
ชุมชนมีศูนย์ศิลปาชีพและสินค้าโอท็อปช่วยสร้างรายได้ เสริมอาชีพ และพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมผลิตภัณฑ์หัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์ กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในชุมชน
สันนิษฐานว่า เนื่องจากสมัยก่อนบริเวณเขตบ้านยางน้อย มีต้นยางนาเกิดขึ้นเป็นเบี้ยเล็ก ๆ จำนวนมาก ผู้คนจึงเรียกต่อกันจนถึงปัจจุบันว่า "บ้านยางน้อย"
ชุมชนมีศูนย์ศิลปาชีพและสินค้าโอท็อปช่วยสร้างรายได้ เสริมอาชีพ และพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมผลิตภัณฑ์หัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์ กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในชุมชน
เนื่องจากสมัยก่อนบริเวณเขตบ้านยางน้อย มีต้นยางนาเกิดขึ้นเป็นเบี้ยเล็กๆ จำนวนมาก ผู้คนจึงเรียกต่อกันจนถึงปัจจุบันว่า “บ้านยางน้อย”
พื้นที่อาณาเขตติดต่อ ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อ ตำบลหนองเหล่า อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
ทิศใต้ ติดต่อ ตำบลท่าไห อำเภอเขื่องใน
ทิศตะวันออก ติดต่อ ตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน
ทิศตะวันตก ติดต่อ ตำบลเขื่องใน อำเภอเขื่องใน
อาชีพ
ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม (ทำนา ทำสวน เลี้ยงสัตว์ ฯลฯ) มีโรงสีข้าวขนาดใหญ่และลานขายมันสำปะหลังในชุมชน ฐานะทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับปานกลาง
สถานที่สำคัญที่ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มในชุมชน
- วัดบ้านยางน้อย ตั้งอยู่ที่บ้านยางน้อย หมู่ 1 ตำบลก่อเอ้ เขต 2 อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งขึ้นประมาณพุทธศักราช 2300 เป็นวัดราษฎร์ตั้ง อยู่ริมถนนแจ้งสนิท (ทางหลวงแผ่นดินอุบลราชธานี-ยโสธร) รอบๆวัดเป็นป่าที่สงบสนัดเหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรภาวนา ท่านที่สนใจในการปฏิบัติ ธรรม ส่งเสริมพระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนในเรื่องการปฏิบัติธรรม วัดยางน้อยเป็นสำนักกัมมัฏฐาน บำเพ็ญประโยชน์ในด้านธรรมปฏิบัติแก่ พระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนที่สนใจเป็นอันมากและเป็นสำนักกัมมัฏฐานที่เจริญรุ่งเรือง
- ศูนย์เรียนรวมสมเด็จพระมหาธีราจารย์โรงเรียนบ้านยางน้อย (พรหมพิทยา) โรงเรียนบ้านยางน้อย(พรหมพิทยา) ตั้งอยู่เลขที่ 206 หมู่ที่ 1 บ้านยางน้อย ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 เดิมตั้งอยู่ที่ราบลุ่มกลางทุ่งนาทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านมีเนื้อที่ 20 ไร่ ใช้ชื่อว่า โรงเรียนประชาบาลตำบลก่อเอ้(พรหมพิทยา) โดยมีรองอำมาตย์โท ขุนพรหมประสาท ขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายอำเภอเขื่องใน เป็นผู้ก่อตั้งสร้างอาคารเรียนและเริ่มเปิดทำการสอนในปี พ.ศ.2474 มีนักเรียนจากหมู่บ้านต่าง ๆ ในตำบลก่อเอ้มาเข้าเรียน มีนายเปลี่ยน ปกป้อง เป็นครูใหญ่ ดำรงอยู่ด้วยเงินช่วยเหลือประถมศึกษา เมื่อปี พ.ศ. 2475 หลังจากประกาศพระราชบัญญัติประถมศึกษา บ้านเอ้และบ้านพับ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลเกิน 2 กิโลเมตร ได้แยกนักเรียนออกไปตั้งโรงเรียนหมู่บ้านของตนเอง เนื่องจากที่ดินของโรงเรียนเป็นที่ราบลุ่ม หน้าฝนน้ำท่วม ไม่สะดวกต่อการจัดการเรียนการสอน จึงย้ายโรงเรียนมาปลูกสร้างอาคารเรียนในที่ดินแปลงใหม่เป็นที่ราบสูงอยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน มีเนื้อที่ 25 ไร่ โดยชาวบ้านได้ร่วมกันบริจาคเงินสร้างอาคารเรียน และใช้เปิดเรียนทำการสอนในปีพ.