
บ้านท่าเลน ที่ตั้งชุมชนประมงอันเงียบสงบ หาอยู่หากินและสร้างรายได้ ด้วยการทำประมงชายฝั่งร่วมกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ป่าชายเลนอันเป็นทรัพย์สมบัติของชุมชนสู่การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ได้รับยกย่องว่าเป็นเส้นทางพายเรือคายัคที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นดินเลนบริเวณชายฝั่งทะเล จึงเรียกว่า "ท่าเลน"
บ้านท่าเลน ที่ตั้งชุมชนประมงอันเงียบสงบ หาอยู่หากินและสร้างรายได้ ด้วยการทำประมงชายฝั่งร่วมกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ป่าชายเลนอันเป็นทรัพย์สมบัติของชุมชนสู่การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ได้รับยกย่องว่าเป็นเส้นทางพายเรือคายัคที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
บ้านท่าเลน ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เป็นชุมชนที่ปรากฏการตั้งถิ่นฐานของผู้คนเป็นระยะเวลายาวนาน แรกเริ่มของการอพยพโยกย้ายเข้ามาของผู้คนในพื้นที่ยังไม่มีหลักฐานที่ทำให้ทราบแน่ชัดว่าเริ่มมีการก่อตั้งเป็นชุมชน หรือมีการลงหลักปักฐานมาตั้งแต่เมื่อใด มีเพียงการสันนิษฐานว่าการเข้ามาในพื้นที่เลียบชายฝั่งทะเลบ้านท่าเลน รวมถึงพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงคงมีมาช้านานหลายชั่วอายุคน เนื่องจากพื้นที่ในแถบนี้มีความอุดมสมบูรณ์มากมาตั้งแต่อดีต มีทรัพยากรป่าชายเลนที่กินพื้นที่เป็นบริเวณค่อนข้างกว้าง ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล และมีความหลากหลายของทรัพยากรสัตว์น้ำนานาชนิด ด้วยเหตุนี้พื้นที่นี้จึงเป็นแหล่งทำการประมงชายฝั่งที่มีมาอย่างยาวนานและต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งชาวบ้านยังคงยึดอาชีพการทำประมงชายฝั่งเป็นอาชีพหลักอยู่ และยังได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาด้านการหาปลา การทำอุปกรณ์ประมงจากบรรพบุรุษที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ก่อน ตั้งแต่แรกเริ่มที่เป็นเพียงชุมชนขนาดเล็ก แทบไม่มีผู้คนรู้จัก กระทั่งกลายเป็นชุมชนประมงที่มีชื่อเสียงได้ในปัจจุบัน
บ้านท่าเลน ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลเขาทอง บริเวณพื้นที่ชุมชนตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของตำบลเขาทอง ติดชายฝั่งทะเลเป็นปากแม่น้ำ ฝั่งแผ่นดินมีท่าเทียบเรือ 2 แห่ง คือ ท่าเทียบเรือประมงและท่าเทียบเรือขนส่ง หรือท่าเทียบเรือท่องเที่ยว มีรีสอร์ต ร้านอาหาร และเป็นที่ตั้งของบริษัททัวร์เรือคายัคที่เรียงรายอยู่ระหว่างท่าเทียบเรือทั้ง 2 อีกฟากฝั่งหนึ่งเป็นป่าชายเลนหนาแน่นทึบและเขาหินปูน บริเวณตรงกลางมีร่องน้ำที่เรือสามารถแล่นผ่านเข้ามาจากปากอ่าวได้ มีหาดทรายกลางน้ำคล้ายทะเลแหวกที่เกิดจากการพัดพาและทับถมตะกอนทรายจากกระบวนการของธรรมชาติ และมีการขุดร่องน้ำเพิ่มเพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำ พ้นปากแม่น้ำไปเป็นแหลมที่มีชื่อเรียกว่า แหลมจมูกควาย