Advance search

ครูบากัญไชย กาญจโน ผู้เป็นศูนย์รวมความรักและศรัทธาของชุมชน ผู้นำชุมชนเข้มแข็งและเป็นแบบอย่างของการพัฒนา มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ควบคู่กับการดูและรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบสาธารณสุขชุมชนที่เข้มแข็ง ชุมชนช่วยกันดูแลรักษาป่าชุมชนทำให้เป็นแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร และพื้นที่เรียนรู้ที่สำคัญของชุมชน

หมู่ที่ 1
แม่กื้ดหลวง
แม่กาษา
แม่สอด
ตาก
อบต.แม่กาษา โทร. 08 1379 1093
บัวชมพู ปะทะม่วง
1 มิ.ย. 2025
ศศิธร โคสุวรรณ
18 มิ.ย. 2025
วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
5 มิ.ย. 2025
แม่กื้ดหลวง

ชื่อหมู่บ้าน "แม่กื้ดหลวง" มาจากการที่ทางราชการมอบพื้นที่บริเวณ ทุ่งหลวง และ ทุ่งใต้ ให้เป็นสมบัติของหมู่บ้าน เพื่อใช้ตั้งถิ่นฐาน โดยคำว่า "กึ้ด" ในภาษาเหนือหมายถึง "คิด" และ "หลวง" หมายถึง "ทุ่งหลวง" ดังนั้นชื่อ "แม่กื้ดหลวง" จึงมีความหมายว่า "แม่ที่คิดถึงทุ่งหลวง" หรือ "แม่แห่งทุ่งหลวง" ต่อมาได้มีการเปลี่ยนรูปคำให้สะกดเป็น "แม่กื้ดหลวง" ซึ่งกลายเป็นชื่อทางการของหมู่บ้านในปัจจุบัน


ชุมชนชนบท

ครูบากัญไชย กาญจโน ผู้เป็นศูนย์รวมความรักและศรัทธาของชุมชน ผู้นำชุมชนเข้มแข็งและเป็นแบบอย่างของการพัฒนา มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ควบคู่กับการดูและรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบสาธารณสุขชุมชนที่เข้มแข็ง ชุมชนช่วยกันดูแลรักษาป่าชุมชนทำให้เป็นแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร และพื้นที่เรียนรู้ที่สำคัญของชุมชน

แม่กื้ดหลวง
หมู่ที่ 1
แม่กาษา
แม่สอด
ตาก
63110
16.802353156974855
98.5975035699975
องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กาษา

เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2468 ได้มีราษฎรกลุ่มหนึ่งอพยพมาจากภาคเหนือของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดลำพูนและจังหวัดลำปาง โดยมีเป้าหมายที่จะเดินทางไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในเขตแดนของประเทศพม่า ซึ่งในขณะนั้นยังคงเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างให้ผู้คนเข้าไปแสวงหาที่ดินทำกินและแสวงหาชีวิตใหม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะผู้อพยพเดินทางมาถึง อำเภอแม่สอด ซึ่งเป็นเขตชายแดนของประเทศไทยในจังหวัดตาก ปรากฏว่า เจ้าเมืองฉอด (เจ้าเมืองในพื้นที่แม่สอดขณะนั้น) ได้รับทราบเรื่องการอพยพและไม่ได้อนุญาตให้ราษฎรกลุ่มนี้เดินทางข้ามแดนเข้าไปในประเทศพม่า

