพยพย้ายต่อไปเรื่อย ๆ ในหลายพื้นที่ เช่น จังหวัดสุโขทัย นครสวรรค์ และกาญจนบุรี
บ้านทุ่งสีหลงเป็นหนึ่งพื้นที่ในจังหวัดนครปฐมที่ปรากฏการตั้งถิ่นฐานของลาวครั่ง มีตำนานเล่าขานกันมาของคนสมัยนั้นว่ามีลุงคนหนึ่งชื่อว่า ตาสี ได้ออกมาหาปลาที่ทุ่งป่า ได้เตรียมอุปกรณ์ประเภทข้องที่สานด้วยไม้ไผ่มาหาปลาในป่าที่นี่ แต่เกิดหลงป่าแห่งนี้ ซึ่งป่าทุ่งใหญ่จะมีต้นไม้หนารกและทึบมาก จากนั้นตาสีได้พักค้างคืนอยู่ที่ป่าทุ่งใหญ่แห่งนี้ ชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเห็นตาสีหายไป ได้ช่วยกันออกตามตาสีที่ทุ่งป่าใหญ่แห่งนี้จนพบ ตาสี จึงได้เห็นที่ทำเลทุ่งป่าใหญ่แห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ จึงได้ชักชวนชาวบ้านที่ออกตามหาได้มาตั้งรกรากในทุ่งนี้ และได้เรียกชื่อว่าหมู่บ้านตาสีหลง แต่ทายาทรุ่นสู่รุ่นได้เรียกชื่อเพี้ยนไปจนเรียกชื่อหมู่บ้านทุ่งสีหลงจวบจนปัจจุบัน
ในอดีตนั้นบ้านทุ่งสีหลงเป็นชุมชนชนบท ประชากรในชุมชนค่อนข้างยากจน มีวัดเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจทำให้คนในชุมชนใกล้ชิดศาสนาและวัด ซึ่งในชุมชนมีวัดเดียว คือ วัดทุ่งสีหลง โดยการดำรงชีพหรือวิถีชีวิตของชาวลาวครั่งจะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก อาชีพที่ทำแต่เดิม คือ ทำนา เลี้ยงสัตว์ การทอผ้า งานหัตถกรรมพื้นบ้านโดยทำเพื่อเป็นอุปกรณ์ในการดำรงชีพ โดยเริ่มมีการจักสานตะข้อง เป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ใส่ปลาเพราะในทุ่งมีปลามากมาย ประกอบด้วยพื้นที่ในชุมชน บ้านทุ่งสีหลงมีลักษณะทุ่ง มีห้วย หนอง คลอง บึง อยู่ล้อมรอบ การทำนาจับปลากันนั้นเพื่อการเลี้ยงชีพพอมีเหลือแล้วแบ่งปันกัน และด้วยระบบครอบครัวและเครือญาติอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ จึงเป็นระบบความสัมพันธ์แบบให้ความช่วยเหลือกันและกัน ในด้านสาธารณูปโภค ยังไม่เจริญเท่ากับปัจจุบัน นี้ ถนนเป็นทางเดินเท้าหรือทางเกวียน แสงสว่างในยามค่ำคืนจากตะเกียง น้ำสำหรับอุปโภคบริโภค คือ น้ำจากคลองชลประทานที่ยังเป็นคลองดินที่ส่งตรงมาจากเขื่อนในจังหวัดกาญจนบุรีที่มีให้ใช้ได้ตลอดทั้งปี
ปัจจุบันชุมชนลาวครั่งบ้านทุ่งสีหลงแยกย่อยออกเป็น 3 หมู่บ้าน โดยทั้ง 3 หมู่บ้านจะมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ทั้งไทย ลาวครั่ง จีน แต่ที่มีเยอะที่สุด คือ ชาติพันธุ์ลาวครั่ง ซึ่งจะเป็นที่เข้าใจและเรียกกันสั้น ๆ ว่า หมู่ลาว การประกอบอาชีพในปัจจุบันของชาวบ้านยังคงยึดอาชีพเกษตรกรรมเหมือนในอดีต แต่อาชีพที่มีเพิ่มเติม คือ การทำไร่ ทำสวน ค้าขาย เป็นเจ้าของกิจการบางครอบครัวส่งลูกหลานเรียนจนจบก็จะมีรับราชการ งานหัตถกรรมหรือจักสานยังมีหลงเหลืออยู่เพียงที่ทำเป็นไม่กี่คน แต่มีการรวมกลุ่มกันสานข้องยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดและมีหนึ่งเดียวที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนลาวครั่งบ้านทุ่งสีหลงที่ทำให้ผู้คนรู้จักชุมชนมากขึ้น ครอบครัวยังมีเหลือที่เป็นครอบครัวใหญ่เพียงไม่กี่ครัวเรือน ส่วนใหญ่เมื่อแต่งงานมีครอบครัวใหม่จะแยกตัวออกมาสร้างบ้านเป็นของตัวเอง ทำให้ระบบความสัมพันธ์แบบช่วยเหลือกันและกันลดน้อยลงในปัจจุบัน สภาพของถนน ไฟฟ้าประปาในปัจจุบันก็มีความเจริญมากขึ้น ถนนนั้นเป็นถนนลาดยาง คอนกรีต แม้แต่ในซอยเล็ก ๆ ก็ถนนที่พัฒนาแล้วทั้งหมด ส่วนน้ำอุปโภคบริโภคนั้นเป็นระบบน้ำบาดาลที่มีอยู่ในหมู่บ้าน คลองชลประทานยังคงมีอยู่แต่เป็นคลองที่เป็นการพัฒนาจากคลองดินเป็นคลองปูนและในปัจจุบัน น้ำในคลองนี้ยังคงใช้ในการทำการเกษตรกรรมอยู่เช่นในอดีต รวมทั้งไฟฟ้าที่ได้รับความสะดวกสบายความสว่างจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาธารณูปโภคที่พร้อมและดีขึ้นทำให้สภาพความเป็นอยู่ดีขึ้นมีความสะดวกสบาย
