
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านตะโกล่าง ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษา เรียนรู้ และนำองค์ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ไปปรับใช้ในชีวิตจริง
บ้านตะโกล่างเดิมชื่อว่าต้นมะม่วง เป็นส่วนหนึ่งของตำบลตะนาวศรี ที่มีมาอยู่ก่อนประวัติศาสตร์ที่อยู่กันมาตั้งแต่ยุคหินใหม่ ยุคสำริดและยุคเหล็ก โดยค้นพบเครื่องมือหินกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ตลอดชายแดน ตั้งแต่บ้านตะโกบน บ้านตะโกล่าง บ้านหวายน้อย บ้านทุ่งเจดีย์ บ้านผาปก สำหรับบ้านตะโกล่างนี้เคยพบขวานสำริดที่มีส่วนผสมของทองคำมากมีส่วนผสมของทองแดงน้อย นายวิเชียร โลหะศิริ ซึ่งได้ทำเหมืองอยู่ขณะนั้นได้ทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และยังได้ทูลเกล้าถวายหินชนวน หินฟลิ้น และขวานสำริดเขียวพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ด้วย
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านตะโกล่าง ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษา เรียนรู้ และนำองค์ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ไปปรับใช้ในชีวิตจริง
บ้านตะโกล่างเดิมชื่อว่าต้นมะม่วง เป็นส่วนหนึ่งของตำบลตะนาวศรี ที่มีมาอยู่ก่อนประวัติศาสตร์ที่อยู่กันมาตั้งแต่ยุคหินใหม่ ยุคสำริดและยุคเหล็ก โดยค้นพบเครื่องมือหินกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ตลอดชายแดน ตั้งแต่บ้านตะโกบน บ้านตะโกล่าง บ้านหวายน้อย บ้านทุ่งเจดีย์ บ้านผาปก สำหรับบ้านตะโกล่างนี้เคยพบขวานสำริดที่มีส่วนผสมของทองคำมากมีส่วนผสมของทองแดงน้อย นายวิเชียร โลหะศิริ ซึ่งได้ทำเหมืองอยู่ขณะนั้นได้ทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และยังได้ทูลเกล้าถวายหินชนวน หินฟลิ้น และขวานสำริดเขียวพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ด้วย
ชุมชนดั้งเดิมเป็นชาวปกาเกอะญออาศัยอยู่ ทำมาหากินโดยทำไร่ข้าว ปลูกพืช เที่ยวป่า ล่าสัตว์ ชีวิตความเป็นอยู่พอเพียง จนกระทั่งเมื่อ ปี พ.ศ. 2456 รัฐบาลเปิดให้มีการร่อนแร่ได้ ผู้คนภายนอกเริ่มเดินทางเข้ามาแสวงโชคตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ต่อมาใน พ.ศ. 2500 เหมืองแร่ก็ใช้เครื่องยนต์กลไกกันมากขึ้นและเหมืองแร่แต่ละเหมืองใช้คนงานกันเป็นหลักร้อย ซึ่งคนงานส่วนมากก็มาจากทางภาคเหมืองตอนล่าง นอกจากนั้นก็ยังมีคนงานสัญชาติ มอญ พม่าและคนพื้นที่สูงเข้ามาทำงานอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งยุคทองของการทำเหมืองแร่หมดไปคนงานเหมืองที่มาทำเหมืองแร่ส่วนหนึ่งก็อพยพไปหางานทำกันที่อื่น อีกส่วนหนึ่งก็กลับภูมิลำเนาเดิม แต่อีกส่วนหนึ่งที่ไม่อยากไปไหนก็อยู่จับจองที่หักร้างถางพง ทำไร่ทำสวนกันต่อไป