ศ. 2483 พร้อมเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น โรงเรียนบ้านยางน้อย(พรหมพิทยา) เปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4 เมื่อพ.ศ.2514 เปิดเรียนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และในปี พ.ศ.2522 ทำการสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 พ.ศ. 2546 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนในโครงการ “หนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน” ปัจจุบันโรงเรียนบ้านยางน้อย(พรหมพิทยา) เปิดสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 และโรงเรียนบ้านท่าวารี ได้ทำการยุบเลิกโรงเรียนมาเรียนรวมกับโรงเรียนบ้านยางน้อย(พรหมพิทยา) นักเรียนทั้งสิ้น 146 คน เป็นนักเรียนชาย 79 คน นักเรียนหญิง 67 คน มีครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งสิ้น 18 คน
ประเพณีและงานประจำปี ได้แก่
1. รำมองเชิง
2. บุญบั้งไฟ
3. บุญเผวด
4. งานแห่เทียนเข้าพรรษา
วิถีวัฒนธรรม
การนับถือศาสนา ศาสนา ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธร้อยละ 99.80 ศาสนาคริสต์ร้อยละ 0.20 และมีสถานที่สำคัญทางศาสนา ไว้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา คือ วัดบ้านยางน้อย
วิถีทางเศรษฐกิจ
ชุมชนบ้านยางน้อยมีโรงสีข้าวขนาดใหญ่และลานขายมันสำปะหลังในชุมชน ฐานะทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับปานกลาง ประกอบด้วย
1.สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
2.ผ้าไหม (ผ้าลายกาบบัว)
ลักษณะภูมิอากาศ
ตำบลก่อเอ้ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของมรสุมที่พัดประจำฤดูกาล 2 ชนิด คือ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งพัดพามวลอากาศเย็นและแห้งจากประเทศจีนเข้าปกคลุมประเทศไทยตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยทำให้ตำบล ก่อเอ้มีอากาศหนาวเย็นและแห้งทั่วไป และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดพามวลอากาศชื้นจากทะเลและมหาสมุทรเข้าปกคลุมประเทศไทยในช่วงฤดูฝน (ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงประมาณกลางเดือนตุลาคม) ทำให้มีฝนตกชุกทั่วไป
- หมู่ที่ 1 บ้านยางน้อย ผู้ปกครอง นายศักดิ์ชัย บุญยอ ผู้ใหญ่บ้าน
- หมู่ที่ 2 บ้านยางน้อย ผู้ปกครอง นายประจักษ์ ศรีพราย ผู้ใหญ่บ้าน
โครงการส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ
โครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านยางน้อย ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี มีศูนย์แสดงนิทรรศการผ้าพื้นเมืองอีสาน ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และขั้นตอนการทอผ้าตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน เริ่มตั้งแต่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การผลิตเส้นไหม และการทอผ้าไหมคุณภาพระดับ Royal Thai Silk หรือตรานกยูงทอง ทั้งยังมีศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชนสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพจากทั่วประเทศ เช่น เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องทองเหลือง เป็นต้น นอกจากประโยชน์ในด้านการสร้างอาชีพเสริม สร้างรายได้ด้วยงานศิลปาชีพหลายแขนง ตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งโครงการศิลปาชีพแล้ว ยังมีการจัดการพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และท่องเที่ยวทางการเกษตรด้วย กล่าวคือ มีการรวบรวมพันธุ์ไม้ชนิดต่าง ๆ ไว้ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาพันธุ์ไม้ ฟื้นฟูสภาพป่า รักษาความสมดุลตามธรรมชาติ รวมถึงการจัดโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ให้เป็นพื้นที่เผยแพร่ความรู้ทางการเกษตรที่หลากหลาย เป็นแหล่งผลิตอาหาร พืชผักสมุนไพร พืชไร่ พืชสวนปลอดสารพิษ ข้าวกล้องเสริมภูมิต้านทาน เบญจกระยาทิพย์ และสินค้าเกษตรอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบัน ศูนย์ศิลปาชีพบ้านยางน้อย มีพื้นที่ดำเนินการทั้งสิ้น 424 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ดำเนินการโครงการส่งเสริมศิลปาชีพฯ บ้านยางน้อย 214 ไร่ และโครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านยางน้อย 210 ไร่ นักท่องเที่ยวจะได้รับทั้งความรู้ และความเพลิดเพลิน ตลอดจนได้ซื้อหาสินค้าสำหรับเป็นของฝาก ของที่ระลึกที่มีคุณค่า ในโอกาสเดียวกัน ก็ได้เป็นส่วนสำคัญในการร่วมอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยไปพร้อมกันด้วย
การพัฒนาบ้านยางน้อย เริ่มขึ้นเมื่อปี 2538 จากการที่พระเทพประสิทธิมนต์ เจ้าอาวาสวัดธัมมาราม นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีชาติภูมิอยู่ที่บ้านยางน้อย ได้มีแนวคิดที่จะพัฒนาบ้านยางน้อยและหมู่บ้านใกล้เคียง ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อป้องกันการอพยพทิ้งถิ่นฐานเข้าสู่สังคมเมืองของราษฎรที่ขาดรายได้ในช่วงนอกฤดูทำการเกษตร ทั้งยังเป็นการสร้างสถาบันครอบครัวชนบทให้มีความอบอุ่น สมบูรณ์อย่างที่เคยเป็นมาในอดีต โดยพระคุณเจ้าได้ประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ และ กองทัพภาคที่ 2 เพื่อร่วมกันพัฒนาท้องถิ่น และเตรียมการจัดตั้งโครงการส่งเสริมศิลปาชีพขึ้น ณ บ้านยางน้อย ซึ่งใช้เวลาจัดเตรียมงานประมาณ 1 ปี
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ศูนย์การเรียนรู้บ้านยางน้อย
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาซึ่งจัดตั้งอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจัดการการศึกษาและให้การบริการแก่ประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ (บางส่วน) และบุคลากรในเขตจังหวัดและประเทศใกล้เคียง โดยจัดการศึกษาในระดับอนุปริญญา ปริญญาบัณฑิต ปริญญามหาบัณฑิต และปริญญาดุษฎีบัณฑิต มี 2 วิทยาเขต คือศูนย์ในเมืองและวิทยาเขตบ้านยางน้อยไว้ทำกิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัย รวมถึงเป้นสถานที่ของการแข่งกีฬาในโอกาสต่างๆ
สำนักงาน กปร. . โครงการส่งเสริมศิลปาชีพบางน้อย. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2568. จาก https://90route.com/project/76/
องค์การบริหารส่วนตำบลก่อเอ้. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2568. จาก https://www.koae.go.th/index.php?op=staticcontent&id=35705
โรงเรียนบ้านยางน้อย (พรหมพิทยา) สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2568. จาก https://sites.google.com/pracharath.ac.th/
Trip.com. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2568. จาก https://th.trip.com/moments/detail/khueang-nai-1448342-119540207/
จังหวัดอุบลราชธานี. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2568. จาก https://ubonratchathani.go.th/home/18126/
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2568. จาก https://th.wikipedia.org/wiki