มีลักษณะดินชายหาดเป็นดินโคลนปนทราย บางจุดเป็นเลนและบางจุดเป็นทราย ถนนที่เข้ามายังจุดท่องเที่ยวนั้นมี 1 สายที่ตัดเลียบเลาะห่างจากชายทะเลประมาณ 200 เมตร ไกลออกไปจากปากแม่น้ำ คือ ทะเลอันดามันที่มีหมู่เกาะน้อยใหญ่มากมาย ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากท่าเทียบเรือ โดยเกาะที่ใกล้ที่สุด ได้แก่ หมู่เกาะห้อง เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ของจังหวัดพังงา ซึ่งตำบลเขาทองมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 69 ตารางกิโลเมตร หรือ 43,125 ไร่ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองกระบี่ประมาณ 24 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลเขาคราม
- ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลหนองทะเล
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลเขาคราม และตำบลทับปริก
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ พื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน
สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 3 บ้านท่าเลน ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 722 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 380 คน ประชากรหญิง 342 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 302 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)
การประกอบอาชีพของชาวบ้านท่าเลนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการทำเกษตรกรรมทั้งการปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา และสวนผลไม้ และเนื่องจากบ้านท่าเลนเป็นชุมชนชายทะเล ประชาชนในหมู่บ้านจึงประกอบอาชีพเกี่ยวกับการทำประมงอยู่มาก ประกอบกับบ้านท่าเลนมีพื้นที่ป่าพรุและป่าชายเลนผืนใหญ่กว่า 500 ไร่ ป่าชายเลนผืนใหญ่นี้เป็นแหล่งอาหารหลักของคนในชุมชน เป็นแหล่งการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นแหล่งทำประมงพื้นบ้านที่สำคัญ โดยการทำประมงของชาวบ้านท่าเลนเป็นการประมงเพื่อยังชีพ หรือเรียกว่าเป็นประมงขนาดเล็กที่ใช้เรือขนาดเล็ก เช่น เรือหางยาวในการออกหาจับสัตว์น้ำโดยการตกเบ็ด ดักอวน วางไซ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเข้ามามีบทบาทต่อวิถีชีวิตของประชาชนบ้านท่าเลนอย่างมากในปัจจุบัน สืบเนื่องมาจากปัจจัยที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าบ้านท่าเลนมีป่าชายเลนผืนใหญ่ถึง 500 ไร่ ป่าชายเลนผืนนี้นอกจากจะเป็นแหล่งอาหารของคนในหมู่บ้านแล้ว ยังเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่ธรรมชาติได้มอบให้ การจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศคือวิธีการนำทรัพยากรทางธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ที่ดีที่สุด โดยความร่วมมือกันของประชาชนในชุมชนกับองค์การบริหารส่วนตำบลเขาทองที่ร่วมพัฒนา ส่งเสริม ผลักดันการท่องเที่ยวอ่าวท่าเลนให้มีชื่อเสียงและสามารถเติบโตได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ชาวบ้านสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจนำเที่ยว การสร้างที่พัก รีสอร์ต ร้านอาหาร หรือธุรกิจอื่น ๆ เพื่อบริการนักท่องเที่ยวได้เป็นกอบเป็นกำ
อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจในภาคการท่องเที่ยวได้ส่งผลทำให้อาหารทะเลเป็นที่ต้องการสูง ไม่นานปริมาณสัตว์น้ำแถบชายฝั่งก็ลดลง ชาวบ้านที่เคยอยู่อย่างเรียบง่าย ก็เริ่มมีชีวิตยากขึ้น ขณะที่ป่าชายเลนก็มีสภาพเสื่อมโทรมด้วยสัมปทานตัดไม้เผาถ่าน ในช่วง พ.ศ. 2538-2539 ชาวบ้านจึงได้ตั้งกลุ่มประมงพื้นบ้านเพื่อช่วยกันเป็นหูเป็นตา ออกปฏิบัติการจับเรืออวนลาก ตามด้วยการฟื้นฟูป่าชายเลนและท้องทะเลเพื่อเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำ เริ่มจากทำปะการังเทียม ปล่อยสัตว์น้ำในป่าชายเลน จนถึงปลูกป่าเพิ่ม อีกทั้งยังมีการริเริ่มจัดกิจกรรมพายเรือคายัคที่นอกจากช่วยสร้างรายได้แล้ว ยังทำให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าชายเลนด้วย
ปัจจุบัน อ่าวท่าเลนถือเป็นแหล่งพายเรือคายัคที่มีชื่อเสียงระดับโลก จนเป็นโปรแกรมยอดนิยมของการท่องเที่ยวเมืองกระบี่ ด้วยความงดงามของธรรมชาติในเวิ้งอ่าว ทั้งภูเขาหินปูนสูงตระหง่าน ป่าชายเลนที่คงสภาพสมบูรณ์ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์นานาชนิด จุดลงเรือคายัคอยู่ที่ท่าเรืออ่าวท่าเลน ชาวบ้านจะพายเรือนำนักท่องเที่ยวลัดเลาะตามลำคลองในป่าชายเลนช้า ๆ ให้สัมผัสธรรมชาติและภูมิประเทศสวยงามแปลกตาอย่างเต็มอิ่มไปจนถึงช่องแคบแคนยอนที่รู้จักกันในชื่อ Paradise Canyon หรือผาหินงาม หน้าผาหินปูนที่โอบขนาบเป็นแนวยาว และเป็นจุดที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของอ่าวท่าเลน
ทั้งนี้ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาทองมีนโยบายลดการประกอบอาชีพประมงลงเพื่อให้ประชากรในพื้นที่มีรายได้จากการประกอบอาชีพในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่กำลังเข้ามามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจของบ้านท่าเลนยุคหลัง อีกทั้งยังมีรายได้ที่ค่อนข้างสูงและแน่นอนกว่าการทำเกษตรกรรมและการทำประมง โดยผลักดันให้การทำประมงเป็นอาชีพเสริมในเวลาว่างหลังจากหมดฤดูกาลท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแม่บ้านที่ทำเครื่องแกงเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของบ้านท่าเลนด้วย
ประเพณีและวัฒนธรรมส่วนใหญ่ในบ้านอ่าวท่าเลนจะมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อดั้งเดิมในท้องถิ่น เช่น
1.งานประเพณีสารทเดือนสิบ เป็นประเพณีสำคัญของชาวใต้ วัตถุประสงค์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว ประเพณีแห่จาดสารทเดือนสิบ เป็นประเพณีที่นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมากำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติ ส่งเสริมให้คนทำความดี สร้างศีลธรรม เกรงกลัวการกระทำผิด เชื่อว่าการกระทำที่ผิดจารีต ประเพณี ศีลธรรมเป็นบาป และอาจต้องได้รับผลบาปตามวิถีกรรมที่กระทำไว้ นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนเกิดความรักในบรรพบุรุษ ระลึกถึงคุณความดีที่บรรพบุรุษได้กระทำแก่ชนรุ่นหลัง ดังนั้นในเทศกาลนี้ชาวบ้านท่าเลนที่ไม่ว่าจะกระจัดกระจายออกต่างภูมิลำเนาด้วยเหตุผลประการหนึ่งประการใดก็ตามแต่ จะพากันกลับมายังภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อร่วมประเพณีแห่จาดสารทเดือนสิบซึ่งถืองานบุญใหญ่ของหมู่บ้านเป็นประจำทุกปี ในประเพณีนี้มีขนมที่ขาดไม่ได้ คือ ขนมลา ขนมเจาะหู ขนมพอง ขนมบ้า และขนมกงหรือขนมไข่ปลา
2.งานประเพณีรดน้ำดำหัว เป็นพิธีต่อเนื่องจากวันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของไทย เป็นประเพณีที่แสดงถึงความเคารพนอบน้อมต่อบิดามารดา ผู้อาวุโส หรือผู้มีพระคุณ เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีของผู้น้อยและขอขมาลาโทษที่ผู้น้อยอาจเคยล่วงเกินผู้ใหญ่ อีกทั้งเป็นการขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองตลอดไป
3.เทศกาลถือศีลกินเจ เป็นการบำเพ็ญศีล สมาทานกินเจ บริโภคแต่อาหารผักและผลไม้ เป็นการละเว้นการทำบาป ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ผู้ศรัทธาที่กินเจจะสวมเสื้อผ้าสีขาวและสวดมนต์ทำสมาธิภาวนาแผ่เมตตาจิต ขอพรให้ตนเองและครอบครัว เชื่อว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ปัดเป่าความชั่วร้าย โรคภัยไข้เจ็บให้ออกไป ระยะเวลาการจัดงานการถือศีลกินเจตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ของจีน ซึ่งตรงกับเดือน 11 ของไทย (ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมทุกปี)
4.งานเมาลิดกลางจังหวัดกระบี่ งานเมาลิดกลางจังหวัดกระบี่ ถือเป็นงานสำคัญระดับชาติของพี่น้องชาวไทยมุสลิม โดยสำนักงานคณะกรรมการจัดงานเมาลิดกลางจังหวัดกระบี่กำหนดให้เป็นงานประจำปีของชาวมุสลิมของจังหวัดกระบี่ด้วย
5.การถือศีลอดเดือนรอมฎอน เป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ในเดือนรอมฎอนที่เหล่าชาวมุสลิมปฏิบัติต่อเนื่องกันมายาวนาน การถือศีลอดเป็นพิธีการสำคัญที่ชาวมุสลิม เช่น ต้องงดเว้นจากการดื่ม กิน โดยงดเว้นในช่วงเวลากลางวัน หรือตั้งแต่แสงอรุณขึ้นจนถึงช่วงดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตลอดจนการงดการประพฤติตนผิดหลักศาสนา ขัดต่อศีลธรรมอันดีงาม
ป่าชายเลน ต้นทุนทางธรรมชาติ ขุมทรัพย์ของชาวบ้านท่าเลน
ป่าชายเลนบ้านท่าเลน เป็นป่าชายเลนผืนใหญ่ที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านท่าพรุกับบ้านท่าเลน ป่าชายเลนผืนนี้พบพรรณไม้กว่า 33 ชนิด เช่น โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ เทพี โพทะเล ช้าเลือด ตะบัน ตะบูนขาว ฝาดดอกแดง พลองใบ ใหญ่ มังคะ รักทะเล รังกะเท้ ลำพูทะเล ลำแพนหิน และหลุมพอทะเล ส่วนพวกไม้พื้นล่างที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ เหงือกปลาหมอ ปรงหนู ไม้เถาที่เลื้อยตามพื้นดิน ได้แก่ กระเพาะปลา ถอบแถบน้ำ และยังมีเถาสักขี หวายลิง นมตำเลีย ไม้สกุลปาล์มทั่วไป คือ เป้ง