แทนที่จะปล่อยให้เดินทางต่อไป เจ้าเมืองได้พาราษฎรกลุ่มนี้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านของชาวปกาเกอะญอ แต่เนื่องจากเหตุการณ์หรือสถานการณ์บางอย่าง ชาวปกาเกอะญอในพื้นที่นั้นได้อพยพออกไปจนหมด เหลือเพียง 2 ครัวเรือนสุดท้าย ที่ยังคงอาศัยอยู่ ราษฎรกลุ่มใหม่จึงได้ปรึกษาหารือกันอย่างรอบคอบ และตกลงใจกันว่าจะพักอาศัยในพื้นที่นี้ชั่วคราวก่อน ต่อมา ทางราชการได้มอบพื้นที่ทำกินให้กับชุมชน เพื่อให้สามารถตั้งหลักปักฐานถาวรได้ โดยพื้นที่ที่มอบให้ประกอบด้วยบริเวณที่เรียกว่า "ทุ่งหลวงและ "ทุ่งใต้" ซึ่งถือเป็นทรัพยากรและพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม ชาวบ้านจึงเห็นพ้องต้องกันที่จะตั้งถิ่นฐานอย่างถาวรในบริเวณนี้ และได้ตั้งชื่อหมู่บ้านใหม่ว่า "แม่กึ้ดหลวง" โดยคำว่า "กึ้ด" เป็นคำในภาษาถิ่นเหนือที่แปลว่า "คิด" และคำว่า "หลวง" หมายถึง "ทุ่งหลวง" ซึ่งเป็นชื่อของพื้นที่ที่ได้รับมอบมา ดังนั้น ชื่อหมู่บ้าน "แม่กึ้ดหลวง" จึงมีความหมายถึง "ทุ่งหลวงที่ระลึกถึง" หรือ "ทุ่งหลวงที่คิดไว้เป็นที่ตั้งบ้านเรือน"

ต่อมา ได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อเล็กน้อยให้สะกดตามภาษาราชการเป็น "แม่กื้ดหลวง" ซึ่งกลายเป็นชื่อทางการของหมู่บ้าน ช่วงเริ่มแรกของการตั้งถิ่นฐาน หมู่บ้านมีจำนวนครัวเรือนอยู่ประมาณ 70 หลังคาเรือน และมี กำนันจินะ ปันสา เป็นผู้นำคนแรกของหมู่บ้าน โดยกำนันจินะได้ทำหน้าที่บริหารงานปกครอง ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน และส่งเสริมการพัฒนาหมู่บ้านในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง จนกระทั่งเกษียณอายุ

ในช่วงที่กำนันจินะดำรงตำแหน่งนั้น หมู่บ้านแม่กื้ดหลวงได้มีการพัฒนาอย่างก้าวหน้า มีการจัดสร้างวัด โรงเรียน และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ส่งผลให้จำนวนประชากรและครัวเรือนในหมู่บ้านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงจุดหนึ่งที่จำนวนครัวเรือนมากจนต้องขยายพื้นที่และการบริหารจัดการ จึงได้มีการแยกหมู่บ้านใหม่ออกไปเป็น หมู่ที่ 3 โดยตั้งชื่อว่า "บ้านแม่กื้ดใหม่" ส่วนหมู่บ้านเดิม "แม่กื้ดหลวง" ยังคงเป็น หมู่ที่ 1 เช่นเดิม

ชุมชนบ้านแม่กื้ดหลวง (หมู่ที่ 1) ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยชุมชนบ้านแม่กื้ดหลวงมีพื้นที่โดยรอบ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ ป่าสงวนแห่งชาติแม่ละเมา 
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ห้วยแม่ปะ ห้วยนำดิบ 
  • ทิศใต้ ติดกับ ห้วยแม่ปะ ป่าสงวนแห่งชาติแม่ละเมา 
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ทำกินราษฎร

ชุมชนแม่กื้ดหลวงเป็นภูเขาสูงชัน ลักษณะป่าดงดิบและป่าเบญจพรรณ มีร่องห้วยเป็นป่า  มีขุนห้วย และลำห้วยที่มีน้ำไหลตลอดปี ดังนี้ ห้วยขนุน ห้วยแม่ปะ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และพื้นที่มีถ้ำอยู่ 4 แห่ง คือ ถ้ำโขง และ ถ้ำเสือ ถ้ำกี่วป่าไผ่ ถ้ำพระเจ้าแก้ว โดยพื้นที่สภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์ มีพรรณไม้นานาชนิด สัตว์ป่าขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ เช่น ไก่ป่า นก กระรอก ตะกวด กิ้งก่าบิน  หมูป่า เก้ง

