
บ้านสวนทราย ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน คือ หมู่บ้านม้งกลางขุนเขา ที่อบอวลด้วยเสน่ห์ของผ้าพื้นเมืองเขียนเทียนฝีมือกลุ่มสตรีผู้สืบสานภูมิปัญญา วิถีชีวิตเรียบง่าย และบรรยากาศธรรมชาติบริสุทธิ์ งานคราฟต์ และความสงบ
บ้านสวนทราย คำว่า "สวนทราย" มาจากแต่ก่อนที่ตั้งหมู่บ้านเป็นสวนมะม่วงของชาวบ้าน และมีบ่อทรายซึ่งมีน้ำตลอดปี ชาวบ้านใช้น้ำในบ่อในการอุปโภคบริโภค เมื่อมาตั้งหมู่บ้านก็นำเอาชื่อบ่อน้ำมาเป็นชื่อของหมู่บ้าน
บ้านสวนทราย ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน คือ หมู่บ้านม้งกลางขุนเขา ที่อบอวลด้วยเสน่ห์ของผ้าพื้นเมืองเขียนเทียนฝีมือกลุ่มสตรีผู้สืบสานภูมิปัญญา วิถีชีวิตเรียบง่าย และบรรยากาศธรรมชาติบริสุทธิ์ งานคราฟต์ และความสงบ
บ้านสวนทรายแยกมาจากบ้านน้ำเปิน หมู่ที่ 1 ตำบลป่ากลาง ในปี พ.ศ. 2542 คำว่า "สวนทราย" มาจากแต่ก่อนที่ตั้งหมู่บ้านเป็นสวนมะม่วงของชาวบ้าน และมีบ่อทรายซึ่งมีน้ำตลอดปี ชาวบ้านใช้น้ำในบ่อในการอุปโภคและบริโภค เมื่อมาตั้งเป็นหมู่บ้านก็นำเอาชื่อบ่อน้ำมาเป็นชื่อของหมู่บ้าน โดยมีนายเสริมศักดิ์ อัศวเจริญกุล เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก และเป็นหมู่บ้านที่ 6 ของตำบลป่ากลาง
บ้านสวนทราย ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 6 ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงเชิงเขา ที่ตั้งและอาณาเขต หมู่บ้านสวนทราย ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านตีนตก หมู่ที่ 4 ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว
- ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านห้วยสะนาว หมู่ที่ 2 ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านหัวน้ำ หมู่ที่ 5 ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านน้ำเปิน หมู่ที่ 1 ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว
ลักษณะภูมิอากาศ
- ฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม อากาศร้อนจัด อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 39 องศาเซลเซียส
- ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ตุลาคม ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย 10.390 มิลลิเมตร/ปี
- ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 15 องศาเซลเซียส
ทรัพยากรดิน
พื้นที่ตำบลป่ากลางเป็นดินดำ และดินร่วนปนทราย เหมาะกับการเพาะปลูกพืชที่ปลูก ได้แก่ มะม่วง ลิ้นจี่ ลำไย ไม้ไผ่ ยางพารา ข้าวไร่ ข้าวโพด
ทรัพยากรน้ำ
ตำบลป่ากลางไม่มีแม่น้ำไหลผ่าน และไม่มีป่าต้นน้ำตามธรรมชาติ จะมีก็เพียงห้วยเล็กที่มีน้ำไหลมารวมกัน และอ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นอยู่คู่กับตำบลป่ากลางมาตั้งแต่ผู้คนเริ่มย้ายถิ่นฐานมาอยู่ โดยหมู่ 6 ใช้น้ำในการทำการเกษตรจากสระน้ำ
บ้านสวนทราย เป็นหมู่บ้านของกลุ่มชาติพันธ์ุม้ง โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากร หมู่ที่ 6 บ้านสวนทราย ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 2,989 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 1,471 คน ประชากรหญิง 1,518 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 525 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือน มกราคม 2568)
ม้งกลุ่มผู้หญิง ผ้าเขียนเทียน บ้านสวนทราย ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน
ผ้าเขียนเทียนเป็นผ้าที่มีลวดลายสวยงามและซับซ้อน โดยใช้เทคนิคการเขียนเทียนบนผ้าแล้วย้อมสีตามลวดลายที่ต้องการ กระบวนการนี้ต้องใช้ความชำนาญและความอดทนสูง กลุ่มผู้หญิงในบ้านสวนทรายได้สืบทอดภูมิปัญญานี้จากรุ่นสู่รุ่น และนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ธันวาคม-มกราคม
เทศกาลปีใหม่ม้ง (น่อ เป๊ โจ่วฮ์) เป็นงานประเพณีที่สำคัญของชุมชนชาวม้ง ในบ้านสวนทราย ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน ซึ่งจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม - 1 มกราคม ของทุกปี เป็นพิธีกรรมขอพรที่ชาวพันธุ์ม้งสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ภายในงานมีการแต่งกายชุดประจำชาติพันธุ์และมีการละเล่นพื้นบ้าน เช่น การโยนลูกช่วง ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนคนหนุ่มสาวชาติพันธุ์ม้งเรียนรู้วิถีชีวิตดั้งเดิมของตนเอง
1.นายสมพงษ์ ทิวานันท์ ผู้ใหญ่บ้าน ตั้งปี พ.ศ. 2552 - ปัจจุบัน
2.นางป้าง แซ่โซ้ง ผู้ประกอบพิธีกรรมทางความเชื่อ
3.นายวิชัย แซ่โซ้ง ปราชญ์ชุมชนผู้รู้เรื่องขนบธรรมเนียมความเชื่อการทำนายกระดูกไก่
4.นายผจญ ชนาวัฒธนานนท์ ปราชญ์ชุมชนผู้รู้เรื่องขนบธรรมเนียมความเชื่อการทำนายกระดูกไก่
ทุนกายภาพ
ทรัพยากรดิน พื้นที่ตำบลป่ากลางเป็นดินดำ และดินร่วนปนทราย เหมาะกับการเพาะปลูกพืชที่ปลูก ได้แก่ มะม่วง ลิ้นจี่ ลำไย ไม้ไผ่ ยางพารา ข้าวไร่ ข้าวโพด
ทรัพยากรน้ำ ตำบลป่ากลางไม่มีแม่น้ำไหลผ่าน และไม่มีป่าต้นน้ำตามธรรมชาติ จะมีก็เพียงห้วยเล็กที่มีน้ำไหลมารวมกัน และอ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นอยู่คู่กับตำบลป่ากลางมาตั้งแต่ผู้คนเริ่มย้ายถิ่นฐานมาอยู่ โดยหมู่ 6 ใช้น้ำในการทำการเกษตรจากสระน้ำ
ทุนมนุษย์
- นายสมพงษ์ ทิวานันท์ ผู้ใหญ่บ้าน ตั้งปี พ.ศ. 2552 - ปัจจุบัน (2568)
- นางป้าง แซ่โซ้ง ผู้ประกอบพิธีกรรมทางความเชื่อ
- นายวิชัย แซ่โซ้ง ปราชญ์ชุมชนผู้รู้เรื่องขนบธรรมเนียมความเชื่อการทำนายกระดูก
- นายผจญ ชนาวัฒธนานนท์ ปราชญ์ชุมชนผู้รู้เรื่องขนบธรรมเนียมความเชื่อการทำนายกระดูก
ทุนวัฒนธรรม
1.พิธีกรรมทำนายกระดูกไก่ หรือที่ชาวม้งเรียกว่า "แซะฉัว" (Xya Tsov) เป็นหนึ่งในพิธีกรรมดั้งเดิมที่สำคัญในวัฒนธรรมของชาวม้ง ผู้ที่ทำพิธีจะมาทำพิธีที่บ้านจองผู้ที่ต้องการทำนาย เนื่องจากการทำพิธีต้องเรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบรรพบุรุษของผู้ที่รับการทำนายด้วยอุปกรณ์ คาถา ขั้นตอนและการทำนายจากกระดูกไก่ มีดังต่อไปนี้
- อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนายทายทักจากกระดูกไก่ ได้แก่ ฆ้อง ไม้ตีฆ้อง ธูป เขาเสี่ยงทาย (เขาวัว)
- คาถาคำทำนายจากกระดูกไก่และคาถาแก้เคล็ดจากการทำนายจากกระดูกไก่
- ขั้นตอนการเตรียมไก่ก่อนทำนายจากกระดูกไก่
ไก่ที่ใช้ในการทำนายทายทักควรใช้ไก่ที่มีอายุ 2-3 เดือน (เนื่องจากไก่ในช่วงอายุนี้กระดูกจะไม่แข็งเกินไปเพื่อให้ง่ายต่อการแกะกระดูกส่วนต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำนาย ในพิธีกรรมเรียกขวัญจะใช้ไก่ 2 ตัว ตัวผู้ 1 ตัว และตัวเมีย 1 ตัว ถ้าในกรณีทำนายทั่วไปจะใช้ไก่เพียงตัวเดียว
- เตรียมไก่ที่จะใช้ในการทำนาย
- เตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนาย
- เตรียมจานที่ใส่ข้าวสารแล้วนำไข่กับธูปมาปักในจานข้าวสาร (กรณีที่ใช้ไข่ จะใช้ไข่นั้นเพื่อใช่ปลอบขวัญ เนื่องจากขวัญนั้นชอบไข่ถ้าไม่ใช้ไข่ในการเรียกขวัญ ขวัญนั้นอาจไม่กลับมา)
