Advance search

บ้านร่องเย็น ชุมชนขนาดใหญ่ในพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำยมที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ มีการใช้มรดกทางภูมิปัญญาด้านการทำเกษตรกรรมมาปรับใช้ในการดำรงชีวิตท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาสร้างเสริมศักยภาพท้องถิ่น

หมู่ที่ 3, 5
ร่องเย็น
ทุ่งน้าว
สอง
แพร่
อบต.ทุ่งน้าว โทร. 0 5452 0701
วิไลวรรณ เดชดอนบม
1 เม.ย. 2025
วิไลวรรณ เดชดอนบม
1 เม.ย. 2025
บ้านร่องเย็น


ชุมชนชนบท

บ้านร่องเย็น ชุมชนขนาดใหญ่ในพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำยมที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ มีการใช้มรดกทางภูมิปัญญาด้านการทำเกษตรกรรมมาปรับใช้ในการดำรงชีวิตท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาสร้างเสริมศักยภาพท้องถิ่น

ร่องเย็น
หมู่ที่ 3, 5
ทุ่งน้าว
สอง
แพร่
54120
18.393199749160754
100.1777182725412
องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งน้าว

การเข้ามาตั้งถิ่นฐานของผู้คนในพื้นที่ชุมชนบ้านร่องเย็น ตำบลทุ่งน้าว อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าคนกลุ่มแรกที่มาสร้างบ้านเรือนในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยมแห่งนี้มีขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด แต่จากประวัติศาสตร์เชิงพื้นที่ของชุมชน และการเข้ามาของผู้คนในเขตตำบลทุ่งน้าว อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ทำให้ทราบถึงข้อมูลการตั้งถิ่นฐานว่า บริเวณพื้นที่ตำบลทุ่งน้าวในอดีต เดิมได้มีการเข้ามาของกลุ่มคนเพื่อใช้พื้นที่ก่อตั้งเป็นชุมชนขนาดเล็ก ๆ ในระยะแรก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เหมาะทำการประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยที่ตั้งบ้านร่องเย็น เป็นพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำยม ซึ่งแหล่งน้ำถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพเกษตรกรรม อันเป็นวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมที่มีมาตั้งแต่อดีต การเข้ามาของผู้คนในพื้นที่นี้จึงคาดการณ์ได้ว่ามาจากสาเหตุของการหาพื้นที่ทำกินที่เหมาะสม จนกลายเป็นชุมชนในพื้นที่เลียบฝั่งแม่น้ำยม และขยายชุมชนจนกลายเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ในปัจจุบันชุมชนบ้านร่องเย็นแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 2 หมู่บ้าน คือ บ้านร่องเย็น หมู่ที่ 3 และบ้านร่องเย็น หมู่ที่ 5 ตำบลทุ่งน้าว อำเภอสอง จังหวัดแพร่

บ้านร่องเย็นตั้งอยู่ห่างจากอำเภอสองไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร มีพื้นที่โดยประมาณ 1,400 ไร่ สภาพพื้นที่เป็นที่ราบ มีภูเขาสูงอยู่ทางทิศตะวันตก มีพื้นที่ราบเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ และปลูกพืชผลทางการเกษตร มีลำคลองอยู่ท้ายหมู่บ้าน และมีแม่น้ำยมไหลผ่าน สภาพดินมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย ดินลูกรัง ในที่ดอนเชิงเขามีความอุดมสมบูรณ์ปานกลางเหมาะสำหรับการปลูกพืชทุกชนิด สภาพภูมิอากาศมีอุณหภูมิเฉลี่ย 21-36 องศาเซลเซียส มีสามฤดูกาล คือ ฤดูฝน ในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน ฤดูหนาว ช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม และฤดูร้อน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม มีเส้นทางคมนาคมติดต่อและขนส่งผลผลิตทางการเกษตรได้สะดวก สามารถติดต่อกับหมู่บ้านและตำบลใกล้เคียงได้ มีถนนคอนกรีตและถนนลูกรังเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านไปยังพื้นที่ทำการเกษตรกรรม โดยมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

