บ้านหยงสตาร์ หมู่ที่ 2 ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เป็นชุมชนชายฝั่งทะเลที่มีความเป็นมายาวนานหลายพันปี และเคยมีบทบาทสำคัญในการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรมลายู เช่น สิงคโปร์ ปีนัง และหัวเมืองชายฝั่งอื่น ๆ การค้าขายสมัยก่อนจำเป็นต้องอาศัยความรู้ด้านคณิตศาสตร์และความสามารถในการใช้ภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษามลายูและภาษาจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถและความเจริญของชุมชนในอดีต

ในปัจจุบัน ชุมชนหยงสตาร์เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ส่งผลให้ประชาชน ผู้นำชุมชน กลุ่มองค์กร และภาคีเครือข่ายด้านการพัฒนา ตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม และร่วมกันผลักดันการจัดการองค์ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ของชุมชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทั้งนี้ ตำบลท่าข้ามเองก็มีรากฐานทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับบ้านหยงสตาร์ ซึ่งถือเป็นชุมชนดั้งเดิมที่มีมาก่อนการก่อตั้งตำบลอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15 ซึ่งเมืองต่าง ๆ ทางภาคใต้เริ่มแยกตัวจากอาณาจักรศรีวิชัย และจัดตั้งเมืองใหม่ในลักษณะของ "เมือง 12 นักษัตร" โดยเมืองปะลันตาซึ่งเคยอยู่ภายใต้อาณานิคมของเมืองพัทลุงในขณะนั้น ใช้ตรางูเล็กเป็นตราประจำเมือง และขึ้นตรงต่อพัทลุงมาโดยตลอด ภายหลังจากนั้น เมืองปะลันตาเริ่มหายไปจากการบันทึกทางประวัติศาสตร์ จนกระทั่งมีการกล่าวถึงเมืองปะเหลียนในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18-19 สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งมีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาจากคณะสมณทูตจากลังกา โดยคาดว่าจุดขึ้นฝั่งน่าจะเป็นบริเวณท่าเรือปะเหลียนในปัจจุบัน ซึ่งอาจตรงกับท่าเรือบ้านหยงสตาร์ บ้านควนสระ หรือลิพัง

ในด้านประวัติศาสตร์การปกครอง เดิมบ้านหยงสตาร์เป็นศูนย์กลางของการบริหารจัดการของเมืองพัทลุงที่ขยายอำนาจมาครอบคลุมพื้นที่แถบนี้ โดยมีการตั้งท่าเรือ การแต่งตั้งข้าราชการประจำพื้นที่เพื่อจัดเก็บภาษี และจัดระบบการคมนาคมทางเรือ ต่อมามีผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะชาวมลายูและชาวจีนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน สร้างตลาด มัสยิด โรงพระ วัด และโรงเรียน เมื่อบ้านหยงสตาร์มีความเจริญมากขึ้น ทางราชการจึงได้ย้ายที่ว่าการอำเภอปะเหลียนจากบ้านท่าพญามาตั้งที่บ้านหยงสตาร์ พร้อมจัดตั้งสถานีตำรวจ ด่านป่าไม้ ด่านศุลกากร และโรงเรียนประถมศึกษา ก่อนที่จะย้ายที่ว่าการอำเภอไปยังที่ตั้งปัจจุบัน ซึ่งอยู่บนพื้นที่สูง และสามารถมองเห็นทะเลและหมู่เกาะรอบ ๆ บ้านหยงสตาร์ได้อย่างชัดเจน

