
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ หมุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ร่วมล่องเรือชมป่าชายเลน พายเรือคายัค หาหอยกาเป๊ะ พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมง ปิดท้ายด้วยการชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่จุดชมวิวบ้านท่ามาลัย
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ หมุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ร่วมล่องเรือชมป่าชายเลน พายเรือคายัค หาหอยกาเป๊ะ พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมง ปิดท้ายด้วยการชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่จุดชมวิวบ้านท่ามาลัย
จากคำบอกเล่าของคนในชุมชนว่ากันว่าแถบนี้จะมีต้นเตยขึ้นเต็มไปหมด เรียกว่า เตยบาหลัย (เรียกตามการออกเสียงในภาษาถิ่น ภาษากลาง คือ เตยปาหนัน) ชาวบ้านใช้นำมาสานเสื่อ จง เฌอ จึงเรียกพื้นที่นี้ว่า ท่าบาหลัย และอีกความหมายหนึ่งของ ท่าบาหลัย มีว่า เป็นที่ว่าความหรือศาลฟ้องร้องกันเพื่อความยุติธรรม เนื่องจากชาวบ้านใช้เป็นที่ตัดสินความในครั้งสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งต่อมาได้เพี้ยนเป็น ท่ามาลัย ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่น่าจะอพยพมาจากเกาะสุมาตรา ในประเทศอินโดนีเซีย
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวบ้านได้อพยพออกจากหมู่บ้านไปอาศัยอยู่ในป่าเขา โดยนำเสบียงจากที่ทางราชการนำมาแจกเก็บไปไว้ในถ้ำ ซึ่งทางราชการจะแจกข้าวสาร 1 กิโลกรัม ต่อ 1 ครัวเรือน ครอบครัวใดที่มีลูกมากก็จะหุงข้าวมาผสมกับมะพร้าวขูด หรือนำสาคูมาโขลกเป็นแป้ง แล้วก็นำมาหุงต้มกับข้าวสารเพื่อให้พอเพียงกับสมาชิก เมื่อสงครามสงบชาวบ้านก็กลับเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเหมือนเดิม ทางการได้เปลี่ยนระบบการปกครองใหม่ ทำให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ดีขึ้น และในสมัยนั้นได้มีรถเร่มาฉายหนังพร้อมกับขายยา ชาวบ้านเรียกกันว่า หนังขายยา และมีการจัดงานแสดงมโหรสพในหมู่บ้านเป็นเนือง ๆ เช่น รองแง็ง ลิเกบก (ลิเกป่า) คือ การขับกลอนโต้ตอบกันเป็นภาษมลายู และขณะเดียวกันผู้เฒ่าผู้แก่ก็ใช้เวทีแห่งนี้ในการนำขนม เช่น ขนมใบจาก ขนมโรตีออไร้ ขนมจอกอเดาะ ที่ทำขึ้นมาเองมานั่งขายในงานด้วย
อาณาเขตติดต่อ
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ หมู่ที่ 5 บ้านท่ายาง
- ทิศใต้ ติดต่อกับ ทะเลอันดามัน
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ หมู่ที่ 4 บ้านตะโละใส
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ หมู่ที่ 2 บ้านปากบารา
บ้านท่ามาลัย หมู่ที่ 6 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล มีลักษณะเป็นพื้นที่เนินลาดจากทิศตะวันออกติดกับหมู่ที่ 4 บ้านตะโละใส และเป็นเขตที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ประชาชนใช้พื้นที่บางส่วนทำนา และทำสวนยางขนาดเล็ก บางส่วนรับจ้างเป็นลูกเรือประมงในต่างจังหวัด และต่างประเทศ คือ ประเทศมาเลเซีย ทิศเหนือติดกับหมู่ที่ 5 บ้านท่ายาง มีป่าชายเลนและป่าจากกั้นกลาง ชาวบ้านบริเวณนี้ทำสวนยางพาราขนาดเล็ก เลี้ยงกุ้งกุลาดำ และเลี้ยงปลากะพงในบ่อ ในบางปีจะขาดแคลนน้ำดื่ม ต้องขนน้ำมาจากตำบลใกล้เคียง โดยนำน้ำมาจากคลองละงู ส่วนฝนจะตกในช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน
สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 6 บ้านท่ามาลัย ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,112 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 518 คน ประชากรหญิง 594 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 340 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)
บ้านท่ามาลัยเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลและมีการดำเนินชีวิตที่ผูกพันกับทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น อาชีพหลักของชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ทะเลและทรัพยากรทางทะเลจึงเป็นรายได้หลักที่สำคัญของชุมชนแห่งนี้
การทำประมงพื้นบ้าน เป็นอาชีพที่มีความสำคัญที่สุดของชาวบ้านท่ามาลัย โดยในการทำประมงจะใช้เครื่องมือ เช่น อวน ลอบ และเบ็ดราวในการจับปลา ปู กุ้ง หมึก และหอย เพื่อนำมาจำหน่ายหรือบริโภคในครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น ปลา โดยเฉพาะปลากระพงขาว ปู และกุ้งในกระชัง ซึ่งช่วยให้ชุมชนสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสัตว์น้ำที่เพาะเลี้ยงได้เอง
อีกหนึ่งอาชีพที่สำคัญ คือ การทำสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคใต้ ชาวบ้านบางครอบครัวจะปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมันเพื่อเสริมรายได้จากการประมง การขายน้ำยางและผลปาล์มไปยังโรงงานแปรรูปในพื้นที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางเศรษฐกิจ นอกจากอาชีพหลักที่เกี่ยวข้องกับการประมงและการเกษตร ชุมชนบ้านท่ามาลัยยังมีการพัฒนาการด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยเปิดรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนและธรรมชาติในพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมป่าชายเลนและไปเที่ยวเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง นอกจากนี้บางครอบครัวยังเปิดโฮมสเตย์สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว และสร้างเป็นรายได้แก่เจ้าของโฮมสเตย์ อาชีพเสริมอื่น ๆ ที่พบในชุมชน เช่น การแปรรูปอาหารทะเล เช่น การทำกะปิ ปลาเค็ม หมึกแห้ง และน้ำพริกกุ้งเสียบ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถจำหน่ายได้ทั้งในท้องถิ่นและส่งออกไปยังพื้นที่อื่น ๆ รวมถึงงานหัตถกรรมพื้นบ้าน เช่น การสานเสื่อจากกก กระจูด หรือทำผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอยและไม้ไผ่เพื่อขายให้กับนักท่องเที่ยวเป็นของที่ระลึก โดยบ้านท่ามาลัยเป็นจุดหมายท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตท้องถิ่น ด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางน้ำที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงและเกษตรกรรม จากนั้นสามารถล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ป่าชายเลนคลองท่ามาลัยและศึกษาระบบนิเวศทางทะเล นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหาหอยปะและหอยกาหยำ พร้อมทั้งการชมต้นลำพูอายุกว่า 400 ปี และปูก้ามดาบ
นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัคข้ามฝั่งคลองเพื่อชมบอหอเกล็ดมังกร เก็บหอยกาเป๊ะ และชมฝูงลิงแสม จากนั้นปิดท้ายการท่องเที่ยวด้วยการชมพระอาทิตย์ตกดินที่จุดชมวิวท่ามาลัย ซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงามและเงียบสงบ เป็นการปิดโปรแกรมการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบได้ภายในเวลาหนึ่งวัน
บ้านท่ามาลัยเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทางศาสนา เนื่องจากภายในชุมชนจะมีทั้งประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามและพระพุทธศาสนา โดยประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม และอีกส่วนหนึ่งเป็นพุทธศาสนิกชน ประเพณีและวัฒนธรรมต่าง ๆ ในหมู่บ้านท่ามาลัยจึงค่อนข้างหลากหลาย ในที่นี้จะยกตัวอย่างบางประเพณีในศาสนาอิสลามเท่านั้น
ประเพณีในชุมชน
1.วันฮารีรอยอ
วันฮารีรอยอเป็นวันสำคัญของชาวมุสลิมทั่วโลกวันหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นวันรื่นเริงประจำปีซึ่งชาวมุสลิมได้เดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อเข้าร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนาโดยพร้อมเพรียงกัน ได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อน ญาติพี่น้องเพื่อขออภัยซึ่งกันและกัน ช่วงเวลาในรอบ 1 ปีของชาวมุสลิม มีวันฮารีรายอ 2 ครั้ง คือ
- อีฎิลฟิตรี ตรงกับวันที่ 1 เดือนเชาวาล ตามปฏิทินอิสลาม ซึ่งเป็นวันออกบวชหลังจากได้ถือศีลอดตลอดระยะเวลา 1 เดือน นิยมเรียกวันนี้ว่า "วันออกบวช" หรือ "รายาปอซอ" หรือ "รายาฟิตเราะห์"
- อีฎิลอัตฮา ตรงกับวันที่ 10 เดือน ซุลฮิจญะห หรือตรงกับเดือน 12 ของปฏิทินอิสลาม เป็นวันส่งท้ายของสิบวันแรกในเดือนซูลฮิจญะ มีลักษณะคล้ายกับวันตรุษอิดิลฟิตรี แต่มีข้อแตกต่างตรงที่มีการทำกุรบาน
2.การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่ชาวมุสลิมทั่วโลกจะทำการถือศีลอด ซึ่งหมายถึงการอดอาหารและเครื่องดื่มตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก โดยถือเป็นการฝึกฝนจิตใจและเพิ่มความศรัทธาในศาสนาอิสลาม
3.ประเพณีเมาลิด
งานเมาลิดหรือพิธีเมาลิด มีชื่อเต็มว่า เมาลิดินนบี เป็นคำในภาษาอาหรับ หากแปลตามตัวจะหมายถึง วันคล้ายวันเกิดของท่านศาสดามูฮำหมัดที่เกิดในวันที่ 12 เดือนรอบิอุลเอาวัล ซึ่งเป็นเดือนที่สามในปฏิทินอิสลาม ลักษณะกิจกรรมส่วนใหญ่ในงานเมาลิดที่มีการจัดกันทั่วโลกนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจะเป็นกิจกรรมที่แสดงถึงการเฉลิมฉลอง มีการร้องบทกลอนบัรซันญีเพื่อสรรเสริญท่านศาสดา (barzanji) การบรรยายธรรม และมีการเลี้ยงอาหาร
พิธีกรรมในชุมชน
- พิธีการโกนผมเด็กแรกเกิดและฮากีเกาะฮ์ เป็นพิธีกรรมที่ทำเพื่อขอพรให้เด็กมีชีวิตที่ดี
- พิธีการเข้าสุนัต เป็นพิธีที่เด็กชายมุสลิมจะทำการ เข้าสุนัต หรือการทำการขลิบ ซึ่งเป็นการกระทำที่ถือว่าเป็นพิธีกรรมสำคัญในศาสนาอิสลาม