ข้อมูลประชากรจากกรมการปกครอง พ.. 2568 พบว่า หมู่ที่ 1 บ้านแม่กื้ดหลวง มีประชากรทั้งหมดจำนวน 891 คน โดยสามารถแบ่งเป็นกลุ่มคนไทยและกลุ่มที่ไม่ใช่คนไทย กลุ่มคนไทย แบ่งเป็นชาย 351 คน และหญิง 371 คน กลุ่มคนไทยรวมทั้งหมด 722 คน และกลุ่มที่ไม่ใช่คนไทย แบ่งเป็นชาย 81 คน และหญิง 88 คน รวมกลุ่มที่ไม่ใช่คนไทยทั้งหมด 169 คน

ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตรอย่างพอเพียงเป็นหลัก โดยมีการทำนา ทำไร่ และทำสวน เป็นกิจกรรมเกษตรกรรมที่สำคัญ โดยประมาณร้อยละ 22.66 ของประชากรทั้งหมดมีอาชีพเกษตรกรรมนอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงสัตว์ในครัวเรือนทั้งในรูปแบบอาชีพหลักและอาชีพเสริม เช่น การเลี้ยงไก่ เป็ด โค สุกร และกระบือ โดยร้อยละ 2.75 ของประชากรทำอาชีพเลี้ยงสัตว์ การประมงน้ำจืดในพื้นที่ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ดำเนินแบบยังชีพ โดยเลี้ยงปลาหลากหลายชนิดในบ่อดิน เช่น ปลานิลปลายี่สกไทยปลาไนและปลาดุกรวมถึงมีประชากรที่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปและค้าขายร้อยละ 8 และร้อยละ 9 ตามลำดับ รวมทั้งอาชีพค้าขาย และรับจ้างถือเป็นรายได้เสริมที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจครัวเรือนในตำบลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมอาชีพในตำบลแม่กาษาเป็นการผสมผสานระหว่างเกษตรกรรม การเลี้ยงสัตว์ การประมง และงานบริการที่หลากหลายเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชุมชน

นอกจากนี้ชุมชนบ้านแม่กื้ดหลวงยังมีสถาบันการจัดการเงินทุนชุมชนบ้านแม่กื้ดหลวง เพื่อบูรณาการกองทุน และบริหารจัดการอย่างมีเอกภาพ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554 โดยประกอบไปด้วย

1.กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต โดย นายก๋วน หิรัญรัตน์ เป็นประธาน ภายในกลุ่มมีสมาชิกทั้งหมด 203 คน

2.กองทุนหมู่บ้าน มีสมาชิกทั้งหมด 190 คน โดยมีนายอินแก้ว ปันสีคำ เป็นประธาน

3.กลุ่มเกษตรทำไร่ มีสมาชิกทั้งหมด 50 คน

4.กลุ่มสตรีบ้านแม่กื้ดหลวง มีผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ขนมกะหรี่ปั๊บ ผลิตภัณฑ์จากกล้วย โดย นางลออ ดอยเงิน เป็นประธาน มีสมาชิกจำนวน 50 คน ซึ่งกลุ่มสตรีบ้านแม่กื้ดหลวงเข้ารับการคัดสรร หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ปี พ.ศ. 2553 ได้รับรางวัลระดับ 4 ดาว

5.กลุ่มอาชีพจักสานตะกร้าจากสมุดโทรศัพท์ และไม้กวาด โดย นางสมบูรณ์ อุ่นเมือง เป็นประธาน มีสมาชิกจำนวน 10 คน 

6.กลุ่มสตรีแม่บ้าน (คณะกรรมการพัฒนาสตรีระดับหมู่บ้าน) จำนวนกรรมการทั้งหมด 9 คน โดย นางอุบลวรรณ บุญมาติด เป็นประธาน