อาณาเขตติดต่อ

• ทิศเหนือ ติดต่อกับ คลองท่าข้าม โดยมีคลองเล็ก ๆ เชื่อมต่อมาจากคลองสังหลัง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก และมีคลองใหญ่ที่อยู่อีกคลองหนึ่ง คือ คลองหลักขัน ด้านนี้มีสะพานท่าข้าม เป็นตัวเชื่อมสู่โลกภายนอก
• ทิศตะวันออก ติดต่อกับ คลองหลักขันและปากคลองมีตะกอน และสันดรทราย ตั้งแต่อดีตนับพันล้านปีจนเกิดเป็นเกาะ คือ เกาะเหลาตรงและบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้ง หอย ปู ปลา ทิศตะวันออกมีอ่าวที่ลึกเข้าไปถึงอำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
• ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ทะเลอันดามัน ซึ่งมีแนวชายฝั่งที่ยาวเป็นแหล่งสัตว์น้ำหลายชนิด โดยเฉพาะหอยแครง ลอเนาะ ฝั่งนี้ในอดีตเคยมีกุ้งชุกชุมและมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ หัวแหลมและหินหัวช้าง ห่างออกไปไม่ไกลมีเกาะค้างคาว ซึ่งคงเป็นดินตะกอน และทรายที่พัดตามน้ำมาจากคลองสุโสะซึ่งเป็นคลองใหญ่อีกคลองหนึ่ง
• ทิศใต้ ติดต่อกับ ทะเลอันดามัน โดยมีหัวแหลมอยู่ปลายสุดของพื้นที่ ทั้งหมดห่อหุ้มไปด้วยป่าชายเลน แต่ปัจจุบันแปรสภาพเป็นพื้นที่เลี้ยงกุ้งกุลาดำบางส่วนโดยเฉพาะฝั่งตะวันตก ส่วนตรงกลางเป็นที่ราบสูง 

สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 2 บ้านหยงสตาร์ ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 765 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 369 คน ประชากรหญิง 396 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 267 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)

บ้านหยงสตาร์เป็นชุมชนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลในตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ซึ่งมีภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งทะเล ป่าโกงกาง และพื้นที่เกษตรกรรม ชาวบ้านในชุมชนส่วนใหญ่ยังคงดำรงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม โดยพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นในการดำรงชีวิตประจำวัน

อาชีพหลักของชาวบ้านในชุมชนบ้านหยงสตาร์ คือการประมงพื้นบ้าน ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของวิถีชีวิตของชาวบ้าน โดยการประมงในพื้นที่จะใช้เรือขนาดเล็กและอุปกรณ์จับสัตว์น้ำพื้นบ้าน เช่น อวน ลอบ และดักปู เพื่อจับสัตว์น้ำหลากหลายชนิด เช่น ปลา ปู กุ้ง และหมึก ซึ่งนำมาบริโภคในครัวเรือนและจำหน่ายเป็นรายได้หลักของครัวเรือนในชุมชน นอกจากนี้การยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชนจากประมงพื้นบ้านและศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น ดังนี้

1.ผ้าปาเต๊ะเพนต์ลาย เป็นผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือที่มีลวดลายและเทคนิคการเพนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน ซึ่งผ้าปาเต๊ะมักใช้ในกิจกรรมทางศาสนาและประเพณีต่าง ๆ ของชาวมุสลิมในพื้นที่ โดยมีการออกแบบลวดลายที่สวยงามและมีความหมายทางศิลปะ นอกจากการใช้ในชีวิตประจำวัน ยังเป็นของที่ระลึกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน

2.ปลาเค็ม เป็นการถนอมอาหารด้วยวิธีการหมักเกลือเพื่อเก็บรักษาปลาให้ได้นานขึ้น ปลาเค็มที่ผลิตในบ้านหยงสตาร์มักมาจากการจับปลาจากทะเลในท้องถิ่น โดยใช้กรรมวิธีการเกลืออย่างพิถีพิถัน ทำให้ปลาเค็มมีรสชาติที่อร่อยและสามารถใช้ในเมนูอาหารพื้นบ้านต่าง ๆ ได้หลากหลาย

3.กะปิ กะปิเป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารพื้นบ้านของชุมชนไทยภาคใต้ รวมถึงบ้านหยงสตาร์ กะปิที่ผลิตในพื้นที่มักทำจากกุ้งหรือปูที่จับได้จากทะเลในท้องถิ่น โดยผ่านกระบวนการหมักและบดจนได้เนื้อกะปิที่มีกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อม ซึ่งเป็นส่วนประกอบในอาหารหลายประเภท เช่น แกง คั่ว หรือเป็นเครื่องจิ้มต่าง ๆ

4.ขนมพื้นบ้าน ขนมพื้นบ้านของบ้านหยงสตาร์มักเป็นขนมที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ข้าวเหนียว น้ำตาลมะพร้าว และผลไม้ในท้องถิ่น ขนมเหล่านี้มักถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา หรือเป็นของว่างในชีวิตประจำวัน มีทั้งขนมที่ทำจากแป้ง เช่น ขนมขี้หนู ขนมหม้อแกง หรือขนมที่ทำจากมะพร้าว เช่น ขนมต้มมะพร้าว

