
บ้านด้วงมีระบบบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้การสนับสนุนจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย ช่วยให้เกษตรกรรมเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งการทำนา พืชไร่ และเลี้ยงปลาในกระชัง ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการน้ำอย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามบริเวณฝายหนองหวาย ซึ่งเป็นทั้งสวนสาธารณะและพื้นที่พักผ่อนของคนในชุมชนและนักท่องเที่ยว
บ้านด้วงมีระบบบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้การสนับสนุนจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย ช่วยให้เกษตรกรรมเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งการทำนา พืชไร่ และเลี้ยงปลาในกระชัง ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการน้ำอย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามบริเวณฝายหนองหวาย ซึ่งเป็นทั้งสวนสาธารณะและพื้นที่พักผ่อนของคนในชุมชนและนักท่องเที่ยว
บ้านด้วงเป็นหนึ่งในชุมชนเก่าแก่ของตำบลน้ำพอง มีประวัติการตั้งถิ่นฐานมายาวนานหลายชั่วอายุคน โดยกลุ่มผู้ก่อตั้งชุมชนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัวชาวอีสานดั้งเดิมที่อพยพย้ายถิ่นฐานจากพื้นที่อื่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อแสวงหาพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยใหม่ โดยเฉพาะในช่วงปลายสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงต้นรัชกาลที่ 6 ที่มีการเคลื่อนย้ายประชากรในภูมิภาคนี้อย่างกว้างขวาง
โดยสาเหตุการก่อตั้งชุมชนบ้านด้วง อันเนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้มีความเหมาะสมทางธรรมชาติ ทั้งสภาพดิน น้ำ และภูมิอากาศสำหรับการทำการเกษตรแบบพื้นบ้าน โดยเฉพาะการปลูกข้าวและพืชไร่หลากหลายชนิด นอกจากนี้พื้นที่ยังตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำและเส้นทางเดินเท้าที่สะดวกต่อการติดต่อกับชุมชนใกล้เคียง
ชาวบ้านผู้ก่อตั้งชุมชนได้ร่วมมือกันสร้างหลักปักฐาน โดยสร้างบ้านเรือนและจัดตั้งวัดทุ่งสว่างขึ้นเป็นศูนย์รวมทางจิตใจและกิจกรรมทางศาสนา โดยวัดนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของความสามัคคีในชุมชนและทำหน้าที่เป็นสถานที่พบปะหารือและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่สำคัญ โดยชุมชนบ้านด้วงได้กลายเป็นชุมชนเกษตรกรรมที่มีความเข้มแข็ง ทั้งในด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม โดยชาวบ้านยังคงรักษาประเพณีดั้งเดิมไว้อย่างดี และมีการรวมกลุ่มพัฒนาวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างรายได้เสริมและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การบริหารจัดการชุมชนในปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลตำบลลำน้ำพอง
บ้านด้วงตั้งอยู่ที่หมู่ 6 ตำบลน้ำพอง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง สลับกับที่ราบลุ่มบริเวณลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำพอง ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านการเกษตร ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนาและเพาะปลูกพืชต่าง ๆ แต่เนื่องจากฝนตกไม่สม่ำเสมอ และในฤดูแล้งมีความแห้งแล้งสูง ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ
เพื่อลดผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ จึงมีการก่อสร้างเขื่อนอุบลรัตน์ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูฝน อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า การชลประทาน การประมง และการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมี ฝายหนองหวาย ซึ่งทำหน้าที่ทดน้ำและส่งน้ำไปยังพื้นที่เพาะปลูกในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดมหาสารคาม โดยอาศัยน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์เป็นแหล่งน้ำต้นทุน
ลำน้ำพองและลำน้ำสาขาต่าง ๆ ยังมีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิต เช่น การเพาะปลูก การเลี้ยงปลาในกระชัง และการใช้น้ำเพื่ออุตสาหกรรมในพื้นที่ เช่น โรงไฟฟ้าพลังความร้อนและโรงงานผลิตเยื่อกระดาษ SCG
นอกจากการใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรมแล้ว พื้นที่บริเวณฝายหนองหวายยังได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน โดยมีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของชุมชน
ข้อมูลประชากรจากกรมการปกครอง ในปี พ.ศ. 2568 พบว่า หมู่ที่ 6 บ้านด้วง มีประชากรทั้งหมดจำนวน 407 คน แบ่งเป็นชาย 202 คน และหญิง 204 คน
บ้านด้วงมีโครงสร้างทางสังคมที่มีการจัดระเบียบและแบ่งงานหน้าที่ชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำเกษตรกรรมและชีวิตประจำวันของชาวบ้าน
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวายมีบทบาทสำคัญในการดูแลระบบชลประทานในพื้นที่นี้ โดยรับผิดชอบการวางแผน ควบคุม ตรวจสอบ และส่งน้ำอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการเกษตรและการอุปโภคบริโภคของชุมชน ภายใต้การแบ่งงานเป็นหลายฝ่าย ทั้งงานบริหารทั่วไป ฝ่ายวิศวกรรม ฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบ ฝ่ายช่างกล และฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษา ซึ่งแต่ละฝ่ายมีหน้าที่เฉพาะเจาะจงชัดเจน เช่น งานวางแผน การซ่อมแซมระบบชลประทาน การควบคุมระบบส่งน้ำ และการฝึกอบรมเกษตรกรให้รู้จักใช้น้ำอย่างถูกวิธี
ในด้านสังคม ชุมชนบ้านด้วงมีการรวมกลุ่มผู้ใช้น้ำและเกษตรกรอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความร่วมมือในการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและแก้ไขปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้น การมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการฝึกอบรมและบริหารจัดการน้ำทำให้ชุมชนสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลุ่มอาชีพหลักของชุมชนคือการเกษตรกรรม โดยเฉพาะการทำนาข้าวในฤดูนาปีและนาปรัง รวมถึงการปลูกพืชสวนและพืชไร่ต่าง ๆ การทำเกษตรพึ่งพิงน้ำจากระบบชลประทานที่ได้รับการดูแลจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวายเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีการประมงในกระชังในลำน้ำพองและการทำอาชีพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรน้ำ
ในรอบปีคนภายในชุมชนบ้านด้วงมีวิถีชีวิตทางวัฒนธรรม และวิถีชีวิตทางเศรษฐกิจร่วมกัน โดยมีอัตลักษณ์โดดเด่น ดังต่อไปนี้
วิถีชีวิตทางวัฒนธรรม
ชุมชนบ้านด้วงยังคงรักษาวิถีวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นไว้อย่างเข้มแข็ง โดยมีกิจกรรมสำคัญ เช่น การจัดงานสงกรานต์ แห่เทียนพรรษา และพิธีทำบุญในวันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านจะร่วมกันทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ และร่วมกิจกรรมทางศาสนาอย่างพร้อมเพรียง นอกจากนี้ชุมชนยังส่งเสริมการอนุรักษ์ดนตรีพื้นบ้านและงานหัตถกรรมทอผ้าไหมที่ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ
วิถีชีวิตทางเศรษฐกิจ
มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะแหล่งน้ำ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำสวน และปลูกพืชไร่ ซึ่งเดิมทีอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก แต่ปัจจุบันมีการใช้น้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์และฝายหนองหวายผ่านระบบชลประทาน ทำให้สามารถเพาะปลูกได้สม่ำเสมอมากขึ้น แม้ในฤดูแล้ง
นอกจากการเกษตร ชาวบ้านยังมีอาชีพเสริมจากการเลี้ยงปลาในกระชังภายในลำน้ำพอง ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งพื้นที่บริเวณฝายหนองหวายยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ได้รับความนิยม ทำให้เกิดกิจกรรมค้าขายและบริการ เช่น การจำหน่ายอาหารและสินค้าท้องถิ่น เป็นรายได้เสริมให้กับชุมชน
การบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ส่งผลให้เศรษฐกิจชุมชนมีความมั่นคงมากขึ้น และสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่องภายใต้พื้นฐานวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและพึ่งพาธรรมชาติ
ชุมชนบ้านด้วงมีความมั่นคงด้านสาธารณูปโภค โดยเฉพาะในด้านแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นผลจากการได้รับประโยชน์จาก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงน้ำสะอาดได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ
ประชาชนทุกครัวเรือนในบ้านด้วงมีการใช้น้ำประปาจากฝายหนองหวายเป็นหลัก โดยมีอัตราการใช้น้ำประปาคิดเป็นร้อยละ 100 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการใช้น้ำประปาต่อเดือนของประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำ กล่าวคือ ร้อยละ 60.70 จ่ายไม่เกิน 100 บาทต่อเดือน และร้อยละ 39.80 จ่ายระหว่าง 200-500 บาทต่อเดือน ซึ่งแสดงถึงความเหมาะสมของราคาค่าน้ำกับรายได้ของชาวบ้านที่ส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน
นอกจากการใช้น้ำประปาเพื่ออุปโภคบริโภคแล้ว ฝายหนองหวายยังมีบทบาทสำคัญในการรองรับกิจกรรมการเกษตรของชุมชน เช่น การปลูกข้าวนาปรังและพืชสวน แม้ว่าสัดส่วนผู้ใช้น้ำชลประทานจะยังน้อยเมื่อเทียบกับการพึ่งพาน้ำฝน แต่ก็แสดงถึงศักยภาพของระบบชลประทานที่สามารถรองรับกิจกรรมเหล่านี้ได้
นอกจากนี้ พื้นที่ฝายหนองหวายยังถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชุมชน โดยมีประชาชนร้อยละ 71.64 เคยมาใช้พื้นที่บริเวณสวนสาธารณะเพื่อพักผ่อน ซึ่งแสดงถึงการใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นแหล่งสันทนาการของชุมชนได้อย่างแท้จริง
โดยรวมแล้ว ด้านสาธารณูปโภคของชุมชนบ้านด้วงมีความเข้มแข็งในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะระบบน้ำประปาและชลประทานจากฝายหนองหวาย ที่ช่วยสนับสนุนคุณภาพชีวิต การเกษตร และกิจกรรมอื่น ๆ ในชุมชนได้อย่างรอบด้าน
ฝายหนองหวาย
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาที่จัดตั้งขึ้นเพื่อบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด โดยมีจุดประสงค์หลักในการกักเก็บน้ำและส่งน้ำเพื่อการเกษตร การอุปโภคบริโภค รวมถึงสนับสนุนระบบนิเวศในพื้นที่ให้มีความอุดมสมบูรณ์ ฝายแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับชุมชน โดยผสานแนวคิดจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย สำนักงาน กปร. และกรมชลประทาน ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าการลงทุน
ฝายหนองหวายมีระบบส่งน้ำทั้งสองฝั่งของลำน้ำพอง คือ ฝั่งขวาและฝั่งซ้าย โดยฝั่งขวามีคลองหลักและคูส่งน้ำหลายสายครอบคลุมพื้นที่กว่า 69,000 ไร่ ขณะที่ฝั่งซ้ายมีคลองและคูส่งน้ำมากถึงกว่า 296 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรกว่า 194,000 ไร่ ในจังหวัดขอนแก่นและมหาสารคาม นอกจากนี้ยังมีระบบระบายน้ำและป้องกันอุทกภัยที่มีประสิทธิภาพ รองรับทั้งฝั่งขวาและซ้ายของลำน้ำ
นอกเหนือจากการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรแล้ว ฝายหนองหวายยังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของชุมชนโดยรอบ ด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงาม โขดหินและต้นไม้นานาชนิด รวมถึงกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เช่น เล่นน้ำช่วงเทศกาลสงกรานต์ นั่งเล่นริมฝาย หรือปิกนิกกับครอบครัว จึงทำให้ฝายหนองหวายกลายเป็นศูนย์รวมกิจกรรมทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของชุมชน
สวนสาธารณะฝายหนองหวาย
ฝายหนองหวายเป็นแหล่งเรียนรู้และสวนสาธารณะที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปและคนในพื้นที่ใกล้เคียงมาใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจตามอัธยาศัย ภายในบริเวณมีศาลาที่พักและพื้นที่รอบฝายที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ใหญ่และน้ำใสไหลผ่าน บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย เหมาะสำหรับการแวะพักระหว่างเดินทาง มาเล่นนั่งพักผ่อนในวันหยุด หรือออกกำลังกายในช่วงเย็นได้อย่างผ่อนคลาย
บ้านด้วงมีการใช้ภาษาถิ่นคือภาษาอีสาน ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นที่มีรากฐานมาจากภาษาลาว โดยภาษาถือเป็นเอกลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ภาษานี้สะท้อนถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิต รวมถึงความเชื่อและประเพณีที่เฉพาะของชุมชน การใช้ภาษาอีสานในชุมชนบ้านด้วงจึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชนและส่งเสริมความสามัคคี นอกจากนี้ภาษาอีสานยังเป็นสื่อที่ใช้ในกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น การเล่าเรื่อง การร้องเพลงพื้นบ้าน และการจัดพิธีกรรมทางศาสนา
ชุมชนบ้านด้วงยังมีวิถีชีวิตเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ เลี้ยงสัตว์ และปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อบริโภคภายในครัวเรือนและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม กลุ่มอาชีพภายในชุมชนเริ่มมีการรวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างรายได้และต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น กลุ่มทอผ้าไหม กลุ่มจักสาน และกลุ่มแปรรูปอาหาร โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ทำให้ชุมชนมีรายได้หมุนเวียนและเกิดการจ้างงานในพื้นที่ แต่ปัจจุบันคนในชุมชนบางกลุ่มออกไปทำงานนอกพื้นที่ ส่งผลให้แรงงานด้านการเกษตรลดลง ขณะเดียวกันชุมชนก็เริ่มรับวัฒนธรรมการบริโภคใหม่ ๆ และเครื่องมือเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ส่งผลต่อรูปแบบการทำงานและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
