Advance search

รือมัน

ชุมชนประวัติศาสตร์ อีกทั้งเป็นพื้นที่ราบลุ่มและเหมาะสมต่อการเกษตรประเภทสวนยางพารา สวนผลไม้

หมู่ที่ 1
บ้านรามัน
กายูบอเกาะ
รามัน
ยะลา
อบต.กายูบอเกาะ โทร. 0-7329-2477
อับดุลเลาะ รือสะ
21 ก.พ. 2023
นิรัชรา ลิลละฮ์กุล
24 มี.ค. 2023
อับดุลเลาะ รือสะ
27 เม.ย. 2023
บ้านรามัน
รือมัน

เดิมพื้นที่รามันเป็นราชวังของกษัตริย์รือมัน ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านพงซือโต บริเวณนั้นติดกับแม่น้ำสายบุรี และด้านหน้าพระราชวังจะมีต้นมะม่วงขนาดใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง เรียกว่า "ต้นรือมัน"


ชุมชนชนบท

ชุมชนประวัติศาสตร์ อีกทั้งเป็นพื้นที่ราบลุ่มและเหมาะสมต่อการเกษตรประเภทสวนยางพารา สวนผลไม้

บ้านรามัน
หมู่ที่ 1
กายูบอเกาะ
รามัน
ยะลา
95140
6.47696320718311
101.426246613264
เทศบาลเมืองกายูบอเกาะ

เดิมพื้นที่รามันเป็นราชวังของกษัตริย์รือมัน ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านพงซือโต ซึ่งบริเวณนั้นจะติดกับแม่น้ำสายบุรี และด้านหน้าพระราชวังจะมีต้นมะม่วงขนาดใหญ่อยู่ต้นหนึ่งเรียกว่า ต้นรือมัน เป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ให้ความร่มเย็นและเป็นสถานที่ประชุมโดยมีกษัตริย์จากกอตอตือร๊ะเข้าร่วมประชุมด้วย ในอดีตเมืองรือมันหรือรามันเป็นชุมชนที่มีความรุ่งเรืองมาก ในชุมชนมีตลาดนัด มีการคมนาคมด้วยรถไฟใช้สำหรับขนส่งสินค้า ผู้คนในสมัยนั้นนับถือศาสนาอิสลาม มัสยิดเป็นสถานที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในพื้นที่

บ้านรามัน อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 28 กิโลเมตร การเดินทางมายังชุมชนบ้านรามันสามารถเดินทางได้ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล และรถโดยสารประจำทาง

อาณาเขตติดต่อ

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลกอตอตือร๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลบาลอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลกาลูปัง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา

สภาพพื้นที่กายภาพ

สภาพทั่วไปของชุมชนรามันมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ซึ่งเหมาะต่อการเกษตรประเภทสวนยางพารา และสวนผลไม้ ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่ราชการสำคัญของอำเภอรามัน โดยสามารถแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่อาศัยของชาวบ้านและสถานที่ราชการ เช่น อำเภอรามัน สถานีตำรวจ ไปรษณีย์อำเภอรามัน ร้านค้า ส่วนด้านนอกจะเป็นถนนใหญ่จะมีร้านค้าเรียงรายตามถนนใหญ่ มีมัสยิดและโรงเรียนประจำอำเภอ

จากข้อมูลการสำรวจของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ปี 2565 ระบุจำนวนครัวเรือน และประชากรชุมชนบ้านตอแล จำนวน 1,259 หลังคาเรือน ประชากรรวมทั้งหมด 2,759 คน แบ่งเป็นประชากรชาย 1,351 คน หญิง 1,408 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมลายูและรองลงมาเป็นคนไทยพุทธ คนในชุมชนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวที่มีความหลากหลายช่วงวัย มีเพียงส่วนน้อยที่อาศัยเป็นครอบครัวเดี่ยว จากรากฐานความสัมพันธ์เชิงเครือญาติทำให้ผู้คนในสังคมมีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ระหว่างกัน

ผู้คนในชุนชนรามันมีการรวมกลุ่มที่เป็นทางการ

กลุ่มแม่บ้าน  เป็นกลุ่มที่จัดตั้งเพื่อเป็นแหล่งทุนช่วยเหลือสตรีในชุมชนให้มีความเข้มแข็งและเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ผ่านการจัดทำขนมพื้นบ้านเพื่อจำหน่ายในชุมชนหรือนอกชุมชน