5.ไข่เค็ม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไข่ไก่หรือไข่เป็ดที่นำไปดองในน้ำเกลือเพื่อให้มีรสเค็ม การทำไข่เค็มในบ้านหยงสตาร์มักใช้วิธีการดองไข่ให้มีรสชาติกลมกล่อม ซึ่งไข่เค็มจะถูกใช้ในเมนูอาหารต่าง ๆ เช่น ไข่เค็มทอดหรือใช้เป็นส่วนผสมในอาหารไทยหลายชนิด

6.กุ้งแห้ง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการจับกุ้งในทะเลและนำมาผ่านกระบวนการตากแห้ง เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา กุ้งแห้งที่ผลิตในบ้านหยงสตาร์มักมีคุณภาพดีและใช้ในเมนูอาหารหลากหลายประเภท เช่น แกงส้ม ก๋วยเตี๋ยว และข้าวผัดต่าง ๆ โดยมีรสชาติที่เข้มข้นและให้ความอร่อยในอาหาร

นอกจากนี้ยังมีการทำการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ โดยการปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมันในรูปแบบสวนผสม รวมถึงการปลูกพืชผักพื้นบ้านเพื่อบริโภคเองและจำหน่ายภายในชุมชน นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงสัตว์ เช่น ไก่ เป็ด วัว และแพะ เป็นอาชีพเสริมที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและรายได้ให้กับครัวเรือน ในปัจจุบัน ชาวบ้านบางส่วนได้เริ่มหันมาสนใจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีการสร้างบ้านพัก โฮมสเตย์ หรือบ้างก็เปิดบ้านพักของตนเองให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักค้างแรมด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านหยงสตาร์อย่างใกล้ชิด อีกทั้งมีการเปิดร้านค้า ร้านอาหาร เพื่อสร้างรายได้เสริมและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การล่องเรือชมธรรมชาติในป่าชายเลน การเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน การชิมอาหารทะเลสด และการเข้าร่วมกิจกรรมวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การแสดงพื้นบ้านและกิจกรรมทางศาสนาในชุมชนมุสลิม

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในชุมชนบ้านหยงสตาร์ไม่เพียงแต่ส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับฐานราก แต่ยังช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนในพื้นที่ ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน

บ้านหยงสตาร์ เป็นชุมชนที่มีลักษณะเฉพาะทางวัฒนธรรมและสังคมที่โดดเด่น โดยเฉพาะการดำเนินชีวิตที่ผูกพันแน่นแฟ้นกับศาสนาอิสลามและประเพณีท้องถิ่นซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง วิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่นี้ยังคงความเรียบง่าย พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ และยึดมั่นในค่านิยมแห่งความสามัคคีและการแบ่งปันภายในชุมชน

ศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาหลักที่ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือ โดยมีมัสยิดเป็นศูนย์กลางของชุมชนในการประกอบศาสนกิจและกิจกรรมทางสังคม ชาวบ้านมีความเคร่งครัดในการปฏิบัติตามหลักศาสนา เช่น การละหมาดวันละ 5 เวลา การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน การประกอบพิธีฮัจญ์ และการร่วมกิจกรรมเมาลิด ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูติของท่านศาสดามุฮัมมัด 

ในด้านความเชื่อ ชาวบ้านยังมีความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและวิถีชีวิต เช่น ความเชื่อเรื่อง "บารอกัต" (ความศักดิ์สิทธิ์และความเมตตาจากพระเจ้า) ที่เกี่ยวพันกับการเริ่มต้นกิจกรรมต่าง ๆ อย่างมีความระมัดระวัง ความเชื่อเรื่องการเคารพวิญญาณบรรพบุรุษ และการรักษาขนบธรรมเนียมที่ส่งเสริมความเป็นสิริมงคล เช่น การขอดูฤกษ์ยามก่อนแต่งงาน หรือก่อนออกเรือหาปลา