ชุมชนบ้านด้วงมีระบบสาธารณูปโภคที่พึ่งพาแหล่งน้ำจาก ฝายหนองหวาย อย่างเป็นระบบและครอบคลุมทั้งการเกษตร การอุปโภคบริโภค และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับชุมชน
ในด้าน การเกษตร ชาวบ้านใช้น้ำจากคลองชลประทาน ฝายหนองหวาย น้ำฝน และแหล่งน้ำธรรมชาติในการปลูกพืช เช่น ข้าวนาปรัง ข้าวโพด พริก และมะเขือเทศ รวมการใช้น้ำเกษตรตลอดปีประมาณ 370,725 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำทั้งหมดในฝาย
ในด้าน การอุปโภคบริโภค ทุกครัวเรือนในชุมชนใช้น้ำประปาที่ผลิตจากฝายหนองหวาย โดยมีการใช้น้ำรวมประมาณ 14.47 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยส่วนใหญ่ไม่เกิน 100 บาทต่อเดือน ซึ่งแสดงถึงการเข้าถึงบริการน้ำที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสมกับรายได้ของประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีการใช้น้ำในภาคผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีการนำน้ำจากฝายมาใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมมีระบบจัดการน้ำเสียและขยะร่วมกับเทศบาลอย่างมีประสิทธิภาพ
ชุมชนบ้านด้วงยังคงรักษาวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นไว้อย่างดี เช่น งานบุญประจำปีและประเพณีสงกรานต์ที่จัดอย่างต่อเนื่อง แต่ชุมชนก็เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงจากยุคสมัยใหม่ เช่น การใช้เทคโนโลยีและการย้ายถิ่นฐานของคนรุ่นใหม่ ทำให้บางประเพณีเริ่มเลือนลางลง ความท้าทายสำคัญคือการทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของวัฒนธรรมและช่วยกันสืบทอดต่อไป ชุมชนจึงมีการส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น การจัดงานประเพณีและการสอนภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมกับใช้เทคโนโลยีช่วยเผยแพร่วัฒนธรรม เพื่อให้ประเพณีของชุมชนยังคงอยู่และปรับตัวเข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน
ฝายหนองหวายเป็นแหล่งกักเก็บน้ำสำคัญที่ช่วยชุมชนจัดการน้ำในฤดูแล้งและป้องกันน้ำท่วมในฤดูฝน ทำให้การใช้น้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคมีประสิทธิภาพสูงขึ้น พื้นที่รอบฝายมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้และน้ำช่วยรักษาความชุ่มชื้นและระบบนิเวศให้สมดุล
อย่างไรก็ตาม พื้นที่นี้เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ เช่น ฝนที่ไม่แน่นอนและภัยแล้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากนี้ การมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้พื้นที่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ทำให้เกิดปัญหาขยะและความสะอาด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันแก้ไข
ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาฝายและสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมปลูกต้นไม้ รักษาความสะอาด และจัดการขยะ เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและทำให้ฝายหนองหวายยังคงเป็นแหล่งน้ำและสถานที่พักผ่อนที่ยั่งยืนสำหรับคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวในอนาคต
กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. (2568). สถิติทางการทะเบียนราษฎร. จาก https://stat.bora.dopa.go.th/stat/
กรมการปกครอง. (2565). ข้อมูลเขตการปกครองและประชากรในจังหวัดขอนแก่น. กรุงเทพฯ : กระทรวงมหาดไทย.
ณัฐณิชา สอนลม. (2560). ศักยภาพของฝายหนองหวายต่อชุมชนบ้านด้วง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนเเก่น. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
เทศบาลตำบลลำน้ำพอง. (2564). รายงานผลการพัฒนาชุมชนบ้านด้วง. ขอนแก่น : เทศบาลตำบลลำน้ำพอง.
มูลนิธิวัฒนธรรมอีสาน. (2562). ภูมิปัญญาและประเพณีชาวอีสาน. ขอนแก่น : สำนักพิมพ์วัฒนธรรมท้องถิ่น.
อำเภอน้ำพอง. (2563). ประวัติและวัฒนธรรมท้องถิ่นตำบลน้ำพอง. ขอนแก่น : อำเภอน้ำพอง.