Advance search

บ้านทุ่งสมอ ชุมชนที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับสงครามยุทธหัตถีในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พัฒนาเปลี่ยนผ่านสังคมมาหลายยุคสมัย ตลอดจนปัจจุบันมีการพัฒนาเศรษฐกิจผ่านวิสาหกิจชุมชน โดยเฉพาะ "กลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทย" ซึ่งแปรรูปกล้วยน้ำว้าเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP และพัฒนาเป็นธุรกิจระดับประเทศ ทั้งยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรผ่าน "ศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ทุ่งสมอ" และ "บานาน่าฟาร์ม" ซึ่งเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของชุมชน

หมู่ที่ 3
บ้านทุ่งสมอ
ทุ่งสมอ
พนมทวน
กาญจนบุรี
อบต.ทุ่งสมอ โทร. 0 3454 0754
วิไลวรรณ เดชดอนบม
29 มี.ค. 2025
วิไลวรรณ เดชดอนบม
31 มี.ค. 2025
บ้านทุ่งสมอ

มีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับที่มาของชื่อ "ทุ่งสมอ" 3 ประการ คือ

  • ประการที่หนึ่ง เชื่อกันว่าบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้ง "โรงหมอ" ในสงครามยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระมหาอุปราชมังสามเกียดแห่งกรุงหงสาวดี ภายหลังเพี้ยนเสียงมาเป็น "ทุ่งสมอ"
  • ประการที่สอง แต่เดิมบริเวณนี้เป็นทุ่งโล่งที่มีต้นสมอขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้คนจึงเรียกขานกันว่า "บ้านทุ่งต้นสมอ" และต่อมาเรียกสั้นลงเป็น "บ้านทุ่งสมอ"
  • ประการที่สาม บริเวณนี้เคยเป็นพื้นที่ลุ่ม มีแหล่งน้ำและปลาหมอชุกชุม ชาวบ้านจึงเรียกว่า "ทุ่งวังปลาหมอ" และต่อมามีการเรียกเพี้ยนเป็น "ทุ่งสมอ"

บ้านทุ่งสมอ ชุมชนที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับสงครามยุทธหัตถีในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พัฒนาเปลี่ยนผ่านสังคมมาหลายยุคสมัย ตลอดจนปัจจุบันมีการพัฒนาเศรษฐกิจผ่านวิสาหกิจชุมชน โดยเฉพาะ "กลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทย" ซึ่งแปรรูปกล้วยน้ำว้าเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP และพัฒนาเป็นธุรกิจระดับประเทศ ทั้งยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรผ่าน "ศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ทุ่งสมอ" และ "บานาน่าฟาร์ม" ซึ่งเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของชุมชน

บ้านทุ่งสมอ
หมู่ที่ 3
ทุ่งสมอ
พนมทวน
กาญจนบุรี
71140
14.07334
99.65867
องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งสมอ

ตำบลทุ่งสมอเป็นชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่กันเป็นกลุ่มบ้านเล็ก ๆ กระจัดกระจาย ต่อมามีการรวมตัวเป็นชุมชนขนาดใหญ่ขึ้น โดยอาศัยหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของไทย พบหลักฐานทางโบราณคดีหลายแห่ง เช่น แหล่งโบราณคดีบ้านเก่า แหล่งโบราณคดีพงตึก แหล่งโบราณคดีดอนตาเพชร

บ้านทุ่งสมอเป็นชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่มาอย่างยาวนาน คาดว่าน่าจะตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านระบุว่า มีผู้คนอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน โดยเดิมแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่