ประเพณีท้องถิ่นที่สำคัญ ได้แก่ งานเมาลิด งานฮารีรายอ และการจัดงานแต่งงานแบบอิสลามซึ่งมีการประกอบพิธีทางศาสนาอย่างครบถ้วน ตลอดจนการแต่งกายที่เรียบร้อยตามหลักศาสนา และการจัดเลี้ยงแบบรวมญาติซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในครอบครัวและชุมชน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางธรรมชาติในชุมชนบ้านหยงสตาร์

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในบ้านหยงสตาร์ ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง มุ่งเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ที่ยั่งยืนและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น ดังนี้

1.เกาะเหลาตรง ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 2 ของตำบลท่าข้าม บนแหลมหยงสตาร์ เดิมมีชื่อในภาษามลายูว่า "ปูเลา-ตะรง (Pulou Taront)" ซึ่งแปลว่า "เกาะมะเขือ" มีความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของท่าเรือโบราณตันหยงสตาร์อย่างแนบแน่น ลักษณะทางกายภาพของเกาะมีความยาวประมาณ 1,000 เมตร และกว้างประมาณ 400 เมตร มีเนินทรายธรรมชาติ หาดทรายทางทิศใต้ และป่าชายเลนที่ค่อนข้างสมบูรณ์ทางทิศเหนือ บริเวณรอบเกาะอุดมไปด้วยสัตว์น้ำหลากชนิด เหมาะแก่การศึกษาทางนิเวศวิทยา อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่น่าสนใจ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ควรส่งเสริมอย่างยิ่ง

2.ด่านศุลกากรตันหยงสตาร์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 เป็นจุดปลายทางถนนหลวงสายตรัง-หยงสตาร์ มีความสำคัญในอดีตในฐานะด่านเก็บภาษีอากรทางทะเลระดับสากล แม้ปัจจุบันไม่ได้ดำเนินการเก็บภาษีแล้ว แต่ยังคงเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของพื้นที่ชายฝั่ง และเป็นประตูสู่การศึกษาทางประวัติศาสตร์และการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลในอดีต

3.ประภาคารตันหยงสตาร์ (กระโจมไฟ) ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 4 เป็นโบราณสถานที่สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2440 มีชื่อว่า “อโลกวชิรยุกต์” ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ เป็นประภาคารชนิดก๊าซหยด ซึ่งมีคุณค่าในเชิงประวัติศาสตร์และการเดินเรือ

4.แหลมหยงสตาร์ เป็นแหลมหินยื่นลงสู่ทะเลที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ เป็นแหล่งพักผ่อนของชาวบ้าน โดยกรมประมงได้สร้างสะพานยื่นลงทะเลระยะทางประมาณ 200 เมตร ซึ่งในบางฤดูสามารถพบเห็นฝูงปลาโลมาได้ใกล้ชายฝั่ง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของตำบลท่าข้าม

5.เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนคลองหยงสตาร์ เป็นสะพานไม้ยาวประมาณ 800 เมตร กว้าง 1.50 เมตร สร้างขึ้นเพื่อนำพานักท่องเที่ยวเข้าสู่การเรียนรู้ระบบนิเวศของป่าชายเลนอย่างใกล้ชิด มีพันธุ์ไม้หลากหลาย อาทิ ไม้โกงกาง ลำแพน โปรง และต้นจาก ดูแลโดยหน่วยป่าชายเลนที่ 33 จังหวัดตรัง

6.เกาะบัน หรือเกาะสะระบัน เป็นภูเขากลางทะเลที่เคยใช้เป็นเขตแบ่งแดนธรรมชาติระหว่างจังหวัดตรังกับจังหวัดสตูล บนเกาะมีเพิงหินและถ้ำที่มีความน่าสนใจทางธรณีวิทยาและประวัติศาสตร์ เหมาะแก่การสำรวจและศึกษาทางธรรมชาติ

7.เกาะค้างคาว เกาะนก และเกาะตูเกีย ตั้งอยู่บริเวณปากคลองท่าข้าม เป็นกลุ่มเกาะเล็ก ๆ ที่มีความสำคัญในอดีตในฐานะพื้นที่ตัดไม้ฟืน ปัจจุบันเป็นจุดเลี้ยงปลากระชัง และมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการประมงพื้นบ้าน

8.หินหัวช้าง กลุ่มหินริมทะเลที่มีรูปร่างคล้ายหัวช้างและหลังช้าง เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในอดีต ปัจจุบันกลายเป็นจุดชมวิวธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลอีกแห่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