7.กลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ มีสมาชิกจำนวน 20 คน 

8.กลุ่มอาชีพสตรีสหกรณ์เจียระไนพลอยและต้นไม้หยก โดย นางขันทอง หวังสวาสดิ์ เป็นประธาน มีสมาชิกจำนวน 62 คน ซึ่งสมัครเข้าสู่ระบบมาตรฐานงานชุมชมชนประเภทกลุ่ม/องค์กร ประจำปี พ.ศ. 2548 และเข้ารับการคัดสรร หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ได้รับรางวัล OTOP 3 ดาว ในปี พ.ศ. 2551 และปี พ.ศ. 2553 ได้รับรางวัลระดับ 3 ดาว

9.กลุ่มทำบ้านน้อย บ้านสำหรับส่งให้ผู้วายชนม์ตามความเชื่อของชาวเหนือ

ในรอบปีชุมชนบ้านแม่กื้ดหลวงมีวิถีชีวิตทางวัฒนธรรมโดยมีอัตลักษณ์โดดเด่น ดังต่อไปนี้

วิถีชีวิตทางวัฒนธรรม

เดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงวันขึ้นปีใหม่ โดยชาวบ้านจะเฉลิมฉลองร่วมกันภายในครอบครัว มีกิจกรรมสังสรรค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และสร้างความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นปีใหม่

เดือนกุมภาพันธ์ มีการจัดประเพณีเดือน 5 ซึ่งตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ โดยจัดที่วัดในชุมชน มีผู้เข้าร่วมประมาณ 6 ครัวเรือน กิจกรรมเน้นการทำบุญ ฟังเทศน์ และระลึกถึงบรรพบุรุษ ถือเป็นการสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวบ้าน

เดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงสงกรานต์ ชาวบ้านจะร่วมกันจัดประเพณีเดือน 6 ในวันที่ 21 เมษายน มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 500 คน กิจกรรมประกอบด้วยการทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เพื่อแสดงความกตัญญูและเสริมสร้างความสามัคคีในครอบครัวและชุมชน

เดือนพฤษภาคม มีกิจกรรม "สืบชะตาป่า" ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มทอผ้าของชุมชนในวันที่ 20 พฤษภาคม เป็นกิจกรรมที่เน้นการทำพิธีสืบชะตาป่าชุมชนขุนห้วยแม่กื้ดหลวง เพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำ และร่วมกันปลูกต้นไม้ โดยมีพระสงฆ์ ผู้นำชุมชนและชาวบ้านเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

เดือนพฤศจิกายน ชาวบ้านจะจัดประเพณีเดือน 9 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีภายในชุมชน จะร่วมกันจัดกิจกรรมทางศาสนาและพิธีกรรมบูชาตามความเชื่อท้องถิ่น โดยหนึ่งในกิจกรรมสำคัญของชุมชนคือ การซื้อเครื่องเซ่นไหว้เพื่อนำไปถวายแด่เจ้าพ่อพะวอ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถืออย่างสูง โดยพิธีจะจัดขึ้นบริเวณ ศาลเจ้าพ่อพะวอ โดยมีผู้นำชุมชนหรือผู้สูงอายุเป็นผู้ประกอบพิธี จุดธูปเทียนบอกกล่าว และเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์รับเครื่องเซ่นไหว้ จากนั้นจะมีการกล่าวคำขอพร และขอให้ปกปักรักษาชาวบ้านให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติ เจ็บป่วย หรือความไม่สงบทั้งหลาย

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสำคัญตามวันสำคัญของชาติ ได้แก่ วันเข้าพรรษาที่ชาวบ้านจะร่วมกันทำบุญและถือศีลที่วัดใกล้บ้าน, วันแม่แห่งชาติ (12 สิงหาคม) และวันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม)

1.ครูบากัญไชย กาญจโน

พระครูสิริรัตนาภรณ์ (ครูบากัญไชย กาญจโน) มีนามเดิมว่า เด็กชายดวงคำ พลายสาร เกิดเมื่อ พ.ศ. 2458 จันทรคติ ค่ำ ปีเถาะ ที่บ้านศรีบุญเรือง ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้องชายหญิง 9 คน บิดาชื่อนายยศ มารดาชื่อนางต่อม พลายสาร ท่านได้ศึกษาเรียนหนังสือล้านนาไทยพื้นเมืองเหนือกับเจ้าอธิการขัติยศจนแตกฉาน