นอกจากพรรณไม้หลายสิบชนิด ป่าชายเลนนี้ยังอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด เช่น พวก กุ้ง หอย ปู ปลา ซึ่งมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และสัตว์ชนิดอื่น เช่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน แมลง และสัตว์หน้าดิน
- กุ้ง บริเวณป่าชายเลนหรือกุ้งที่อาศัยอยู่ในน้ำกร่อยมี 15 ชนิด กุ้งที่สำคัญและมีค่าทางเศรษฐกิจสูง คือ กุ้งกุลาดำ และกุ้งแชบ๊วย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกุ้งบางชนิดที่ว่ายน้ำจากบริเวณน้ำจืดไปวางไข่บริเวณน้ำกร่อย คือ กุ้งก้ามกราม
- หอย ที่พบบริเวณป่าชายเลนส่วนใหญ่จะเป็นหอยฝาเดียวประมาณ 22 ชนิด ส่วนหอยสองฝาที่พบมีประมาณ 4 ชนิด และที่สำคัญและมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ คือ หอยนางรม
- ปู ที่พบในป่าชายเลนมีอยู่ประมาณ 30 ชนิด ได้แก่ พวกปูแสมและปูก้ามดาบ สำหรับปูที่นิยมรับประทานเป็นอาหาร และมีคุณค่าทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก คือ ปูทะเล หรือปูดำ
- ปลา ที่อาศัยอยู่บริเวณป่าชายเลนมีประมาณ 72 ชนิด ปลาชนิดสำคัญ เช่น ปลานวลจันทร์ทะเล ปลากะพงขาว เป็นปลาเศรษฐกิจสำคัญที่พบมากบริเวณป่าชายเลน นอกจากนี้ยังมีปลากระบอก ปลากระบอกขาว และปลากระบอกดำ ปลาแป้นแก้ว ปลากระทุงเหวควาย ซึ่งก็เป็นที่ต้องการของตลาดปลาไม่แพ้ปลากะพงและปลานวลจันทร์
- นก ในป่าชายเลนมีทั้งประเภทนกอพยพและนกท้องถิ่น แต่ที่พบมาก คือ นกยาง เหยี่ยว นกหัวโต นกแอ่น นกกระจิบ เป็นต้น
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม มีประมาณ 35 ชนิด เช่น ลิง นาก แมวป่า และค้างคาว ฯลฯ ทั้งนี้ยังมีสัตว์เลื้อยคลานอีกประมาณ 25 ชนิด ซึ่งรวมทั้งงูชนิดต่าง ๆ กิ้งก่า เต่า และจระเข้ อีกทั้งยังมีแมลงที่พบมากถึง 38 ชนิด รวมถึงผีเสื้อกลางคืน หนอนผีเสื้อ แมลงปีกแข็ง ริ้น เพลี้ย และหิ่งห้อย เป็นต้น
- เห็ดรา ในฤดูแล้งพบจำนวนทั้งสิ้น 44 ชนิด เช่น เห็ดรังผึ้ง เห็ดนิ้ว เห็ดหูหนู และเห็ดทิ้ง ฤดูฝนพบ 37 ชนิด เช่น เห็ดดันหมีม่วงดำ เห็ดขอนแดงรูเล็ก
เนื่องด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนนี้เองจึงได้เกิดเป็นแนวคิดที่จะใช้ทรัพยากรป่าชายเลนให้เกิดประโยชน์โดยการสร้างรายได้ที่มากกว่าการเป็นแต่เพียงแหล่งอาหารและแหล่งทำประมง โดยมีแหล่งท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ ดังนี้
- เขาขนาบน้ำ มีลักษณะเป็นช่องเขาที่น้ำทะเลไหลผ่านระหว่างเขา ในช่วงน้ำขึ้นและน้ำลงมีสภาพภูมิทัศน์ที่สวยงาม
- วังขนาบน้ำ มีลักษณะเป็นวังน้ำทะเลขนาดใหญ่ บริเวณเขาขนาบน้ำช่วงน้ำขึ้นและน้ำลงมีสีมรกตสวยงามมาก
- ถ้ำปลาดุก มีลักษณะเป็นถ้ำที่น้ำทะเลท่วมถึง ในบริเวณหน้าถ้ำเป็นที่อยู่อาศัยของปลาดุกทะเลอย่างชุกชุม
- ผาหินงาม มีลักษณะเป็นหน้าผามีลวดลายสวยงาม นักท่องเที่ยวให้สมญานามว่า "PARADISE CANYON"
- ถ้ำสุสานชาวเล มีลักษณะเป็นถ้ำที่มีโครงกระดูกของชาวเลอยู่บริเวณชอกถ้ำตามหน้าผาที่สูงชัน อายุกว่า 100 ปี
