Advance search

หมู่บ้านทำกลองที่สืบทอดวิถีการทำกลองแบบโบราณ เป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่ชวนให้ไปค้นหาและท่องเที่ยว           

หมู่ที่ 7
บางแพ
เอกราช
ป่าโมก
อ่างทอง
อบต.เอกราช โทร 0 3566 2201
นิกข์นิภา บุญยิ่ง
13 พ.ค. 2025
สมฤทัย สมัยกุล
30 มิ.ย. 2025
วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
5 มิ.ย. 2025
บางแพ

"บางแพ" มีที่มาจากในอดีตตั้งอยู่บริเวณที่มีแพซุงมาจอดและผ่าน จึงเรียกว่า หมู่บ้านบางแพ 


ชุมชนชนบท

หมู่บ้านทำกลองที่สืบทอดวิถีการทำกลองแบบโบราณ เป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่ชวนให้ไปค้นหาและท่องเที่ยว           

บางแพ
หมู่ที่ 7
เอกราช
ป่าโมก
อ่างทอง
14130
14.50220
100.43022
องค์การบริหารส่วนตำบลเอกราช

หมู่บ้านบางแพ บางแพ หรือชุมชนวัดเอกราช เป็นชื่อเรียกดั้งเดิมตั้งแต่สมัยเก่าก่อนและเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์เหมาะกับการตั้งรากฐานบ้านเรือน เพราะความอุดมสมบูรณ์ และเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่ามีแพซุงมาจอดและผ่าน จึงเรียกว่า หมู่บ้านบางแพ และในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ได้เสด็จยกทัพไปเพื่อรบกับพม่าจากกรุงศรีอยุธยามาที่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองบางหลวงและทรงยกทัพผ่านตำบลป่าโมก ในระหว่างการพักค้างคืน ทรงสุบินได้ว่าต่อสู้กับจระเข้ใหญ่ได้รับชัยชนะ รุ่งขึ้นนำทัพทำพิธีตัดไม้ข่มนามและประกาศเอกราช ณ ทุ่งนา หนองสาหร่าย แต่นั้นมาบริเวณนี้จึงเรียกว่า บ้านเอกราช ซึ่งปัจจุบันยกฐานะ เป็นตำบลดังปรากฏหนองสาหร่าย ตำบลเอกราช อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ในปัจจุบัน

เหตุการณ์สำคัญที่เคยเกิดขึ้นในชุมชน

  • การเริ่มทำกลองแบบดั้งเดิม (พ.ศ. 2470) เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างอัตลักษณ์ชุมชนในฐานะ "หมู่บ้านทำกลอง" โดยใช้ไม้ฉำฉาและหนังวัวในการผลิต ซึ่งกลายเป็นทั้งวัฒนธรรมและเศรษฐกิจหลักของชุมชนมาจนถึงปัจจุบัน
  • การสร้างกลองยาวที่สุดในโลก (พ.ศ. 2537) ชาวบ้านร่วมกันสร้างกลองยาวที่มีความยาว 7.6 เมตร จดบันทึกไว้เป็นกลองที่ยาวที่สุดในโลกในขณะนั้น สะท้อนความสามัคคีและความสามารถของชุมชน
  • ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (พ.ศ. 2554) จากกระทรวงพาณิชย์ สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของชุมชนในด้านเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรม

ชุมชนบ้านบางแพมีฐานเศรษฐกิจดั้งเดิมจากการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกข้าวซึ่งเหมาะกับพื้นที่ราบลุ่ม ต่อมาในช่วงหลังได้มีการพัฒนาอาชีพทำกลองจนกลายเป็นแหล่งผลิตสำคัญของจังหวัดอ่างทอง การผลิตกลองขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ช่วยสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนในหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง

บ้านบางแพ ตั้งอยู่ในเขตการบริหารส่วนตำบลเอกราช  มีระยะห่างจากอำเภอป่าโมกไปทางทิศตะวันออกและทิศใต้ประมาณ 3 กิโลเมตร และมีระยะห่างจากจังหวัดอ่างทอง ไปทางทิศตะวันตกออกและทิศเหนือ ระยะทาง ประมาณ 12 กิโลเมตร

ลักษณะภูมิประเทศ 

พื้นที่ส่วนใหญ่ของหมู่บ้านเป็นที่ราบลุ่ม คล้ายอ่างไม่มีภูเขา ไม่มีป่าไม้ ดินเป็นดินเหนียว ถึงดินเหนียวปนทราย พื้นที่ส่วนมากเหมาะกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีแม่น้ำสำคัญ 2 สาย ที่สำคัญไหลผ่าน ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย และมีการเกิดอุทกภัยเกือบทั่วพื้นที่ในฤดูฝน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดกับจังหวัดอยุธยา เช่น ป่าโมก และ วิเศษชัยชาญ 

สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ

  • แม่น้ำน้อย : เป็นแหล่งน้ำหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชุมชน มีความสำคัญต่อการทำเกษตรกรรม การประมง และการคมนาคมทางน้ำ
  • พื้นที่ชุ่มน้ำ : บริเวณใกล้เคียงมีพื้นที่ชุ่มน้ำที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณและสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารและรายได้สำคัญของชุมชน

จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย บ้านบางแพ หมู่ที่ 7 ตำบลเอกราช มีจำนวนประชากร จำนวน 202 คน แบ่งเป็น ชายจำนวน 97 คน และหญิง จำนวน 105 คน

ระบบเครือญาติในชุมชนบ้านบางแพตระกูลดั้งเดิมที่อยู่ในชุมชน

  • บ้านบางแพมีลักษณะเป็นชุมชนเกษตรกรรมดั้งเดิม และยังคงมี "ตระกูลเก่า" หลายตระกูลที่สืบทอดกันมา เช่น ตระกูล อินทร์แปลง, วงศ์วิชัย, อ่อนเอี่ยม, บุญศรี, และ ทองคำ เป็นต้น 
  • ตระกูลเหล่านี้มักมีบทบาทในงานบุญ งานวัด และเป็นผู้นำในกลุ่มอาชีพ เช่น การทำกลอง หรือการทำเกษตรแบบดั้งเดิม

 การนับลำดับญาติ

  • มีลักษณะของ เครือญาติแนวดิ่ง (พ่อ-แม่-ลูก) และ แนวราบ (พี่น้อง ครอบครัวเครือญาติในหมู่บ้านเดียวกัน) อย่างแน่นแฟ้น
  • ชาวบ้านจะรู้จักกันเป็นอย่างดีในระดับ "เครือญาติ" และใช้ระบบการนับญาติแบบไทย เช่น พี่น้องของพ่อ-แม่จะถูกเรียกตามความสัมพันธ์ เช่น ลุง ป้า น้า อา อย่างชัดเจน

 การสืบทอดมรดก

  • มรดกในชุมชนส่วนใหญ่มักเป็น ที่ดินทำกิน หรือ บ้านเรือน ซึ่งจะสืบทอดให้ลูกหลานโดยเฉพาะลูกคนโต หรือแบ่งให้ทุกคนตามที่ตกลงกัน
  • หากเป็นบ้านดั้งเดิม มักจะให้ลูกสาวที่แต่งงานแล้วยังอยู่ดูแลพ่อแม่หรือบุตรที่อยู่ในพื้นที่สืบทอดมรดกนั้นต่อไป

 การแต่งงาน

  • การแต่งงานในชุมชนส่วนมากจะเป็น การแต่งงานภายในชุมชนหรือชุมชนใกล้เคียง
  • มีพิธีกรรมแต่งงานแบบไทยดั้งเดิม เช่น พิธีสู่ขอ การจัดขันหมาก และการจัดงานเลี้ยงที่บ้านเจ้าสาว
  • ในปัจจุบัน เริ่มมีการแต่งงานข้ามจังหวัดหรือข้ามกลุ่มวิถีชีวิตมากขึ้นจากการศึกษาหรือทำงานนอกชุมชน

การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ

1.กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม

  • ชาวบ้านรวมกลุ่มกันในการปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ และจัดการแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร เช่น คลองส่งน้ำ/ฝายชะลอน้ำ
  • มีการใช้แรงงานแบบ "ลงแขก" หรือช่วยกันทำไร่นาของเพื่อนบ้านในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว

2.กลุ่มอาชีพเสริม

  • กลุ่มแม่บ้านทำขนมไทย สานตะกร้า หรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น สบู่สมุนไพร
  • กลุ่มช่างตี/ทำกลองพื้นบ้าน ซึ่งเป็นอาชีพพื้นถิ่นที่มีชื่อเสียงของอ่างทอง มีบางครอบครัวในชุมชนสืบทอดอาชีพนี้มาหลายชั่วอายุคน

3.กลุ่มออมทรัพย์และสหกรณ์

  • กลุ่มออมทรัพย์ชุมชนสำหรับช่วยเหลือด้านการเงินและปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้สมาชิกในครอบครัวและชุมชน
  • บางกลุ่มเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น ธ.ก.ส. หรือพัฒนาชุมชนอำเภอ 

การรวมกลุ่มทางสังคม

1.กลุ่มเยาวชน-กลุ่มผู้สูงอายุ

  • เยาวชนมีบทบาทในการจัดกิจกรรมในงานบุญต่าง ๆ เช่น งานรำวง งานประกวดกระทง และช่วยงานวัด
  • ผู้สูงอายุรวมกลุ่มกันออกกำลังกายตอนเช้า ทำอาหารสมุนไพร และแลกเปลี่ยนความรู้พื้นบ้าน

