
ชุมชนมีสถานที่สําคัญหลายแห่ง ได้แก่ วัด ศาลากลางหมู่บ้าน หนองน้ำสําหรับใช้อุปโภค และมีวิสาหกิจชุมชนบ้านหัวหนอง เป็นวิสาหกิจที่ให้คนในชุมชนเข้าร่วมกลุ่ม และเป็นการสร้างอาชีพเสริมสำหรับผู้สูงอายุที่มีเวลาว่างเพื่อหารายได้เสริม โดยเลือกทำตามถนัด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสานตะกร้า ทำดอกไม้จันทร์ สานกระติบข้าว เป็นต้น
บ้านหัวหนองเดิมมีบรรพบุรุษย้ายมาจากบ้านสีแก้วเมื่อปี พ.ศ. 2345 โดยคุณพ่อโลน และคุณแม่เป้ ได้พากันมาตั้งรกรากอยู่หัวไร่ปลายนาซึ่งอยู่ใกล้หนองน้ำที่ชื่อหนองแวง และมีลูกหลานขยายจำนวนครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น ต่อมาจึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า หัวหนอง และได้ตั้งชื่อเป็นทางการตามพระราชบัญญัติท้องที่โดยขึ้นตรงกับตําบลสีแก้ว
ชุมชนมีสถานที่สําคัญหลายแห่ง ได้แก่ วัด ศาลากลางหมู่บ้าน หนองน้ำสําหรับใช้อุปโภค และมีวิสาหกิจชุมชนบ้านหัวหนอง เป็นวิสาหกิจที่ให้คนในชุมชนเข้าร่วมกลุ่ม และเป็นการสร้างอาชีพเสริมสำหรับผู้สูงอายุที่มีเวลาว่างเพื่อหารายได้เสริม โดยเลือกทำตามถนัด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสานตะกร้า ทำดอกไม้จันทร์ สานกระติบข้าว เป็นต้น
บ้านหัวหนองเดิมมีบรรพบุรุษย้ายมาจากบ้านสีแก้ว เมื่อปี พ.ศ. 2345 โดยคุณพ่อโลนและคุณแม่เป้ได้พากันย้ายมาอยู่หัวไร่ปลายนาซึ่งตั้งอยู่ใกล้หนองน้ำชื่อหนองแวง และมีลูกหลานขยายครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น การตั้งถิ่นฐานในพื้นที่นี้มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการทำเกษตรกรรม โดยเฉพาะการปลูกข้าวและการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านในชุมชนนี้
พื้นที่โดยประมาณของชุมชนมีทั้งหมดประมาณ 1,636 ไร่ พื้นที่ทำกินประมาณ 1,390 ไร่ พื้นที่อยู่อาศัยประมาณ 246 ไร่ ชุมชนมีแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ลำห้วย และบ่อน้ำ เป็นต้น ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับการเกษตรและการอุปโภคบริโภค โดยมีที่ตั้ง ดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดกับ บ้านสีแก้ว หมู่ 5
- ทิศใต้ ติดกับ บ้านดงสวองาน
- ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านเหล่าตำแย
- ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านหนองตาใกล้
ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่มีรายได้จากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ได้แก่ การทํานา โดยจะทํานาข้าวเหนียว เพื่อการบริโภคเป็นส่วนใหญ่ ด้านการเลี้ยงสัตว์ที่ทํารายได้ให้เกษตรกร ได้แก่ การเลี้ยงโค กระบือ สุกร เป็ด และไก่พื้นเมือง อาชีพรับจ้างทั่วไปถือเป็นอาชีพรองจากอาชีพด้านการเกษตร และนอกจากนั้นยังมีการทําประมง และยังเป็นพื้นที่ทําการเกษตรเชิงท่องเที่ยว
วิสาหกิจชุมชนบ้านหัวหนอง เป็นวิสาหกิจที่ให้คนในชุมชนเข้าร่วมกลุ่ม และเป็นการสร้างอาชีพเสริมสำหรับผู้สูงอายุที่มีเวลาว่างเพื่อหารายได้เสริม ภายในวิสาหกิจชุมชนจะมีหลายกลุ่ม โดยให้ผู้สูงอายุได้เลือกทำตามถนัด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสานตะกร้า ทำดอกไม้จันทร์ สานกระติบข้าว โดยรายได้จะปันผลรายได้เป็นรายปี การแบ่งจะแบ่ง 70:30 ผู้ที่ทำงานจะได้ส่วนแบ่ง 70% และอีก 30% นั้นจะแบ่งให้ผู้ที่เข้าร่วมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
ช่วงต้นปีชาวบ้านหัวหนองนิยมเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการทำบุญตักบาตรที่วัดประจำหมู่บ้าน เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว ในบางปีอาจมีการจัดงานทำบุญหมู่บ้านเล็ก ๆ พร้อมกิจกรรมทำความสะอาดวัด ปรับภูมิทัศน์ชุมชน และเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการเริ่มต้นสิ่งใหม่ที่ดี