- ทะเลใน มีเนื้อที่ประมาณ 3-4 ไร่ ลักษณะเป็นบึงน้ำ มีภูเขาล้อมรอบ 4 ด้าน สีของน้ำมีลักษณะคล้ายสีน้ำทะเลในวันที่น้ำขึ้น-ลงช้า
- วังจระเข้ มีลักษณะเป็นลานหินขนาด 8x10 เมตร เป็นลานกลางแจ้ง ซึ่งอดีตมีจระเข้น้ำเค็มขึ้นมาตากแสงแดดจำนวนมาก
- หินย้อยรูปเห็ด มีลักษณะเป็นหินย้อยออกมาบริเวณหน้าผา โดยหินที่ย้อยออกมามีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดขนาดใหญ่ เมื่อแสงแดดส่องจะดูสวยงามมาก
- อ่าวทราย จุดแวะพักของนักท่องเที่ยว อยู่ด้านนอกของเขาขนาบน้ำ มีทรายขาวละเอียดสวยงาม
นอกจากนี้ เส้นทางท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติของป่าชายเลนบ้านท่าเลน หรือที่เรียกว่า อ่าวท่าเลน ยังได้รับยกย่องว่าเป็นเส้นทางพายคายัคที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วย
ภาษาพูด : ภาษาไทยถิ่นใต้ ภาษาไทยกลาง
ภาษาเขียน : อักษรไทย
ในอดีตนับตั้งแต่ยุคแรกเริ่มเมื่อมีผู้อพยพเข้ามาลงหลักปักฐาน ณ บ้านท่าเลนแห่งนี้ ผู้คนประกอบอาชีพการทำประมงเป็นหลัก โดยการประมงนั้นมีลักษณะเป็นประมงขนาดเล็ก หาใช่การทำประมงแบบล้างผลาญ แต่เมื่อราว พ.ศ. 2539 เมื่อกระแสวัตถุนิยมได้เข้ามาทำให้วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านท่าเลนเปลี่ยนแปลงไป ประชาชนบางกลุ่มเริ่มเปลี่ยนแปลงวิถีการประกอบอาชีพจากการทำประมงพื้นบ้านไปใช้เครื่องมือประเภทอวนลาก อวนรุน ประกอบกับได้มีนายทุนจากท้องถิ่นอื่นเข้ามาทำการประมงเชิงพาณิชย์ในบริเวณพื้นที่อ่าวท่าเลนและบ้านท่าพรุเพื่อตักตวงผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันพื้นที่ป่าชายเลนก็ถูกบุกรุกจากการทำธุรกิจสัมปทานเผาถ่านจากไม้โกงกาง ทำให้เกิดสภาพเป็นหลุมถ่านขนาดใหญ่และกินพื้นที่บริเวณกว้าง ทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในพื้นที่ และมีสภาพป่าที่เสื่อมโทรม ระบบนิเวศเสียสมดุล
ผู้นำชุมชนในขณะนั้นจึงมีการหารือร่วมกับชาวบ้านและผู้คนท้องถิ่น รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มประมงพื้นบ้าน เพื่อให้ความรู้ด้านการประมงที่เป็นการทำลายทรัพยากร ตั้งมาตรการห้ามปราม การประชาสัมพันธ์ให้เห็นโทษของการใช้อวนรุน อวนลากเข้าไปในที่อยู่อาศัยและตัวอ่อนของสัตว์น้ำ ทำให้ชาวประมงส่วนหนึ่งเริ่มตระหนักถึงผลเสียที่เกิดขึ้น แต่ส่วนหนึ่งยังคงเพิกเฉยและยังลักลอบใช้วิธีการจับสัตว์น้ำแบบเดิม กลุ่มประมงพื้นบ้านจึงใช้มาตรการทางกฎหมายโดยมีความเห็นว่า ให้ชาวบ้านช่วยกันสอดส่องดูแล มีการลาดตระเวนตรวจจับเรืออวนลาก อวนรุน และการเบื่อปลา เมื่อพบเห็นผู้ใดฝ่าฝืนใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในการจับสัตว์น้ำให้แจ้งเบาะแสไปทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อออกไปจับกุมดำเนินคดี ปรากฏว่า ใช้เวลา 2-3 ปี สามารถควบคุมการลักลอบทำอวนรุน อวนลากที่ผิดกฎหมายได้โดยไม่ต้องอาศัยกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานผู้รับผิดชอบโดยตรง ขณะเดียวกันรัฐบาลได้มีคำสั่งยกเลิกสัมปทานป่าไม้ ธุรกิจเผาถ่านจากไม้โกงกางจึงปิดกิจการลง