Advance search

นั่งเรือเที่ยวเขื่อนลำปาว ชมวิถีชุมชนวิถีประมงพื้นบ้านที่บ้านทับปลา ชุมชนเหนือเขื่อนลำปาว ท่าปลาทำเลทองของจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของเหล่าสัตว์น้ำให้ได้หล่อเลี้ยงชีวิต โดยมีหลากหลายผลิตภัณฑ์จากปลาท้องถิ่น พร้อมส่งตรงจากบ้านทับปลา

หมู่ที่ 7
บ้านทับปลา
หนองสรวง
หนองกุงศรี
กาฬสินธุ์
ทต.หนองสรวง โทร. 08 8557 7425
วิไลวรรณ เดชดอนบม
9 เม.ย. 2025
วิไลวรรณ เดชดอนบม
19 เม.ย. 2025
บ้านทับปลา

มาจากคำว่า "ทับ" ที่หมายถึง กระท่อม เรือนย่อม ๆ หรือสิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นชั่วคราว และคำว่า "ปลา" เมื่อรวมกันแล้วเป็น "ทับปลา" หมายถึง กระท่อมหรือสิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นชั่วคราวสำหรับพักอาศัยระหว่างการหาปลา


ชุมชนชนบท

นั่งเรือเที่ยวเขื่อนลำปาว ชมวิถีชุมชนวิถีประมงพื้นบ้านที่บ้านทับปลา ชุมชนเหนือเขื่อนลำปาว ท่าปลาทำเลทองของจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของเหล่าสัตว์น้ำให้ได้หล่อเลี้ยงชีวิต โดยมีหลากหลายผลิตภัณฑ์จากปลาท้องถิ่น พร้อมส่งตรงจากบ้านทับปลา

บ้านทับปลา
หมู่ที่ 7
หนองสรวง
หนองกุงศรี
กาฬสินธุ์
46220
16.792071
103.425505
เทศบาลตำบลหนองสรวง

บ้านทับปลาในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของบ้านคำโอง หมู่ที่ 6 ตำบลหนองสรวง อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ต่อมาจึงได้แยกออกมาเป็นบ้านทับปลา หมู่ที่ 7 โดยคำว่า ทับปลา นั้นมาจากการประสมระหว่างคำว่า "ทับ" ที่หมายถึง กระท่อม เรือนย่อม ๆ หรือสิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นชั่วคราว และคำว่า "ปลา" เมื่อรวมกันเป็น "ทับปลา" หมายถึง กระท่อมหรือสิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นชั่วคราวสำหรับพักอาศัยระหว่างการหาปลา  เนื่องจากบ้านทับปลามีอาณาเขตติดต่อกับอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว โดยชาวบ้านทับปลาในอดีตอพยพมาจากหลายพื้นที่เพื่อมาหาปลาประทังชีพ โดยสร้างบ้านพักชั่วคราวที่มีลักษณะเป็นกระต๊อบริมเขื่อนลำปาว บางส่วนสร้างบ้านบนแพ จึงเป็นที่มาของการตั้งชื่อหมู่บ้านอย่างเป็นทางการ โดยในระยะแรกนั้นยังขึ้นกับบ้านคำโอง หมู่ที่ 6 จนใน พ.ศ. 2526 จึงได้แยกออกมาเป็นบ้านทับปลา หมู่ที่ 7 มีผู้ใหญ่บ้านคนแรก คือ นายคำมี ภูแสนศรี

บ้านทับปลา ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลหนองสรวง อําเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นหนึ่งใน 104 ชุมชนที่ตั้งอยู่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว พื้นที่ของหมู่บ้านมีลักษณะคล้ายแหลมยื่นเข้าไปในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านคำแคน หมู่ที่ 9 ตำบลหนองสรวง อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว และแนวเขตอำเภอสหัสขันธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านสว่างศรีมงคล ตำบลหนองหิน อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

