
วัฒนธรรมประเพณีผสมผสานระหว่างคนไทยภาคเหนือ กะเหรี่ยง มอญ และพม่า มีวิถีชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยและเศรษฐกิจพอเพียง ชุมชนบ้านมหาวันมีลักษณะการดำรงชีวิตแบบเรียบง่าย โดยประชาชนส่วนใหญ่ยังคงยึดมั่นในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและศาสนาเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ
ชื่อหมู่บ้าน "มหาวัน" มีที่มาจากชื่อของนายมหาวัน (ไม่ปรากฏนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกและมาตั้งรกรากเป็นคนแรกในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ต่อมาชุมชนได้ขยายตัวและพัฒนาเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเรียกตามชื่อของผู้ก่อตั้งนั่นเอง
วัฒนธรรมประเพณีผสมผสานระหว่างคนไทยภาคเหนือ กะเหรี่ยง มอญ และพม่า มีวิถีชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยและเศรษฐกิจพอเพียง ชุมชนบ้านมหาวันมีลักษณะการดำรงชีวิตแบบเรียบง่าย โดยประชาชนส่วนใหญ่ยังคงยึดมั่นในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและศาสนาเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ
ชุมชนบ้านมหาวัน ได้รับการตั้งชื่อจาก วัดมหาวันวนาราม ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีปกครองเมืองลำพูน หรือหริภุญชัยในขณะนั้น โดยการเปลี่ยนที่ดินทำกินบริเวณรอบวัดเป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัย และเมื่อมีประชากรอพยพเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น จึงได้รับการจัดตั้งเป็นชุมชนตามชื่อวัดมหาวัน
หมู่บ้านมหาวันตั้งอยู่ในตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีที่ตั้งติดต่อกับพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลแม่สอด อำเภอแม่สอด
- ทิศใต้ ติดกับ ตำบลท่าสายลวด และตำบลทุ่งกระเสียว อำเภอแม่สอด
- ทิศตะวันออก ติดกับ ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด
- ทิศตะวันตก ติดกับ ประเทศพม่า (เขตชายแดน)
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำกวงไหลผ่าน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับการเกษตร ดินในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินเหนียว เหมาะสำหรับการทำนาและปลูกพืชต่าง ๆ
ชุมชนมีถนนลาดยาง 5 สายที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ต่าง ๆ เช่น สายห้วยไม้แป้น-แม่โกนเกน และสายแม่สอด-อุ้มผาง เป็นต้น ซึ่งช่วยให้การเดินทางสะดวกและเชื่อมโยงกับอำเภอแม่สอดและพื้นที่อื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แหล่งน้ำมีทั้งตามธรรมชาติและที่สร้างขึ้น มีลำน้ำและลำห้วยจำนวน 4 สาย รวมถึงฝาย 5 แห่ง บ่อน้ำตื้น 16 แห่ง และบ่อโยก 9 แห่ง ที่ช่วยในการเกษตรและการอุปโภคบริโภค
ตามข้อมูลจากองค์การบริหารส่วนตำบลมหาวัน (อบต.มหาวัน) จำนวนประชากรในพื้นที่ทั้งหมด 296 ครัวเรือน แบ่งเป็นประชากรชาย 369 คน ประชากรหญิง 358 คน รวมทั้งหมด 727 คน ชุมชนบ้านมหาวันมีระบบครอบครัวแบบขยาย ซึ่งสมาชิกหลายรุ่นอาศัยอยู่ร่วมกันในครัวเรือนเดียวกันหรือในบริเวณใกล้เคียงกัน เช่น ปู่ย่า ตายาย สามีภรรยา ลูก และหลาน เป็นต้น แม้หลังจากแต่งงานแล้ว ลูกสาวคนเล็กมักจะอาศัยอยู่กับพ่อแม่เพื่อดูแลท่านจนวาระสุดท้ายของชีวิต สมาชิกในครอบครัวทุกคนที่อยู่ในวัยทำงานจะช่วยกันทำงานเพื่อหาเงินมาสมทบกันใช้จ่ายภายในครอบครัว หรือหากจำเป็นต้องออกไปประกอบอาชีพนอกบ้านหรือนอกชุมชน เมื่อได้เงินมาก็มักจะฝากให้พ่อแม่เป็นผู้เก็บรักษาให้ และเมื่อถึงคราวแต่งงานพ่อแม่ก็จะคืนให้เพื่อนำไปเป็นทุนสร้างฐานะของครอบครัวต่อไป
อาชีพหลักในชุมชนบ้านมหาวันยังคงเป็นเกษตรกรรม โดยการทำนา ปลูกข้าว ข้าวโพด และพืชผักอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการทำสวน เช่น สวนมะม่วง มะนาว และพืชสวนต่าง ๆ ซึ่งพืชที่ปลูกจะสามารถเก็บเกี่ยวและจำหน่ายได้ในแต่ละฤดูกาล และการเลี้ยงสัตว์ เช่น เลี้ยงไก่ เป็ด และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เป็นต้น สำหรับเป็นแหล่งอาหารและรายได้เสริมสำหรับชุมชน นอกจากนี้ยังมีอาชีพรับจ้าง ซึ่งปัจจุบันมีชาวบ้านบางส่วนที่ไปทำงานในเมืองหรือในภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อำเภอแม่สอด เช่น โรงงานผลิตสินค้า หรือเป็นลูกจ้างในงานบริการต่าง ๆ เป็นต้น
ชุมชนมีการจัดตั้งองค์กรชุมชนต่าง ๆ เช่น องค์กรอาสาชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีบทบาทในการพัฒนาชุมชน ส่งเสริมการศึกษาและการให้บริการสาธารณะ ชุมชนมีการจัดกิจกรรมร่วมกัน เช่น การจัดงานเทศกาลประเพณี และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในช่วงเทศกาล เป็นต้น
