Advance search

หมู่บ้านทอผ้าไหมเพื่อการท่องเที่ยวซึ่งโด่งดังจนกลายเป็นสินค้า OTOP หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ระดับ 4 ดาว จากความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกันของกลุ่มแม่บ้านกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง จนก่อเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างงานสร้างเงินให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน

หมู่ที่ 4
ประทุน
แตล
ศีขรภูมิ
สุรินทร์
อบต.แตล โทร. 0 4458 6095
วิไลวรรณ เดชดอนบม
2 เม.ย. 2025
วิไลวรรณ เดชดอนบม
2 เม.ย. 2025
บ้านประทุน

มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งมีชายชาวส่วยอาศัยอยู่ที่บ้านแตล ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของบ้านประทุนปัจจุบันได้เข้าไปในป่าแขนหัก เกิดพบเข้ากับงูจงอาง (ซัลตูร) ที่หนองน้ำ จึงเรียกหนองน้ำนั้นว่า ปังซัลตูล หรือหนองซัลตูร แล้วเรียกหมู่บ้านที่อยู่ใกล้หนองน้ำว่า เซราะปะตูร (เซราะ แปลว่า บ้าน) หรือ บ้านปะตูร ซึ่งในเวลาต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น "ประทุน"


หมู่บ้านทอผ้าไหมเพื่อการท่องเที่ยวซึ่งโด่งดังจนกลายเป็นสินค้า OTOP หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ระดับ 4 ดาว จากความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกันของกลุ่มแม่บ้านกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง จนก่อเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างงานสร้างเงินให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน

ประทุน
หมู่ที่ 4
แตล
ศีขรภูมิ
สุรินทร์
32110
15.05000687864256
103.69693200164585
องค์การบริหารส่วนตำบลแตล

บ้านประทุน เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีการอยู่อาศัยมาอย่างยาวนานหลายชั่วอายุคน แต่ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าเริ่มมีการเข้ามาก่อตั้งชุมชนลงหลักปักฐานสร้างบ้านเรือนตั้งแต่เมื่อใด ทราบแต่เพียงว่าบรรพบุรุษกลุ่มแรกที่อพยพรอบครัวเข้ามาในพื้นที่ชุมชนแห่งนี้มีมาเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2400 สืบเนื่องจากพื้นที่บริเวณบ้านตากูก บ้านแสรอ บ้านขวาว เกิดฝนแล้งติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี ทำให้เกิดความอดอยากและโรคระบาด ในปี พ.ศ. 2403 ครอบครัวของนายยงค์และนายยืนซึ่งเป็นคนที่อาศัยอยู่ในบ้านตากูก ทั้งสองครอบครัวได้อพยพออกจากบ้านตากูกไปหาที่ทำมาหากินใหม่ซึ่งได้มาปักหลักที่บ้านประทุนปัจจุบันเพื่อเป็นที่ทำมาหากิน หลังจากที่นายยงค์และนายยืนมาจับจองที่ทำมาหากินได้ไม่กี่เดือน ก็มีครอบครัวของนายเปร นายเกรม และครอบครัวนายชอบ ทั้ง 3 ครอบครัวนี้เดิมอยู่ที่บ้านขวาว ได้อพยพมาสมทบอีก รวมเป็น 5 ครอบครัวที่มาร่วมบุกเบิกพื้นที่บ้านประทุนปัจจุบัน โดยในระยะแรกกลุ่มชาวบ้านเข้ามาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่อาศัยเพื่อแสวงหาพื้นที่ทำกิน ทำเกษตรกรรม ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมสำหรับทำเครื่องนุ่งห่ม ในระยะเวลาต่อมาจึงมีจำนวนครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นจากการขยายครอบครัวภายในชุมชน และการอพยพโยกย้ายเข้ามาสมทบเพิ่มเติมจากผู้คนภายนอก จนเป็นชุมชนขยายที่มีขนาดประชากร และจำนวนครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน

เดิมชุมชนแห่งนี้ชื่อว่า บ้านหนองกลาง สาเหตุที่บ้านหนองกลางเปลี่ยนชื่อมาเป็นบ้านประทุนนั้น ผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าสืบต่อกันมาว่าหมู่บ้านทางทิศตะวันออกของบ้านหนองกลาง คือ บ้านแตล ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่อยู่ก่อน ผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้เป็นชาวส่วย วันหนึ่งมีชายชาวบ้านแตลผู้หนึ่งเข้าไปในป่าแขนหัก พบเข้ากับงูจงอางอยู่ที่หนองน้ำ (งูจงอาง ภาษาส่วยเรียกว่า ซัลตูร) จึงเรียกหนองน้ำนั้นว่า ปังซัลตูล หรือหนองซัลตูร แล้วเรียกหมู่บ้านที่อยู่ใกล้หนองนั้นว่า เซราะปะตูร (เซราะ แปลว่า บ้าน) หรือบ้านปะตูร คนรุ่นหลังจึงเรียกต่อ ๆ กันมาว่า บ้านปะตูร ในระยะต่อมาจึงเพี้ยนเป็น ประทุน 

บ้านประทุน ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ มีพื้นที่ทั้งหมด 2,483 ไร่ เป็นพื้นที่ทำการเกษตร 2,233 ไร่ ตั้งอยู่ภายในเขตการปกครองของหมู่ที่ 4 องค์การบริหารส่วนตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ บ้านประทุนมีระยะทางห่างจากที่ว่าการอำเภอศีขรภูมิราว 16.5 กิโลเมตร และมีเส้นทางคมนาคมในการเดินทางเข้าหมู่บ้านด้วยกัน 2 เส้นทาง ซึ่งทั้งสองเส้นทางได้รับงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐให้ก่อสร้างเป็นถนนลาดยาง จึงทำให้การสัญจรมีความสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีระยะทางห่างจากศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ประมาณ 53.5 กิโลเมตร ลักษณะทางกายภาพของสภาพพื้นที่บ้านประทุนเป็นที่ราบสูง น้ำไม่ท่วมขัง พื้นที่โดยทั่วไปจะเป็นดินปนทราย มีหนองน้ำที่นามาใช้ได้ตลอดทั้งปี มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลบุแกรง อำเภอจอมพระ และตำบลหนองบัว อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลช่างปี่ ตำบลหนองขวาว อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลขวาวใหญ่ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลตากูก ตำบลปราสาททอง อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

บ้านประทุน ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เป็นชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์เขมร กูยหรือส่วย โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 4 บ้านประทุน ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 829 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 402 คน ประชากรหญิง 427 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 257 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)

กูย, ขแมร์ลือ

ประชาชนส่วนใหญ่ในชุมชนประกอบอาชีพด้านการทำเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยเฉพาะอาชีพทำนา รองลงมาคือการเลี้ยงไหม การเลี้ยงสัตว์ ปลูกผักสวนครัว เพื่อหารายได้ในช่วงเวลาว่างจากการทำนา รายได้หลักของคนในชุมชนส่วนใหญ่มาจากการทำนาข้าวซึ่งต้องอิงกับธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีอาชีพเสริมจากการเลี้ยงสัตว์ และการทอผ้าไหมซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชุมชนที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ และอยู่คู่กับวิถีชีวิตมาอย่างยาวนาน

กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าไหมทอมือชุมชนบ้านประทุน

กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าไหมทอมือชุมชนบ้านประทุน ได้จัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมตั้งแต่ปี 2535 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และการทอผ้าไหมแก่คนในชุมชน กระทั่งปี 2547 ได้จดทะเบียนจัดตั้งกลุ่มทอผ้าไหม โดยมีนางประกอบ จำปาทอง เป็นผู้ริเริ่ม โดยมีแรงบันดาลใจจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีน้ำพระทัยสนับสนุนกลุ่มทอผ้าทั่วทุกภาค จึงได้ประชาสัมพันธ์ชักชวนประชาชน ภายในหมู่บ้านให้เข้ามารวมกลุ่มกัน ในระยะแรกมีการทอผ้าไหมด้วยกี่กระทบโบราณ ลวดลายดั้งเดิมที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ ต่อมาเมื่อปี 2539 จึงได้เริ่มต้นทอด้วยกี่กระตุก ซึ่งยอดจำหน่ายเป็นที่น่าพอใจ ปี 2540 ได้คิดค้นพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าโสร่งหางกระรอก มีการประยุกต์ลวดลายใหม่ให้มีสีสันแปลกตา ริเริ่มทำไหมเส้นยืนที่ได้มาตรฐาน โดยให้มีขนาดเล็กลงตรงกับความต้องการของตลาด ในที่สุดผ้าไหมบ้านประทุนได้รับคัดเลือกให้เป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 4 ดาว ในปี 2546 และปี 2547