บ้านทุ่งสีหลง ตำบลลำเหย อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม ตั้งอยู่พื้นที่ภาคกลางของประเทศ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มไม่มีป่าไม้และภูเขา ระดับความแตกต่างของความสูงของพื้นที่อยู่ระหว่าง 1-2 เมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 2-4 เมตร สภาพพื้นที่ลาดจากทิศใต้สู่ทิศเหนือ ทิศตะวันตกสู่ทิศตะวันออก การระบายน้ำผ่านคลองธรรมชาติ พื้นดินอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำการเกษตร
สภาพภูมิอากาศบ้านทุ่งสีหลงจัดอยู่ในลักษณะภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่านทำให้อากาศชุ่มชื้นและฝนตกชุก ส่วนฤดูหนาวจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะพัดเอาความหนาวเย็นและความแห้งแล้งมา สำหรับฤดูร้อนจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน
สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 11 และหมู่ที่ 13 ชุมชนทุ่งสีหลง ตำบลลำเหย อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม มีจำนวนประชากรดังรายละเอียดต่อไปนี้ (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)
- บ้านทุ่งสีหลง หมู่ที่ 1 มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 850 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 392 คน ประชากรหญิง 458 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 264 หลังคาเรือน
- บ้านทุ่งสีหลง หมู่ที่ 11 มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,030 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 501 คน ประชากรหญิง 529 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 316 หลังคาเรือน
- บ้านทุ่งสีหลง หมู่ที่ 13 มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 754 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 365 คน ประชากรหญิง 389 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 235 หลังคาเรือน
การประกอบอาชีพของชาวบ้านทุ่งสีหลงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพหลักที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องมาหลายชั่วอายุคน ในอดีตจะทำนาข้าวปีละ 2 ครั้ง แต่ปัจจุบันเนื่องจากน้ำในพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ จึงสามารถทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี การทำนาข้าวนั้นเป็นกิจกรรมที่สำคัญและจำเป็นในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ยังมีการทำสวนผัก ซึ่งประกอบไปด้วยผักหลากหลายชนิด เช่น ผักกาดหอม ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า ผักชี ต้นหอม เพาะเห็ด ฯลฯ เพื่อใช้บริโภคภายในครัวเรือนหรือขายในตลาด
การเลี้ยงสัตว์ เช่น วัวและหมู ก็เป็นอาชีพเสริมที่สำคัญของชาวบ้าน นอกจากนี้ยังมีบางส่วนประกอบอาชีพรับจ้าง ค้าขาย หรือรับราชการ ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน สำหรับชาวลาวครั่งเมื่อว่างจากการทำการเกษตร จะมีงานฝีมือที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นและศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะการทอผ้าทอลาวครั่ง ซึ่งเป็นการฝีมือที่มีความสำคัญและมีความหลากหลายในลวดลายและกรรมวิธีการทอ