  1. กลุ่มดอกพันชั่ง ปัจจุบันคือ บ้านคลองต้นเป็ด
  2. กลุ่มดอนประดู่ ปัจจุบันคือ บ้านใน ซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปในทุ่งนา เดิมเรียกว่า "บ้านในทุ่งนา" และภายหลังกร่อนเสียงเป็น "บ้านใน"
  3. กลุ่มดอนบ้านเก่า ปัจจุบันคือ บ้านดอนปรก แต่เดิมเรียกว่า "หมู่ดอนปรก บ้านใหม่" เนื่องจากมีการย้ายถิ่นฐานเข้ามาใหม่และจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
  4. กลุ่มที่ตั้งรอบวัดทุ่งสมอ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชนในปัจจุบัน

ที่มาของชื่อ "ทุ่งสมอ" มีสมมติฐาน 3 ประการ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมา ดังนี้

  1. เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์สงครามยุทธหัตถี เชื่อกันว่าบริเวณทุ่งหนองสาหร่าย (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลดอนเจดีย์ ตำบลทุ่งสมอ และตำบลหนองสาหร่าย) เป็นสถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ซึ่งทำให้มีทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก บริเวณที่ตั้งตำบลในปัจจุบันเคยเป็นที่ตั้งค่ายของหมอที่รักษาทหารบาดเจ็บ จึงถูกเรียกว่า "โรงหมอ" และเพี้ยนเสียงมาเป็น "ทุ่งสมอ" ในปัจจุบัน
  2. เกี่ยวข้องกับสภาพทางธรรมชาติ แต่เดิมบริเวณนี้เป็นทุ่งโล่งที่มีต้นสมอขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้คนจึงเรียกขานกันว่า "บ้านทุ่งต้นสมอ" และต่อมาเรียกสั้นลงเป็น "บ้านทุ่งสมอ"
  3. เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศและสัตว์น้ำ บริเวณนี้เคยเป็นพื้นที่ลุ่ม มีแหล่งน้ำและปลาหมอชุกชุม ชาวบ้านจึงเรียกว่า "ทุ่งวังปลาหมอ" และต่อมามีการเรียกเพี้ยนเป็น "ทุ่งสมอ"

บ้านทุ่งสมอ ตั้งอยู่ห่างจากจังหวัดกาญจนบุรี 15 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอำเภอพนมทวน ระยะทางจากตำบลทุ่งสมอ ถึงอำเภอพนมทวน 8 กิโลเมตร ตำบลทุ่งสมอ มีสภาพพื้นที่และมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

สภาพภูมิอากาศแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู คือ

  • ฤดูร้อน อยู่ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม อากาศร้อนจัด ในเดือนเมษายน
  • ฤดูฝน อยู่ในระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ฝนตกซุกในเดือนพฤษภาคม และเดือนกันยายน
  • ฤดูหนาว อยู่ในระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะหนาว ในเดือนธันวาคมและมกราคม

สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 3 บ้านทุ่งสมอ ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,028 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 501 คน ประชากรหญิง 527 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 315 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)

บ้านทุ่งสมอเป็นชุมชนที่มีลักษณะเศรษฐกิจแบบผสมผสาน ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมในครัวเรือน อีกทั้งยังมีการพัฒนาอาชีพด้านการค้า การบริการ และการท่องเที่ยวที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น อาชีพในตำบลทุ่งสมอสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้

1.อาชีพด้านการเกษตร ถือเป็นอาชีพหลักของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากตำบลทุ่งสมอมีสภาพภูมิประเทศที่เอื้อต่อการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก โดยปลูกข้าวเพื่อการบริโภคและจำหน่าย นอกจากนี้ ยังมีการปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ กล้วยน้ำว้า อ้อย ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ซึ่งสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าได้ อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงสัตว์ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน โดยมีการเลี้ยงโค กระบือ ไก่พื้นเมือง และสุกร รวมถึงการเลี้ยงปลาน้ำจืด เช่น ปลาดุก ปลานิล และปลากะพงน้ำจืด เพื่อจำหน่ายและบริโภคภายในครัวเรือน

