Advance search

ตำบลหนองพันจันทร์ อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี คือชุมชนที่งดงามด้วยการผสมผสานของวัฒนธรรมอันหลากหลาย ที่นี่เป็นบ้านของชาวไทยสี่กลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่ ชาวไทยจีน ชาวไท-ยวน ชาวไทยลาวครั่ง และชาวไทยทรงดำ (ลาวโซ่ง) ซึ่งแต่ละกลุ่มได้นำเอาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตนเองมาหลอมรวมกัน จนเกิดเป็นสังคมที่มีความหลากหลายและมีเสน่ห์เฉพาะตัว

หนองพันจันทร์
บ้านคา
ราชบุรี
อบต. หนองพันจันทร์ โทร. 0 3273 1635
มูฮัมหมัดอัสรี อาเซ็ง
25 มี.ค. 2025
สลิลทิพย์ เนื้อนุ่ม
3 เม.ย. 2025
สลิลทิพย์ เนื้อนุ่ม
3 เม.ย. 2025
หนองพันจันทร์

มีพรานล่าสัตว์คนหนึ่ง ชื่อนายจันทร์ ซึ่งชอบล่าสัตว์ที่หนองน้ำหมู่บ้านแห่งนี้เป็นประจำ ชาวบ้านจึงตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ว่า "บ้านหนองพรานจันทร์" และได้เรียกกันเพี้ยนจนถึงปัจจุบันนี้ว่า "บ้านหนองพันจันทร์"


ตำบลหนองพันจันทร์ อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี คือชุมชนที่งดงามด้วยการผสมผสานของวัฒนธรรมอันหลากหลาย ที่นี่เป็นบ้านของชาวไทยสี่กลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่ ชาวไทยจีน ชาวไท-ยวน ชาวไทยลาวครั่ง และชาวไทยทรงดำ (ลาวโซ่ง) ซึ่งแต่ละกลุ่มได้นำเอาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตนเองมาหลอมรวมกัน จนเกิดเป็นสังคมที่มีความหลากหลายและมีเสน่ห์เฉพาะตัว

หนองพันจันทร์
บ้านคา
ราชบุรี
70180
13.466334999623882
99.44926486609397
องค์การบริหารส่วนตำบลหนองพันจันทร์

ตำบลหนองพันจันทร์ เดิมเป็นหมู่บ้านหนึ่งของตำบลบ้านคา ซึ่งมีพรานล่าสัตว์คนหนึ่ง ชื่อนายจันทร์ ซึ่งชอบล่าสัตว์ที่หนองน้ำในหมู่บ้านแห่งนี้เป็นประจำ ชาวบ้านจึงตั้งชื่อ ชื่อหมู่บ้านนี้ว่า "บ้านหนองพรานจันทร์" และได้เรียกกันเพี้ยนจนถึงปัจจุบันนี้ว่า "บ้านหนองพันจันทร์" ต่อมาได้แยกตำบลตามพระราชบัญญัติปกครองท้องถิ่นเป็นตำบลหนองพันจันทร์ และปัจจุบันได้ยกฐานะเป็น องค์การบริหารส่วนตำบลหนองพันจันทร์ เป็นหน่วยการบริหารราชการซึ่งจัดตั้งเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลตามประกาศ ลงวันที่ 30 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2539 พื้นที่อาณาเขตและความรับผิดชอบในเขตพื้นที่ตำบลหนองพันจันทร์ เดิมมีจำนวน 9 หมู่บ้าน และได้แยกหมู่บ้าน เป็น 11 หมู่บ้าน ในปัจจุบัน

 

ที่ตั้ง

ตำบลหนองพันจันทร์ เป็นตำบลหนึ่งในจำนวน 3 ตำบล ของอำเภอบ้านคา จังหวัด ราชบุรี ที่ตั้งของตำบลอยู่ทางทิศเหนือ ของอำเภอบ้านคาและทางทิศตะวันตกของจังหวัดราชบุรี โดยอยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 99 องศา 26 ลิปดาตะวันออก 11.4 ฟิลิปดาตะวันออก และระหว่างเส้นแวงที่ 13 องศา 28 ลิปดาเหนือ 24.1 ฟิลิปดาเหนือ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 212.00 เมตร

