
เค่ง (Qeej) หรือแคนม้ง ดนตรีชาติพันธ์ุที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นใช้ในพิธีกรรมที่มีความเฉพาะ และผ้าทอใยกัญชง เส้นใยธรรมชาติ ที่คู่ควรแก่การศึกษาและเรียนรู้จากหมู่บ้านนี้
เค่ง (Qeej) หรือแคนม้ง ดนตรีชาติพันธ์ุที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นใช้ในพิธีกรรมที่มีความเฉพาะ และผ้าทอใยกัญชง เส้นใยธรรมชาติ ที่คู่ควรแก่การศึกษาและเรียนรู้จากหมู่บ้านนี้
ชุมชนบ้านใหม่ยอดคีรีก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2534 แต่เดิมชุมชนนี้มีชื่อว่า บ้านรวมไทยพัฒนาที่ 13 เริ่มแรกก่อนก่อตั้งหมู่บ้าน
ใน พ.ศ. 2532 ทหาร กอ. มีโครงการจัดสรรพื้นที่ทำกินให้ประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งบริเวณนี้ถูกจัดสรรเป็นพื้นที่ทำกิน จึงมีการก่อตั้งหมู่บ้านรวมไทยพัฒนาที่ 13 ขึ้น โดยทหาร กอ. ได้ไปสำรวจประชากรและย้ายชาวบ้านจากชุมชนใกล้เคียง ได้แก่ ชาติพันธุ์ม้งจาก ก.ม. 44 (บ้านป่าคา และใหม่ยอดคีรี) บ้านป่าคาเก่า และบ้านป่าคาใหม่ คนไทยจาก ก.ม. 42 และ ก.ม. 35 มาตั้งถิ่นฐานและอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเป็นกลุ่มแรก จำนวน 45 หลังคาเรือน มีหัวหน้าบ้านคนแรก ชื่อเส่ง เป็นม้งว่าง ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าบ้านได้ 2 ปี หลังจากนั้น จ้งน้าง ซึ่งเป็นม้งย่าง ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าบ้านเป็นคนที่ 2 อีก 2 ปี
ปี พ.ศ. 2538 มีชาติพันธุ์ม้งที่ถูกไล่พื้นที่และอพยพมาจาก อำเภออุ้มผาง มาตั้งถิ่นฐานในบริเวณชุมชนอีกฝั่งทางท้ายหมู่บ้าน ทำให้มีการขยายพื้นที่ชุมชน และมีประชากรเพิ่มขึ้น มีการแต่งตั้งหัวหน้าบ้านคนที่ 3 ขึ้น ชื่อ จู่ป๋อ เป็นม้งย่าง ซึ่งเป็นหัวหน้าบ้านที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุด และเป็นหัวหน้าบ้านคนสุดท้ายก่อนจะมีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านอย่างเป็นทางการ
ปี พ.ศ. 2540 เริ่มมีนายทุนเข้ามาปล่อยเมล็ดพันธุ์ และส่งเสริมการปลูกมันฝรั่ง ผักกาดขาว ทำให้ชาวบ้านเริ่มหันมาปลูกพืชนิดอื่นแทนข้าวโพด
ปี พ.ศ. 2543 มีโครงการสร้างเครื่องดูดน้ำและแทงค์น้ำเพื่อกักเก็บน้ำมีระบบการกระจายน้ำไปยังชุมชน ปัจจุบันมีการเก็บค่าน้ำหน่วยละ 6 บาท ซึ่งอยู่ในความดูแลของ อบต.
ปี พ.ศ. 2545 ชาวบ้านเริ่มซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดมาปลูกแทนเมล็ดข้าวโพดดั้งเดิม
ในปี พ.ศ. 2547 คือผู้ใหญ่ชนะ ได้จัดตั้งชุด อบต.ขึ้น และเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านจากบ้านระดับที่ 13 เป็นบ้านใหม่ยอดคีรี พร้อมกับตั้งเป็นหมู่ที่ 10 ในตำบลคีรีราษฎร์ หลังจากนั้นจึงมีการสร้างถนนเข้ามาในชุมชน สร้างอาคารอเนกประสงค์หรือหอประชุมของชุมชน และตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขึ้นในปีต่อ ๆ มา เมื่อผู้ใหญ่คนแรกหมดวาระในปี พ.ศ. 2552 จึงมีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนที่ 2 คือ ผู้ใหญ่พนาไพร และดำรงตำแหน่งมาจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านส่วนใหญ่ในชุมชนบ้านใหม่ยอดคีรีประกอบอาชีพเกษตรกร เริ่มแรกพืชที่ปลูกคือข้าวโพดพันธุ์พื้นเมือง
ปี พ.ศ. 2556 ชาวบ้านเริ่มปลูกมันสำปะหลังและพริก เนื่องจากผลผลิตจากข้าวโพดน้อยลงและเริ่มปลูกไม่ได้ ปัจจุบันมีการปลูกพืชที่หลากหลายมากกว่าเดิม ชุมชนบ้านใหม่ยอดคีรีเป็นชุมชนที่ไม่มีต้นน้ำและได้อยู่ใกล้แม่น้ำทำให้ไม่สามารถต่อน้ำมาใช้ในชุมชนได้ ทางกรมประปาจึงมาเจาะบ่อบาดาลและใช้เครื่องดูดขึ้นมาบนแทงค์น้ำเพื่อให้คนในชุมชนได้ใช้ แต่น้ำไม่เพียงพอเนื่องจากเป็นแทงค์ขนาดเล็ก
บ้านใหม่ยอดคีรี หมู่ 10 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก มีอาณาเขตติดต่อดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านป่าคาใหม่ หมู่ที่ 6 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
- ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านป่าคา หมู่ที่ 4 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านร่มเกล้าสหมิตร หมู่ที่ 5 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านชิบาโบ และบ้านใหม่ดินแดง หมู่ที่ 8 และหมู่ 11ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
ข้อมูลประชากรจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง พ.ศ. 2568 พบว่า หมู่ที่ 10 ใหม่ยอดคีรี มีประชากรที่เป็นคนไทยจำนวน 1,201 คน แบ่งเป็นชาย 625 คน และหญิง 576 คน โดยมีประชากรที่ไม่ใช่คนไทยจำนวนทั้งหมด 5 คน แบ่งเป็นชาย 4 คน และหญิง 1 คน จำนวนประชากรทั้งหมดมี 1,206 คน ภายในชุมชนมีจำนวนบ้านทั้งหมด 232 หลัง ส่วนใหญ่นับถือบรรพบุรุษ ในบัตรประจำตัวประชาชนจะระบุว่านับถือศาสนาพุทธ ในชุมชนมีทั้งหมด 8 ตระกูลแซ่ ได้แก่ แซ่ม้า แซ่ยั้ง แซ่ว่าง แซ่ท้าว แซ่โซ้ง แซ่จ้าง แซ่หัญ และหาญเมือง
ม้งชุมชนบ้านใหม่ยอดคีรี ประกอบอาชีพเกษตรกรรม พืชที่ปลูก ได้แก่ ฤดูฝน จะทำการเพาะปลูกข้าวโพด, พริก ฤดูหนาว จะทำการเพาะปลูกพริก ดอกดาวเรือง ฤดูร้อน จะทำการเพาะปลูกมันฝรั่ง ผักกาดขาว มันสำปะหลัง
กลุ่มแม่บ้านบ้านใหม่ยอดคีรี เป็นกลุ่มที่รวมตัวกันเพื่อสร้างอาชีพเสริม โดยเฉพาะงาน ปักผ้าและทอผ้าใยกัญชง ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวม้ง ได้รับการส่งเสริมจาก โครงการหลวงพบพระ
กลุ่มสัมมาชีพชุมชนบ้านใหม่ยอดคีรี กลุ่มนี้ได้มีการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ "กลุ่มทอผ้าใยกัญชง" มีผู้นำกลุ่มคือ นางสาวพิณทอง แซ่เฮ่อ ทำหน้าที่เป็นแกนนำในการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากใยกัญชง
ประเพณี/วัฒนธรรม
ประเพณีปีใหม่ม้ง (ช่วงปลายเดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนมกราคมของทุกปี) เป็นเทศกาลสำคัญของชาวม้งในหมู่บ้านใหม่ยอดคีรี จัดขึ้นช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นมกราคมของทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองการสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว และเริ่มต้นปีใหม่ตามวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวม้ง กิจกรรมในงานมีทั้ง พิธีบูชาบรรพบุรุษ การโยนลูกช่วงของหนุ่มสาวเพื่อเลือกคู่, การแสดงฟ้อนรำและดนตรีม้ง เช่น แคนม้ง รวมถึงการแต่งกายด้วยชุดม้งประจำเผ่าที่สวยงามสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น อีกทั้งยังมีตลาดพื้นบ้าน จำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นเมือง สร้างรายได้และความคึกคักให้กับชุมชน การจัดงานได้รับความร่วมมือจากทั้งผู้นำชุมชน กลุ่มเยาวชน แม่บ้าน ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและองค์กรท้องถิ่น ช่วยส่งเสริมความสามัคคีและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของตน ปีใหม่ม้งจึงไม่ใช่แค่เทศกาลรื่นเริง แต่ยังเป็นเวทีถ่ายทอดภูมิปัญญา และเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ม้งในหมู่บ้านใหม่ยอดคีรี
ทุนวัฒนธรรม (เครื่องดนตรี)
"เค่ง" (Qeej) เป็นเครื่องดนตรีเป่าพื้นเมืองของชาวม้งที่มีความสำคัญทั้งในด้านพิธีกรรมและวัฒนธรรมประเพณี โดยเฉพาะในหมู่บ้านใหม่ยอดคีรี (หมู่ 10) อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งเป็นชุมชนม้งที่ยังคงรักษาการละเล่นเค่งไว้อย่างเข้มแข็งชุมชนยังคงถ่ายทอดการเป่าเค่งแก่เยาวชน ผ่านกิจกรรมฝึกสอนและงานวัฒนธรรมต่าง ๆ เพื่อสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป เค่งจึงเป็นมากกว่าเครื่องดนตรี แต่คือมรดกวัฒนธรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์และจิตวิญญาณของชาวม้งในพื้นที่อย่างลึกซึ้ง ในพิธีศพ (เค่ง) มีบทบาทเป็น "ภาษาทางวิญญาณ" ใช้เป่าบอกทางให้ดวงวิญญาณผู้ตายเดินทางกลับสู่บรรพบุรุษและมีความเชื่อเกี่ยวกับวัสดุในการประดิษฐ์ มีความเชื่อว่าผู้ที่สามารถปลูกซังเค่งเพื่อใช้ประโยชน์ได้ต้องเป็นผู้ที่สามารถประดิษฐ์เค่งได้เท่านั้นเนื่องจากวิธีการเลือกซังเค่งนั้นต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการประดิษฐ์เค่งเท่านั้นถึงจะสามารถเลือกซังเค่งที่มีคุณภาพมาใช้งานได้ อีกทั้งความเชื่อเกี่ยวกับข้อห้ามในเรื่องของการห้ามเป่าเพลงที่ใช้ในพิธีงานศพในบ้านหากบ้านไม่มีคนตาย การฝึกเป่าเพลงทั่วไปจะไม่นิยมเป่าในบ้านโดยจะเป่าที่ไร่ หรือพื้นที่โล่ง แต่หากจำเป็นต้องฝึกเป่าในบ้านห้ามหันปลายเค่งไปตรงประตู รวมถึงถ้ามีคนนอนอยู่ก็ห้ามเป่า
ทุนวัฒนธรรม (ความเชื่อ)
ชาติพันธุ์มังมีความเชื่อในสิ่งต่าง ๆ ว่าล้วนมีผีหรือวิญญาณอยู่ในนั้น เช่น ผีที่อยู่ตามลำน้ำ ต้นไม้ ไร่นา บ้านเรือน อำนาจลึกลับเหล่านั้นสามารถดลบันดาลความทุกข์สุขต่อความเป็นอยู่ของตนได้นอกจากนี้ยังเชื่อเรื่องการเกิดใหม่ แต่จะเกิดเป็นอะไรนั้นขึ้นอยู่กับความผิด ความดี ที่ทำไว้ตอนยังมีชีวิตอยู่ สิ่งต่าง ๆ ที่มัง นับถือพอสรุปได้ ดังนี้
- เทพผู้มีอำนาจในการสร้าง (Yawm saub)
- เทาผู้มีอำนาจทำลาย (Yawm txwg nyoog)
- หมอผีและผีทั่วไป (Txiv neeb)
- ผีบรรพบุรุษ (Puj yawm txwv koob)
- ผีบ้านผีเรือน (Dab khua haur vaj tse) ประกอบด้วย ชื่อก๊ะ (Xwm kab), เสาเอก (Ncej dab), ผีเตาไฟใหญ่ (Dab qhov txog), ผีเตาไฟเล็ก (Dab qhov cub) และผีประตู (Dab qhov rooj)
ทุนสังคม
สังคมชาติพันธุ์มังเป็นสังคมที่ผู้ชายเป็นผู้ที่มีบทบาทมากกว่าผู้หญิง ทั้งในแง่การปกครองการประกอบ พิธีการต่าง ๆ ตลอดจนการสืบวงศ์ตระกูล ทั้งนี้เพราะชาติพันธุ์มังแต่ละกลุ่มมีความสัมพันธ์กันตามตระกูลหรือแช่ นอกจากเป็นการแบ่งกลุ่มให้เห็นถึงความแตกต่างแล้ว ยังเป็นตัวกำหนดแนวทางในการปฏิบัติของลูกหลาน อีกด้วย ชาติพันธุ์มังยึดสายตระกูลของบิดาหรือผู้ชายเป็นหลัก ลูกชายเป็นผู้สืบตระกูล ส่วนลูกสาวเมื่อแต่งงาน ต้องเปลี่ยนนามสกุลตามสามี
ในชุมชนจะเป็นชุมชนชาติพันธุ์ม้ง ภาษาหลัก ๆ ที่ใช้กันในชุมชนคือ ภาษาม้ง
กรมการปกครอง. (2568). ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. สืบค้นเมื่อ 5 กรกฎาคม 2568. https://stat.bora.dopa.go.th
จิราภา แซ่ว้าน. (2561). เค่ง (QeeJ):ดุริยางค์อัตลักษ์ชาติพันธุ์ม้ง กรณีศึกษาชุมชนบ้านใหม่ยอดคีรี ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.