  • ทรัพยากรน้ำ แหล่งทรัพยากรที่สำคัญ คือ เขื่อนลำปาว ที่อยู่ติดกับชุมชน คนในชุมชนใช้เป็นแหล่งในการประกอบอาชีพประมงน้ำจืด ซึ่งเป็นอาชีพและรายได้หลักของคนในชุมชน นอกจากนี้ยังใช้ผลิตน้ำประปาไว้อุปโภค รวมถึงใช้ในการสัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้านและระหว่างอำเภอ
  • ทรัพยากรดิน คนชุมชนบ้านทับปลาส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง มีเพียงสิทธิ์ในการอยู่อาศัย เนื่องจากหมู่บ้านตั้งอยู่ในเขตที่ดินของกรมชลประทาน จึงต้องอาศัยที่ดินบริเวณริมฝั่งเขื่อนลำปาวและบริเวณบ้านเพื่อใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ รวมถึงการปลูกมันสำปะหลังในฤดูน้ำลด
  • ทรัพยากรป่าไม้ หมู่บ้านทับปลาไม่มีป่าชุมชน เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด และอยู่ในเขตที่ดินของกรมชลประทาน มีเพียงป่าปู่ตาที่เป็นทรัพยากรส่วนรวมร่วมกับหลาย ๆ หมู่บ้าน ซึ่งมีความเข้มงวดในการเข้าไปใช้ประโยชน์ จึงต้องอาศัยซากไม้ที่จมอยู่ใต้ในเขื่อนลำปาว หรือเศษไม้จากไร่นาที่เจ้าของอนุญาตเพื่อนำมาทำเป็นเชื้อเพลิง เช่นฟืนและถ่าน

สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร์รายเดือน สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรบ้านทับปลา หมู่ที่ 7 ตำบลหนองสรวง อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ มีประชากรทั้งสิ้น 333 คน เป็นประชากรชาย 163 คน และประชากรหญิง 170 คน และจำนวนครัวเรือนทั้งสิ้น 100 หลังคาเรือน (สถิติเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567)

ชาวบ้านทับปลาส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง เช่น รับจ้างตัดอ้อย เก็บมันสำปะหลัง ดายหญ้า รับจ้างเกี่ยวข้าว และรับจ้างเลี้ยวปลาในกระชัง นอกจากนี้ยังมีการทำประมงขนาดเล็กจับปลาในเขื่อนลำปาวเพื่อค้าขาย รวมถึงการทำเกษตรกรรมปลูกพืชบริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว และการเลี้ยงสัตว์ เช่น เป็ด ไก่ หมู และวัว โดยการประกอบอาชีพของชาวบ้านทับปลามีรายละเอียด ดังนี้

1.การทำประมง จับปลาในบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว เนื่องจากบ้านทับปลาตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่เป็นต่อ มีอาณาเขตติดต่อกับเขื่อนลำปาวถึงสองด้าน การประมงจึงถือเป็นหนึ่งในรายได้หลักของประชาชนในหมู่บ้านมานานหลายสิบปี โดยปลาในเขื่อนลำปาวนี้สามารถจับได้เกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน เป็นช่วงฤดูกาลปลาวางไข่ มีปลาให้จับจำนวนมาก จึงมีการตั้งกฎกติการ่วมกันระหว่างประชาชนผู้ทำประมงและสำนักงานประมงจังหวัดให้ "จับ 5 วัน เว้น 5 วัน" เพื่อป้องกันการทำประมงอย่างล้างผลาญ และรณรงค์ลดการจับปลาในฤดูวางไข่ จนเมื่อถึงช่วงเดือนพฤศจิกายนน้ำในเขื่อนลำปาวจะเพิ่มสูง ช่วงนี้จึงหยุดจับปลาชั่วคราว ทั้งนี้ นอกจากการจับปลาตามธรรมชาติแล้ว ยังมีการเลี้ยงปลาในกระชังโดยชาวบ้านเป็นเจ้าของเอง โดยมีการทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทเอกชน

2.รับจ้างแปรรูปปลา หรือในภาษาถิ่นเรียกว่า "รับจ้างคัวปลา" คือ การใช้มีดขอดเกล็ดและเอา เครื่องในปลาออก ผู้ที่มาทำงานส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มชาวบ้านที่เป็นผู้หญิง มีทั้งวัยผู้ใหญ่และเด็ก ส่วนรายได้ขึ้นอยู่กับความสามารถ โดยคิดตามน้ำหนักปลาที่แปรรูปได้ อยู่ที่ประมาณ 5 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปปลาในลักษณะอื่น ๆ เช่น การคั้นปลาส้ม การห่อปลาส้ม โดยเฉพาะฤดูปลาวางไข่จะสามารถจับปลาได้จำนวนมาก กลุ่มชาวบ้านที่มารับจ้างแปรรูปปลาจะมีรายได้มากเป็นพิเศษ เฉลี่ยต่อวันประมาณ 200-400 บาท