2.อาชีพด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน โดยมีการนำผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถจำหน่ายได้ในวงกว้าง ที่สำคัญ ได้แก่ การแปรรูปกล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยตาก กล้วยฉาบ และกล้วยกวน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของกลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทย นอกจากนี้ ยังมีการแปรรูปข้าวเป็นข้าวเกรียบและขนมจากข้าว รวมถึงการแปรรูปอ้อยเป็นน้ำอ้อยสดและน้ำตาลอ้อย อุตสาหกรรมในครัวเรือนเหล่านี้ช่วยให้ประชาชนมีรายได้เสริมจากภาคเกษตรกรรม

3.อาชีพด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเกษตรกรรม เป็นอาชีพที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยตำบลทุ่งสมอได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ปัจจุบันมีการเปิดโฮมสเตย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งฟาร์มเกษตรเพื่อการท่องเที่ยว เช่น บานาน่าฟาร์ม ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับเกษตรทฤษฎีใหม่ พร้อมทั้งเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ OTOP และสินค้าหัตถกรรมจากชุมชน

4.อาชีพภาคแรงงานและงานรับจ้างทั่วไป เป็นอาชีพที่ช่วยให้ประชาชนสามารถมีรายได้เสริมจากภาคเกษตรกรรม โดยมีการประกอบอาชีพในงานช่าง เช่น ช่างไม้ ช่างปูน และช่างเชื่อม ประชาชนบางส่วนทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงมีการรับจ้างทำความสะอาด รับจ้างขนของ และขับรถโดยสารเพื่อให้บริการแก่คนในพื้นที่

ประชาชนในตำบลทุ่งสมอส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งถือเป็นศาสนาหลักของชุมชน และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดวิถีชีวิต ความเชื่อ และขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวบ้าน ศาสนาพุทธส่งอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้คน ทั้งในด้านจิตใจ จริยธรรม และการดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา เช่น การทำบุญตักบาตร การรักษาศีล และการปฏิบัติธรรม

บ้านทุ่งสมอมีวัดทุ่งสมอเป็นศูนย์กลางของชุมชน ซึ่งใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจที่สำคัญของประชาชน วัดไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ทำบุญและปฏิบัติธรรม แต่ยังเป็นศูนย์กลางของการศึกษา การพบปะสังสรรค์ของชุมชน และการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ วัดยังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานบุญและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลทางศาสนา รวมถึงพิธีกรรมในชีวิต เช่น งานบวช งานแต่งงาน และงานศพ

ประเพณีและงานประจำปี

ชาวบ้านทุ่งสมอมีการสืบทอดประเพณีและงานสำคัญประจำปีที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน โดยกิจกรรมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ความสามัคคีของชุมชน และความเคารพต่อขนบธรรมเนียมดั้งเดิม งานประเพณีและเทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นในแต่ละปี ได้แก่

1.วันขึ้นปีใหม่ (เดือนมกราคม) เป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนจะได้เริ่มต้นปีด้วยความเป็นสิริมงคล โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ชาวบ้านนิยมเดินทางไปทำบุญตักบาตรที่วัด เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว บางครอบครัวยังนิยมจัดพิธีสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวได้พบปะกัน ทำให้เกิดความอบอุ่นในชุมชน

2.วันมาฆบูชา (เดือนกุมภาพันธ์) เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ระลึกถึงเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาฏิโมกข์" ซึ่งเป็นหลักคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา ในวันนี้ชาวบ้านจะนิยมเข้าวัด ทำบุญ ฟังธรรม และเวียนเทียนรอบอุโบสถในช่วงค่ำ เพื่อแสดงความเคารพต่อพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

3.วันสงกรานต์ (เดือนเมษายน) เป็นเทศกาลที่สำคัญของไทยและของชาวตำบลทุ่งสมอ โดยเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเพื่อแสดงความเคารพ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เช่น การละเล่นพื้นบ้าน การประกวดก่อเจดีย์ทราย และการจัดขบวนแห่ทางวัฒนธรรม