2.กลุ่มจิตอาสา

  • กลุ่มช่วยเหลือผู้ประสบภัย น้ำท่วม หรือกลุ่มบำเพ็ญประโยชน์เพื่อพัฒนาวัด โรงเรียน และถนนในชุมชน

3.งานศพ-งานบุญ

  • มีการระดมแรงงานและอาหารจากชาวบ้านในรูปแบบ "ลงขัน" หรือ "เครือญาติข้างบ้าน" เป็นการแสดงพลังของความเป็นปึกแผ่นของสังคมชนบท

การรวมกลุ่มทางวัฒนธรรม

1.กลุ่มผู้จัดงานบุญท้องถิ่น

  • ช่วยกันจัดงานประเพณีท้องถิ่น เช่น บุญบั้งไฟ สงกรานต์ ลอยกระทง หรือบุญสารทเดือนสิบ

กิจกรรมทางเศรษฐกิจในรอบปี

ชุมชนบ้านบางแพมีลักษณะเศรษฐกิจแบบเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยมีกิจกรรมทางการเกษตรที่สอดคล้องกับฤดูกาล ดังนี้

ปฏิทินการเพาะปลูก (ข้าว)

  • พฤษภาคม-มิถุนายน : เริ่มไถนาและเตรียมดินในช่วงต้นฤดูฝน
  • กรกฎาคม-สิงหาคม : ดำนา ปลูกข้าว
  • พฤศจิกายน : เริ่มเก็บเกี่ยวข้าว
  • ธันวาคม : เก็บเกี่ยวเสร็จและจัดเก็บผลผลิต

ปฏิทินการเลี้ยงสัตว์

  • ตลอดทั้งปี : มีการเลี้ยงวัว ควาย ไก่ และเป็ด โดยเฉพาะในครัวเรือนที่มีพื้นที่
  • ธันวาคม-เมษายน (ช่วงแล้ง) : จะให้ความสำคัญกับการดูแลแหล่งน้ำ เพราะอาจขาดน้ำเลี้ยงสัตว์

ปฏิทินการผลิตและการค้า

  • มกราคม-มีนาคม : มีการแปรรูปข้าวเป็นข้าวกล้องและข้าวสารเพื่อขาย
  • ตลอดปี : กลุ่มแม่บ้านผลิตขนมไทย สบู่สมุนไพร และงานจักสานเพื่อขายในตลาดชุมชนและตลาดนัด
  • ช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่ : การผลิตจะเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด

ชุมชนมีวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกับวัด และมีประเพณีสำคัญที่จัดขึ้นตลอดปี ดังนี้

  • กุมภาพันธ์-มีนาคม : วันมาฆบูชา ประชาชนร่วมเวียนเทียน
  • เมษายน : ประเพณีสงกรานต์ มีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ แข่งขันกีฬาพื้นบ้าน และการสรงน้ำพระ
  • กรกฎาคม : วันเข้าพรรษา แห่เทียนพรรษา
  • ตุลาคม : ออกพรรษา ทำบุญตักบาตรเทโว
  • พฤศจิกายน : ลอยกระทง มีการจัดงานในชุมชนและที่วัด
  • ธันวาคม : งานส่งท้ายปีเก่า จัดกิจกรรมบันเทิงในระดับหมู่บ้าน และบางปีมีการรวมญาติ

กลุ่มผู้สูงอายุและเยาวชนในชุมชนจะมีบทบาทสำคัญในการแสดงศิลปะพื้นบ้าน การรำ การละเล่นโบราณ และการจัดเวทีความรู้ในท้องถิ่น

การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติและภัยพิบัติในรอบปี

  • ฤดูแล้ง (ธันวาคม-เมษายน) : อากาศร้อนจัด น้ำในคลองและแม่น้ำน้อยลดลง ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงสัตว์และพืชสวน
  • ฤดูฝน (พฤษภาคม-ตุลาคม) : มักเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่ม โดยเฉพาะในเดือนกันยายน-ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงฝนตกหนักติดต่อกัน
  • บางปีเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง : ทำให้ต้นไม้หัก บ้านเรือนได้รับความเสียหายเล็กน้อย

ผลกระทบและปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา

ช่วงเวลา ปัญหา/ผลกระทบ แนวทางจัดการ
มกราคม-มีนาคม ขาดแคลนน้ำ/ฝุ่นควันจากการเผาตอซัง ใช้น้ำจากบ่อบาดาล/งดการเผา
พฤษภาคม-มิถุนายน น้ำหลากเร็วช่วงต้นฝน ขุดลอกคูคลองระบายน้ำ
กันยายน-ตุลาคม น้ำท่วมพื้นที่การเกษตร สร้างพนังกั้นน้ำชั่วคราว
พฤศจิกายน-ธันวาคม โรคระบาดในสัตว์ (หน้าหนาว) ฉีดวัคซีน/ดูแลสุขภาพสัตว์