เมื่ออายุได้ 16 ปี ท่านมีความมุ่งมั่นปรารถนาที่จะอุทิศตนเป็นพุทธสาวกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้รับเมตตาอุปการะจากพระอธิการกัญจนะวงศ์ เจ้าอาวาสวัดม่วงตึ๊ด เป็นพระอุปัชฌาย์ และเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่า "กัญไชย" ในช่วงที่เป็นสามเณร ท่านได้บำเพ็ญตนเคร่งครัดแตกต่างจากสามเณรทั่วไป มีความจำดีเยี่ยม ศึกษาอักษรพื้นเมืองจนสามารถอ่านเขียนได้คล่องแคล่วรวดเร็วสวยงาม

หลวงพ่อได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2478 ณ พัทธสีมาวัดม่วงตึ๊ด จังหวัดน่าน โดยมีพระครูนันทสมณาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดน่าน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูธรรม สิริสุนทร เจ้าอาวาสวัดภูมินทร์ เป็นพระกรรมวาจารย์ และพระครูสสิริธรรมกิต เจ้าอาวาสวัดอภัย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า กัญไชย กาญจโน

ท่านได้รับสมญานามว่า "เทพเจ้านักบุญแห่งลุ่มแม่น้ำเมย" เนื่องจากเป็นพระภิกษุเถระผู้ทรงวิทยาคุณ มีพลังจิตตานุภาพสูง และเป็นผู้มีคาถาอาคมขลังแก่กล้า เป็นที่พึ่งของชาวบ้านในยามยาก สร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีที่ท่านอยู่อำเภอแม่สอด ท่านได้มอบวัตถุมงคลแก่ลูกศิษย์ลูกหาและชาวบ้านทั่วไปนับแสนคน โดยไม่มีใครประสบภัยอันตรายถึงแก่ชีวิต ด้วยคาถาอาคมอันแก่กล้า วัตถุมงคล น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรี ทำให้หลวงพ่อเป็นที่เคารพศรัทธาแม้หลังจากละสังขารแล้ว ร่างกายของท่านไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา เหมือนยังนอนหลับอย่างน่าอัศจรรย์ สามารถเดินทางไปกราบนมัสการขอพรเพื่อเป็นศิริมงคล (องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กาษา, มปป.)

2.นายพนม นามผาญ

มีผลงานดีเด่นมากมาย เช่น กลยุทธ์หลัก 3 กลุ่ม 3 วัย 4 เสาหลัก (ภาคีเครือข่าย) มีรูปแบบการดำเนินงานเครือข่ายสุขภาพ โดยใช้กลยุทธ์หลัก 3 กลุ่ม 3 วัย 4 เสาหลัก (ภาคีเครือข่าย) โดย 3 กลุ่ม 3 วัย ได้แก่ วัยปู่ย่าตายาย วัยลูกหลาน วัยพ่อแม่ โดยอาศัย 4 องค์กรหลักที่เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพ ได้แก่ วัด โรงเรียน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อสร้างระบบให้สุขภาพชุมชนเข้มแข็งขึ้น และมีกระบวนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา 4 ขั้นตอน ได้แก่ การวางแผน การจัดการงบประมาณการจัดกิจกรรม และการประเมินผล และชุมชนแม่กื้ดหลวงปลอดขยะ (Zero waste) จัดทำแผนการจัดการขยะที่ต้นทางโดยการจัดตั้งคณะทำงานการจัดการขยะเพื่อวิเคราะห์ปัญหา สร้างความตระหนักและความเข้าใจในการจัดการขยะ ซึ่งให้ชุมชนมีส่วนร่วมเป็นจิตอาสาร่วมเก็บขยะและคัดแยก รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ทอดผ้าป่าขยะรณรงค์หมู่บ้านสะอาด สิ่งแวดล้อมดี ธนาคารขยะรีไซเคิล บ่อขยะ และถังขยะเปียกประจำครอบครัว เป็นต้น รวมถึงโรงเรียน รพ.สต. แม่กื้ดหลวง อบต.แม่ภาษา ทั้งยังมีการจัดตั้งกองทุนขยะ เพื่อสนับสนุนสวัสดิการให้ชุมชนและผลลัพธ์ที่ได้รับคือ หมู่บ้านปลอดถังขยะต้นแบบ เกิดนโยบายสาธารณะ และเป็นศูนย์การเรียนรู้การจัดการชุมชน นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลระดับประเทศ ดังนี้