3.รับจ้างในภาคการเกษตร งานรับจ้างของคนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นการรับจ้างในภาคการเกษตร โดยมีผู้ว่าจ้างที่เป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียงที่ทราบอยู่แล้วว่าที่บ้านทับปลามีแรงงานในการรับจ้าง เช่น รับจ้างเกี่ยวข้าว ตัดอ้อย รับจ้างดายหญ้า เก็บหัวมัน โดยค่าจ้างจะเริ่มต้นที่ประมาณ 250 บาท ไปจนถึง 500 บาทต่อวัน ตามแต่ผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างจะตกลงกัน หรืออาจจ้างเหมาเป็นไร่ก็มี

4.เลี้ยงวัว เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมของชาวบ้านทับปลา แต่ปัจจุบันมีไม่กี่ครัวเรือนเท่านั้นที่ยังมีการเลี้ยงวัวอยู่ โดยวัวสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง คือ วัวสายพันธุ์พื้นเมือง โดยจะเลี้ยงไว้ขายปีละ 1-2 ครั้ง ราคามีตั้งแต่หลักหมื่นบาทไปจนถึงหลักแสนบาท รายได้จากการขายวัวจึงเป็นเงินก้อนสำคัญของชาวบ้านผู้เลี้ยงวัวไว้ใช้จ่ายในครัวเรือน

กลุ่มองค์กรชุมชน

  1. กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)
  2. กลุ่มออมทรัพย์
  3. กลุ่มพลังแผ่นดิน
  4. กลุ่มอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน (อปพร.)
  5. กลุ่มพัฒนาสตรี
  6. กลุ่มกองทุนหมู่บ้าน
  7. กลุ่มเยาวชน
  8. กลุ่มแปรรูปปลา

ชาวบ้านทับปลานับถือศาสนาพุทธ มีวัด คือ วัดทับปลารัตนาราม เป็นวัดป่าประจําหมู่บ้าน เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา และประเพณีฮีต 12 คอง 14 ตามแบบอีสาน นอกจากนี้ยังมีความเชื่อเรื่องเจ้าปู่เชียงโสม และปู่ตานาแก้ว เป็นความเชื่อเกี่ยวกับการนับถือผี ชาวบ้านเชื่อว่าเจ้าปู่เชียงโสมเป็นผู้ปกปักรักษาทั่วบริเวณเขื่อนลําปาวที่ชาวบ้านใช้ทํามาหากิน ศาลเจ้าปู่เชียงโสมตั้งอยู่ในป่าอีกฟากหนึ่งของอ่างเก็บน้ำทางด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน ส่วนประเพณีประจำปีของหมู่บ้าน มีดังนี้

1.ทำบุญปีใหม่ จัดขึ้นที่ศาลากลางบ้านในเดือนมกราคม และมีการผูกแขนผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน

2.บุญข้าวจี่ จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ มีการจี่ข้าวทาไข่ไปถวายพระสงฆ์เป็นอานิสงส์

3.บุญผะเหวด ในเดือนมีนาคม บุญนี้ถือเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของหมู่บ้าน มีการฟังเทศน์ ฟังธรรม อัญเชิญพระอุปคุต แห่ผะเหวดเข้าเมือง และตกแต่งศาลาวัด

4.บุญสงกรานต์ จัดขึ้นในเดือนเมษายน มีการทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระและผู้สูงอายุ

5.บุญบั้งไฟ จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม โดยจะจัดร่วมกับหมู่บ้านอื่นในตำบล มีขบวนฟ้อนรำสวยงาม ประกวดบั้งไฟและผาแดง นางไอ่

6.พิธีกรรมเลี้ยงลง ไหว้ปู่ตานาแก้ว และปู่เชียงโสม จัดขึ้นราวเดือนพฤษภาคมของทุกปี มีการเลี้ยงอาหารคาวหวานแก่ปู่ตานาแก้ว และปู่เชียงโสม