การทอผ้าของชาวลาวครั่งนั้นมีทั้งการทอด้วยฝ้ายและไหม โดยใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การจกและมัดหมี่ ซึ่งเป็นวิธีการทอที่มีความซับซ้อนและปราณีต ผ้าทอลาวครั่งที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นที่สุดคือ "ผ้าชิ่นมัดหมี่ต่อตีนจก" ซึ่งตัวตีนชิ่นจกจะทอด้วยเส้นไหมที่ผ่านการมัดให้เป็นลวดลายแล้วทอสลับกับการชิดที่เป็นลายเส้นตั้ง จากนั้นจะทอด้วยฝ้ายสำหรับตีนจก โดยส่วนใหญ่จะนิยมทำพื้นผ้าด้วยสีแดงและลวดลายที่มีลักษณะทรงเรขาคณิตที่ไม่มีรูปแบบตายตัว ผ้าชิ่นชนิดนี้บางครั้งก็จะทอเป็นผ้าไหมมัดหมี่ล้วนที่ไม่สลับกับขิด
นอกจากนี้ ยังมีผ้าชิ่นชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า "ชิ่นดอกดาว" ซึ่งจะทอสีพื้นด้วยสีเข้มและทอลายจกลายสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ด้วยโทนสีอ่อนและเข้มสองถึงสามสี การทอลายดอกดาวนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ นอกจากผ้าชิ่นแล้วยังนิยมทอผ้าห่ม ซึ่งมักทอเป็นผืนใหญ่และมีลายท้องฟ้าหรือเชิงชาย โดยจะใช้สีที่ตัดกันอย่างชัดเจนและมีสีอื่นแซมประปรายเพื่อเพิ่มความสวยงามและความหลากหลายให้กับผ้าห่ม
การทอผ้าและงานฝีมือของชาวลาวครั่งไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสามารถในการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่ผูกพันกับท้องถิ่นมาตั้งแต่สมัยอดีต โดยการรักษาและถ่ายทอดภูมิปัญญานี้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ชุมชนชาวลาวครั่งยังคงรักษาอัตลักษณ์และความเป็นเอกลักษณ์ของตนเองไว้ได้จนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในปัจจุบันบ้านทุ่งสีหลงได้จัดการท่องเที่ยว เปิดให้นักท่องเที่ยวผู้สนใจศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมชาวลาวครั่งได้เข้าเยี่ยมชุมหมู่บ้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน คนในชุมชนมีรายได้จากการให้บริการที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ตลอดจนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนไม่ว่าจะเป็นสินค้างานฝีมือทั้งเครื่องจักสานและผ้าซิ่น
ประเพณีที่สำคัญในชุมชนบ้านทุ่งสีหลงประกอบด้วยหลายประเพณีที่มีความเชื่อและความสำคัญต่อชีวิตและวิถีการดำเนินชีวิตของชาวบ้าน โดยแต่ละประเพณีล้วนมีวัตถุประสงค์ในการขอพรจากเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตและการดำรงอยู่ของชุมชน
หนึ่งในประเพณีที่สำคัญคือ "ประเพณีธงสงกรานต์" ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นการขอพรจากเทวดาเพื่อให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ช่วยให้การเกษตรมีความอุดมสมบูรณ์ ประเพณีนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้คนให้เข้ามามีส่วนร่วม แต่ยังเป็นการสร้างความสามัคคีในหมู่บ้าน โดยการจัดกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและมีการทำบุญร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง
อีกประเพณีที่สำคัญคือ "ประเพณีสืบชะตาหมู่บ้าน" ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่มีความเชื่อเพื่อขอพรจากเทวดาให้การดำรงชีวิตของชุมชนและการทำมาหากินดำเนินไปด้วยความราบรื่น ปลอดภัย และเพื่อปัดเป่าภัยพิบัติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในชุมชน โดยการทำพิธีนี้จะช่วยให้ชุมชนมีความสงบสุขและมั่นคง
นอกจากนี้ยังมี "ประเพณีบุญกลางบ้าน" ซึ่งเป็นการขอขมาผีเจ้าที่เจ้าทาง ดวงวิญญาณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เพื่อขอให้ปล่อยเคราะห์ปล่อยโศกให้หมดไป และเป็นการขอพรให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชาวบ้านทุกคนในชุมชน การทำบุญนี้ถือเป็นการแสดงถึงความเคารพและสำนึกในบุญคุณของเจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองชุมชน
ในด้านพิธีกรรมความเชื่อ ยังมีความเชื่อเรื่อง "ผีเจ้านาย" และ "การเลี้ยงผี" ซึ่งเป็นความเชื่อที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เชื่อว่า "ผีเจ้านาย" เป็นผู้ปกปักรักษาคุ้มครองชุมชนให้มีความร่มเย็นเป็นสุข การเลี้ยงผีจึงเป็นการให้เกียรติและขอพรจากผีเจ้านายเพื่อให้การดำเนินชีวิตของชาวบ้านเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีความสุข
ประเพณีและพิธีกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเชื่อและวิถีชีวิตของชาวบ้านทุ่งสีหลง ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติและการดำรงชีวิตในสังคมอย่างใกล้ชิด ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและความเป็นปึกแผ่นในชุมชน และยังเป็นส่วนสำคัญในการรักษาและส่งต่อวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
งานจักสานเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความสำคัญในชุมชนทุ่งสีหลง โดยชาวบ้านในชุมชนได้รวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มจักสาน เพื่อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นตะข้อง ตระกร้า หรือกระด้ง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในชีวิตประจำวันและการทำมาหากินของชาวบ้าน ในปัจจุบันงานจักสานสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยมีโอกาสในการพัฒนาและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ การส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐจึงมีความสำคัญในการกระตุ้นให้ชุมชนและกลุ่มอาชีพมีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนางานฝีมือให้หลากหลายและมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
การแต่งกายของชาวลาวครั่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะการใช้ผ้าทอลาวครั่งที่มีลวดลายเฉพาะตัว ซึ่งผ้าชิ่นตีนจกเป็นผ้าที่ได้รับความนิยมในชุมชน และมีการทอด้วยเทคนิคที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยผ้าชนิดนี้ทอด้วยเส้นไหมและฝ้าย พร้อมทั้งมีลวดลายที่สวยงามและมีความหมายเฉพาะตัว ปัจจุบันชุมชนทุ่งสีหลงกำลังก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมลาวครั่ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการทอผ้าในชุมชนให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการนำสีจากธรรมชาติในชุมชนมาพัฒนาเป็นสีใหม่ ๆ เพื่อใช้ในการทอผ้า ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐเพื่อเสริมสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน
ภาษาพูด : ภาษาไทยกลาง และภาษาลาวครั่ง (ใช้ในกลุ่มลาวครั่งในชุมชน)
ภาษาเขียน : อักษรไทย
ในอดีตชาวบ้านดำรงชีวิตแบบพึ่งพาตนเอง เน้นการเกษตรเป็นอาชีพหลัก โดยเฉพาะการทำนาและการทำสวน ภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การทอผ้าและการจักสาน เป็นส่วนสำคัญของวิถีชีวิต แต่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่จำนวนมากออกไปทำงานนอกชุมชน ส่งผลให้แรงงานด้านเกษตรกรรมลดลง และงานหัตถกรรมบางอย่างเริ่มถูกลดบทบาทลง นอกจากนี้ เทคโนโลยีและการสื่อสารที่พัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้วิถีชีวิตของชาวบ้านเปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่รับเอาวัฒนธรรมภายนอกเข้ามามากขึ้น ขณะที่การใช้ภาษาลาวครั่งในชีวิตประจำวันเริ่มลดลงเนื่องจากการใช้ภาษาไทยเป็นหลักในระบบการศึกษาและการทำงาน