  • ถ้วยพระราชทานรางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 ระดับประเทศ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ภาคภูมิใจ "โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน"
  • รางวัล อสม.ดีเด่น ระดับชาติ ปี พ.ศ. 2565 สาขา การจัดการสุขภาพชุมชนและอนามัยสิ่งแวดล้อม สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ที่พิสูจน์ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของระบบสุขภาพภายในชุมชน

บ้านแม่กื้ดหลวงเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาและมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะทรัพยากรป่าไม้ซึ่งถือเป็นทรัพยากรสำคัญที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของชาวบ้านมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ป่าชุมชนของบ้านแม่กื้ดหลวงมีลักษณะเป็นป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณผสม ซึ่งเป็นแหล่งของอาหาร ยา สมุนไพร ไม้ใช้สอย และแหล่งน้ำต้นทุนที่สำคัญของหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านร่วมกันดูแลป่าชุมชน ภายใต้แนวคิดการใช้ประโยชน์อย่างรู้คุณค่าและยั่งยืน โดยมีการตั้งกติกาชุมชนในการหาของป่า การเก็บเห็ด การตัดไม้ หรือการหาฟืนให้เป็นไปตามฤดูกาลและไม่ทำลายระบบนิเวศ มีการจัดเวรยามลาดตระเวนป่า และดำเนินกิจกรรมฟื้นฟูป่า เช่น การปลูกต้นไม้พื้นถิ่น การทำฝายชะลอน้ำ และการจัดกิจกรรมวันอนุรักษ์ป่าชุมชนร่วมกับเด็กและเยาวชนนอกจากนี้ป่าชุมชนยังเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ในความเชื่อของชุมชนอีกด้วย

ด้านของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแม่กื้ดหลวงพื้นที่แห่งนี้มีทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางระบบนิเวศ โดยมีลำห้วยสำคัญจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ห้วยเสือ ห้วยแม่กี้ด และห้วยโป้ง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนในชุมชน รวมถึงเป็นแหล่งน้ำสำคัญในการเกษตรและกิจกรรมต่าง ๆ ภายในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีป่าชุมชนบ้านแม่กื้ดหลวง ซึ่งได้รับการดูแลร่วมกันโดย 6 หมู่บ้านในพื้นที่ เป็นแหล่งทรัพยากรป่าที่สำคัญที่ชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์อย่างรู้คุณค่า เพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและความสมดุลของธรรมชาติควบคู่ไปกับการดำรงชีวิต ซึ่งภายในพื้นที่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น เรือนอุษา ซึ่งเป็นจุดเรียนรู้และถ่ายทอดวิถีชีวิตชุมชน รวมถึงน้ำตกตาดที่ตั้งอยู่ในเขตป่าชุมชน มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการพักผ่อน

ชุมชนบ้านแม่กื้ดหลวงใช้ภาษาเหนือในการสื่อสารภายในชุมชน


เศรษฐกิจของชุมชนบ้านแม่กื้ดหลวงมีการเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักเช่นการทำนาทำไร่และทำสวนซึ่งส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อยังชีพและบางส่วนสามารถนำไปจำหน่ายในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีการ เลี้ยงสัตว์ เช่น โค สุกร เป็ด ไก่ และ การประมงน้ำจืดในบ่อดิน เช่น การเลี้ยงปลานิล ปลาดุก และปลาตะเพียนในระดับครัวเรือน โดยประชาชนบางส่วนมีอาชีพ รับจ้างทั่วไป และ ค้าขาย สินค้าท้องถิ่น เช่น ผัก ผลไม้ สินค้าหัตถกรรม และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทรัพยากรในชุมชน เช่น สมุนไพร เครื่องจักสาน และของป่าขณะเดียวกันยังมีกลุ่มอาชีพเสริมและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมและกระจายรายได้ภายในหมู่บ้าน เช่น กลุ่มแปรรูปอาหาร กลุ่มทอผ้า หรือกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์