อาณาเขตติดต่อของหมู่ที่ 3

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ หมู่บ้านทุ่งน้าว หมู่ที่ 1 และ 2
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านเด่นนางฟ้อน หมู่ที่ 4
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับบ้าน บ้านทุ่งน้าว หมู่ที่ 6
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลแดนชุมพล หมู่ที่ 1 และ 4

อาณาเขตติดต่อของหมู่ที่ 5

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านทุ่งน้าว หมู่ที่ 1
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านร่องเย็น หมู่ที่ 3
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ริมฝั่งแม่น้ำยม
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านป่าแดงใต้ ตำบลแดนชุมพล

ทรัพยากรธรรมชาติ

ป่าไม้ในหมู่บ้านร่องเย็นส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณ (Mixed Deciduous Forest) จัดอยู่ในประเภทของป่าผลัดใบ (Deciduous) ลักษณะเป็นป่าโปร่งและมีไม้ไผ่ชนิดต่าง ๆ ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ดินมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย มีไม้สักปะปนอยู่บ้าง แต่ส่วนมากจะเป็นไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้มะเกลือ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีไม้ไผ่ที่สำคัญ เช่น ไผ่ป่า ไผ่บง ไผ่ซาง ไผ่รวก ไผ่ไร่ ชาวบ้านสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ในหมู่บ้านร่องเย็นได้โดยการนำไม้มาสร้างอาคารบ้านเรือนและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ใช้พืชบางชนิดเป็นอาหาร ใช้เส้นใยที่ได้จากเปลือกไม้และเถาวัลย์มาถักทอเป็นเครื่องนุ่งห่ม เชือก และยังมีต้นสมุนไพรนานาชนิดที่ชาวบ้านเก็บไปทำเป็นสมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ ตามภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษ ปัญหาที่เกิดกับทรัพยากรป่าไม้ในหมู่บ้านร่องเย็น คือ การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า เพื่อนำไม้ที่ได้ไปสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย หรือนำไปขาย โดยชาวบ้านในหมู่บ้านร่องเย็นได้มีการร่วมกันกำหนดมาตรการขึ้นเพื่อรักษาทรัพยากรป่าให้คงอยู่กับลูกหลานต่อไป ส่วนทรัพยากรน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านร่องเย็นนำมาใช้ในการเกษตร มีอยู่ 5 แหล่ง ได้แก่

  1. หนองเก่า มีพื้นที่ 40 ไร่ ความกว้าง 50 เมตร ความยาว 800 เมตร ความลึก 4 เมตร ปริมาณน้ำในแต่ละปี 16,000 ลูกบาศก์เมตร
  2. ห้วยผาจับ มีความยาว 2 กิโลเมตร ความกว้างของส่วนล่าง 7 เมตร ส่วนบน 10 เมตร ความลึก 2.5 เมตร
  3. ห้วยร่องปง มีความยาว 500 เมตร ความกว้างของส่วนล่าง 7 เมตร ส่วนบน 10 เมตร ความลึก 2.5 เมตร
  4. ห้วยร่องเผ่า มีความยาว 1 กิโลเมตร ความลึก 2.5 เมตร ความกว้างส่วนล่าง 7 เมตร ส่วนบน 10 เมตร ห้วยร่องเผ่ามีฝายน้ำล้นขอบรองรับชลประทานฝั่งซ้ายแหล่งน้ำทั้ง 4 แหล่ง ถือว่าเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่นำมาหล่อเลี้ยงชุมชนบ้านร่องเย็นในการทำการเกษตรตลอดทั้งปี
  5. แม่น้ำยม เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ไหลผ่านพื้นที่บริเวณชุมชนทางด้านทิศตะวันตก โดยใช้เป็นแหล่งทรัพยากรในการทำเกษตรกรรม และแหล่งอาหารตามธรรมชาติ

สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 3 บ้านร่องเย็น ตำบลทุ่งน้าว อำเภอสอง จังหวัดแพร่ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 512 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 239 คน ประชากรหญิง 273 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 187 หลังคาเรือน