- พิธีตำมัต (จบ) อัลกรุอ่าน เมื่อเด็กหรือผู้ใหญ่สามารถจบการอ่านอัลกรุอ่านได้ ก็จะมีการจัดพิธีกรรมเพื่อเฉลิมฉลองการเรียนรู้และการท่องจำ
- พิธีนิกะฮ์และวาลีม๊ะ เป็นพิธีสมรสในศาสนาอิสลาม โดยการจัดงานนิกะฮ์เพื่อแต่งงาน และพิธีวาลีม๊ะเพื่อเฉลิมฉลองการแต่งงาน
- พิธีการละหมาดวันศุกร์ เป็นพิธีกรรมที่ชาวมุสลิมจะมาละหมาดร่วมกันในวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันที่สำคัญในศาสนาอิสลาม
- พิธีขึ้นบ้านใหม่ เมื่อมีการย้ายบ้านหรือสร้างบ้านใหม่ จะมีการทำพิธีเพื่อขอพรให้บ้านนั้นมีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง
- งานยานาซะฮ์ (งานศพ) เป็นพิธีกรรมที่จัดขึ้นเมื่อมีผู้เสียชีวิตในชุมชน เพื่อให้การรำลึกถึงผู้ล่วงลับและทำการฝังศพตามหลักการของศาสนาอิสลาม
กลุ่มแม่บ้านฟื้นฟูขนมพื้นบ้านมุสลิม บ้านท่ามาลัย
กลุ่มแม่บ้านฟื้นฟูขนมพื้นบ้านมุสลิมในชุมชนบ้านท่ามาลัย เป็นการรวมตัวกันของผู้หญิงในชุมชนที่มีความสนใจในการอนุรักษ์และฟื้นฟูขนมพื้นบ้านของชาวมุสลิม โดยเฉพาะขนมที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและการเฉลิมฉลองในเทศกาลต่าง ๆ ของชาวมุสลิม โดยขนมพื้นบ้านที่ได้รับการฟื้นฟูและอนุรักษ์โดยกลุ่มแม่บ้าน เช่น ขนมแนหรำ หรือขนมเจาะหู ขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวหรือแป้งมัน หอมหวานจากกะทิและมะพร้าวขูด ขนมลา ขนมข้าวเหนียวที่นุ่มหวานจากกะทิและน้ำตาล ขนมตาไป ขนมข้าวเหนียวหรือแป้งที่อบจนกรอบ ขนมโกยจาไบ ที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวต้มในน้ำเชื่อม ทั้งนี้ กลุ่มแม่บ้านฟื้นฟูขนมพื้นบ้านมุสลิมไม่ได้เพียงแค่ผลิตขนมเพื่อบริโภคในครัวเรือน แต่ยังมีการผลิตเพื่อจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวหรือลูกค้าท้องถิ่น เพื่อสร้างรายได้และเผยแพร่วัฒนธรรมของชุมชนไปยังภายนอก นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมการสอนทักษะการทำขนมพื้นบ้านให้กับคนในชุมชนและเยาวชน เพื่อรักษาและถ่ายทอดภูมิปัญญาของท้องถิ่น การฟื้นฟูขนมพื้นบ้านมุสลิมจึงเป็นทั้งการอนุรักษ์วัฒนธรรมการทำขนมดั้งเดิมและการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับสมาชิกในชุมชน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่
ภาษาพูด : ภาษาไทยถิ่นใต้ ภาษาไทยกลาง
ภาษาเขียน : อักษรไทย
จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. (2566). งานเมาลิดนบี (Maulid Nabi). สืบค้น 30 มีนาคม 2568, จาก http://www.thaistudies.chula.ac.th/
ที่นี่ละงู. (2563). ท่ามาลัย. สืบค้น 30 มีนาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/atlangu
บัดสาระ องศารา และคณะ. (2547). การฟื้นฟูขนมพื้นบ้านมุสลิมบ้านท่ามาลัย หมู่ที่ 6 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล: รายงานฉบับสมบูรณ์. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
พาตีฮะ เจ๊ะมูดอ. (2560). ฮารีรายอ ความสุขของชาวมุสลิม. สืบค้น 30 มีนาคม 2568, จาก https://www.lib.ru.ac.th/
องค์การบริหารส่วนตําบลปากน้ำ. (ม.ป.ป.). ข้อมูลทั่วไป. สืบค้น 30 มีนาคม 2568, จาก https://paknamsatun.go.th/