ในปี พ.ศ. 2521 หมู่บ้านตะโกปิดทอง หมู่ที่ 8 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี มีสถานศึกษา 1 แห่ง คือ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนตะโกปิดทอง ตั้งอยู่กลางเหมืองแร่แหลมพิชัยตั้งขึ้นสำหรับให้การศึกษาแก่ประชาชนที่อยู่ห่างไกลการคมนาคมในท้องถิ่นทุรกันดาร เป็นโรงเรียนที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นเด็กเล็กถึง ชั้น ป.6 ทั้งนี้เหมืองแร่แหลมพิชัยได้มอบโรงเรียนแห่งนี้ให้กับตำรวจตระเวนชายแดนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2521 โรงเรียนจึงอยู่ในสังคมกองกำกับการตำรวจแห่งชาติมาจนถึงปัจจุบัน
การที่โรงเรียนอยู่ในความดูแลของตำรวจตระเวนชายแดน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากตำรวจตระเวนชายแดน มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึงและจากหน่วยงานอื่น ๆ รวมทั้งเป็นโรงเรียนในโครงการพระราชดำริ ทำให้โรงเรียนมีงบประมาณในการดำเนินโครงการสำคัญ เช่น โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน
เดิมที่หมู่บ้านตะโกล่าง ขึ้นอยู่กับหมู่ที่ 3 บ้านผาปก แต่ปัจจุบันได้แบ่งแยกจากหมู่ 3 เป็นหมู่ 3 เนื่องจากมีประชากรมากพื้นที่ขยายตามส่วนองค์การบริหารส่วนตำบลสวนผึ้ง โดยหมู่ 8 เนื่องจากมีประชากรมากพื้นที่ขยายตามส่วน องค์การบริหารส่วนตำบลสวนผึ้งโดยหมู่ 8 ควบคลุมถึงบ้านตะโกล่าง บ้านโป่งแมวและป้ายตะโกปิดทอง ซึ่งมีลุ่มน้ำจากตะโกปิดทองไหลลงสู่โป่งแมว ตะโกล่างและลงสู่แม่น้ำลำภาษี ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของชุมชนตามลุ่มน้ำ
ต่อมานายวัชระ แย้มอรุณ ได้บริจาคที่ดินจำนวน 30 ไร่ มอบแก่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่137 อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพื่อสร้างโรงเรียนของตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตะโกล่าง และเปิดทำการสอนครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2532 โดยเปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โดยมี ส.ต.อ.บุญเริ่ม ทองปาน ดำรงตำแหน่งครูใหญ่และรับโอนนักเรียนจากโรงเรียนสินแร่สยามกลับเข้ามาเรียน จำนวนประมาณ 30 คน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่137 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 กรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย
ในปี พ.ศ. 2541 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ได้แจ้งความจำนง ขอมอบโอนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตะโกล่างให้กับสำนักงานคระกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในปัจจุบัน) รับไปดำเนินการต่อ โดยทำพิธีรับมอบ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2541 และได้ใช้ชื่อเรียกว่า “โรงเรียนบ้านตะโกล่าง” สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอสวนผึ้ง สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดราชบุรี โดยมีนายนิกร มณีโชติ ผู้อำนวยการโรงเรียนสินแร่สยาม รักษาการในตำแหน่งผู้บริหาร และในปัจจุบัน นายเฉลียว เถื่อนเภา ได้รับคำสั่งจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ทำหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตะโกล่าง