7.บุญเข้าพรรษา จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ผู้เฒ่าเข้าวัดฟังธรรม จำนำพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำฝน

8.บุญสืบชะตา จัดขึ้นในเดือนสิงหาคม เป็นประเพณีใหม่ที่เกิดจากการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก คือ ศูนย์ประมงฯ ในวันนี้มีกิจกรรมตักบาตร อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้สัตว์น้ำ และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่เขื่อนลำปาว

9.บุญข้าวประดับดิน จัดขึ้นในเดือนสิงหาคม โดนในช่วงเวลาตี 3 จะมีการนำเอาห่อข้าวไปห้อยตามต้นไม้ จากนั้นจะเรียกชื่อบรรพบุรุษและเจ้ากรรมนายเวรให้มารับอาหาร ช่วงเข้าไปตักบาตรและกลับมาฝังห่อข้าว

10.บุญข้าวสาก จัดขึ้นในเดือนกันยายน โดยชาวบ้านจะนำห่อข้าวสากไปทำบุญที่วัด ให้พระสงฆ์สวดทำพิธี จากนั้นจะนำห่อข้าวไปแขวนตามต้นไม้ พระสงฆ์ลั่นฆ้อง เพื่อเรียกดวงวิญญาณบรรพบุรุษและเจ้ากรรมนายเวรมารับบุญ

12.บุญออกพรรษา จัดขึ้นในเดือนตุลาคม มีการตักบาตรเทโวที่วัด

13.บุญกฐินรวม ในเดือนพฤศจิกายนหลังออกพรรษา จัดรวมกันในตำบลหนองสรวงวัด โดยจะนำเงินกฐินไปรวมกันที่ตำบลก่อนแล้วจึงเวียนทำบุญไปตามวัดในหมู่บ้านต่าง ๆ ในตำบล

14.พิธีเลี้ยงขึ้นไหว้ปู่นาแก้วและปู่เชียงโสม จัดขึ้นในเดือนธันวาคม โดยหมู่บ้านใกล้เคียงจะมาร่วมทำบุญนี้เป็นจำนวนมาก มีการเลี้ยงอาหารคาวหวานแก่ปู่ตานาแก้ว และปู่เชียงโสม

1.พ่อนิพนธ์ อุบลแสน ปราชญ์ชาวบ้านด้านหัตถกรรม การสานแห

2.แม่เมือง วัฒนโน ปราชญ์ชาวบ้านด้านหัตถกรรม การทอเสื่อ

3.พ่อเส็ง ภูศรีนาท ปราชญ์ชาวบ้านด้านหัตถกรรม การสานไพรหญ้า

4.พ่อหนู ศรีนะ ปราชญ์ชาวบ้านด้านการแพทย์พื้นบ้าน สมุนไพรยา

5.แม่ทิพญา ภูผาดศรี ปราชญ์ชาวบ้านด้านการแพทย์พื้นบ้าน การนวดจับเส้น

6.แม่บังอร แดงรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านแห่งหมู่บ้านทับปลา จากคนหาปลาที่เผชิญวิกฤตความยากจนและถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุน สู่การลุกขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่บ้านที่เข้ามาแก้ปัญหาความยากจนให้กับอาชีพหาปลาของคนในชุมชน เพื่อให้ลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง นอกจากนี้ แม่บังอรยังได้กู้วิกฤตสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนรูปแบบการหาปลาที่ทำลายพันธุ์ปลาด้วยการช็อต ระเบิด ยิงปลา กลายเป็นการหาปลาแบบอนุรักษ์ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ทรัพยากร และต่อยอดสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ จนสามารถสร้างรายได้เพิ่มแบบทวีคูณให้คนในชุมชน จนทำให้คนรุ่นใหม่หวนกลับสู่บ้านเกิดเพื่อมาลงหลักปักฐานได้

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ภาษาพูด : ภาษาไทยถิ่นอีสาน ภาษาไทยกลาง