เนื้อที่

มีเนื้อที่ทั้งหมด 143 ตารางกิโลเมตร การเดินทางห่างจากที่ทำการอำเภอบ้านคา โดยทางรถยนต์ประมาณ 8 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดราชบุรีโดยทางรถยนต์ประมาณ 60 กิโลเมตร

ภูมิประเทศ

ลักษณะภูมิประเทศของตำบลหนองพันจันทร์ มีพื้นที่เป็นภูเขาและที่ราบบางส่วนเหมะแก่ การทำพืชไร่ ไม้ผลและเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะ การปลูกสับปะรด, การปลูกต้นยางพาลา, การปลูกอ้อย

พื้นที่อาณาเขตติดต่อ ดังนี้

  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลบ้านคา อำเภอบ้านคา
  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านคา

สถานที่สำคัญในชุมชน

  • วัดช่องลาภ เป็นศาสนสถานสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย แต่เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดโชคลาภพัฒนา โดยพระอธิการประพฤทธิ์ สุวิชาโน มาอยู่เมื่อปี พ.ศ. 2518 และชักชวนให้ชาวบ้านสร้างกุฎิ ศาลาการเปรียญ เพื่อใช้บำเพ็ญกุศล และขอจัดตั้งเป็นวัดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2521 มีเนื้อที่ 25 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา ตั้งอยู่เลขที่ 91 บ้านช่องลาภ หมู่ 3 ตำบลหนองพันจันทร์ อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี มีอาณาเขตทิศเหนือจดทางสาธารณประโยชน์ ทิศใต้จดโรงเรียนวัดช่องลาภ ทิศตะวันออกจดทางป่าหวาย-หนองจอก ทิศตะวันตกจดที่ดินเอกชน อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วยอุโบสถ กว้าง 11 เมตร ยาว 16 เมตร เป็นอาคารคอนกรีตครึ่งตึกครึ่งไม้ ทรงไทยปั้นหยา มีพระประธานประจำอุโบสถ คือ พระบรมธาตุศรีรัตนเจดีย์ กว้าง 12 เมตร ยาว 16 เมตร ชั้นล่างเป็นห้องสมุด ศาลาทรงไทยเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโชคลาภ รูปหล่อเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พฺรหฺมรํสี รูปปูนปั้นหลวงตาเกลี้ยง รูปหล่อรัชกาลที่ 5 และกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พร้อมด้วยเทวรูป ต่าง ๆ ศาลาการเปรียญกว้าง 15 เมตร ยาว 25 เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ปัจจุบันมี เจ้าอาวาสคือ พระอธิการประสงค์ โชติธมฺโม เป็นวัดที่มีกิจกรรมนั่งวิปัสสนา ปฏิบัติธรรม และเป็นโรงเรียน พระปริยัติธรรมแผนกธรรม ซึ่งเปิดสอนเมื่อปี พ.ศ. 2528

มีประชากรทั้งสิ้น 16,685 คน แยกเป็นชาย 8,860 คน หญิง 7,825 คน 4,246 ครัวเรือน

หมู่ที่

ชื่อหมู่บ้าน

จำนวนครัวเรือน

จำนวนประชากร

ชาย

หญิง

รวม

-

1

บ้านทุ่งมะลิคร้อ

161

263

282

545

คน

2

บ้านหนองโก

200

297

260

557

คน

3

บ้านช่องลาภ

211

371

359

730

คน

4

บ้านหนองจอกบน

273

435

428

863

คน

5

บ้านหนองจอก

211

393

383

776

คน

6

บ้านหนองพันจันทร์

215

292

292

584

คน

7

บ้านหนองธง

253

356

374

730

คน

8

บ้านหนองตาเล็ก

75

102

108

228

คน

9

บ้านทุ่งหมูปล่อย

100

178

190

368

คน

10

บ้านทุ่งตาลับ

93

173

157

330

คน

11

บ้านทุ่งมะลิคร้อเหนือ

205

351

358

709

คน

รวม

1,997

3,211

3,191

6,420

คน

 

ไทดำ, ไทยวน
    • กลุ่มมวลชนจัดตั้งขึ้น
    • กลุ่มสหกรณ์การเกษตร
    • กลุ่มลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
    • กลุ่มสตรีอาสาพัฒนา
    • กลุ่มเยาวชน
    • กลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์หมู่บ้าน
    • กลุ่มสถาบันการเงินตำบลหนองพันจันทร์
    • กลุ่มกรรมการพลังงานตำบลหนองพันจันทร์ 80 ชุมชน