ช่วงต้นฤดูร้อน ชาวบ้านเริ่มเตรียมพื้นที่เพาะปลูก เตรียมดินสำหรับหว่านข้าวโพด หรือพืชที่ใช้น้ำน้อย บางปีจะมีการจัดงานบุญผ้าป่าเพื่อการศึกษา หรือผ้าป่าวัด ซึ่งจัดโดยความร่วมมือของคณะสงฆ์ ชาวบ้าน กลุ่มแม่บ้าน และเยาวชน โดยรายได้จะนำไปสนับสนุนการเรียนของนักเรียนในชุมชน หรือใช้ในการซ่อมแซมอาคารวัด
1.นายสมบูรณ์ ภาวะลี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 บ้านหัวหนอง
พื้นที่ของชุมชนเป็นที่ราบลุ่ม มีหนองน้ำ บ่อดิน และแหล่งน้ำชุมชนที่ใช้ในการเพาะปลูกและบริโภค ดินมีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอสำหรับปลูกข้าวและพืชผักพื้นบ้าน ยังมีพันธุ์ไม้ท้องถิ่นและสมุนไพรหลากชนิดที่ใช้ในการรักษาโรคแบบพื้นบ้าน มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติในระดับชุมชน ชาวบ้านยังคงรักษาประเพณีท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง เช่น ประเพณีบุญบั้งไฟ สงกรานต์ ข้าวสาก แห่เทียนเข้าพรรษา และงานบุญออกพรรษา เป็นต้น ภาษาถิ่นยังคงใช้ในการสื่อสาร เช่น คำเรียกญาติแบบอีสาน มีวัฒนธรรมการกินอยู่ การทำบุญ และความเชื่อพื้นบ้านที่ผูกพันกับศาสนาและวิถีชีวิตเกษตรกรรม
ชาวบ้านหัวหนองส่วนใหญ่ใช้ภาษาอีสาน หรือที่เรียกทางภาษาศาสตร์ว่า ภาษาลาวถิ่นอีสาน เป็นภาษาพูดในชีวิตประจำวัน ซึ่งสะท้อนถึงรากวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของชุมชนได้อย่างชัดเจน
ชุมชนบ้านหัวหนองมีฐานเศรษฐกิจที่พึ่งพาเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยเฉพาะการทำนาและปลูกพืชเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น ข้าว ข้าวโพด ผักสวนครัว ปลูกต้นไม้สมุนไพร รวมถึงการเลี้ยงสัตว์ เช่น เป็ด ไก่ และหมู การทำเกษตรเสริม เช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารจากผลผลิตทางการเกษตรสำหรับเป็นแหล่งรายได้เสริมในครัวเรือน เช่น ข้าวสาร ข้าวตอก และการทำปลาร้า เป็นต้น
การดูแลสุขภาพในชุมชนบ้านหัวหนองมีกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ที่ให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพเบื้องต้น เช่น การตรวจสุขภาพ การให้วัคซีน การส่งเสริมการป้องกันโรคติดต่อในชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสีแก้วเป็นสถานที่หลักที่ชาวบ้านสามารถเข้าถึงบริการด้านการแพทย์ได้ง่าย แต่ยังคงมีการขาดแคลนในด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพเฉพาะทาง
มีแหล่งผลิตเครื่องดนตรีอีสาน ได้แก่ แคนและโหวด และเป็นชุมชนแห่งความเกื้อกูลและโอบอ้อมอารีและเป็นแหล่งผลิตจักสานจากเส้นพลาสติกที่ถือว่าเป็นสินค้า OTOP ที่เป็นที่รู้จักในจังหวัดร้อยเอ็ด ในปัจจุบันชุมชนบ้านหัวหนองได้มีการเริ่มจัดตั้งหมู่บ้านเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชนและโฮมสเตย์
กัญญารัตน์ เจริญมาตร. (2563). คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชนบ้านหัวหนอง ตำบลสีแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด. ภาคนิพนธ์ระดับปริญญาตรี. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
เทศบาลตำบลสีแก้ว. (ม.ป.ป.). ประวัติและข้อมูลสภาพทั่วไป. https://www.sikaew.go.th/
N. (13 พฤษภาคม 2563). การเรียนรู้วิถีชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง โฮมสเตย์บ้านหัวหนอง ต.สีแก้ว อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด. TrueID. https://news.trueid.net/detail/