4.วันผู้สูงอายุ (เดือนเมษายน) เป็นวันสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อให้ลูกหลานได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้สูงวัยในชุมชน กิจกรรมหลักของวันนี้รวมถึงการทำบุญตักบาตร การมอบของที่ระลึกให้ผู้สูงอายุ การสรงน้ำพระ และการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเพื่อขอพร

5.วันวิสาขบูชา (เดือนพฤษภาคม) เป็นวันสำคัญสากลของโลกทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ประชาชนในตำบลทุ่งสมอจะนิยมไปทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ และเวียนเทียนในช่วงค่ำเพื่อรำลึกถึงพระพุทธเจ้า

6.วันอาสาฬหบูชา (เดือนกรกฎาคม) เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ ซึ่งเป็นการกำเนิดพระรัตนตรัย ในวันนี้ประชาชนจะเข้าวัด ทำบุญ ฟังธรรม และเวียนเทียนเพื่อแสดงความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา

7.วันเข้าพรรษา (เดือนกรกฎาคม) เป็นวันที่พระสงฆ์จะเริ่มต้นการจำพรรษาเป็นระยะเวลา 3 เดือนตามพุทธบัญญัติ ชาวบ้านมักนิยมถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนแด่พระสงฆ์ รวมถึงตั้งจิตอธิษฐานในการงดเว้นสิ่งที่ไม่ดี เช่น การงดดื่มสุรา หรือการรักษาศีลให้เคร่งครัดมากขึ้น

8.วันลอยกระทง (เดือนพฤศจิกายน) เป็นประเพณีที่จัดขึ้นเพื่อขอขมาต่อพระแม่คงคา และแสดงความสำนึกในบุญคุณของแหล่งน้ำ ในวันนี้ประชาชนจะร่วมกันประดิษฐ์กระทงเพื่อนำไปลอยในแม่น้ำหรือลำคลอง พร้อมทั้งมีการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น การประกวดนางนพมาศ การแสดงดนตรีและการละเล่นพื้นบ้าน

9.เทศมหาชาติ (เดือนธันวาคม) เป็นงานบุญที่สำคัญของชุมชน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเทศนาเรื่องพระเวสสันดรชาดก ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้า ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กิจกรรมในเทศกาลนี้รวมถึงการทำบุญตักบาตร การสวดมหาชาติ และการจัดขบวนแห่พระเวสสันดร

ชาวบ้านทุ่งสมอให้ความสำคัญกับการปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมอย่างเคร่งครัด เทศกาลและงานประเพณีที่จัดขึ้นในแต่ละปีสะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธา ความสามัคคี และความภาคภูมิใจในรากเหง้าทางวัฒนธรรมของชุมชน ซึ่งช่วยสืบสานและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่ต่อไป

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทย

กลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทย ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มชุมชนแรก ๆ ของบ้านทุ่งสมอที่เกิดจากการรวมตัวของสมาชิกในชุมชน เพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้เสริม โดยเริ่มต้นจากการดำเนินกิจกรรมในรูปแบบของกิจการครัวเรือน ในปี พ.ศ. 2540 เริ่มแรกเป็นเพียงกลุ่มสตรีชุมชน ผู้ริเริ่มก่อตั้งกลุ่มคือคุณจินตนา สระสำอาง ซึ่งมีแนวคิดในการส่งเสริมอาชีพให้แก่กลุ่มเครือญาติและชาวบ้านในพื้นที่ หลังจากเสร็จสิ้นฤดูการทำนา ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว กล้วยน้ำว้า ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่พบได้ทั่วไปในชุมชนบ้านทุ่งสมอและจังหวัดกาญจนบุรี มีราคาต่ำและหาได้ง่าย จึงเล็งเห็นโอกาสในการนำกล้วยน้ำว้ามาเพิ่มมูลค่าโดยการแปรรูปเป็นขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ

ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 กลุ่มสตรีในชุมชนได้ร่วมกันจดทะเบียนเป็น วิสาหกิจชุมชน ภายใต้ชื่อ "กลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทย" และได้พัฒนาสินค้า OTOP โดยใช้แบรนด์ "บานาน่า" ซึ่งมีเรื่องเล่าถึงที่มาของชื่อแบรนด์ว่า

ในปี พ.ศ. 2546 กลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทยได้เข้าร่วมการคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์ OTOP และได้รับการจัดอันดับระดับ 3 ดาว จากนั้นได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งได้รับการจัดอันดับระดับ 5 ดาว ในปี พ.ศ. 2547 นอกจากนี้ กลุ่มฯ ยังได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) และการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

ในปี พ.ศ. 2551 กลุ่มฯ ได้มีการขยายตัวและพัฒนาเป็น บริษัทสยามบานาน่า ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกล้วยน้ำว้าให้ได้มาตรฐานและสามารถแข่งขันในตลาดได้

ต่อมาในปี พ.ศ. 2560 กลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทยได้เข้าร่วมโครงการ OTOP นวัตวิถี และได้นำแนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่มาประยุกต์ใช้ โดยดำเนินการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ทุ่งสมอ ซึ่งแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2561 จากนั้นได้มีการต่อยอดพัฒนาเป็น "บานาน่าฟาร์ม" ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีสวนกล้วยขนาดใหญ่ และให้บริการอาหารที่มีส่วนประกอบหลักจากกล้วย นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้า OTOP จากโรงงานของกลุ่ม และเป็นตลาดสินค้าเกษตรที่รวบรวมผลผลิตจากชุมชน

ปัจจุบันกลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยดำเนินกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่

  1. การถ่ายทอดองค์ความรู้ มีการจัดอบรมให้แก่กลุ่มแม่บ้าน นักเรียน และนักศึกษาที่สนใจในการแปรรูปกล้วยน้ำว้าเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
  2. การขยายพันธุ์กล้วยน้ำว้า มีการพัฒนาและขยายพันธุ์กล้วยน้ำว้าด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้พันธุ์ที่มีคุณภาพและสามารถนำไปปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตได้
  3. การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จากเดิมทีมีเพียงการศึกษาดูงานที่โรงงานของกลุ่มฯ ได้มีการพัฒนาและต่อยอดโดยการสร้าง "บานาน่าฟาร์ม" ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ที่เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาเยี่ยมชม อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้า OTOP และสินค้าเกษตรจากชุมชน

กลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทย ถือเป็นต้นแบบของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่สามารถพัฒนาและยกระดับสินค้าท้องถิ่นให้มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ด้านการเกษตรและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วยน้ำว้า ซึ่งช่วยส่งเสริมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวของชุมชนบ้านทุ่งสมอ จังหวัดกาญจนบุรี

ภาษาพูด : ภาษาไทยกลาง

ภาษาเขียน : อักษรไทย


ในช่วงทศวรรษ 2500 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแรงงานภาคเกษตรกรรมในชุมชนบ้านทุ่งสมอ ซึ่งในขณะนั้นชุมชนยังคงดำรงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม โดยมีการทำนาเป็นอาชีพหลัก ขณะที่ในช่วงว่างจากการทำนา ชาวบ้านจะประกอบอาชีพเสริม เช่น การเผาถ่าน หรือรับจ้างทำงานภายนอกตำบล เช่น การปลูกอ้อย ตัดอ้อย และถากหญ้าในไร่ยาสูบของชาวจีนในพื้นที่อำเภอท่าม่วง