- ทำพิธีไล่คาถาในการเรียกขวัญ
- ทำพิธีไล่คาถาการทำนายโดยใช้ธูปหนึ่งดอก
- นำธูปที่ใช้ไล่คาถามาปักไว้ที่ หิ้งของผู้ประกอบพิธี หรือที่ชาวม้งเรียกอีกอย่างว่า ท่าเน้ง
- ต้มน้ำร้อนเพื่อลวกไก่
- นำไก่ที่จะใช้ทำนายมาฆ่า
- นำไก่ที่จะฆ่าแล้วมาลวกกับน้ำร้อน ประมาณ 20 วินาที เพื่อให้ขนไก่อ่อนต่อการถอนขน และหนังไก่จะได้ไม่ลอก
- นำไก่ที่ลวกแล้วมาถอนขนให้สะอาด
- นำไก่ที่ถอนขนแล้วมาลวกประมาณ 10 นาที เพื่อให้หนังไก่ไม่สุกจนเกินไปให้ทนต่อการถลอก
- นำไก่ที่ลวกได้แล้วมาทำพิธีอีกครั้ง
- ทำพิธีไล่คาถาอีกครั้งหนึ่ง
- ทำการทำนายและดูผลของการทำนาย
การทำนาย ถ้าเป็นการทำนายในเรื่องของสามีภรรยา ลูกชายลูกสาว พ่อแม่ ข้างซ้ายจะเป็นตัวแทนของผู้ชายและข้างขวาจะเป็นตัวแทนของผู้หญิงเสมอ แต่ถ้าทำนายในเรื่องของคดีความการค้าขาย การแข่งขัน ข้างซ้ายจะเป็นตัวแทนของเราและข้างขวาจะเป็นตัวแทนของผู้อื่นเสมอ
เขาวัวเสี่ยงทาย เขาวัวเสี่ยงทายนั้นใช่กรณีเรียกขวัญ และใช้ในการพูดคุยซักถามเรื่องต่าง ๆ จากเทพเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์และคนที่ตายไปแล้ว
2.เทศกาลปีใหม่ม้ง (น่อ เป๊ โจ่วฮ์) เป็นงานประเพณีที่สำคัญของชุมชนชาวม้ง ในบ้านสวนทราย ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน ซึ่งจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม - 1 มกราคม ของทุกปี
เป็นพิธีกรรมขอพรที่ชาวพันธุ์ม้งสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ภายในงานมีการแต่งกายชุดประจำชาติพันธุ์และมีการละเล่นพื้นบ้าน เช่น การโยนลูกช่วง ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนคนหนุ่มสาวชาติพันธุ์ม้งเรียนรู้วิถีชีวิตดั้งเดิมของตนเอง
ทุนภูมิปัญญา
ผ้าเขียนเทียน บ้านสวนทราย ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน
ผ้าเขียนเทียนเป็นผ้าที่มีลวดลายสวยงามและซับซ้อน โดยใช้เทคนิคการเขียนเทียนบนผ้าแล้วย้อมสีตามลวดลายที่ต้องการ กระบวนการนี้ต้องใช้ความชำนาญและความอดทนสูง กลุ่มผู้หญิงในบ้านสวนทรายได้สืบทอดภูมิปัญญานี้จากรุ่นสู่รุ่น และนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ผ้าเขียนเทียน ถือเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชนเผ่าม้ง ที่สืบสานกันมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว (บ้างก็ว่าเป็นพันปี) โดยเริ่มจากชาวม้งที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนได้ปลูกต้นกัญชงนำใยมาทอเป็นเสื้อผ้าเพื่อใช้สวมใส่เพื่อให้ผ้าสวยงาม ต่อมาจึงได้มีการคิดค้นการสร้างลวดลายให้สวยงามขึ้นโดยใช้เทียนต้มให้ละลาย แล้วนำมาเขียนลายบนผ้าใยกัญชง ก่อนจะนำไปย้อมสีครามจากต้นครามหรือต้นฮ่อมตามธรรมชาติ ซึ่งเทียนที่เขียนไว้จะกันไม่ให้ครามเกาะใยผ้า เมื่อนำผ้าที่ย้อมเสร็จแล้วไปต้มให้เทียนละลายออก ก็จะได้ลวดลายบนผ้าที่สวยงาม
ชุมชนบ้านสวนทราย ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นหมู่บ้านชาติพันธ์ุม้ง ใช้ภาษาม้งสื่อสารภายในครัวเรือนและในชุมชน ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาราชการ ในการติดต่อสื่อสารอย่างเป็นทางการ และคนภายนอกชุมชน