ส่วนบ้านร่องเย็น หมู่ที่ 5 มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 559 คน แยกเป็นประชากรชาย 278 คน ประชากรหญิง 281 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 221 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)

ชาวบ้านร่องเย็นส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรมเป็นหลัก มีการปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด พริก ยาสูบ กะหล่ำปลี ถั่วเหลือง มะเขือ โดยประชาชนในชุมชนได้ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรกรรมในครัวเรือน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิต และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากนี้ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งประกอบอาชีพด้านการประมง และมีการเลี้ยงสัตว์ชนิดต่าง ๆ เป็นรายได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อจัดจำหน่ายเป็นรายได้เสริมในครัวเรือนอีกด้วย

การทำนา เป็นอาชีพหลักที่สำคัญของชุมชนบ้านร่องเย็น เนื่องจากข้าวเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของคนในภูมิภาค การปลูกข้าวจึงถือเป็นอาชีพหลักที่สร้างความมั่นใจในครัวเรือนว่ามีปัจจัยในการดำรงชีวิตที่จำเป็น โดยการปลูกข้าวของชาวบ้านมีทั้งในรูปแบบการผลิตเพื่อจำหน่ายส่วนหนึ่ง และผลิตเพื่อบริโภคและเก็บไว้เป็นพันธุ์ข้าวในฤดูกาลถัดไปอีกส่วนหนึ่ง โดยพันธุ์ข้าวที่ชาวบ้านนิยมปลูก ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 72 กข6 ฯลฯ

การทำไร่ยาสูบ ปัจจุบันการปลูกยาสูบเป็นหนึ่งในอาชีพของเกษตรกรในหมู่บ้านร่องเย็น ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่วนมากพันธุ์ยาสูบที่ชาวบ้านใช้ในการปลูก คือ พันธุ์เวอร์จิเนีย ซึ่งได้รับพันธุ์ยาสูบมาจากสถานีทดลองใบยาสูบ

การปลูกข้าวโพด การปลูกข้าวโพดเป็นอีกอาชีพที่ทำหมุนเวียนกับข้าว กะหล่ำปลี และยาสูบในรอบปีของการทำการเกษตร ซึ่งอาชีพการปลูกข้าวโพดสามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวของเกษตรกรได้ทางหนึ่ง โดยข้าวโพดที่ปลูกนี้เป็นข้าวโพดสำหรับเลี้ยงสัตว์

การปลูกมะเขือพันธุ์สีม่วง เป็นอาชีพเสริมของชาวบ้านที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรของหมู่บ้านร่องเย็นได้หลายหลังคาเรือน และเป็นการใช้ที่ดินที่รกร้างว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์มากขึ้น

การปลูกกะหล่ำปลี มักจะปลูกในช่วงหลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวประมาณเดือนมีนาคม ไปจนถึงประมาณเดือนพฤษภาคม โดยเป็นการเว้นระยะห่างจากการทำนา ซึ่งเป็นพืชอีกหนึ่งชนิดในการใช้พื้นที่หมุนเวียนเพื่อสร้างรายได้ของชุมชน

การเลี้ยงปลาในกระชัง เป็นการรวมกลุ่มกันของเกษตรกรหมู่บ้านร่องเย็น โดยการขอยืมกระชังปลาจากบ้านห้วยหม้าย โดยมีผู้มีความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงปลาในกระชังเข้ามาร่วมกลุ่มด้วย จากนั้นจัดซื้อพันธุ์ปลาและอาหารจากจังหวัดพะเยาและจังหวัดแพร่ โดยเงินทุนนั้นมาจากการลงทุนร่วมกันของสมาชิกในกลุ่ม แล้วดำเนินการปล่อยปลาที่ได้จากการซื้อลงกระชัง และการให้อาหารปลาจะมีการจัดทำตารางเวรผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันโดยให้สมาชิกภายในกลุ่ม ส่วนการจัดจำหน่ายปลาจะต้องอยู่ในช่วงอายุประมาณ 3-4 เดือน โดยจะมีพ่อค้าคนกลางมารับโดยตรงจากกระชัง และมีชาวบ้านมาซื้อในราคาปลีก โดยในปัจจุบันมีการจัดตั้งกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังบ้านร่องเย็นอย่างเป็นทางการ และการเลี้ยงปลาในกระชังก็เป็นอาชีพที่สร้างรายได้แก่สมาชิกได้ตลอดทั้งปี