9.นาหินแตก เป็นพื้นที่ทางธรรมชาติที่มีกลุ่มหินรูปร่างแปลกตา กระจายอยู่ในพื้นที่สวนยาง เมื่อเคาะหินบางก้อนจะมีเสียงกังวานคล้ายเสียงเครื่องดนตรีพื้นบ้าน สร้างความอัศจรรย์และเหมาะแก่การอนุรักษ์และพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ

ด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่หลากหลายและงดงาม ซึ่งเหมาะแก่การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวมานี้ ทำให้บ้านหยงสตาร์เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทั้งในแง่ของการศึกษาธรรมชาติ การเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น และการเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่ช่วยสร้างความตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน

ภาษาพูด : ภาษาไทยถิ่นใต้ ภาษาไทยกลาง

ภาษาเขียน : อักษรไทย

ด้านเศรษฐกิจ:

บ้านหยงสตาร์เป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งทะเล ป่าไม้ และพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในชุมชนนี้จึงเกิดขึ้นจากการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน ส่งผลให้รายได้ของชาวบ้านมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

ในด้านการเพิ่มขึ้นของรายได้ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของชุมชน ชาวบ้านได้มีโอกาสสร้างรายได้จากกิจกรรมท่องเที่ยว เช่น การให้บริการโฮมสเตย์ การจัดทัวร์ธรรมชาติ การล่องเรือชมป่าชายเลน รวมถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผ้าปาเต๊ะเพ้นท์ กะปิ ปลาเค็ม และขนมพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว แต่ยังช่วยส่งเสริมการหมุนเวียนของเงินในชุมชน ทำให้รายได้ของครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การเปลี่ยนแปลงในด้านอาชีพของชาวบ้านก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ในอดีตการประมงพื้นบ้านและการเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของชาวบ้าน แต่ปัจจุบันอาชีพในด้านการท่องเที่ยวได้กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ชาวบ้านสามารถสร้างรายได้เสริมได้ เช่น การรับจ้างทำกิจกรรมท่องเที่ยว หรือการให้บริการในด้านต่าง ๆ เช่น การเป็นไกด์นำเที่ยว การสอนทำอาหารพื้นบ้าน หรือการทำผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์ สิ่งเหล่านี้ทำให้ชาวบ้านได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ในการทำธุรกิจและการจัดการงานบริการ

นอกจากนี้ การยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของชุมชนบ้านหยงสตาร์ ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีคุณภาพสูง เช่น ผ้าปาเต๊ะเพนต์ลาย กะปิ และปลาเค็ม ได้รับการพัฒนาให้มีความหลากหลายและเป็นที่นิยมในตลาดทั้งภายในและภายนอกชุมชน การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์แต่ยังสร้างงานและรายได้เสริมให้กับสมาชิกในชุมชน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ผลิตสินค้าท้องถิ่น

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กรมประมง. (2564). โครงการ Fisherman's Village Resort การท่องเที่ยวโดยชุมชนหยงสตาร์ จังหวัดตรัง (Fisherman's Village Resort). สืบค้น 14 เมษายน 2568, จาก https://www4.fisheries.go.th/

เที่ยวหยงสตาร์. (2567). [ภาพประกอบ]. สืบค้น 14 เมษายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

พี่มารีวิว. (2565). แหลมหยงสตาร์. สืบค้น 14 เมษายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

พี่มารีวิว. (2566). หินหัวช้าง. สืบค้น 14 เมษายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

พี่มารีวิว. (2567). เกาะเหลาตรง. สืบค้น 14 เมษายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

สิ่งแวดล้อมศิลปกรรม. (2566). ย่านชุมชนเก่าหยงสตาร์. สืบค้น 14 เมษายน 2568, จาก https://culturalenvi.onep.go.th/

สุชาติ อินกลํ่า. (2553). ศักยภาพการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนหยงสตาร์ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง: รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย.

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดตรัง. (ม.ป.ป.). บ้านหยงสตาร์. สืบค้น 14 เมษายน 2568, จาก https://trang.cdd.go.th/

องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม. (ม.ป.ป.). ข้อมูลหน่วยงาน. สืบค้น 14 เมษายน 2568, จาก https://www.thakhamphrae.go.th/