แหล่งน้ำภายในตำบลป่ากลาง มีอยู่จำกัด เพราะเป็นพื้นที่สูงขาดแคลนน้ำ และแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นลำห้วยขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ จะมีน้ำเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นจะมีลักษณะตื้นเขิน ในฤดูแล้งสภาพทั่วไปมักขาดแคลนน้ำ ประชาชนมักจะไปขนน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในตำบลข้างเคียงสำหรับการใช้อุปโภคบริโภคทุก ๆ ปี
พิธีกรรมความเชื่อ การทำนายทายทักจากกระดูกไก่
ชาวม้งเชื่อเรื่อง การทำนายจากกระดูกไก่ เนื่องมาจากมีบุคคลตัวอย่างมีผลเป็นไปตามการทำนายทุกครั้ง และรวมไปถึงการปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กจนโตว่าสิ่งเหล่านี้ เหตุการณ์เหล่านี้เป็นไปตามคำทำนาย การสืบทอดของการทำนายทายทักจากกระดูกไก่จึงมีการสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น เพราะเกิดจากความเชื่อที่เจอจากประสบการณ์จริง และประสบการณ์จากคนรอบข้างชาวม้งจึงยังคงรักษาขนบธรรมเนียมการทำนายจากกระดูกไก่มาจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้รู้ทิศทางที่จะดำเนินชีวิตในวันข้างหน้าอย่างปลอดภัย แต่ยังไม่มีผู้รวบรวมไว้เป็นหนังสือ เนื่องจากการสืบทอดนั้นชาวม้งจะสืบทอดกับแบบสอนปากต่อปากจึงทำให้จำได้ยากโดยเฉพาะคนรุ่นหลังขาดการศึกษาวัฒนธรรมของตนเอง สาเหตุเพราะการที่ลูกหลานชาวม้งรุ่นหลังพอจบจากการศึกษาแล้ว มักจะหางานทำและอยู่ในเมืองใหญ่มากกว่าการกลับมาทำงานในชนบท
ภูมิปัญญา
ผ้าเขียนเทียน ถือเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชนเผ่าม้ง ที่สืบสานกันมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว ชาวม้งจะใช้ผ้าใยกัญชง แต่ตอนหลังก็หันมาใช้ผ้าดิบจากโรงงานแทน เนื่องจากผ้าแบบเดิมนั้น ขั้นตอนสำเร็จ ก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่อาจมีการพัฒนาในขั้นตอนการผลิต แม่พิมพ์ปั้มลวดลายต่าง ๆ แทนการเขียนด้วยมือ ซึ่งจะใช้เวลานานหลายวันกว่าจะได้แต่ละผืน และการปั้มแบบนี้ก็จะสะดวกรวดเร็วและได้แพทเทิร์นที่สวยสม่ำเสมอ และมีลวดลายกว่าสิบแบบ ทั้งลายดั้งเดิมของชาวม้งหรือลายกราฟฟิคสมัยใหม่ที่คนนิยม ซึ่งสามารถนำมาผสมผสานกันจนเกิดเป็นลายใหม่ ๆ ได้อีก ผ้าเขียนเทียนนี้สามารถนำไปดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ตั้งแต่เสื้อ กระโปรง กางเกง ผ้าคลุมเตียง ผ้าปูโต๊ะ ฯลฯ
รัตนาพรผ้าเขียนเทียน บ้านสวนทราย ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน
กรมการปกครอง. (2567). ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. สืบค้นเมื่อ 25 พฤษภาคม 2568. จาก https://stat.bora.dopa.go.th
พัชรพร โภคินกิจกิตติกุล. (2557). การศึกษาคำทำนายจากกระดูกไก่ของชาวม้ง. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
มูลนิธิรักษ์ไทย. (2564). กลุ่มผู้หญิงม้ง ผ้าเขียนเทียน บ้านสวนทราย ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน. สืบค้นเมื่อ 25 พฤษภาคม 2568. จาก https://www.raksthai.
สำนักงานเกษตรจังหวัดน่าน. (ม.ม.ป). ข้อมูลทั่วไปของตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน. สืบค้นเมื่อ 25 พฤษภาคม 2568. จาก https://nan.doae.go.th
องค์การบริหารส่วนตำบลป่ากลาง. (ม.ป.ป.). ประวัติตำบลป่ากลาง. สืบค้นเมื่อ 25 พฤษภาคม 2568. จาก https://www.paklang.go.th
องค์การบริหารส่วนตำบลป่ากลาง. (ม.ม.ป.). ผ้าเขียนเทียน. สืบค้นเมื่อ 25 พฤษภาคม 2568. จาก https://www.paklang.go.th
Thai PBS. (2565). งานเทศกาลปีใหม่ ของชาติพันธุ์ม้ง อ.ปัว จ.น่าน. สืบค้นเมื่อ 25 พฤษภาคม 2568. จาก https://thecitizen.plus