กลุ่มอาชีพเศรษฐกิจในชุมชน

  1. การสารตะกร้าจากเถาวัลย์ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านหนองจอก เดิมนั้นเถาวัลย์เป็นไม้เลื้อยที่มีความเหนียวและทนทานมาก ชาวได้นำมาสารเป็นตะกร้า ไว้ใส่ของใช้ในบ้านแต่ปัจจุบันชาวบ้านได้นำการสารตะกร้าจากเถาวัลย์มาสร้างรายได้และมีอาชีพเสริม มีวิธีการ คือนำเถาวัลย์มาลอกเปลือกออกหลังจากนั้นให้นำไปตากแดด รอจนแห้งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 วัน เมื่อเสร็จแล้วก็นำมาสารตะกร้าจากเถาวัลย์ได้เลย
  2. การเย็บหนังหน้ารองเท้า บ้านทุ่งมะลิคร้อเหนือ หมู่ที่ 11 การเย็บหนังหน้ารองเท้านั้นเป็นอาชีพที่ชาวบ้านทุ่งมะลิคร้อเหนือได้เย็บกันมานานแล้ว และยังมีการสอนเย็บหนังหน้ารองเท้าอีกด้วยซึ่งปัจจุบันมีการนำหนังหน้ารองเท้าแบบใหม่หรือลวดลายใหม่มาเย็บในชุมชนด้วย
  3. การทำไม้กวาดทางมะพร้าว บ้านหนองจอก หมู่ที่ ๕ คือ ภูมิปัญญาอย่างหนึ่งที่ชาวบ้านหนองจอกได้รวมตัวกันและคุยกันว่าจะหาอาชีพเสริม และได้หาความรู้จากที่ต่างๆ และรวมตัวกันทำไม้กวาดทางมะพร้าวเพื่อเป็นอาชีพเสริมให้ตนเองและเป็นอาชีพหลักของหลายๆคน จึงได้เกิดเป็นอาชีพในชุมชนขึ้นมา
  4. อาชีพการเลี้ยงหมู บ้านหนองพันจันทร์ หมู่ที่ ๖ที่นิยมเลี้ยงหมูในหมู่บ้าน การเลี้ยงสุกร หรือ การเลี้ยงหมูทั้งนี้เพราะสามารถเลี้ยงเป็นฟาร์มเล็กๆจำนวนไม่กี่ตัวก็ได้ เพราะใช้พื้นที่น้อยเลี้ยงง่ายใช้แรงงานน้อยและสามารถนำเศษอาหารมาใช้เป็นอาหารของสุกรได้นอกจากนี้มูลสุกรยังสามารถนำมาเป็นปุ๋ยหรืออาหารในบ่อเลี้ยงปลาได้ สุกรเป็นสัตว์เลี้ยงที่ขยายพันธุ์ได้เร็วมีลูกดกจึงเป็นกิจการที่ให้ผลกำไรดี ทำให้เป็นที่นิยมเลี้ยงกันมาก
  5. อาชีพการเลี้ยงไก่ บ้านทุ่งตาลับ หมู่ที่ ๔ปัจจุบันไก่พื้นบ้านได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นมาก เป็นเพราะไก่พื้นบ้านมี เนื้อ รสชาติอร่อยและเนื้อแน่น เป็นที่ถูกปากของผู้บริโภคทั่วไป จนมีแนวโน้มว่า จะสามารถส่งเนื้อไก่พื้นiบ้านออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ แต่ปัญหาคือปริมาณไก่ บ้านยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะเกษตรกรมีจำนวนมากประมาณร้อยละ 70 - 80 เปอร์เซ็นต์ จะเลี้ยงไก่พื้นบ้านแบบหลังบ้านประมาณ 10 20 ตัวต่อครัว เรือน ซึ่งการเลี้ยงก็เป็นการเลี้ยงแบบปล่อยตามยถากรรม จึงเป็นเหตุให้เกิดความสูญเสีย พอสมควร แต่ถ้าเกษตรกรสามารถปรับใช้เทคนิคการเลี้ยงแบบเรือนโรงมาผสม ผสานกับการเลี้ยงแบบพื้นบ้านและมีการปรับปรุงพันธุ์ลูกผสมระหว่างไก่บ้านกับไก่ พันธุ์แท้แล้วย่อมส่งผลทำให้จำนวนไก่บ้านที่จะออกสู่ตลาดมีปริมาณที่สูงขึ้นอย่าง แน่นอน
  6. อาชีพการเลี้ยงปลา บ้านช่องลาภ หมู่ที่ ๓ ชาวบ้านบางส่วนได้สนใจในอาชีพการเลี้ยงปลาเป็นอย่างมากปัจจุบันมีการเลี้ยงปลาอยู่หลายครัวเรือน แต่ชาวบ้านยังประสบปัญหาปลาตายอยู่เนื่องจากในช่วงฤดูแล้งปริมาณของน้ำลดลงทำให้ในน้ำมีก๊าซออกซิเจนน้อยปลาจึงตาย ในปัจจุบันมีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นจึงทำให้ปัญหานี้ลดน้อยลงและสามารถสร้างอาชีพการเลี้ยงปลาได้เป็นอย่างดี