การเลี้ยงสุกร เป็นอาชีพหนึ่งของเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ในชุมชนบ้านร่องเย็น ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ดี และเป็นที่ต้องการของตลาดค่อนข้างสูง ถือได้ว่าเป็นในช่วงว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรมอื่น ๆ ที่เป็นอาชีพหลัก

การเลี้ยงครั่ง เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับชาวร่องเย็น เกษตรกรที่มีอาชีพทำนาเมื่อมีเวลาว่างจะมาทำการเลี้ยงครั่ง ทำให้เกิดประโยชน์หลายทาง เช่น มีการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น ซึ่งต้นไม้ที่สามารถเลี้ยงครั่งได้ในประเทศไทยมีไม่น้อยกว่า 30 ชนิด ผลผลิตจากต้นไม้เหล่านี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างอื่นได้อีก และที่สำคัญการเลี้ยงครั่งสามารถเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรไม่น้อยในแต่ละปี ถึงแม้ราคาครั่งจะไม่แน่นอน แต่หากมีการเลี้ยงสม่ำเสมอมีผลผลิตครั้งทุกปี และใช้ครั่งพันธุ์ของตนเองแล้ว รายได้ก็ยังคุ้มค่ากับเวลาและแรงงานที่ใช้ในการเลี้ยง

การเลี้ยงจิ้งหรีด สืบเนื่องจากชาวบ้านร่องเย็นเป็นหมู่บ้านที่ทำการเกษตรแบบยั่งยืน และได้รับตำแหน่งหมู่บ้านอยู่เย็นเป็นสุขระดับจังหวัดในปี 2549 เป็นตัวแทนหมู่บ้านในจังหวัดแพร่ เข้ารับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้นได้มีการประชุมกัน เพื่อรับฟังปัญหาและผลการดำเนินการของกลุ่มต่าง ๆ ตลอดถึงความต้องการของสมาชิกในชุมชนว่าต้องการประกอบอาชีพอะไรเพื่อเสริมรายได้ และมีบางกลุ่มที่สนใจในการเลี้ยงจิ้งหรีดเพื่อเป็นอาชีพเสริมรายได้ให้กับครอบครัว จึงเกิดเป็นอีกหนึ่งอาชีพในชุมชนที่สร้างรายได้ไม่แพ้การเลี้ยงครั่ง

บ้านร่องเย็นเป็นชุมชนที่คนในชุมชนนับถือพระพุทธศาสนา มีวัดร่องเย็นเป็นศูนย์รวมศรัทธาของคนในชุมชน ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนมีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับศาสนา ประเพณี เทศกาล และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยชาวบ้านจะนิยมเข้าวัดทำบุญ และร่วมกันจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา วันพระใหญ่ ประเพณีทอดกฐิน นอกจากนี้เนื่องจากบ้านร่องเย็นเป็นชุมชนที่ประกอบอาชีพด้านการทำเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยเฉพาะการปลูกข้าวซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิม จึงมีประเพณีพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำเกษตรกรรม คือ ประเพณีทำขวัญข้าว เป็นประเพณีสำคัญ