ชุมชนมักจะมีกิจกรรมประเพณีที่เชื่อมโยงกับการเกษตร เช่น การทำบุญขอฝน หรือการขอบคุณธรรมชาติหลังเก็บเกี่ยวพืชผลการเกษตร เป็นต้น
ประเพณีสงกรานต์ (ปีใหม่ไทย)
- ประเพณีสงกรานต์เป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่ชาวบ้านมหาวันจะจัดขึ้นเพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทยและชาติพันธุ์ต่าง ๆ โดยจะมีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ การทำบุญตักบาตร และกิจกรรมการละเล่นต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตในอดีต เช่น การเล่นน้ำสงกรานต์
ประเพณีเข้าพรรษาและออกพรรษา
- ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาและออกพรรษา ชาวบ้านมหาวันจะร่วมกิจกรรมทางศาสนา เช่น การทำบุญถวายเทียนพรรษา และการทำบุญในช่วงออกพรรษาเพื่อเสริมสร้างศีลธรรมในชุมชน
- ชาวพม่าและชาติพันธุ์อื่น ๆ ในชุมชนมักจะมีการทำบุญตามวิถีของตนเองด้วย
ทุนทางธรรมชาติ
- ทรัพยากรธรรมชาติที่ชุมชนมี เช่น น้ำ ดิน ป่าไม้ แหล่งน้ำธรรมชาติ หรือพื้นที่การเกษตรที่ใช้ในการประกอบอาชีพ เช่น การทำนา ทำสวน หรือเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น
- ชุมชนสามารถพึ่งพาทรัพยากรเหล่านี้ในการดำรงชีวิตและสร้างรายได้จากการเกษตรหรืออาชีพอื่น ๆ
ทุนทางสังคม
- การร่วมมือกันระหว่างสมาชิกในชุมชน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวหรือเพื่อนบ้าน
- ความร่วมมือในการพัฒนาชุมชน เช่น การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการทำงานหรือในช่วงที่ประสบปัญหาภัยพิบัติ
- การมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ หรือการสนับสนุนระหว่างกัน
ทุนทางวัฒนธรรม:
- ประเพณีและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน เช่น การเฉลิมฉลองงานประเพณี การสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การทำขนมพื้นบ้าน การทอผ้า หรือการรักษาวิธีการเกษตรแบบดั้งเดิม เป็นต้น
- ความรู้ด้านการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การใช้สมุนไพร การทำการเกษตรยั่งยืน และการทำน้ำหมักชีวภาพ เป็นต้น
เนื่องจากบ้านมหาวันตั้งอยู่ในภาคเหนือของประเทศไทย การสื่อสารภายในชุมชนส่วนใหญ่จึงใช้ภาษาไทยภาคเหนือหรือที่เรียกกันว่า ภาษาเมือง ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้พูดในชีวิตประจำวัน เช่น การทักทาย การสนทนา และการจัดการกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน เป็นต้น
บางกรณีที่มีการติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐ หรือการสื่อสารกับบุคคลจากต่างพื้นที่ ชุมชนบ้านมหาวันก็ใช้ภาษาไทยกลาง เพื่อสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน
ชุมชนบ้านมหาวันมีการผสมผสานของชาติพันธุ์หลายกลุ่ม เช่น ชาวพม่า ชาวกะเหรี่ยง ชาวมอญ และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ทำให้ในบางกรณีที่สมาชิกในชุมชนต้องการสื่อสารกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ มีการใช้ภาษาอื่น ๆ เช่น พม่า กะเหรี่ยง และมอญ เป็นต้น
เศรษฐกิจและการขยายตัวของเมืองแม่สอดที่อยู่ใกล้เคียงมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของชาวบ้าน ชาวบ้านอาจต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางการค้าขาย และการเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น
มีการย้ายถิ่นฐานของประชากรจากพื้นที่อื่น เช่น การอพยพจากพม่า หรือการเคลื่อนย้ายของคนในพื้นที่ส่งผลให้มีการรวมกลุ่มของชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในชุมชน เป็นต้น
มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชุมชนบ้านมหาวัน เช่น การก่อสร้างถนนในบางพื้นที่เพื่อให้ชาวบ้านสามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น การพัฒนาแหล่งน้ำและระบบน้ำประปาที่สามารถเข้าถึงได้ในบางหมู่บ้าน
มีการให้ความรู้ด้านสาธารณสุขแก่ชุมชน เช่น การคัดแยกขยะ การรีไซเคิล และการจัดการของเสีย เป็นต้น
ด้วยความหลากหลายทางชาติพันธุ์ เช่น ชาวพม่า ชาวกะเหรี่ยง ชาวมอญ และคนไทยภาคเหนือ ทำให้การรักษาวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละกลุ่มในชุมชนอาจกลายเป็นความท้าทาย เนื่องจากเกิดการพัฒนาและการขยายตัวของชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ชนิดา เอื่อยศรีแก้ว. (2557). การเคลื่อนย้ายของแรงงานข้ามชาติที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพในภาคเกษตรของหมู่บ้านแม่โกนเกน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
องค์การบริหารส่วนตำบลมหาวัน. (2568). ข้อมูลพื้นฐาน. https://www.mahawan.go.th/history-rev2