โดยรวมแล้วเศรษฐกิจของบ้านแม่กื้ดหลวงเป็นเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเอง มีความเรียบง่าย พอเพียง และใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างรู้คุณค่าผสมผสานกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ค่อยเป็นค่อยไปตามบริบทของชุมชน และมีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมวัดมาตานุสรณ์ และแวะเวียนเข้ามาซื้อผลิตภัณฑ์ภายในหมู่บ้าน


ภายในบ้านแม่กื้ดหลวงมีกองทุนแม่ของแผ่นดิน ซึ่งเป็นกองทุนที่เกิดจากการรวมพลังของชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยจิตใจที่พึ่งตนเอง โดยมีเป้าหมายในการฟื้นฟูทุนทางสังคมของหมู่บ้านและชุมชน ผ่านการใช้มิติสังคมที่เชื่อมโยงกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง หมู่บ้านที่มีการดำเนินการในลักษณะนี้จะเรียกว่า หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินซึ่งการดำเนินงานของกองทุนอยู่ภายใต้การขับเคลื่อนของคณะกรรมการหมู่บ้าน/ชุมชน โดยมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัว และสร้างความเข้มแข็งภายในชุมชนเพื่อให้สามารถรับมือและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งส่งเสริมการสร้างเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง

กองทุนแม่ของแผ่นดินในบ้านแม่กื้ดหลวงเริ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2558 โดยได้รับเงินพระราชทานขวัญถุงครั้งแรกจำนวน 8,000 บาท และได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการกองทุนขึ้นทั้งหมดจำนวน 20 คน ระบบการบริหารกองทุนมีการกำหนดให้มีการเบิกจ่ายในบัญชีด้วยเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของคณะกรรมการ 

การดำเนินงานของกองทุนแม่ของแผ่นดินในระดับชุมชน ที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน โดยปัจจุบันมีคณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน บ้านแม่กื้ดหลวง หมู่ที่ 1 ตำบลแม่ภาษา มีจำนวนคณะกรรมการกองทุนทั้งหมดรวม 20 คน


ชุมชนบ้านแม่กื้ดหลวงมีการส่งเสริมการศึกษาในระดับชุมชน มีโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่รองรับเด็กในพื้นที่ และยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ช่วยเตรียมความพร้อมด้านพัฒนาการก่อนวัยเรียน นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับผู้ใหญ่ในชุมชน เพื่อให้ประชาชนสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านให้ความสำคัญกับการศึกษาของบุตรหลานอย่างมาก มีความร่วมมือระหว่างครอบครัว โรงเรียน และหน่วยงานท้องถิ่นในการสนับสนุนด้านทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียน และกิจกรรมพัฒนาทักษะต่าง ๆ