การทำขวัญข้าว หรือทำขวัญแม่โพสพ เป็นประเพณีที่ชาวบ้านร่องเย็นได้สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน ในวันศุกร์ของเดือนยี่ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ข้าวออกรวงสุกเหลืองอร่าม สมควรที่จะเก็บเกี่ยวได้ ก็ให้ทำขวัญข้าวตามวันที่สมควรหาวันดี เว้นวันอาทิตย์ เพราะตามตำราท่านบอกไว้ว่า แม่โพสพเกิดวันอาทิตย์ วันประกอบพิธีทำขวัญแม่โพสพ จะจัดตั้งปะรำพิธีที่ศาลแม่โพสพ และอัญเชิญพระคันธารราษฎร์จำลอง (ปางขอฝน) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ใช้ในพิธี และมีพิธีลงอาราธนาพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาธรรมจักรกัปปวัตนสูตร โดยจัดแจงหาเครื่องสังเวย แต่ไม่ให้ใช้ของที่ทำด้วยแป้ง เพราะแม่โพสพจะไม่บริโภคเนื้อหนังมังสาของตนเอง ของสังเวยมีหลายอย่าง ให้จัดหามาพอสมควร เช่น บายศรีปากชาม ไข่ต้มสุก ขนมถั่วงา ผลไม้นานาชนิด อ้อย หมาก พลู แป้งหอม ดอกไม้ธูปเทียน ผ้าม่วง เข็มขัดทอง แก้วแหวน ธงสี เมื่อจัดเครื่องสังเวยแล้วให้เย็บใบตองเป็นกระทงใบใหญ่ เพื่อรวบรวมใส่เครื่องสังเวย แล้วอัญเชิญแม่โพสพไปสู่ทุ่งนา เมื่อถึงบริเวณที่จะทำพิธี ให้อัญเชิญแม่โพสพตั้งไว้ในที่เหมาะสม แล้วรวบกอข้าวเข้ามา 3 กอ ผูกติดกันแล้วนำผ้าม่วงมานุ่งล้อมรอบกอข้าวทั้ง 3 กอ คาดด้วยเข็มขัดทอง ใส่สร้อยแหวนเงินทองเป็นการแต่งตัวแม่โพสพให้สวยงาม ปักต้นอ้อย ปักธงสี จุดธูปเทียน แล้วกล่าวคำขวัญข้าวจนจบ ในช่วงกลางคืนจะมีพิธีทำขวัญเวียนเทียน บายศรีสู่ขวัญแม่โพสพ รุ่งเช้าทำบุญตักบาตร แล้วอาราธนาพระสงฆ์ ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์เป็นเสร็จพิธี 

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

จากภูมิปัญญาสู่การสร้างอาชีพ

การทำหัตถกรรมงานจักสาน เป็นอาชีพที่ชาวบ้านร่องเย็นไม่ได้ร่ำเรียนจากในตำราเรียน หรือศึกษาในระบบการศึกษาของรัฐ หากแต่เป็นการเรียนรู้สืบทอดจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ แล้วฝึกทำด้วยตนเองจนเกิดความชำนาญ ก่อนจะพัฒนามาเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เลี้ยงชีพ โดยปัจจุบันได้มีการจัดตั้งกลุ่มจักสานโดยทางตำบลทุ่งน้าวมีการสนับสนุนเครื่องจักตอกให้แก่กลุ่มจักสานบ้านร่องเย็นด้วย

เช่นเดียวกับการทำข้าวกล้อง ในชุมชนบ้านร่องเย็นมีการรวมกลุ่มผลิตข้าวกล้องเพื่อแจกจ่ายให้แก่ผู้สูงอายุในชุมชนได้รับประทานเพื่อรักษาโรคเหน็บชา โดยผลผลิตหลัก ๆ แล้วจะนำออกจำหน่าย มีการบรรจุในบรรจุภัณฑ์อย่างดีเพื่อให้สินค้ามีความน่าสนใจและเพิ่มมูลค่า โดยขั้นตอนการทำข้าวกล้องในยุคเริ่มแรกที่ยังไม่มีเครื่องจักรทุ่นแรกดังเช่นปัจจุบัน จะต้องอาศัยความรู้จากภูมิปัญญาที่รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ จะต้องนำข้าวเปลือกไปใส่ในครกตำข้าว แล้วใช้กำลังคนตำเพื่อให้ข้าวแตกออกจากเปลือก โดยที่เป็นกรรมวิธีที่รักษาไม่ให้วิตามินออกจากข้าว ขณะที่ตำต้องมีการเกลี่ยข้าวไปพร้อม ๆ กับตำ เมื่อสังเกตว่าข้าวแตกออกจากเปลือกแล้ว ควรหยุดตำแล้วนำถ้วยมาตักใส่กระด้งห่าง ทำการร่อนเพื่อให้กากเปลือกข้าวร่วงออกจากกระด้ง เป็นการแยกข้าวกับกากข้าวเปลือกออกจากกัน จากนั้นจะกลายเป็นข้าวซ้อมมือที่พร้อมนำไปจำหน่ายต่อไป