ในปี พ.ศ. 2536 บ้านตะโกล่างได้แยกจากหมู่ 3 ตำบลสวนผึ้ง มาเป็น หมู่ 8 ตำบลสวนผึ้ง นายวัชระ แย้มอรุณได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนแรก มีพื้นที่ทั้งหมด 16,875 ไร่ ปัจจุบัน นายบุญเลิศ ปั้นทองคำเป็นผู้ใหญ่บ้านบ้านตะโกล่างหมู่ 8 ตำบลสวนผึ้งเป็นหมู่บ้านที่แบ่งแยกจากหมู่บ้านที่ 3 บ้านผาปก เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2536
โดยมีพื้นที่ติดต่อ ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลจระเข้เผือก อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี
- ทิศใต้ ติดต่อกับ หมู่ที่ 3 บ้านผาปก ตำบลสวนผึ้ง
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ หมู่ที่ 5 บ้านถ้ำหิน ตำบลสวนผึ้ง
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ สหภาพเมียนมาร์
โดยมีเนื้อที่โดยประมาณ 27 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 16,875 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับที่ราบเชิงเขามีป่าโปร่งตามภูเขาในพื้นที่ทั่วไป จะมีป่าดิบเฉพาะแนวชายแดนและเป็นต้นกำเนิดต้นน้ำ ลำธารหลายสายที่สำคัญ ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนไทย และคนพื้นที่สูง คือ พม่า มอญและปกาเกอะญอ
ลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับที่ราบเชิงเขา มีป่าโปร่งตามภูเขาในพื้นที่ทั่วไป มีป่าดิบเฉพาะแนวชายแดนและเป็นต้นกำเนิดต้นน้ำ ลำธารที่มีหลายสาย ในช่วงฤดูฝน มักจะเกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากพื้นที่ป่า ที่เป็นที่ราบมีน้อย ไม่สามารถจะดูดซับน้ำได้ ในช่วงแล้ง มักจะเกิดไฟป่าทำลายพื้นที่เสียหาย
ลักษณะภูมิอากาศ ฤดูฝน ฝนจะตกประมาณ พฤษภาคม-เดือนตุลาคม โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม - เดือน กุมภาพันธ์ จะมีอากาศหนาวเย็น หนาวจัด ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม – เดือนเมษายน อากาศค่อนข้างร้อน
สถานที่สำคัญในชุมชน
บ้านตะโกล่างมีสถานที่สำคัญภายในชุมชน ดังนี้
- โรงเรียนบ้านตะโกล่าง
- โรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดนตะโกปิดทอง
- สำนักสงฆ์เริ่มชัย
- สำนักสงฆ์เขาหัวช้างตะโกปิดทอง
- สำนักสงฆ์เขาสุวรรณโณ
- คริสตจักรตะโกล่าง
- คริสตจักรมะขามหวาน
- คริสตจักรห้วยสุด
- คริสตจักรตะโกปิดทอง
- คริสตจักรบิเละ
- จุดตรวจตำรวจภูธรที่ 7 ตีนตะโกปิดทอง
- ชุดปฏิบัติการที่ 5 พลพัฒนาที่ 1
- ชุดปฏิบัติการทหารพรานที่ 1102 ตะโกปิดทอง
ประชากรบ้านตะโกล่าง แต่เดิมเป็นพื้นที่ทำกินของชาวปกาเกอะญอและราษฎรที่เข้ามาทำเหมืองแร่ดีบุก เมื่อเหมืองแร่เลิกกิจการ ชาวบ้านที่ยังอยู่ก็ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ มีอาชีพทำไร่และรับจ้างสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันในปี พ.ศ. 2566 ประชากรบ้านตะโกล่างมี จำนวน 4,324 คน จำนวน 943 ครัวเรือน เป็นชาย 2,086 คน เป็นหญิง 2,238 คน โดยมีสัญชาติไทย 2,500 คน เป็นชาย 1,102 คน หญิง 1,398 คน และสัญชาติอื่น ๆ 1,550 คน เป็นชาย 825 คน หญิง 725 คน ซึ่งบางส่วนได้รับการโอนสัญชาติเป็นคนไทยจึงทำให้มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในชุมชน ประกอบด้วย ไทย ปกาเกอะญอ พม่า มอญ จึงมีประเพณีและกิจกรรมตามเชื้อชาติ ชาวไทย มอญ ปกาเกอะญอบางส่วนจะนับถือศาสนาพุธ เข้าวัดทำบุญประเพณีตามประเพณีไทย
