
บ้านสันต้นเปา หมู่บ้านที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี แหล่งอารยธรรมอันล้ำค่าของชาวล้านนาที่มีศิลปะ วัฒนธรรม มรดกภูมิปัญญา และวิถีชีวิตท้องถิ่นที่เรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์ที่งดงามและน่าสนใจ
ที่ตั้งหมู่บ้านเป็นพื้นที่ที่มีต้นเปาเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จนเรียกได้ว่าเป็นป่าเปา เมื่อตั้งเป็นหมู่บ้านจึงใช้ชื่อต้นไม้ชนิดนี้เรียกชื่อหมู่บ้าน
บ้านสันต้นเปา หมู่บ้านที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี แหล่งอารยธรรมอันล้ำค่าของชาวล้านนาที่มีศิลปะ วัฒนธรรม มรดกภูมิปัญญา และวิถีชีวิตท้องถิ่นที่เรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์ที่งดงามและน่าสนใจ
บ้านสันต้นเปา อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีมานานหลายชั่วอายุคน แรกเริ่มการเข้ามาในพื้นที่ของผู้คนไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่ามีการอพยพโยกย้ายเข้ามาตั้งแต่เมื่อใด แต่สันนิษฐานได้จากหลักฐานการสร้างวัดสำคัญในพื้นที่ชุมชนที่มีจดหมายเหตุอ้างถึงที่มาของวัดตามประวัติศาสตร์ที่บอกกล่าวต่อกันมาว่า วัดสันต้นเปา วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวบ้านและประชาชนทั่วไปให้ความเคารพนับถือเป็นแหล่งรวมศรัทธาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คน โดยวัดสันต้นเปาสร้างเมื่อประมาณราวปี พ.ศ. 2180 ตามบันทึกที่พบในอักษรธรรมใบลานผูกหนึ่ง ที่มีอายุมากกว่า 400 ปี ซึ่งปัจจุบันเอกสารใบลานผูกนี้ได้สูญหายไปแล้ว
จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าในพื้นที่บ้านสันต้นเปา อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ในอดีตคงจะมีการเข้ามาของผู้คนเพื่อลงหลักปักฐานเป็นที่อยู่อาศัยจนกลายเป็นชุมชนมายาวนานหลายร้อยปี เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และคงมีความเจริญรุ่งเรืองจนถึงขนาดมีการสร้างวัดในพื้นที่ ทั้งยังมีการเรียนรู้ศึกษาจนสามารถเขียนอักษรเพื่อจารึกลงในใบลานซึ่งเป็นเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงการมีอยู่ของผู้คนในพื้นที่แถบอาณาบริเวณนี้ จนมีการก่อตัวขยายชุมชน ก่อนจะมีพัฒนาการมาเป็นชุมชนบ้านสันต้นเปาในถึงปัจจุบัน
บ้านสันต้นเปา ตำบลสันป่าเปา ตั้งอยู่ในเขตอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากที่ว่าการอำเภอสันทรายไปทางทิศตะวันออกเป็นระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากศูนย์กลางของจังหวัดเชียงใหม่ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 118 (เชียงใหม่-เชียงราย) เป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 4,037 ไร่ หรือประมาณ 6.46 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ลักษณะพื้นที่มีความลาดเอียงจากทิศเหนือไปทางทิศใต้ของตำบล มีสภาพภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ แบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม-เดือนเมษายน ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-เดือนกันยายน และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม-เดือนกุมภาพันธ์ ลักษณะดินโดยทั่วไปเป็นดินเหนียวปนทราย อยู่ในกลุ่มชุดดินที่ 7 และ 21 มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับทำนา พืชไร่ และพืชผักอายุสั้น พื้นที่ตำบลสันป่าเปาอยู่ในเขตลุ่มน้ำแม่ปิง ซึ่งมีลำน้ำแม่กวงเป็นลำน้ำสายหลัก โดยตำบลสันป่าเปาอยู่ในพื้นที่รับน้ำของเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญของชุมชน มีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ตำบลใกล้เคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลหนองแหย่ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
- ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลสันนาเม็งและตำบลเมืองเล็น อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 1 บ้านสันต้นเปา ตำบลสันป่าเปา อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,734 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 788 คน ประชากรหญิง 946 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 971 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)