เส้นทางการท่องเที่ยว มี 2 เส้นทางการท่องเที่ยว ประกอบด้วย

  1. โปรแกรมเส้นทางพุทธศิลป์แห่งแม่กาษา จำนวน 4 แห่ง เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตตามวิถี และความเชื่อของชาวพุทธศาสนิกชน รวมทั้งได้ชื่นชมความงดงามของสถาปัตยกรรมของวัดที่มีลักษณะเป็นแบบวังไทย ที่วัดศรีพรเพ็ญมาตยาราม กราบนมัสการ “พระเจ้าทันใจรัตนมุงเมือง” พร้อมเรียนรู้พิธีการสร้างพระเจ้าทันใจ ตามแบบล้านนาไทย ที่วัดไทยสามัคคี หลังจากนั้นไปสักการะเกจิดังนักบุญแห่งลุ่มน้ำเมย (หลวงพ่อครูบากัญไชย) ด้วยบุญญาบารมีของหลวงพ่อ ร่ายกายของท่านจึงไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา ได้ที่วัดมาตานุสรณ์ ออกจากวัดมาตานุสรณ์แล้ว เดินทางไปขอพรกับองค์เทพต่างๆ ให้สักการะขอพร เช่น 1) วิหารพระพุทธภัทรกัป 2) เทวาลัยพระพิฆเนศ 3) เทวาลัยพระตรีมูรติ 4) ขอพรพระศิวะนาคราช 5) ขอพรพระราหู และ6) ขอพรพระเจ้าตากสิน ที่เทวสถานดอยสา โดยมีระยะทางรวม 37.31 กิโลเมตร
  2. โปรแกรม เส้นทางเดินทางสู่ธรรมชาติพร้อมสัมผัสน้ำแร่ และพลังแห่งความศรัทธา เป็นเส้นทางที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ ในการเดินป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติ เป็นระยะทางไป-กลับ 3 กิโลเมตร โดยในการเดินป่าจะได้พบกับพรรณไม้ที่หายาก เช่น (ต้นพระเจ้าห้าพระองค์) หรือลักษณะของต้นไม้ที่มีความน่าสนใจ (พูพอน) และแมลงที่น่าสนใจ (จักจั่นงวง) และจุดเด่นที่จะพบในป่า ได้แก่ น้ำตก พรรณไม้สำคัญ ได้แก่ ยาง แดง ไทร มะเดื่อ รวมทั้งได้เรียนรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ (การสืบชะตาป่า และฝายชะลอน้ำ) เป็นต้น ช่วงบ่ายขึ้นไปถ้ำโพธิ์ทอง ลงมาเล่นน้ำตกแม่กาษา ก่อนที่จะมาผ่อนคลายความเมื่อยล้าด้วยการลงแช่น้ำแร่ที่ภูกาษาวาเลย์&ออนเซ็น เช้าวันรุ่งขึ้นเข้าวัดทำบุญขอพรสักการะพระเกจิดังนักบุญแห่งลุ่มแม่น้ำเมย ต่อด้วยขอพรหลวงพ่อทันใจ ที่วัดไทยสามัคคี รวมระยะทาง 57.57 กิโลเมตร

ปนัดดา ลาภเกิน, ปัญญา ไวยบุญญา, บุญธิดา ม่วงศรีเมืองดี และประภัสสร ยอดสง่า. (2559). ป่ากับชุมชน ป่าชุมชนบ้านแม่กื้ดหลวง. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ศศิธร โคสุวรรณ, ปนัดดา ลาภเกิน, บุญธิดา ม่วงศรีเมืองดี, อารมย์ จันทะสอน, ปัญญา ไวยบุญญา และ ประภัสสร ยอดสง่า. (2563). การสร้างฐานข้อมูลหมู่บ้านด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก. วิจัยฉบับสมบูรณ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ศศิธร โคสุวรรณ, ปัญญา ไวย บุญญา, และ ประภัสสร ยอดสง่า. (2566). การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเพื่อกำหนดเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก. วิจัยฉบับสมบูรณ์, วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ศูนย์ส่งเสริมการจัดการทรัพยากรป่าไม้ภาคเหนือตอนล่าง. (2557). ป่าชุมชนบ้านแม่กื้ดหลวง. กรมป่าไม้. จาก https://www.forest.go.th/community/wpcontent/

องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กาษา. (มปป.). วัดมาตานุสรณ์. จาก https://www.maekasa.go.th/

สำนักข่าวเอซีนิวส์. (12 กันยายน 2566). กองทุนแม่ของแผ่นดิน จุดเปลี่ยนหมู่บ้านเข้มแข็งเอาชนะยาเสพติด. AC News. จาก https://www.acnews.net/detailnews.php

อบต.แม่กาษา โทร. 08 1379 1093