ปกาเกอะญอ, มอญบ้านตะโกล่างมีการรวมกลุ่มกันทำอาชีพ ดังนี้
1) การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ฮอร์โมนไข่ สมุนไพรไล่แมลง เผาถ่าน เก็บน้ำส้มควันไม้ การทำจุลินทรีย์ ท้องถิ่น จุลินทรย์หน่อกล้วย การผลิตแก๊สชีวภาพจากมูลสัตว์ การทำน้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน การทำสบู่ การเลี้ยงกบ เลี้ยงปลาเลี้ยงไก่ไข่
2) ผลิตภัณฑ์ชุมชน ได้แก่ สมุนไพรพื้นบ้านแปรรูป (ขมิ้น/รากปลาไหลเผือก/ฟ้าทะลายโจรฯลฯ) สบู่สมุนไพร กล้วยฉาบ ปุ๋ยไส้เดือน แชมพูใบหมี่ น้ำยาเอนกประสงค์ น้ำส้มควันไม้
3) แหล่งเรียนรู้ชุมชน ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านตะโกล่าง
วิถีชีวิตและอัตลักษณ์ชุมชน
1) เรื่องราวของชุมชนในอดีตเป็นชุมชนทำเหมืองแร่ มีเหมืองแร่หลายแห่ง ต่อมาได้ปิดตัวลงผู้คนได้แยกย้ายไปทำมาหากินส่วนหนึ่งตั้งถิ่นฐานทำมาหากินในพื้นที่เปลี่ยนอาชีพทำเกษตรกรรมและรับจ้าง
2) วัฒนธรรมประเพณี มีความหลากหลายชาติพันธุ์ ไทย ปกาเกอะญอ พม่า มอญ จึงมีประเพณีและกิจกรรมตามเชื้อชาติ ชาวไทย มอญ ปกาเกอะญอบางส่วนจะนับถือศาสนาพุธ เข้าวัดทำบุญประเพณีตามประเพณีไทย เช่น ทำบุญสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในวันสงกรานต์ งานบวช ทำบุญตักบาตรในวันสำคัญต่าง ๆ ส่วนปกาเกอะญอบางส่วนจะนับถือศาสนาคริสต์ จะเข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ มีกิจกรรมทางศาสนาคือวันคริสต์มาสทางและการนับถือศาสนา ได้แก่ การทำบุญผูกแขนเรียกขวัญ กินข้าวห่อ งานคริสต์มาส งานวันพ่อแห่งชาติ และงานปีใหม่ มีภาษาปกาเกอะญอ ภาษามอญ อาหารพื้นถิ่น การแต่งกายกะเหรี่ยง การเล่นสะบ้า รำกะเหรี่ยง รำมอญ
3) วิถีชีวิต ทำการเกษตรปลูกผัก ทำสวนผลไม้ รับจ้างทำงานในรีสอร์ท รับจ้างทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ได้แก่ เลี้ยงหมู เลี้ยงแพะ
4) ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ฮอร์โมนไข่ สมุนไพรไล่แมลง เผาถ่าน เก็บน้ำส้มควันไม้ การทำจุลินทรีย์ ท้องถิ่น จุลินทรย์หน่อกล้วย การผลิตแก๊สชีวภาพจากมูลสัตว์ การทำน้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน การทำสบู่ การเลี้ยงกบ เลี้ยงปลาเลี้ยงไก่ไข่
5) ผลิตภัณฑ์ชุมชน ได้แก่ สมุนไพรพื้นบ้านแปรรูป (ขมิ้น/รากปลาไหลเผือก/ฟ้าทะลายโจรฯลฯ) สบู่สมุนไพร กล้วยฉาบ ปุ๋ยไส้เดือน แชมพูใบหมี่ น้ำยาเอนกประสงค์ น้ำส้มควันไม้
6) แหล่งเรียนรู้ชุมชน ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านตะโกล่าง
วิถีวัฒนธรรม
วัฒนธรรมประเพณี มีความหลากหลายชาติพันธุ์ ไทย ปกาเกอะญอ พม่า มอญ จึงมีประเพณีและกิจกรรมตามเชื้อชาติ ชาวไทย มอญ ปกาเกอะญอบางส่วนจะนับถือศาสนาพุธ เข้าวัดทำบุญประเพณีตามประเพณีไทย เช่น ทำบุญสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในวันสงกรานต์ งานบวช ทำบุญตักบาตรในวันสำคัญต่าง ๆ ส่วนปกาเกอะญอบางส่วนจะนับถือศาสนาคริสต์ จะเข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ มีกิจกรรมทางศาสนาคือวันคริสต์มาสทางและการนับถือศาสนา ได้แก่ การทำบุญผูกแขนเรียกขวัญ กินข้าวห่อ งานคริสต์มาส งานวันพ่อแห่งชาติ และงานปีใหม่ มีภาษาปกาเกอะญอ ภาษามอญ อาหารพื้นถิ่น การแต่งกายกะเหรี่ยง การเล่นสะบ้า รำปกาเกอะญอ รำมอญ