ภาษาเขียน : อักษรไทย


สืบเนื่องจากการที่บ้านทับปลามีลักษณะภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนลำปาว ชาวบ้านได้ในประโยชน์จากเขื่อนลำปาวในการสร้างอาชีพ คือ การทำประมงซึ่งเป็นรายได้หลักของชาวบ้าน ชาวบ้านทับปลาร่วมกับกรมประมงฯ และหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนลำปาวจึงได้คิดกุศโลบายในการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำในเขื่อนลำปาวให้มีอยู่เป็นแหล่งอาหารและแหล่งรายได้ของชาวบ้านอย่างยั่งยืนได้ ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ๆ ได้แก่

1.สร้างและขยายบ้านปลา มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำสถานที่ให้ปลาได้อยู่อาศัย ขยายพันธุ์ปลาให้มากขึ้น และให้เศรษฐกิจชุมชนดีขึ้น มีวิธีการสำคัญ คือ ตั้งคณะทำงาน หาวัสดุและงบประมาณ เช่น เศษใบไม้ แพเก่า ตอไม้ นัดหมายคนในชุมชนเพื่อจัดทำบ้านปลาประเภทต่าง ๆ เช่น บ้านปลาน้ำลึก บ้านปลาน้ำตื้น เพื่อให้ปลาได้มีที่อยู่อาศัย และเพื่อให้เป็นแหล่งอาหารและเป็นแหล่งรายได้ของชาวบ้านต่อไป

2.ประเพณีสืบชะตาปลา เดิมเป็นกิจกรรมที่ชุมชนได้รับสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก ภายหลังทางชุมชนเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่สำคัญและสอดคล้องกับวิถีชีวิต จึงอยากดำเนินการต่อด้วยตนเอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายพันธุ์ปลาในแหล่งน้ำ และเป็นการสร้างจิตสำนึกหรือปลูกฝังให้คนในชุมชนได้รู้จักคุณค่าของแหล่งน้ำที่ใช้ทำมาหากิน

3.จัดทำกองทุนพัฒนาหมู่บ้าน เพื่อขับเคลื่อนงานพัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อระดมทุนขับเคลื่อนงานพัฒนาในหมู่บ้านและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ โดยการจัดตั้งกองทุนเพื่อนำเงินทุนมาใช้ขับเคลื่อนงานพัฒนา เช่น การจัดบุญประเพณีสืบชะตาปลา เป็นต้น

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ธวัชชัย เคหะบาล. (2558). การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนประมงบ้านทับปลาอย่างมีส่วนร่วม กรณีศึกษาบ้านทับปลา ตำบลหนองสรวง อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.

ส้มปลาแม่บังอร. (6 มีนาคม 2568). วันนี้ปลาส้มแม่บังอรออกบูธขายสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์จากปลา. สืบค้น 30พฤษภาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/

ส้มปลาแม่บังอร. (20 พฤษภาคม 2568). เปิดร้านจ้าาา ขอให้เฮงๆ ปังๆ แต่เช้าๆ. สืบค้น 30พฤษภาคม 2568, จาก https://www.facebook.com/

suthichai. (24 กุมภาพันธ์ 2564). วันนี้ผมลงเรียนรู้จากชาวประมงปลาน้ำจืดที่บ้านทับปลาริมเขื่อนลำปาวที่จังหวัดกาฬสินธุ์. สืบค้น 9 เมษายน 2568, จาก https://x.com/suthichai/

Thai PBS. (24 พฤษภาคม 2559). อยู่ดีมีแฮง ขุมทรัพย์บ้านทับปลาสืบค้น 9 เมษายน 2568, จาก https://www.thaipbs.or.th/

Thai PBS. (2 เมษายน 2564). ฟังเสียงประเทศไทย Online : บ้านทับปลา อนุรักษ์ฟื้นฟู สู่วิสาหกิจชุมชนยั่งยืน. สืบค้น 9 เมษายน 2568, จาก https://www.youtube.com/

Thai PBS. (20 ธันวาคม 2565). สะเทือนไทย ผู้นำหญิงแห่งหมู่บ้านคนหาปลา. สืบค้น 9 เมษายน 2568, จาก https://www.thaipbs.or.th/

kalasinnews. (7 เมษายน 2562). บ้านทับปลา ท่าปลาทำเลทองของชาวกาฬสินธุ์. สืบค้น 9 เมษายน 2568, จาก https://www.youtube.com/

ทต.หนองสรวง โทร. 08 8557 7425