อาชีพของประชาชนในตำบล

ด้านการเกษตร ตำบลหนองพันจันทร์ อาชีพหลักของประชากรในตำบล

      • อาชีพเกษตรกรรม ได้แก่ ทำไรสับปะรด ปลูกมันสำปะหลัง ปลูกไม้ยูคา
      • อาชีพเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ เลี้ยงวัว เลี้ยงสุกร เลี้ยงแพะ
      • อาชีพค้าขาย ได้แก่ ขายผัก ผลไม้ ขายของชำ
      • อาชีพรับจ้าง ได้แก่ รับจ้างในสถานที่แปรรูปสับปะรด และรับจ้างทั่วไป

ด้านอุตสาหกรรม  มีโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ขนาดใหญ่ ที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการและประกอบการ จำนวน  1  แห่ง

ด้านพาณิชย์และการตลาด
      • สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 29   แห่ง
      • ตลาดนัด จำนวน 3 แห่ง
      • ร้านซ่อมรถ จำนวน 4 แห่ง

การทำไร่                                                                                               

พื้นที่การทำไร่ทั้งหมด 1,200 ไร่ จำนวนครัวเรือนที่ทำไร่ 1,021 ครัวเรือน ผลผลิตที่ได้จากการทำไร่ได้แก่ พืชผักทางการเกษตร สับปะรด อ้อย มันสำปะหลัง ปลูกไม้ยูคา ต้นสนและข้าวโพด

สภาพปัญหา ส่วนใหญ่มักประสบปัญหาราคาข้าวสับปะรดตกต่ำ ถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง เนื่องจากขาดการรวมกลุ่มการต่อรองราคา ไม่มีความรู้เรื่องการบริหารจัดการที่ดี รวมทั้งต้นทุนการผลิตสูง เช่น ปุ๋ย สารกำจัดวัชพืชและเชื้อเพลิงในการขนส่ง อีกทั้งยังต้องเช่าที่ทำสับปะรด เป็นต้น

การเลี้ยงสัตว์

  1. ประเภทเชิงพานิช เช่น หมู วัว ควาย ไก่มีทั้งที่เป็นฟาร์มขนาดใหญ่และเลี้ยงในครัวเรือน
  2. ประเภทเพื่อบริโภคในครัวเรือนเช่น เป็ด ไก่ ปลา กบโดยมากจะเลี้ยงตามธรรมชาติ

การอุตสาหกรรม

  1. โรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 1 แห่ง
  2. โรงแรม/ที่พัก จำนวน 3 แห่ง
  3. ศูนย์สัมมนา จำนวน 1 แห่ง

การค้าขาย

การค้าขายในตำบล เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ค่อนข้างดีพอสมควร เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ในใจกลางของชุมชน โดยเฉพาะที่เป็นร้านค้าขายของชำ รวมถึงร้านขายอาหารประเภทอาหารตามสั่ง และเป็นธุรกิจค้าขายขนาดเล็ก ขนาดกลาง ประชาชนมักไปใช้บริการมากกว่าเดินทางเข้าตัวเมือง

  1. ร้านขายของชำ จำนวน  30 แห่ง
  2. ร้านขายอาหารทุกชนิด  จำนวน  21 แห่ง
  3. ร้านขายยา จำนวน - แห่ง
  4. ร้านขายอุปกรณ์การเกษตร จำนวน 5 แห่ง
  5. ร้านขายวัสดุ/อุปกรณ์ก่อสร้าง จำนวน 3 แห่ง
  6. ร้านค้าประเภทซ่อมแซมต่างๆ จำนวน  2 แห่ง
  7. ร้านขาย/รับซื้อเศษขยะ จำนวน 1 แห่ง

สถานการณ์แรงงาน/จำนวนหน่วยธุรกิจที่สำคัญของตำบล

  1. โรงงานสับปะรด จำนวน 1 แห่ง
  2. ตลาดสด จำนวน 6 แห่ง
  3. ปั้มน้ำมันหลอด จำนวน 11 แห่ง
  4. ฟาร์มเลี้ยงไก่ จำนวน 14 แห่ง
  5. ฟาร์มเลี้ยงสุกร จำนวน 11 แห่ง
  6. อู่ซ่อมรถ จำนวน 7 แห่ง

วิถีวัฒนธรรม

ประเพณีวัฒนธรรมของคนในตำบลหนองพันจันทร์ สภาพสังคมของประชาชนส่วนใหญ่อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ มีวงศาคณาญาติปลูกบ้าน อยู่ในละแวกเดียวกัน นับถือบรรพบุรุษ มีสัมมาคารวะต่อผู้มีอายุมากว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ร้อยละ 99 นับถือศาสนาพุทธ มีวัดประจำหมู่บ้านเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านซึ่งทำให้เกิดประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆที่สำคัญ ดังนี้

  1. ประเพณีสงกรานต์ ซึ่งตรงกับวันที่ 13-16 เมษายน ของทุกปี โดยมีประเพณีที่สำคัญ คือ วันที่ 16เมษายน มีการรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ เพื่อขอขมาลาโทษในสิ่งที่เคยล่วงเกิน และเป็นการแสดงความเคารพนับถือต่อบุพการีและบรรพบุรุษ เพื่อความเป็นศิริมงคลในชีวิตของลูกหลาน และประเพณีอื่นๆอีกมากมาย เช่น มีการทำบุญตักบาตร ก่อเจดีย์ทรายที่วัดมีการละเล่นพื้นบ้าน
  2. ประเพณีกินข้าวห่อ (อั้งหมี่ถ่อง) กะเหรี่ยงโปหรือกะเหรี่ยงโพล่ง หรือชาวไทยตะนาวศรี เป็นกลุ่มที่อาศัยตามแนวชาวแดนด้านตะวันตกของจังหวัดราชบุรี – เพชรบุรี จังหวัดราชบุรีจะอยู่ในเขตอำเภอสวนผึ้ง ปากท่อ บ้านคา เป็นกลุ่มที่มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มมายาวนานประเพณีกินข้าวห่อ หรืออั้งหมี่ถ่อง เกิดจากความเชื่อเกี่ยวกับขวัญประจำตัวของคนกะเหรี่ยงเชื่อว่าทุกคนมีขวัญประจำของคนกะเหรี่ยงเชื่อว่าทุกคนมีขวัญประจำตัวเป็นสิริมงคลแก่ตัว หากใครที่ขวัญหายไม่อยู่กับตัว อาจทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ ดังนั้นแต่ละปีชาวกะเหรี่ยงจึงมีประเพณีเรียกขวัญผูกข้อมือกินข้าวห่อขึ้น ประเพณีกินข้าวห่อจะจัดในเดือน 9 ของทุกปี แต่ละหมู่บ้านจะจัดขึ้นไม่ตรงกันทำให้ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงสามารถไปมาหาสู่ร่วมกิจกรรมกันได้ ชาวกะเหรี่ยงเชื่อว่า เดือน 9 หรือ “หล่าคอก” เป็นเดือนที่ไม่ดี เพราะบรรดาวิญญาณชั่วจะกิน “ขวัญ” ของคนที่เร่ร่อนไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้เจ้าของขวัญเจ็บป่วยได้ก่อนถึงวันงาน 3 วัน ชาวกะเหรี่ยงจะต้องเตรียมอุปกรณ์ เช่น ใบผาก ใบตอง และข้าวเหนียวและเริ่มห่อข้าวเหนียวห่อด้วยใบผากหรือใบตองแล้ว แช่น้ำทิ้งไว้ ในวันสุกดิบจะมีการต้มข้าวทั้งหมดให้เสร็จ พร้อมทั้งเคี่ยวน้ำกะทิและเตรียมอุปกรณ์เซ่นไหว้ในตอนหัวค่ำของวันนี้ จะมีการยิงปืน จุดประทัด เคาะแม่บันได้ ให้เกิดเสียงดังเพื่อเป็นขวัญที่อยู่ไกล ๆ ได้รับรู้และจะได้เดินทางกลับมาในคืนนี้ประตูหน้าต่างของทุกบ้านจะเปิดเอาไว้ เพื่อให้ขวัญที่เดินทางกลับมาเข้าบ้านได้ก่อนรุ่งอรุณของวันใหม่จะมีการยิงปืน จุดประทัด เคาะแม่บันไดอีกครั้งเพื่อเรียกขวัญที่อยู่ไกลบ้านยังเดินทางมาไม่ถึงให้รีบมา จากนั้นผู้เฒ่าประจำบ้านจำนำเครื่องรับขวัญที่ประกอบด้วย ข้าวห่อครูหรือข้าวห่อพวง กล้วยน้ำว้า อ้อย ดอกดาวเรือง เทียน สร้อยเงิน กำไรเงินและด้ายแดง มาทำพิธีเรียกขวัญ โดยจะไล่ผู้อาวุโสสูงสุด และรองไปตามลำดับในครอบครัว ซึ่งช่วงนี้ลูกหลานที่ไปอยู่ที่อื่นจะได้รู้จักกันว่าใครคือ พี่ ป้า น้า อา หรือน้อง ทำให้เกิดความรักความเกรงใจและความสามัคคีในกลุ่ม
  3. ประเพณีตักบาตรเทโวการตักบาตรเทโวนี้ บางวัดทำในวันออกพรรษา คือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 บางวัดก็ทำในวันรุ่งขึ้น คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ทั้งนี้ แล้วแต่ความตกลงร่วมใจทั้งทางวัดและทางบ้าน พิธีที่ทำนั้นทางวัดอัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานในบุษบก ซึ่งตั้ง อยู่บนล้อเลื่อนหรือคานหาม มีบาตรขนาดใหญ่ใบหนึ่งตั้งไว้หน้าพระพุทธรูป มีคน ลากล้อเลื่อนไปช้า ๆ นำหน้าพระสงฆ์ สามเณร ซึ่งถือบาตรเดินเรียงไปตามลำดับ พุทธศาสนิกชนต่างก็นำข้าว อาหารหวานคาว มาเรียงรายกันอยู่เป็นแถวตามแนวทางที่รถบุษบกเคลื่อนผ่าน คอยตักบาตร อาหารที่นิยมตักในวันนั้น ประเพณีการตักบาตรเทโวนี้ เนื่องมาจากการเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา เมื่อมีเหตุการณ์อะไรปรากฏในตำนาน ก็จะปรารภเหตุนั้นๆ เพื่อบำเพ็ญบุญกุศลเช่นการถวายทาน รักษาศีล เป็นต้น ตักบาตรเทโวจึงเป็นการทำบุญอย่างมโหฬารของพุทธศาสนิกชน นับแต่นั้นมา
  4. ประเพณีไหว้บรรพบุรุษเป็นประเพณีที่ชาวบ้านทำกันมาช้านาน ซึ่งจะมีวิธีไหว้คือนำเครื่องอาหารคาวหวานไหว้บรรพบุรุษ และได้จุดธูปบอกกล่าว และขอพรเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและคนในครอบครัว ส่วนใหญ่เราจะไหว้บรรพบุรุษในช่วงปีใหม่หรือช่วงต้นปี

เดือน

กิจกรรม

มกราคม

- ทำบุญขึ้นปีใหม่

- จัดประเพณีไหว้บรรพบุรุษ

กุมภาพันธ์

- เก็บเกี่ยวสับปะรด นอกฤดู ตั้งแต่ กุมภาพันธ์ - เมษายน

มีนาคม

- การแข่งขันกีฬาฟุตบอล สานสัมพันธ์ ต้านยาเสพติด

เมษายน

- จัดประเพณีสงกรานต์

- ทำบุญวันสงกรานต์

- รดน้ำดำหัวขอพรจากผู้สูงอายุ

- ก่อเจดีย์ทรายที่วัด และมีการละเล่น

พฤษภาคม

- งานประจำปีสับปะรดหวาน ร่วมกับอำเภอบ้านคา

มิถุนายน

-

กรกฎาคม

-

สิงหาคม

-

 