ด้านกลุ่มอาชีพ พื้นที่แห่งนี้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับราชการทั้งในอำเภอและนอกพื้นที่อำเภอ รองลงมาประกอบอาชีพค้าขายเนื่องจากเป็นพื้นที่ของอำเภอทำให้การค้าขายกันอย่างคึกคัก

ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกชุมชน สมาชิกชุมชนส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีการช่วยเหลือกันในชุมชนจัดกิจกรรมของชุมชน เช่น งานเมาลิด งานมัสยิด งานแต่งงาน เป็นต้น  เป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทำให้คนในชุมชนสามารถเข้ากันได้ทุกกลุ่ม โดยส่วนใหญ่จะเป็นเครือญาติที่ตามมาอยู่ในชุมชน 

ในรอบปีของผู้คนบ้านรามันมีวิถีชีวิตทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตทางเศรษฐกิจที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นดังต่อไปนี้

วิถีชีวิตทางวัฒนธรรม

  • งานเมาลิดนบี เป็นวันแห่งการยกย่องวันเกิดของท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) คำว่า "เมาลิด" เป็นภาษาอาหรับแปลว่า เกิด, ที่เกิด หรือวันเกิด ซึ่งหมายถึงวันเกิดของท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) ตรงกับวันที่ 12 เดือนรอบือุลเอาวัล หรือเดือนที่ 3 ตามปฏิทินอิสลาม ชุมชนบ้านรามันจะจัดงานเมาลิดตามบ้านแต่ละหลังโดยผลัดเวียนตามเวรที่ได้รับมอบหมายจากผู้นำในพื้นที่ กิจกรรมในงานเมาลิด ได้แก่ การอัญเชิญคัมภีร์อัล-กุรอาน การกล่าวสรรเสริญ อ่านซางี เพื่อระลึกถึงท่านนบีมูฮัหมัด (ซ.ล.) นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงอาหารแก่ผู้ที่ไปร่วมงานด้วย

  • วันรายอแนหรือรายอหก ความหมายรายอแน คือ คำว่า "รายอ" ในภาษามลายูแปลว่า ความรื่นเริง และ คำว่า "แน" คือ หก ในทางปฏิบัติ เมื่อถึงวันตรุษอีฎี้ลฟิตรี จะเฉลิมฉลองวันอีดใหญ่และวันต่อมาชาวบ้านมักจะถือศีลอด 6 วัน ในเดือนเชาวาลต่อเนื่องจนครบ 6 วัน เมื่อเสร็จสิ้นการถือศีลอด คนในพื้นที่จะถือโอกาสนี้เฉลิมฉลองวันรายอแน โดยจะเดินทางไปทำบุญให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับที่กุโบร์หรือสุสาน

  • กิจกรรมฟื้นฟูค่ำคืนนิสฟูซะห์บาน ค่ำคืนนิสฟูซะห์บานจะตรงตามปฎิทินอิสลาม วันที่ 14 เดือนซะบาน โดยมีลักษณะกิจกรรม คือ มีการละหมาดฟัรดู อ่านอัลกุรอาน ซูเราะห์ยาซีน 3 จบ ซึ่งแต่ละจบจะมีดุอาร์ ขอพรจากอัลลอฮ์ เมื่อเสร็จพิธีการ มีการกินเลี้ยงร่วมรับประทานอาหาร และอาหารบางส่วนจะนำแจกจ่ายให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน

  • วันตรุษอิดิลฟิตรี หรือที่นิยมเรียกว่า วันรายอปอซอเพราะหลังจากที่มุสลิมได้ถือศีลอดมาตลอดในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนที่ 9 ของศาสนาอิสลาม ก็จะถึงวันออกบวช ตอนเช้าจะมีการละหมาดร่วมกัน ทุกคนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สะอาด สวยงาม และมีการจ่าย ซะกาตฟิตเราะฮ์

  • วันอาซูรอ ตรงวันขึ้น 10 ค่ำ เดือนมูฮัรรอม ซึ่งตรงกับเดือนแรกของปฏิทินอิสลาม จัดขึ้นเพื่อระลึกถึงประวัติของนบีนุฮ์ ตอนเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่

  • วันตรุษอิดิลอัฏฮา หรือวันรายอฮัจยี เนื่องจากมุสลิมทั่วโลกเริ่มประกอบพีธีฮัจญ์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย มีการทำกุรบาน หรือการเชือดสัตว์เพื่อเป็นอาหารแก่เพื่อนบ้านและคนยากจน เพื่อขัดเกลาจิตใจให้เป็นผู้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ ตรงกับเดือน ซุลฮิจยะห์ ซึ่งเป็นเดือนที่ 12 ในปฏิทินของศาสนาอิสลาม