ประชาชนส่วนใหญ่ของบ้านสันต้นเปาประกอบอาชีพด้านการทำเกษตรกรรมเป็นหลัก เนื่องจากพื้นที่ชุมชนตั้งอยู่ในชัยภูมิที่เหมาะสมในการทำการเกษตร มีทรัพยากรดินและน้ำ รวมไปถึงสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย มีการปลูกข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก โดยแบ่งช่วงเวลาการเพาะปลูกออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ การปลูกข้าวข้าวนาปี พันธุ์ข้าวที่นิยมปลูก คือ พันธุ์ กข6 ข้าวหอมมะลิ105 ข้าวสันป่าตอง1 และพันธุ์ปทุมธานี ส่วนการเพาะปลูกข้าวนาปรัง พันธุ์ข้าวที่ปลูก ได้แก่ สันป่าตอง1 ปทุมธานี1 นอกจากนี้ยังมีการเพาะปลูกพืชสวนและพืชไร่อื่น ๆ ได้แก่ มะม่วง และลำไย พันธุ์ที่ปลูกมาก ได้แก่ พันธุ์อีดอ อีแห้ว เบี้ยวเขียว และสีชมพู ส่วนพืชไร่นิยมปลูกถั่วเหลือง และมันเทศ พันธุ์ที่ปลูกมาก คือ พันธุ์มอญไข่
นอกจากนี้ บ้านสันต้นเปายังมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมพื้นที่ วิถีชีวิตของชาวบ้าน วัฒนธรรมชุมชนที่งดงาม และบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติและกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่น ทางชุมชนจึงได้มีการรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นโฮมสเตย์ร่วมกับหมู่บ้านใกล้เคียงในตำบลสันป่าเปา เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ คือ กลุ่มโฮมสเตย์สันทราย จัดตั้งเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2551 ได้รับมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย จากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลสันป่าเปา ตำบลสันทรายหลวง ตำบลป่าไผ่ และตำบลหนองแหย่ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยการก่อตั้งกลุ่มโฮมสเตย์นี้สืบเนื่องมาจากบ้านสันต้นเปาเป็นชุมชนที่มีทรัพยากรที่เหมาะแก่การผลักดันด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เนื่องจากมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และมีรูปแบบวิถีการดำเนินชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้เยาวชนรุ่นหลัง โดยสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากที่สุด 40 คนต่อวัน มีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ บริการบ้านพักโฮมสเตย์ การเยี่ยมชมโบราณสถาน พิพิธภัณฑ์วัดร้องเม็ง ชมวัดดอยแท่นพระผาหลวง วัดดอยสะเก็ด การเยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชน การปั้นตุ๊กตาดินเผา การเย็บผ้าด้วยมือ การทำโคมตุง การทำเกษตรอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกะลามะพร้าว บ้านดิน หอศิลปะ พิธีบายศรีสู่ขวัญ การชมศิลปะการแสดงแบบล้านนา อาหารแบบขันโตก อาหารพื้นเมือง และการปั่นจักรยานเยี่ยมชมทัศนียภาพ สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ น้ำพุร้อนสันกำแพง วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดดอยแท่นพระผาหลวง วัดพระบาทตีนนก เขื่อนแม่กวงอุดมธารา และบ้านป่าสักงาม
ทั้งนี้ชุมชนยังมีการผลิตสินค้าของที่ระลึกชุมชนเพื่อจัดจำหน่าย ได้แก่
- ผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายเย็บมือย้อมสีธรรมชาติ เช่น เสื้อ กางเกง ผ้าซิ่น กระเป๋า ผ้าคลุมโต๊ะ
- ตุ๊กตาดินเผา เช่น ตุ๊กตาดินเผาเด็กไทยล้านนา
- ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว เช่น กระดุม โมบาย สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู
- ผลิตภัณฑ์ชาเชียงดา เป็นเครื่องดื่มชาที่ผลิตจากผักเชียงดาอินทรีย์ 100% ชนิดแช่ในน้ำร้อน จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเพียงดินสันป่าเปา
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเพียงดินสันป่าเปา เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2551 โดยคนในชุมชนบ้านสันต้นเปาร่วมกับหมู่บ้านในตำบลสันป่าเปาเริ่มตระหนักถึงการดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกผักปลอดภัยตำบลสันป่าเปาขึ้น โดยกลุ่มฯ ได้เน้นถ่ายทอดความรู้ด้านการปลูกผักอย่างปลอดภัยและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติแก่คนในชุมชน และได้ปลูกผักออร์แกนิกเพื่อจำหน่ายให้แก่คนในชุมชน โดยมีหน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุนการดำเนินงานมาโดยตลอด ดังนั้นเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริการงาน จึงได้จัดตั้งวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเพียงดินสันป่าเปาขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 เพื่อทำหน้าที่สร้างอัตลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ของชุมชน โดยเน้นเป็นศูนย์เรียนรู้ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชน และดำเนินกิจการด้านการท่องเที่ยวของชุมชน