กันยายน

- ประเพณีกินข้าวห่อ (อั้งหมี่ถ่อง)

ตุลาคม

- ทำบุญตักบาตรเทโว หลังจากออกพรรษา

พฤศจิกายน

- งานลอยกระทง

- เก็บเกี่ยวสัปปะรด ตั้งแต่ พฤจิกายน - มกราคม

ธันวาคม

- ทำบุญสิ้นปี

- สวดมนต์ข้ามปี

ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น

ความรู้ความสามารถ

ที่อยู่

1.นายจันทร์ เรืองเรรา

ปราชญ์ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

หมู่ 5 ต.หนองพันจันทร์

 

ปราชญ์การทำบัญชีครัวเรือน

อ.บ้านคา จ.ราชบุรี

 

ปราชญ์ด้านการทำเกษตรแบบผสมผสาน

 

2.นายคำนวณ สีเขียว

ปราชญ์ด้านการทำเฟอนิเจอจากรากไม้

หมู่ 3 ต.หนองพันจันทร์

 

 

อ.บ้านคา จ.ราชบุรี

3.นายจรินทร์ อ่อนน่วม

ปราชญ์ด้านการทำเกษตรอินทรี

หมู่ 5 ต.หนองพันจันทร์

 

ปราชญ์ด้านการทำปุ๋ยชีวภาพ

อ.บ้านคา จ.ราชบุรี

ทุนทางวัฒนธรรม

ตำบลหนองพันจันทร์เป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทางชาติพันธ์ วัฒนธรรมทางชาติพันธ์ที่เห็นได้ในปัจจุบัน คือ ประเพณีกินข้าวห่อ (อั้งหมี่ถ่อง) กะเหรี่ยงโปหรือกะเหรี่ยงโพล่ง หรือชาวไทยตะนาวศรี เป็นกลุ่มที่มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มมายาวนานประเพณีกินข้าวห่อ หรืออั้งหมี่ถ่อง เกิดจากความเชื่อเกี่ยวกับขวัญประจำตัวของคนกะเหรี่ยงเชื่อว่าทุกคนมีขวัญประจำของคนกะเหรี่ยงเชื่อว่าทุกคนมีขวัญประจำตัวเป็นสิริมงคลแก่ตัว หากใครที่ขวัญหายไม่อยู่กับตัว อาจทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ ดังนั้นแต่ละปีชาวกะเหรี่ยงจึงมีประเพณีเรียกขวัญผูกข้อมือกินข้าวห่อขึ้น ประเพณีกินข้าวห่อจะจัดในเดือน 9 ของทุกปี

ทุนทางธรรมชาติ

ตำบลหนองพันจันทร์ มีพื้นที่เป็นภูเขาและที่ราบบางส่วนเหมะแก่ การทำพืชไร่ ไม้ผลและเลี้ยงสัตว์ การปลูกต้นยางพาลา การปลูกอ้อย โดยเฉพาะ การปลูกสับปะรด เพราะถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ และสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่อย่างเป็นกอบเป็นกำนอกจากนี้ยังสามารถช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน

ภาษาไทยและภาษาของชาวปกาเกอะญอ

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กระทรวงวัฒนธรรม. (2555). ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม : วัดช่องลาภ. สืบค้นเมื่อ 18 มีนาคม 2568 จาก  http://www.mculture.in.th/album/142994

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี. (2560). รายงานถอดบทเรียน ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี : ข้อมูลพื้นฐานตําบลหนองพันจันทร์. สืบค้นเมื่อ 18 มีนาคม 2568 จาก https://alc.doae.go.th/wp-content/uploads/2017/10/LessonLearnedRegion2.pdf

องค์การบริหารส่วนตำบลหนองพันจันทร์. (2568). สภาพทั่วไป องค์การบริหารส่วนตำบลหนองพันจันทร์. สืบค้นเมื่อ 17 มีนาคม 2568. จาก http://www.nongpanchan.go.th/site/index.php?option=com

อบต. หนองพันจันทร์ โทร. 0 3273 1635