  • การถือศีลอด เป็นหลักปฎิบัติที่มุสลิมจำเป็นต้องถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ตลอดระยะเวลา 1 เดือน มุสลิมที่มีอายุเข้าเกณฑ์ศาสนบัญญัติจะต้องงด การกิน ดื่ม การร่วมประเวณีตลอดจนทุกอย่างที่เป็นสิ่งต้องห้าม ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งตกดิน ทุกคนต้องสำรวมกาย วาจา ใจ เพราะเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่มีประเสริฐยิ่งของศาสนาอิสลาม ซึ่งในเดือนนี้ชาวมุสลิมจะไปละหมาดที่มัสยิด ซึ่งเป็นการละหมาดที่ปฏิบัติภายในเดือนรอมฎอนเท่านั้น เรียกว่า ละหมาดตะรอเวียะห์

  • การละหมาด เป็นการแสดงความจงรักภักดีต่ออัลลอฮ์ ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของชาวมุสลิม ทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยถือว่าเป็นการเข้าเฝ้าผู้ทรงสร้างที่ยิ่งใหญ่ การแต่งกายต้องสะอาด เรียบร้อย มีความสำรวม พระองค์กำหนดเวลาละหมาดไว้วันละ 5 เวลา

  • การทำฮัจญ์ อัลลอฮ์ทรงบังคับ ให้มุสลิมที่มีความสามารถด้านกำลังกาย กำลังทรัพย์ ต้องไปทำฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีขึ้นปีละครั้งชาวมุสลิมทั่วโลกจะเดินทางมารวมกัน เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่ออัลลอฮ์ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร มีฐานะทางสังคมอย่างไรต้องมาอยู่ที่เดียวกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ทุกคนมีฐานะเป็นบ่าวของอัลลอฮ์อย่างเท่าเทียมกัน

  • การเข้าสุนัต เป็นพิธีกรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาวมุสลิม ถือกันว่ามุสลิมที่แท้จริงควรเข้าสุนัต ถ้าไม่ทำถือว่าเป็นมุสลิมที่ไม่สมบูรณ์ ไม่บริสุทธิ์ การเข้าสุนัต คือการขลิบหนังหุ้มอวัยวะเพศของผู้ชายออก เพื่อสะดวกในการรักษาความสะอาด การเข้าสุนัตจะนิยมขลิบในช่วงเดือนเมษายนเนื่องจากเป็นช่วงปิดภาคการเรียนการสอนของเด็กในพื้นที่ กิจกรรมจะมีการขลิบหนังหุ้มอวัยวะเพศ และมีการเตรียมอาหารเป็นข้าวเหนียวสีต่าง ๆ บางพื้นที่จะมีการขลิบเป็นหมู่คณะ โดยมีเด็กในชุมชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

  • ประเพณีชิงเปรต เป็นประเพณีเนื่องในเทศกาลวันสารทเดือนสิบของชาวภาคใต้ โดยมีความสำคัญคือ เป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณผู้ล่วงลับไปแล้ว อาหารที่ใช้ตั้งเปรต ได้แก่ ขนมลา ขนมพอง ขนมบ้า ขนมเจาะหู ขนมไข่ปลา และมีของแห้ง เช่น ข้าวสาร หอม กระเทียม พริก กะปิ น้ำตาล ปลาเค็ม กล้วย อ้อย มะพร้าว ไต้ เข็มเย็บผ้า ด้าย ธูปเทียน นำลงจัดในหม โดยเอาของแห้งดังกล่าวรองก้นและอยู่ภายใน ส่วนขนมวางไว้ชั้นนอกปิดคลุมด้วยผืนลาทำเป็นรูปเจดีย์ยอดแหลมหรือรูปอื่นแล้วแต่การประดิษฐ์ของผู้จัด หลังจากนั้นนำหมที่จัดไปที่วัด รวมกันตั้งไว้บน ร้านเปรต ซึ่งสร้างกลางวัดยอดเสาสูง หลังฉลองหมเสร็จ ประชาชนจะนำขนมอีกส่วนหนึ่งไปวางไว้ตามบริเวณวัดเรียกว่า ตั้งเปรต เมื่อตั้งขนม ผลไม้ และเงินทำบุญเสร็จแล้ว ก็จะนำสายสิญจน์ที่ได้บังสุกุลแล้วผูกกับของจุดตั้งเปรตเผื่อแผ่ส่วนกุศล เมื่อเสร็จพิธีสงฆ์จะเก็บสายสิญจน์ จากนั้นการ ชิงเปรต จะเริ่มขึ้น ทั้งผู้ใหญ่และเด็กจะวิ่งกันเข้าไปแย่งขนมกันอย่างคึกคัก ตามความเชื่อว่าของที่เหลือจากการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ถ้าใครได้ไปกินจะได้กุศลแรง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว

วิถีชีวิตทางเศรษฐกิจ 

การประกอบอาชีพของประชากรส่วนใหญ่ในพื้นที่ประกอบอาชีพรับราชการ ทหาร ตำรวจ แพทย์ พยาบาล เป็นต้น รองลงมาประกอบอาชีพค้าขาย

1. นายมานโซร์ บาสอลอ  กำนันผู้รับผิดชอบดูแลในพื้นที่แห่งนี้ ท่านมีบทบาทในการแก้ปัญหาข้อพิพาทในชุมชม จนเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านในพื้นที่

ทุนวัฒนธรรม  

บุหงาซีเร๊ะหรือพานหมากพลู เป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวมลายู ในพานจะประกอบด้วย ใบพลู จะมีลักษณะเด่นเป็นรูปหัวใจ กินคู่กับหมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องที่อยู่ในขบวนแห่ขันหมาก พิธีสำคัญต่าง ๆ ตามคติความเชื่อใบพลูมีนัยยะที่แสดงออกถึงความรัก หมากจะมีความอ่อนในแข็งนอก ในส่วนของอุปกรณ์จะประกอบด้วย กระโจมไม้ไผ่ พานใบพลู ดอกไม้ ใบไม้ ที่จะนำมาใส่ในตัวกระโจมให้แน่น และประกอบทีละชั้น ส่วนความสวยงามของบุหงาซีเร๊ะนั้น จะอยู่ที่การจัดเรียงใบพลูซ้อนชั้น ๆ พานหมากพลูเป็นทุนวัฒนธรรมของคนในพื้นที่รามันเนื่องจากในอดีตมีความเชื่อมโยงกับราชวงศ์รามัน

ภาษามลายู หรือภาษามาเลย์ เป็นภาษาหนึ่งในตระกูลภาษาออสโตรนีเซียน ซึ่งใช้ในดินแดนประเทศ มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน และภาคใต้ของประเทศไทย

ประเทศไทยมีจังหวัดที่มีประชากรพูดภาษามลายู คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาสและบางอำเภอของจังหวัดสงขลา ประชากรที่นี่ส่วนใหญ่เขียนและบันทึกโดยใช้อักษรยาวี ปัจจุบันคนในชุมชนยังคงรักษาไว้ซึ่งภาษาท้องถิ่นของพื้นที่อย่างเหนียวแน่น


การเปลี่ยนแปลงของสังคมไปสู่ความทันสมัย ปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด คือ การสร้างบ้านเรือนที่มีความทันสมัยมากขึ้น ประกอบกับอิทธิพลทางการศึกษาสมัยใหม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากเดิม ความท้าทายของชุมชนบ้านรามันเผชิญปัญหากับความท้าทายเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดที่ระบาดในเยาวชน แต่ด้วยความตระหนักของผู้นำได้เข้ามาจัดการแก้ปัญหาการระบาดเหล่านี้ให้ลดลงเป็นอย่างมาก

ในชุมชนมีจุดน่าสนใจอื่น ๆ ได้แก่ ที่ว่าการอำเภอรามัน โรงเรียนรามันห์ศิริวิทย์ ไอริณโดนัทนมสดสาขารามัน สนามกีฬาอำเภอรามัน

ซูไรดา เจะนิ. (2559). การศึกษาภูมินามของหมู่บ้านในอำเภอรามัน จังหวัดยะลา. ทุนอุดหนุนจากงบประมาณการศึกษาประจำปี 2559.มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา.

กรมการปกครอง. (2565). ระบบสถิติทางการทะเบียน จำนวนประชากร. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566. เข้าถึงได้จาก https://stat.bora.dopa.go.th/

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ 2565. สืบสาน บุหงาซีเร๊ะ วัฒนธรรมท้องถิ่นชาวมลาญุภาคใต้. (ออนไลน์) สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2566. เข้าถึงได้จาก https://thainews.prd.go.th/

อบต.กายูบอเกาะ โทร. 0-7329-2477