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าไหมทอมือชุมชนบ้านประทุน มีสินค้า 6 ประเภทหลัก ได้แก่

  • ผ้าโสร่งหางกระรอก
  • ผ้าไหมลายหางกระรอก
  • ผ้าไหมลายอันลูนซึม
  • ผ้าไหมลายอันปรม
  • ผ้าไหมสไบลายประยุกต์
  • ผ้าไหมลายตาราง (ลายตรุงจรู๊ก)

วัฒนธรรมและประเพณี เช่น

1.ประเพณีการเล่นตรุษ จะเล่นในช่วงเดือน 5 ในวันแรม 14 ค่ำ และวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 มีการเล่นคล้ายกับการเซิ้งบั้งไฟ มีการร้องเล่นแบบท้องถิ่น โดยจะมีคนร้องนำแล้วจะมีคนร้องตาม เล่นได้ทั้งเด็ก หนุ่มสาว ไปจนถึงคนแก่

2.ประเพณีการหยุดงานในเดือน 5 ในบ้านประทุนมีประเพณีการหยุดพักจากการทำงานในเดือน 5 ชาวบ้าน เรียกว่า ตอม แปลว่า เว้น คือ เว้นจากการทำงาน โดยมีความเชื่อต่อ ๆ กันมาว่า ในช่วงเดือน 5 นั้นถ้าใครไม่หยุดทำงานหรือไม่เว้นจากการทำงานในขณะที่กรรมการวัดประกาศให้หยุดงานจะมีอันเป็นไป หรือฟ้าผ่า เป็นต้น บางปีในเดือนนี้ชาวบ้านจะหยุดทำงานตลอดทั้งเดือนก็มี

3.เรือมอันเร หรือรำกระทบสาก เป็นชื่อการละเล่นอย่างหนึ่งของชาวไทยที่อาศัยอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษในอดีต นิยมเล่นกันในเดือน 5 เป็นการเล่นในวันว่าง คือ วันหยุดสงกรานต์ เพื่อความสนุกสนานในวันหยุดพักผ่อนประจำปี ชายหนุ่มในหมู่บ้านหรือหมู่บ้านใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงกระทบสากก็จะมาร่วมสนุก และเข้าร่วมเรือม โดยจะคอยมองดูสาวที่ตนหมายปองเวลาเรือม ก็จะเข้าไปร่วมเรือมด้วย และถ้าต้องการใกล้ชิดสาวที่ตนหมายปองก็จะพาเรือมเข้าไปในสากที่กระทบกัน (ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม , 2554)

4.ประเพณีการสรงน้ำพระ ในปลายเดือน 5 คือ วันแรม 15 ค่ำ จะมีการเล่นตรุษในภาคเช้า และภาคบ่ายเป็นการสรงน้ำพระ ในวันรุ่งเช้าชาวบ้านจะทำบุญตักบาตร 

5.ประเพณีการเซ่นศาลปู่ตา จัดในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 และวันขึ้น 6 ค่ำ ของทุกปี ชาวบ้านจะนำข้าวปลา อาหาร ขนม ของหวาน สุรา ไข่ไก่ มาเซ่นปู่ตาที่ศาลปู่ตาหมู่บ้านเพื่อขอพรให้ทุกคนในหมู่บ้านมีความเป็นสุขร่มเย็น ฝนตกต้องตามฤดูกาล 