แม้ว่าชุมชนจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน แต่ก็มีความพยายามในการอนุรักษ์วัฒนธรรม เช่น การส่งเสริมการทอผ้าพื้นเมืองให้เป็นสินค้าเชิงวัฒนธรรม การฟื้นฟูประเพณีดั้งเดิม และการสร้างความตระหนักรู้ในหมู่คนรุ่นใหม่เพื่อรักษาอัตลักษณ์ของชุมชนเอาไว้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยให้ชุมชนยังคงดำรงความเป็นลาวครั่งทุ่งสีหลงแม้ในยุคปัจจุบัน
ตะข้องยักษ์ เอกลักษณ์ของบ้านทุ่งสีหลง
บ้านทุ่งสีหลงมีการสร้างตะข้องยักษ์ที่มีความสูงถึง 2 เมตร กว้าง 11 คนโอบ หวังสร้างเป็นสัญลักษณ์เชิญชวนให้เกิดท่องเที่ยว อุดหนุนสินค้า OTOP เรียนรู้วิถีชุมชนบนแหล่งธรรมชาติตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของชุมชน โดยตะข้องยักษ์นี้มีความเกี่ยวข้องกับความเป็นมาของชุมชนตามตำนานที่เล่ากันมาว่า ตาสีได้ออกมาหาปลาที่ทุ่งป่าใหญ่ ได้เตรียมอุปกรณ์ประเภท ข้อง ที่สานด้วยไม้ไผ่มาหาปลาในป่าที่นี่ อีกทั้งการสานตะข้องนี้ถือเป็นวิถีชีวิตและภูมิปัญญาที่อยู่กับชาวบ้านทุ่งสีหลงมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวด นายสายพาน คำกงลาด หัวหน้ากลุ่มจักสานอนุรักษ์สานตะข้อง จึงได้คิดและปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนตำบลลำเหย และนายนนท์ แก้วมา ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมทั้งชาวบ้านว่าในหมู่บ้านของเราน่าจะทำข้องยักษ์เอาไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้าน เมื่อมีแขกมาเยือน หรือใครที่ผ่านไปมาเมื่อเห็นข้องยักษ์ก็จะต้องนึกถึงหมู่บ้านทุ่งสีหลงแห่งนี้
ณัฐชา ลี้ปัญญาพร. (2564). การศึกษาทุนทางวัฒนธรรมชาติพันธุ์ลาวครั่งในมิติการท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนบ้านทุ่งสีหลง อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
บ้านทุ่งสีหลง ชุมชนวัฒนธรรมลาวครั่ง. (1 ธันวาคม 2563). ภาพบรรยากาศ กิจกรรมโปรโมทชุมชนท้องเที่ยว โอทอปนวัตวิถี. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/
บ้านทุ่งสีหลง ชุมชนวัฒนธรรมลาวครั่ง. (18 เมษายน 2564). งานประเพณีแห่ธงสงกรานต์ ปี 2564. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/
บ้านทุ่งสีหลง ชุมชนวัฒนธรรมลาวครั่ง. (26 พฤษภาคม 2564). ภาพบรรยากาศ งานบุญกลางบ้าน ส่งหาบส่งคาน กระแบกกระบาน ประจำปี 2564. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/
บ้านทุ่งสีหลง ชุมชนวัฒนธรรมลาวครั่ง. (20 พฤศจิกายน 2564). งานประเพณีลอยกระทง วัดทุ่งสีหลง ประจำปี ๒๕๖๔. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/
บ้านทุ่งสีหลง ชุมชนวัฒนธรรมลาวครั่ง. (24 มกราคม 2565). ส่งมอบเชื้อเห็ดเรียบร้อย จำนวน 13 โรงเรือน. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/
บ้านทุ่งสีหลง ชุมชนวัฒนธรรมลาวครั่ง. (8 สิงหาคม 2565). ภาพบรรยากาศการจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวรูปแบบ1วัน(One Day Trip) ณ ชุมชนบ้านทุ่งสีหลง. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/
ผู้จัดการออนไลน์. (29 ตุลาคม 2561). ชาวบ้านทุ่งสีหลง นครปฐม สร้างข้องยักษ์ ให้เป็นเอกลักษณ์ในชุมชน. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก https://mgronline.com/
องค์การบริหารส่วนตำบลลำเหย. (ม.ป.ป.). สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน. สืบค้น 27 มีนาคม 2568, จาก http://www.lumhoei.go.th/