ประชาชนในชุมชนจึงได้ร่วมมือกันในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติบริเวณพื้นที่ป่าชายเลนโดยรอบ อันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของสัตว์น้ำให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง โดยมีการดำเนินการด้วยวิธีต่าง ๆ เริ่มจากจัดทำปะการังเทียมแล้วปล่อยสัตว์น้ำในป่าชายเลน เช่น กุ้งกุลาดำ กุ้งแชบ๊วย และปลากะพง เพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ ปลูกป่า เพาะต้นกล้า พร้อมกับมีการตรวจป่าชายเลนเดือนละครั้งโดยใช้เรือหางยาวแล่นเข้าไปดูสภาพป่า นอกจากนี้ประชาชนในชุมชนยังช่วยกันสอดส่องดูแล มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในการสอดส่องดูแล ส่งผลให้พื้นที่ป่าชายเลนเริ่มกลับมาอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำและทรัพยากรธรรมชาติอีกครั้ง
วรางคณา หิรัญโรจน์. (2563). การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน: กรณีศึกษากิจกรรมพายเรือคายัค ชมธรรมชาติในพื้นที่ป่าชายเลน ชุมชนอ่าวท่าเลน-บ้านท่าพรุ ตำบลเขาทอง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สถาบันลูกโลกสีเขียว. (30 มกราคม 2561). ผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียว : ชุมชนบ้านท่าพรุ-บ้านอ่าวท่าเลน การ "เพิ่มมูลค่า" งานอนุรักษ์ จังหวัด กระบี่. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://www.greenglobeinstitute.com/
องค์การบริหารส่วนตำบลเขาทอง. (ม.ป.ป.). แผนส่งเสริมการท่องเที่ยวองค์การบริหารส่วนตำบลเขาทอง ประจำปี 2562. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://www.khaothong.go.th/
องค์การบริหารส่วนตำบลเขาทอง. (20 พฤศจิกายน 2562ก). ท่าเทียบเรืออ่าวท่าเลน. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://www.khaothong.go.th/
องค์การบริหารส่วนตำบลเขาทอง. (12 กุมภาพันธ์ 2562ข). ท่าเทียบเรืออ่าวท่าเลน. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://www.khaothong.go.th/
Thai PBS. (19 เมษายน 2564). ซีรีส์วิถีคน "ซูเปอร์มาร์เก็ตธรรมชาติบ้านท่าเลน" บ้านท่าเลน ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://www.thaipbs.or.th/
Trip-attractive. (ม.ป.ป.). อ่าวท่าเลน (Thalane Bay). สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://www.trip-attractive.com/
Trueid. (18 มีนาคม 2567). UNSEEN กระบี่ พายเรือคายัคอ่าวท่าเลน แคนยอนกระบี่ เส้นทางพายคายัคระดับโลก ใครมาก็ต้องว้าว!. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://travel.trueid.net/
UNHCR Thailand. (16 มกราคม 2568). ถือศีลอด ประเพณีของพี่น้องมุสลิมทั่วโลกเพื่อระลึกถึงเพื่อนมนุษย์. สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://www.unhcr.org/th/fasting-ramadan
7 Greens…ท่องเที่ยวสดใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม. (2564). ภาพถ่าย. สืบค้น 2 เมษายน 2568, จาก https://www.facebook.com/