6.ประเพณีการเล่นแม่มด หรือมอ เป็นพิธีกรรมเกี่ยวกับผี ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อว่าการเล่นแม่มดนั้นจะทำให้คนในบ้านหายเจ็บหายป่วย บางบ้านก็เล่นแม่มดเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และยังเชื่อว่าหากบ้านใดหรือครอบครัวใดไม่เล่นจะทำให้คนในบ้านเกิดเจ็บป่วย อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นมีดนตรีพื้นบ้าน ข้าวตอก ดอกไม้ธูปเทียน ขนม พาน หรือขัน ปัจจุบันการเล่นยังมีอยู่ประปราย เนื่องจากความเชื่อเรื่องแม่มดเริ่มลดลงและมีเพียงบางบ้านเท่านั้นที่เล่นอยู่ทุกปี

7.การแต่งงาน วัฒนธรรมการแต่งงานของชาวบ้านประทุนจะมีความคล้ายคลึงกับการแต่งงานของชาวส่วย แต่แตกต่างตรงที่ฝ่ายชายจะต้องเตรียมขนมประมาณ 12 ถาด ไปเซ่นผีฝ่ายหญิง มีข้าวเจ้า ข้าวเหนียว มะพร้าว ไก่ เป็ด เป็นต้น ปัจจุบันมีการรวบรัดขั้นตอนบางส่วน เนื่องจากประเพณีดั้งเดิมมีความยุ่งยาก นอกจากนี้ในประเพณีการแต่งงานของชาวเขมรและชาวส่วย ฝ่ายบ่าวสาวจะนิยมนำผ้าไหมมามอบให้ผู้ใหญ่ที่ตนนับถือด้วย

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ภาษาพูด : ภาษาส่วย ภาษาไทยถิ่นอีสาน ภาษาไทยกลาง

ภาษาเขียน : อักษรไทย

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ป่าแขนหัก คือพื้นที่ป่าที่ทั้ง 5 ครอบครัว คือ นายยงค์ นายยืน นาเปร นายเกรม และนายชอบเริ่มทำการบุกเบิกเพื่อตั้งหมู่บ้าน เดิมเป็นป่าทึบ เหตุที่ใช้ชื่อว่าป่าแขนหักนี้สันนิษฐานว่าผู้ที่มาบุกเบิกป่านี้นั้นพลาดพลั้งทำให้แขนหัก จึงตั้งชื่อว่า ป่าแขนหัก และยังเรียกชื่อป่าแขนหักมาจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันป่าแขนหักนี้ยังมีอยู่ โดยเป็นพื้นที่ป่าชุมชนของบ้านประทุน และยังครอบคลุมถึงหมู่บ้านใกล้เคียง โดยเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด เหมาะแก่การเพาะปลูก เพราะเป็นที่ราบลุ่ม อีกทั้งยังมีปลานานาชนิด เนื่องจากบริเวณป่าแขนหักมีหนองน้ำที่มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปีถึง 7 หนอง ได้แก่ หนองกลาง หนองซัลตูร หนองสมัด หนองโสน หนองโชด หนองปราน หนองเพนา 

กระทรวงวัฒนธรรม, ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม. (3 กรกฎาคม 2554). เรือมอันเร. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก http://www.m-culture.in.th/

นวัตวิถี สุรินทร์ ประทุน. (20 ตุลาคม 2561). คนก้สวย ผ้าก้งามแถมมีหลากหลายด้วย. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

นวัตวิถี สุรินทร์ ประทุน. (5 พฤศจิกายน 2561). บ้านประทุน ยินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความยินดียิ่ง. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

องค์การบริหารส่วนตำบลแตล. (ม.ป.ป.). ประวัติหมู่บ้าน. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก http://www.tambontael.com/

อภิชา พรเจริญกิจกุล. (2556). การพัฒนารูปแบบการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ฟ้าไหมทอมือตามแนวคิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ของชุมชนบ้านประทุน ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

Prathunmaithai. (ม.ป.ป.). ประทุนไหมไทย. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://www.prathunmaithai.com/

อบต.แตล โทร. 0 4458 6095