วิถีทางเศรษฐกิจ สภาพทางเศรษฐกิจ ชาวบ้านมีอาชีพ มาทำรับจ้างแรงงานภาคเกษตรและทำไร่
ลำดับที่ |
ชื่อ-สกุล |
ภูมิปัญญาปราชญ์ท้องถิ่น |
1 |
นายประเสริฐ จอสูงเนิน |
ยาสมุนไพรไทย |
2 |
นายสมัย อุ้มบุญ |
งานฝีมือต่างๆ |
3 |
นางแมว แสนตา |
จักสานเข่ง สานแห สวิง |
4 |
นางกรรณิกา วุฒิบำรุง |
การถนอมอาหาร กล้วยฉาบ |
5 |
นางกรวรรณ กาวิโล |
การนวดแผนโบราณ การจับเส้น |
6 |
นางวากาปิ พุดดี |
เพลงพื้นบ้าน การร้อง การรำเพลงกะเหรี่ยง |
7 |
นางเย็น หงษาวดี |
เพลงพื้นบ้าน การร้องรำเพลงมอญ |
8 |
นางปราณี เขียววงศ์ |
คอยดูแลสุขภาพคนในหมู่บ้าน |
9 |
นางศิริรัตน์ แต้แดงเพชร |
-เศรษฐกิจพอเพียง/พืชสมุนไพร ว่าน การปุ๋ยชีวภาพ การแปรรูปถนอมอาหาร การทำสบู่สมุนไพร น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักล้างทำความสะอาด การทำบัญชีครัวเรือน ฯ -การเพาะปลูก-การขยายพันธ์/ทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักจุลินทรีย์ -ผู้นำ บริหารจัดการกลุ่ม กลุ่มอาชีพ กลุ่มการเงิน |
10 |
นางเสนอ ดอนมะไพร |
สมุนไพร/การปลุกผักหวานป่า การเลี้ยงจิ้งหรีด |
11 |
นายภานุพงศ์ แก้วชูกุล |
การเลี้ยงกบ การจัดล้อยาง การเผาถ่าน การทำน้ำส้มควันไม้ |
12 |
นายชาย ลำโพธิ์ |
ช่างไม้ |
13 |
นางสาวจำนง สืบด้วง |
กล้วยฉาบ กล้วยอบเนย |
14 |
นายจำลอง ขำสำราญ |
ทรงเจ้า ทำนายดวงชะตา |
ชุมชนบ้านตะโกล่างมีศักยภาพของชุมชนที่เป็นทุนชุมชนปราชญ์ท้องถิ่นและทรัพยากรทางธรรมชาติและอื่น ดังนี้
1) ทุนชุมชนปราชญ์ท้องถิ่น
2) ทุนทางสังคมในการจัดการตนเองโดยมีแหล่งประโยชน์ ในการขับเคลื่อนงานพัฒนาในชุมชน จำนวน 3 กลุ่ม ดังนี้
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
- สำนักสงฆ์เริ่มชัย
- อาสาสมัครกลุ่ม ชรบ.
3) ทุนทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรอื่น ๆ มีสัตว์ป่า เช่น ไก่ป่า กระต่าย มีพืชสมุนไพร เช่น ขมิ้น ว่านไพร ตะไคร้หอม กระชาย ย่านาง รางจืด มีลำห้วย และสระเก็บน้ำสาธารณะ
- อ่างเก็บน้ำ น้ำตกตะโกปิดทอง เจดีย์ทรงมอญที่สำนักสงฆ์เริ่มชัยและสำนักสงฆ์เขาหัวช้าง
- สภาพบ้านเรือนของชาวบ้านตะโกล่าง และชุมชนตะโกปิดทอง
- โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนตะโกปิดทอง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านตะโกล่าง
- โบสถ์คริสต์บ้านตะโกล่าง
- ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านตะโกล่าง
ในบ้านตะโกล่างมีการใช้ภาษาที่หลากหลายในปัจจุบัน ได้แก่
- ภาษาไทย
- ภาษาปกาเกอะญอ
- ภาษาพม่า
- ภาษามอญ
คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง. (2566). ภูมิปัญญาปราชญ์ชาวบ้าน ในการพึ่งพาตนเองตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง (2566). ราชบุรี: คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง.