
หมู่บ้านบนพื้นที่สูง มีประเพณีปีใหม่ม้งที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของชาวม้ง ยังคงความเชื่อของชาวม้งดั้งเดิมที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น พื้นที่หมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยภูเขาสูง หนึ่งในนั้นคือดอยสอยมาลัยที่รอการไปพิชิตของผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย
ด้วยที่ตั้งหมู่บ้านที่อยู่ไกลมาก สมัยก่อนคนไทยหาบของไปขายให้ชาวม้งต้องเดินจนขาลาก คนไทยจึงเรียกกันว่า บ้านม้งตีนตก ส่วนชื่อ แม้วขุนห้วยตาก เป็นชื่อที่เรียกอย่างเป็นทางการ และชื่อบ้านม้งใหม่พัฒนาเป็นชื่อที่รู้จักกันดีและเรียกขานในชุมชน
หมู่บ้านบนพื้นที่สูง มีประเพณีปีใหม่ม้งที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของชาวม้ง ยังคงความเชื่อของชาวม้งดั้งเดิมที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น พื้นที่หมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยภูเขาสูง หนึ่งในนั้นคือดอยสอยมาลัยที่รอการไปพิชิตของผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย
สมัยม้งมัว แต่เดิมบ้านแม้วขุนห้วยตาก หรือม้งใหม่พัฒนาเป็นที่ตั้งชุมชนของม้งมัว และเหล่าคนไทยตั้งชื่อชุมชนแห่งนี้ว่า บ้านแม้วตีนตก เพราะสมัยม้งมัวนั้นยังไม่มีถนนเข้าไปถึงในชุมชน แต่ม้งมัว ทำการค้าเก่ง คนไทยที่เดินทางไปทำการค้าที่บ้านม้งต้องใช้ระยะเวลาหลายวัน กว่าจะไปถึงก็หมดเรี่ยวหมดแรง คนไทยจึงเรียกว่าบ้านม้งว่าบ้านม้งตีนตก ม้งมัวอาศัยอยู่ได้หลายปี ไม่มีหลักฐานที่บันทึกแน่ชัดว่าเข้ามาตั้งแต่ปีใดและอพยพ ออกจากชุมชนปีไหน แต่ที่รู้คือสาเหตุที่ม้งมัวอพยพออกจากบ้านม้งใหม่พัฒนานั้น เพราะม้งมัวประสบกับภัยอหิวาตกโรค ซึ่งก็ได้พรากชีวิตคนม้งมัวไปเกือบทั้งหมู่บ้าน ตอนนั้นทุกคนในชุมชนไม่รู้ว่าโรคร้ายที่ประสบอยู่คือโรคอหิวาตกโรค ทุกคนต่างหวาดกลัวและด้วยความเชื่อของคนม้งที่เคร่งในเรื่องของดวงวิญญาณบรรพบุรุษคนในชุมชนจึงเชื่อว่าดวงวิญญาณต่าง ๆ ต้องไม่พอใจจึงได้ลงโทษลูกหลาน คนเป็นผู้นำในชุมชนถึงตัดสินใจพาที่เหลืออพยพออกจากบ้านแม้วขุนห้วยตากไปอยู่ที่อื่น
ต่อมาภายหลัง หลังจากที่ม้งมัวอพยพออกไปแล้ว ชุมชนแห่งนี้ก็กลายเป็นสภาพผืนป่าอยู่หลายปีได้มีกลุ่มม้งกลุ่มหนึ่ง ได้อพยพเข้ามาอาศัยอยู่แต่อยู่ได้ไม่นาน ช่วงนั้นสภาพป่าเป็นป่าที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ มีสัตว์ร้ายต่างอาศัยอยู่เต็มไปหมด ทำให้การใช้ชีวิตลำบาก ชาวม้งกลุ่มนั้นจึงย้ายไปอยู่ที่อื่น
สมัยลีซู หลังจากที่ชาวม้งอพยพออกไปไม่นาน ชาวลีซูก็อพยพเข้ามาอาศัยอยู่แทน ชาวลีซูมากันจำนวนเยอะมาก อาศัยอยู่เป็นสี่หมู่บ้าน ด้วยความที่ลีซูมีจำนวนเยอะและสมัยนั้นก็นิยมปลูกฝิ่นแบบถางป่าไปเรื่อย ๆ ทำให้ชาวลีซูจึงมีฐานะร่ำรวยมาก โจรจึงไปปล้นหมู่บ้านลีซูแล้วเผาหมู่บ้านทิ้ง ชาวบ้านที่เหลือจึงอพยพไปอยู่ที่อื่น
ปี พ.ศ. 2508 นายกั่ว แซ่ว่าง ได้นำชาวม้งอพยพมาจากหมู่บ้าน "มีมั่ว" เป็นชื่อหมู่บ้านม้งที่คนม้งในชุมชนรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นชุมชนม้งที่ตั้งอยู่จังหวัดลำปาง ได้เข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านแม้วขุนห้วยตาก ในสมัยนั้นถนนที่เข้าไปในหมู่บ้านยังไม่มี ต้องเดินด้วยเท้า ส่วนของต่าง ๆ จะให้ม้าแบก โดยตอนที่อพยพมาด้วยกันนั้นมีทั้งหมดประมาณ 26 หลังคาเรือน มีสามตระกูลแซ่ที่ย้ายเข้ามาในชุมชน ได้แก่
- ตระกูลแซ่ว่าง อพยพมาจาก มีมั่ว
- ตระกูลแซ่ย่าง อพยพมาจากบ้านหนองหอยเก่า จังหวัดเชียงใหม่ และจากบ้านเขกน้อยจังหวัดเพชรบูรณ์
- ตระกูลแซ่ท่อ (แซ่ท้าว) อพยพมาจากบ้านดอยมูเซอ อำเภอเมือง จังหวัดตาก
บ้านแม้วขุนห้วยตาก ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลท้องฟ้า อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ตั้งอยู่บนกลางยอดดอยสูงอยู่ทางทิศตะวันตกของอำเภอบ้านตากติดกับอำเภอแม่ระมาด ในชุมชนมีวัดหนึ่งแห่งซึ่งตั้งอยู่ท้ายสุดของหมู่บ้าน ภายในชุมชนยังมีโบสถ์หนึ่งแห่งตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของชุมชนและนอกจากนั้นยังมีโรงเรียนหนึ่งแห่งตั้งอยู่ตรงกลางของหมู่บ้าน มีอาณาเขตติดต่อกับ
- ทิศเหนือ ติดกับ ดอยสอยมาลัย
- ทิศตะวันออก ติดกับ หมู่ที่ 6 บ้านห้วยพลู ตำบลท้องฟ้า อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก
- ทิศใต้ ติดกับ ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก
- ทิศตะวันตก ติดกับ หมู่ที่ 4 บ้านกิ่วสามล้อ ตำบลท้องฟ้า อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก
สภาพภูมิอากาศ
- ฤดูร้อน คนในชุมชนโดยส่วนใหญ่จะมีการเพาะปลูก กะหล่ำปลี ผักกาดขาว มะเขือเทศ โดยเริ่มเตรียมดินตั้งแต่เดือนธันวาคม และจะเก็บผลผลิตให้เสร็จก่อนฝนลง เพราะในฤดูร้อนการทำการเพาะปลูกต้องใช้ไร่ที่มีน้ำ ซึ่งบางที่ก็อยู่ไกลหากฝนลงถนนจะแฉะไม่สามารถเก็บผลผลิตได้
- ฤดูฝน จะทำการเพาะปลูก ข้าวไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวโพดเหนียว พริก มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ผักชี
- ฤดูหนาว ทำการเพาะปลูกผักกาดขาว มะเขือเทศ พริก และกะหล่ำปลี
ข้อมูลประชากรจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง พ.ศ. 2568 พบว่า หมู่ที่ 5 บ้านแม้วขุนห้วยตาก มีประชากรที่เป็นคนไทยจำนวน 1,875 คน แบ่งเป็นชาย 972 คน และหญิง 903 คน โดยมีประชากรที่ไม่ใช่คนไทยจำนวนทั้งหมด 4 คน แบ่งเป็นชาย 1 คน และหญิง 3 คน จำนวนประชากรทั้งหมดมี 1,879 คน ภายในชุมชนมีจำนวนบ้านทั้งหมด 331 หลัง
ม้งประเพณีในรอบปีของชุมชน
ประเพณีดงเซ๊ง
เป็นพิธีกรรมสำคัญของชาวม้งที่จัดขึ้นช่วงต้นฤดูฝน (ประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน) เพื่อเซ่นไหว้ผีป่า ผีเขา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในธรรมชาติ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล พืชผลอุดมสมบูรณ์ และชุมชนอยู่เย็นเป็นสุข พิธีจะจัดในสถานที่ที่ถือว่าเป็นป่าศักดิ์สิทธิ์หรือกลางหมู่บ้าน มีการนำของเซ่นไหว้ เช่น หัวหมู ข้าวเหนียว ไก่ต้ม และเหล้า มาถวายต่อผีป่า โดยมีผู้อาวุโสหรือหมอผีเป็นผู้นำประกอบพิธี พร้อมกล่าวคำอธิษฐาน ประเพณีนี้สะท้อนความเชื่อของชาวม้งที่เคารพธรรมชาติและเห็นว่าความอุดมสมบูรณ์ของชีวิตขึ้นอยู่กับความสมดุลระหว่างมนุษย์กับสิ่งเหนือธรรมชาติ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่แสดงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างคนกับผืนป่า
ประเพณีปีใหม่ม้ง
จัดขึ้นช่วง ธันวาคม-มกราคม หลังฤดูเก็บเกี่ยว เพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่และแสดงความขอบคุณต่อธรรมชาติ ปีใหม่ม้งมีทั้งพิธีกรรมไหว้ผีบรรพบุรุษ การแต่งกายชุดประเพณี และกิจกรรมสานสัมพันธ์ในชุมชน เช่น การโยนลูกช่วง การแสดงดนตรี-ฟ้อนรำ และการแข่งขันพื้นบ้าน นอกจากเป็นเทศกาลแห่งความสุข ยังสะท้อนรากเหง้า ความเชื่อ และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นของชาวม้ง
1.นายจั่ง แซ่ย่าง ผู้รู้ในด้านพิธีกรรม มีความสามารถในการเป่าแคน มีความรู้เรื่องลำดับขั้นตอนพิธีกรรมงานแต่ง งานศพ เป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณที่ผู้คนในชุมชนให้ความเคารพนับถือ
ทุนวัฒนธรรม ชุมชนบ้านแม้วขุนห้วยตากเป็นชุมชนชาติพันธุ์ม้งส่งผลให้มีทุนทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งวิถีชีวิต ประเพณี และความเชื่อ ตัวอย่างเช่นความเชื่อเรื่องนับถือบรรพบุรุษเป็นต้น
การประกอบพิธีสำคัญ
- พิธีกรรมอัวบัวโจ้ง ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่ทำขึ้นเพื่อเป็นการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ามาอาศัยอยู่ที่ประตูบ้านให้ปกป้องคุ้มครองคนในบ้าน
- พิธีกรรมอัวบัวกล๊าง เป็นพิธีกรรมที่ทำขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียสละที่ได้เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อให้ม้งคนอื่น ๆ ได้ก้าวข้ามแม่น้ำในสมัยที่สงครามระหว่างกับม้ง มีความเชื่อว่าพิธีกรรมนี้ทำขึ้นแล้วจะทำให้การทำมาหากินของครอบครัวดีขึ้น
การตั้งบ้านเรือนของม้ง
จะเป็นลักษณะที่ตั้งติดกับพื้นดิน เนื่องมาจากม้งเป็นชนชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่บนภูเขาสูงมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี การสร้างบ้านเรือนที่ยกสูงจะทำให้เกิดช่องว่างจะทำให้อากาศหนาวเย็นมาก จึงมีการสร้างบ้านเรือนให้ติดกับพื้นดินเพื่อบรรเทาความเหน็บหนาวและนอกจากนั้นม้งเป็นชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ห่างไกลจากผู้คน มีโจรชุม ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ จะอาศัยการเก็บรักษาโดยการฝังไว้ในบ้าน ฉะนั้นการสร้างบ้านที่ติดกับพื้นดินจึงเป็นกลไกที่บรรพบุรุษของม้งออกแบบขึ้นมาเพื่อเป็นการใช้ประโยชน์ให้เหมาะสม พื้นที่ต้องห้ามในการสร้างบ้านเรือน เช่น
- พื้นที่หนองน้ำ เนื่องจากสภาพดินไม่แข็งแรงอาจทำให้เกิดการทรุดตัวของดิน
- พื้นที่ที่เป็นกิ่ว เป็นทางผ่านของสัตว์ร้ายและเป็นพื้นที่ที่ลมแรงจากทั้งสองด้าน จึงไม่นิยมอาศัยในบริเวณนี้
- บริเวณที่แม่น้ำสามสายไหลบรรจบกัน เพราะอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้
สำหรับพื้นที่ต้องห้ามของชาติพันธุ์ม้งส่วนใหญ่เป็นบริเวณที่เกิดภัยพิบัติและอันตรายต่าง ๆ ได้จึงไม่นิยมปลูกบ้านเรือนในบริเวณเหล่านี้
องค์ประกอบของบ้านชาติพันธุ์ม้ง
- เตาไฟใหญ่ ในสมัยก่อนผู้ชายกับผู้หญิงใช้เตาไฟแยกกัน เตาไฟใหญ่เป็นของผู้หญิงใช้ในการผิงไฟ ใช้ในการต้มอาหารสัตว์เนื่องจากสมัยก่อนเป็นระบบครอบครัวจึงเลี้ยงสัตว์เป็นจำนวนมากทำให้ใช้เวลานานและปริมาณเยอะ
- เตาไฟเล็ก เป็นเตาสำหรับผู้ชายและการต้อนรับแขก ห้ามผู้หญิงมานั่งร่วมผิงไฟกับเตาเล็ก เนื่องจากผู้หญิงใส่กระโปรงทำให้เกิดความไม่สุภาพและแขกผ่านไปผ่านมามองเข้ามาจะดูไม่ดี
- ประตูทางเข้าหลัก มีความสำคัญมาก เพราะในอดีตใช้ประตูหลักในการสังเกตศัตรูแล้วหนีออกทางประตูรอง และมีกฎให้บ้านทุกหลังต้องมีประตูทางเข้าหลักหากไม่มีจะทำมาหากินไม่ขึ้น
- เสาหลัก เป็นเสากลางบ้านใช้รับน้ำหนัก ถ้าเสาไม่แข็งแรงจะทำให้เกิดอันตราย
- ผนังที่ตรงข้ามกับประตูทางเข้า (สื่อก๊าง) เปรียบเสมือนธงของม้ง ในสมัยก่อนมีสงครามระหว่างจีนกับม้ง จีนชนะสงครามทำให้เผาทุกอย่างของม้ง ม้งจึงนำสื่อก๊างแขวนไว้ที่ผนังตรงข้ามประตูทางเข้าหลักเปรียบเป็นการทำพิธีกรรม เมื่อรู้สึกไม่สบายใจจึงต้องประกอบพิธีกรรมในกับสื่อก๊างให้เกิดความสบายใจ
ชุมชนใช้ภาษาม้งในการติดต่อสื่อสาร ใช้ภาษาไทยสำหรับการติดต่อสื่อสารอย่างเป็นทางการ
เดิมชุมชนบ้านแม้วขุนห้วยตากประกอบอาชีพปลูกกะหล่ำ แต่ปัจจุบันต้นทุนในการทำกะหล่ำค่อนข้างสูง คนในชุมชนจึงเริ่มหันมาปลูกข้าวโพดบางส่วนก็เริ่มไปทำงานในเมือง เและประกอบอาชีพอื่นๆ
ด้วยวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ม้งที่เคร่งครัดกับสตรี และกฎจารีตส่วนใหญ่เอื้อให้กับผู้ชาย ส่งผลให้คนในชุมชนเริ่มหันมานับถือคริสต์ศาสนาบางส่วน
กรมการปกครอง. (2568). ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2568, จาก https://stat.bora.dopa.go.th
มะลิวัลย์ แซ่ย่าง. (2557). อัตลักษณ์การตั้งชุมชนและบ้านเรือนตามภูมิปัญญาของชาติพันธุ์ม้ง บ้านม้งใหม่พัฒนา (บ้านแม้วขุนห้วยตาก) ตำบลท้องฟ้า อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
องค์การบริหารส่วนตำบลท้องฟ้า. (2560). เขตการปกครอง. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2568, จาก https://www.thongfa.go.th/history-rev2