ประชากรบ้านสันต้นเปามีการนับถือศาสนาประกอบด้วยศาสนาสำคัญ ได้แก่ ศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ ภายในพื้นที่มีศาสนสถาน คือ วัดสันต้นเปา เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านที่นับถือพระพุทธศาสนา และมีโบสถ์คริสต์ตั้งอยู่ที่บ้านบ่อหิน หมู่ที่ 3 สำหรับคริสต์ศาสนิกชนเดินทางไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ ทั้งนี้บ้านสันต้นเปามีประเพณีและงานประจำปีที่สำคัญของชุมชนซึ่งยึดตามประเพณีประจำปีของจังหวัดเชียงใหม่ เช่น
1.ประเพณีสงกรานต์ จัดขึ้นระหว่างวัน 13-15 เมษายน ของทุกปี ชาวล้านนาเรียกวันสงกรานต์ว่า "วันปีใหม่" หรือ "วันสังขารล่อง" คือ เป็นวันสิ้นสุดศักราชเก่า ต้อนรับศักราชใหม่ คำว่า สังขารล่อง มีความหมายว่า อายุสังขารของเรา ๆ ได้ล่วงเลยผ่านพ้นไปอีกปีหนึ่ง หรือแก่ไปอีกหนึ่งปี ชาวเชียงใหม่มีการจัดขบวนแห่พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ได้แก่ พระพุทธสิหิงค์ และขบวนแห่นางสงกรานต์ที่ประดับประดาตกแต่งอย่างอลังการแห่รอบเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งมีการสรงน้ำพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง สรงน้ำพระสงฆ์ ก่อพระเจดีย์ทราย รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การเล่นสาดน้ำ รวมทั้งยังมีการละเล่นพื้นเมืองต่าง ๆ อย่างสนุกสนานอีกด้วย
2.ประเพณีเข้าอินทขีล ประเพณีเข้าอินทขีลเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาช้านานแล้วของชาวเชียงใหม่ เมื่อถึงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน ตรงกับวันแรม 13 ค่ำ เดือน 8 ชาวเชียงใหม่จะร่วมกันประกอบพิธีบูชาอินทขีล อันเป็นเสาหลักเมือง ซึ่งอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง ใจกลางเมืองเชียงใหม่ การประกอบพิธีบูชาเสาอินทขีลนี้เชื่อว่าเป็นการบูชาเทวดาอารักษ์ผู้ปกปักรักษาเมืองเชียงใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมเย็นเป็นสุขในบ้านเมือง
3.ประเพณียี่เป็ง เมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 12 หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 อันเป็นช่วงเวลาของเดือนหงาย และเป็นช่วงที่แม่น้ำลำคลองเต็มเปี่ยมด้วยน้ำ ชาวเชียงใหม่ได้พร้อมใจกันจัดประเพณีที่สำคัญและมีความสวยงามอย่างยิ่งขึ้น เรียกว่า "ประเพณียี่เป็ง" หรือ "ประเพณีเดือนสิบสอง" (คนไทยทั่วไปรู้จักกัน คือ ประเพณีลอยกระทง) ในช่วงเช้าของวันยี่เป็งจะเข้าวัดทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา ช่วงเย็นมีการประกอบพิธีปล่อยโคมลอย มีการจัดการประกวดกระทง และการประกวดนางนพมาศ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ
4.จุลกฐิน เป็นประเพณีที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลกฐินหรือหลังจากที่ออกพรรษาแล้ว จุลกฐินหรือเรียกอีกอย่างว่า "กฐินแล่น" เป็นกฐินที่ต้องอาศัยพลังความสามัคคีคนหมู่มาก และต้องรีบทำให้เสร็จภายในกำหนดหนึ่งวัน เมื่อทำเสร็จก็สามารถทอดถวายที่วัดได้เลย ในส่วนชาวเชียงใหม่นั้นเมื่อทำผ้าจุลกฐินเสร็จก็จะร่วมขบวนแห่กันด้วยความร่าเริงสนุกสนาน มีตีกลองสะบัดชัย และมีการฟ้อนเจิงอันเป็นศิลปะพื้นเมืองดั้งเดิมของชาวเชียงใหม่ในช่วงของการแห่ขบวนจุลกฐินด้วย
ภาษาพูด : ภาษาไทยถิ่นเหนือ ภาษาไทยกลาง
ภาษาเขียน : อักษรไทย
ลาวัล เบี้ยไธสง. (2562). สืบฮีต สานฮอย ผ่อกอย วิถีชาวนาใกล้เวียง: การศึกษาแนวทางการจัดการการท่องเที่ยววิถีชาวนาชุมชนสันป่าเปา จังหวัดเชียงใหม่. สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
องค์การบริหารส่วนตำบลสันป่าเป่า. (ม.ป.ป.). คู่มือแหล่งท่องเที่ยวตำบลสันป่าเปา อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่. สืบค้น 31 มีนาคม 2568, จาก http://www.sanpapao.go.th/
สำนักงานเกษตรอำเภอสันทราย. (2563). วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเพียงดินสันป่าเปา. สืบค้น 31 มีนาคม 2568, จาก https://chiangmai.doae.go.th/
Cnvtthailand. (2567). บ้านสันป่าเปา จังหวัดเชียงใหม่. สืบค้น 31 มีนาคม 2568, จาก https://www.cnvtthailand.com/