การกลั่นสุราพื้นบ้าน ปัจจุบันอาชีพทำสุรากลั่นนั้นมักจะไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว แต่ที่หมู่บ้านร่องเย็นยังมีชาวบ้านที่ยังสนใจทำอาชีพนี้อยู่ การทำสุรากลั่นนั้นเป็นการสืบทอดวิชาความรู้มาจากบรรพบุรุษของตนเอง และการทำสุรากลั่นนั้นชาวบ้านจะทำในช่วงเวลาว่างเว้นจากการทำเกษตรเท่านั้น

การทำเตาอั้งโล่ เป็นการใช้ฝีมือในการผลิตเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างพอเพียงกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ (ดินเหนียว) ที่มีอยู่ตามท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด มีการจัดสรรพื้นที่ภายในบริเวณบ้านให้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดย่อม ทำให้ชาวบ้านร่องเย็นเกิดอาชีพหลักขึ้นอีกอย่างหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้เลี้ยงชีพและครอบครัว

ถ่านอัดแท่งจากซังข้าวโพด แรกเริ่มก่อนที่จะมีการจัดตั้งกลุ่มผลิตถ่านอัดแท่งนั้นได้มีการจัดทำกลุ่มข้าวโพด ซึ่งทางจังหวัดแพร่ได้จัดให้มีการแข่งขันการปลูกข้าวโพด โดยชุมชนบ้านร่องเย็นได้รับรางวัลชนะเลิศ และกรมส่งเสริมการเกษตรเสนอให้มีเครื่องทำถ่านอัดแท่งให้ชุมชนบ้านร่องเย็น หมู่ที่ 3 และพาไปดูงานที่จังหวัดพิษณุโลก โดยมีการศึกษาวิธีการทำตั้งแต่การเผาซังข้าวโพดจนถึงการจำหน่าย แล้วกลับมาประชุมหาสมาชิกและจัดตั้งคณะกรรมการโดยมีการรวมหุ้นภายในหมู่สมาชิก จากนั้นจึงจัดตั้งกลุ่มผลิตถ่านอัดแท่งบ้านร่องเย็นอย่างเป็นทางการ

ภาษาพูด : ภาษาไทยถิ่นเหนือ ภาษาไทยกลาง

ภาษาเขียน : อักษรไทย

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

อำนวยพร ใหญ่ยิ่ง. (2554). การศึกษาชุมชนเพื่อรองรับกิจกรรมการท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง: กรณีศึกษาบ้านร่องเย็น อำเภอสอง จังหวัดแพร่: รายงานผลการวิจัย. มหาวิทยาลัยแม่โจ้.

บ้านร่องเย็น City. (7 พฤศจิกายน 2564). หลังจากที่เราห่างหายไปนาน วันนี้ทางเรากลับมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์บ้านร่องเย็นแล้วจ้า. สืบค้น 1 เมษายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

บ้านร่องเย็น City. (18 พฤศจิกายน 2564). วันที่ 17/11/64 คณะชาวบ้านร่องเย็น ร่วมกันทำบุญกฐิน ณ วัดร่องเย็น ตำบลทุ่งน้าว อำเภอสอง จังหวัดแพร่. สืบค้น 1 เมษายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

บ้านร่องเย็น City. (17 ตุลาคม 2565). [วัดร่องเย็น]. สืบค้น 1 เมษายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งน้าว. (ม.ป.ป.). ประวัติความเป็นมา. สืบค้น 1 เมษายน 2568, จาก https://www.thungnow.go.th/

MJU2T ตำบลทุ่งน้าว อำเภอสอง จังหวัดแพร่. (2 กันยายน 2565). ร้อนแรงอย่าบอกใคร ข้าวกล้องเพาะงอกร่องเย็น. สืบค้น 1 เมษายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

อบต.ทุ่งน้าว โทร. 0 5452 0701