ในช่วงเวลาดังกล่าว ชุมชนบ้านทุ่งสมอเริ่มมีการใช้ไฟฟ้า โดยจุดเริ่มต้นมาจากวัดทุ่งสมอ ซึ่งมีเครื่องปั่นไฟสำหรับจ่ายไฟให้กับบ้านเรือนในชุมชน ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการใช้ไฟฟ้าจากวัดจำเป็นต้องชำระค่าใช้จ่ายให้กับวัดด้วย ต่อมาในปี พ.ศ. 2507 ได้มีการเปิดเส้นทางรถโดยสารประจำทางสายที่ 1723 (กาญจนบุรี-พนมทวน) ซึ่งเริ่มต้นจากสถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรีและสิ้นสุดที่ตลาดอำเภอพนมทวน โดยเส้นทางดังกล่าวได้เชื่อมต่อการคมนาคมของชุมชนทุ่งสมอกับพื้นที่ใกล้เคียง

ในปี พ.ศ. 2510 เริ่มมีการนำรถไถมาใช้ในการทำนาแทนวัวและควาย ส่งผลให้เกิดการผลิตข้าวเพื่อจำหน่ายมากขึ้น มีการตั้งโรงสีภายในชุมชน และเริ่มมีพ่อค้าจากภายนอกเข้ามารับซื้อข้าวเปลือกจากชาวบ้าน นอกจากนี้ ภายในระยะเวลา 3-4 ปีถัดมา ชุมชนบ้านทุ่งสมอได้มีการพัฒนาอาชีพใหม่ที่สร้างรายได้เสริม นั่นคือ การเจียระไนนิลและพลอย ซึ่งนำวัตถุดิบมาจากอำเภอบ่อพลอย โดยกระบวนการผลิตประกอบด้วยการโกลนพลอยเพื่อตัดและแต่งให้ได้รูปทรงที่ต้องการ ก่อนนำไปเจียระไนและขัดเงาเพื่อจำหน่าย

ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2520 มีการติดตั้งระบบท่อน้ำประปาเพื่อส่งน้ำจากสระน้ำมายังบ้านเรือน ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องเดินไปรองน้ำจากสระน้ำของวัด การพัฒนาดังกล่าวส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ในขณะเดียวกัน การเลี้ยงหมูภายในหมู่บ้านเริ่มลดลง เนื่องจากปัญหากลิ่นเหม็นที่รบกวนชาวบ้าน

ช่วงปี พ.ศ. 2524-2525 มีการเคลื่อนย้ายแรงงานออกจากชุมชนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางไปทำงานในกรุงเทพมหานคร อาชีพที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น ได้แก่ การขายอาหารตามแหล่งชุมชน เช่น อู่รถเมล์ บริษัทบุญผ่อง สนามกีฬาแห่งชาติ และสโมสรอาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ บางครอบครัวที่มีที่ดินทำกินน้อยหรือมีภาระค่าใช้จ่ายสูง ก็เลือกที่จะส่งสมาชิกในครอบครัวออกไปทำงานในเมืองกาญจนบุรี

การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ชุมชนบ้านทุ่งสมอเปลี่ยนจากการทำนาเพื่อยังชีพ ไปสู่การผลิตเพื่อจำหน่ายมากขึ้น ประกอบกับความเจริญที่เข้ามา ทำให้เกิดการปรับตัวของแรงงานภาคเกษตรกรรม โดยเริ่มหันมาประกอบอาชีพเสริมที่สามารถทำภายในหมู่บ้าน เช่น การเจียระไนนิลและพลอย

ในปี พ.ศ. 2533 ได้มีการจัดตั้ง "กลุ่มแม่บ้านเกษตรทุ่งสมอสามัคคี" เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่พ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อในราคาต่ำ ทางเกษตรอำเภอพนมทวนและสำนักพัฒนาชุมชนจึงเข้ามาให้คำแนะนำในการรวมกลุ่มผลิตและจำหน่ายข้าวเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลผลิตทางการเกษตร

หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงทศวรรษ 2540 หรือที่เรียกว่า "วิกฤตฟองสบู่แตก" ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวมถึงปัญหาราคาข้าวตกต่ำ รัฐบาลจึงได้ดำเนินนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และมีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2543 ชุมชนบ้านทุ่งสมอได้มีการจัดตั้งกลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทย และต่อมาในปี พ.ศ. 2543 ได้ก่อตั้งกลุ่มสตรีอาสาพัฒนาเกษตรกรทุ่งสมอ ซึ่งรวมตัวกันจัดตั้งโรงสีชุมชนเพื่อผลิตข้าวกล้องออกจำหน่าย ภายใต้ตราสินค้า "ทุ่งสมอ" ต่อมาได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรให้หลากหลายยิ่งขึ้น เช่น ข้าวกล้องหอมมะลินาปี จมูกข้าวรุ่งอรุณ และจมูกข้าวอบกรอบ

ในปี พ.ศ. 2544 มีการขุดคลองชลประทาน ทำให้ชาวบ้านสามารถใช้น้ำเพื่อการเกษตรได้มากขึ้น ในช่วงเวลาดังกล่าว การเจียระไนนิลและพลอยยังคงเป็นอาชีพที่สร้างรายได้หลักให้แก่ชุมชน จึงมีการจัดตั้งเป็นกลุ่มหัตถกรรมในปี พ.ศ. 2547ปี พ.ศ. 2561 - 2562 ชุมชนบ้านทุ่งสมอเริ่มมีแหล่งท่องเที่ยวเกิดขึ้น เช่น คาเฟ่และร้านอาหาร ได้แก่ บานาน่าฟาร์ม และยูแอนมี นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้ง กลุ่มผ้าไทยพื้นถิ่นบ้านทุ่งสมอ เพื่อส่งเสริมงานหัตถกรรมของชุมชน

ในช่วงปี พ.ศ. 2563-ปัจจุบัน มีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การลาดยางถนนทั้งหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม การเจียระไนนิลและพลอยในชุมชนลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงไม่กี่กลุ่มที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ ขณะที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงขอระบบเศรษฐกิจบ้านทุ่งสมอในระยะ 60 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของชุมชนบ้านทุ่งสมอจากยุคเกษตรกรรมดั้งเดิม สู่เศรษฐกิจแบบผสมผสานที่มีทั้งการเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. (ม.ป.ป). สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน. สืบค้น 29 มีนาคม 2568, จาก https://www.rid.go.th/

ปพินญา ทวีสง่า. (2565). กลุ่มสตรีพัฒนากล้วยน้ำว้าไทยกับการปรับตัวเศรษฐกิจชุมชนบ้านทุ่งสมอ จังหวัดกาญจนบุรี. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี. (2567). ประวัติตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี. สืบค้น 29 มีนาคม 2568, จาก https://rlocal.kru.ac.th/

สยามบานาน่า. (25 ตุลาคม 2560). พันธุ์กล้วยน้ำหว้าเพาะจากจากเนื้อเยื่อเราก็มีจำหน่าย. สืบค้น 29 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/

สยามบานาน่า. (25 พฤศจิกายน 2560). อร่อยจนหยุดไม่ได้ แล้วคุณละได้ลองหรือยัง. สืบค้น 29 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/

สยามบานาน่า. (9 กุมภาพันธ์ 2561). จำหน่ายทั้งปลีกและส่งค่ะ. สืบค้น 29 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/

สยามบานาน่า. (3 พฤศจิกายน 2563). เปิดตัวน้องใหม่ สำหรับสายรักสุขภาพ กับ ฟักทองอบกรอบเพื่สุขภาพ. สืบค้น 29 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/

สยามบานาน่า. (7 ธันวาคม 2565). ใครที่กำลังมองหาของขวัญ ของฝากในเทศกาลปีใหม่ อย่าลืมนึกถึง บานาน่า. สืบค้น 29 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/

องค์การบริหารส่วนตําบลทุ่งสมอ. (ม.ป.ป.). ประวัติความเป็นมา. สืบค้น 29 มีนาคม 2568, จาก https://www.thungsamo.go.th/

อบต.ทุ่งสมอ โทร. 0 3454 0754