1.นายประเทือง อินทร์แปลง 

บทบาทและความสำคัญในชุมชน นายประเทืองเป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านเกษตรผสมผสานและภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นผู้สืบทอดและถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการปลูกข้าวแบบไม่ใช้สารเคมี การใช้สมุนไพรพื้นบ้านรักษาโรค รวมถึงมีความเชี่ยวชาญในการทำกลองพื้นบ้านซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวอ่างทอง

  • เป็นวิทยากรท้องถิ่นในโครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ของ อบต. และสำนักงานเกษตรอำเภอ
  • เคยเป็นผู้นำกลุ่มเกษตรกร และหัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นบ้าน
  • ได้รับเชิญจากหลายโรงเรียนในพื้นที่เพื่อให้ความรู้เรื่องภูมิปัญญาในการใช้พืชสมุนไพร

ประวัติชีวิตที่ผ่านมา นายประเทืองเกิดในครอบครัวชาวนา มีพี่น้อง 7 คน ตั้งแต่วัยเด็กได้เรียนรู้การทำเกษตรจากบิดาและมารดา รวมถึงการตี/ทำกลองพื้นบ้านซึ่งเป็นงานฝีมือดั้งเดิมของครอบครัว

  • วัยหนุ่มเคยออกไปรับจ้างทำนาที่สิงห์บุรีและสุพรรณบุรี ก่อนกลับมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว
  • ในช่วงอายุ 40 ปี หันมาศึกษาการเกษตรแบบอินทรีย์จากตำราพื้นบ้าน และทดลองใช้ในไร่นาของตนเอง จนประสบความสำเร็จ
  • มีบทบาทในการรวบรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อทำแปลงเกษตรตัวอย่าง โดยไม่พึ่งสารเคมี
  • ใช้พื้นที่บ้านเป็น "ศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น" เปิดให้เยาวชนและผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้

นายประเทืองยังคงแข็งแรง แม้อายุเกือบ 80 ปี และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้นำหมู่บ้านในด้านการวางแผนกิจกรรมพัฒนาชุมชน และการฟื้นฟูวัฒนธรรมพื้นบ้าน เช่น การฟ้อนรำกลองยาว และการสวดมนต์แปล

ทุนมนุษย์ ชุมชนมีทุนมนุษย์ที่หลากหลาย ทั้งด้านผู้นำ ภูมิปัญญา และคนรุ่นใหม่

  • ปราชญ์ชาวบ้าน เช่น นายประเทือง อินทร์แปลง (ด้านเกษตรอินทรีย์และภูมิปัญญาพื้นบ้าน)
  • ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้านมีบทบาทในการบริหารจัดการและประสานงานกับหน่วยงานภายนอก
  • อสม. และครูภูมิปัญญา มีบทบาทด้านสุขภาพและการถ่ายทอดองค์ความรู้
  • เยาวชนในชุมชน เริ่มมีบทบาทในกิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรม เช่น การรำพื้นบ้าน และช่วยงานบุญประเพณี

ผู้คนในบ้านบางแพใช้ ภาษาไทยกลาง เป็นภาษาหลักในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีลักษณะของสำเนียงท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวอ่างทอง


ชุมชนบ้านบางแพยังคงพึ่งพาเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยการปลูกข้าวและการเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพหลัก

  • ปัญหาและความท้าทาย : ปัญหาภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมและการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร
  • การแก้ไข : การสร้างระบบชลประทานขนาดย่อมและการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน
  • การมีส่วนร่วม : การรวมกลุ่มเกษตรกรในรูปแบบ กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการเกษตร และการเข้าร่วมโครงการของสำนักงานเกษตรจังหวัดอ่างทอง
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. (2568). สถิติทางการทะเบียนราษฎร. https://stat.bora.dopa.go.th/stat/statnew/

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. (2566). รายงานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม การทำกลองบ้านเอกราช. https://ich-thailand.org

กุลวรา สุขสมไทย. (2560). การศึกษาการดำรงอยู่ของภูมิปัญญาอาชีพการทำกลอง บ้านกลองเอกราช อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. (ม.ป.ป.). หมู่บ้านทำกลองตำบลเอกราช. https://cbtthailand.dasta.or.th/webapp/

องค์การบริหารส่วนตำบลเอกราช. (2566). ประวัติชุมชนและการสืบทอดภูมิปัญญาการทำกลอง. https://www.akekarach.go.th/

อบต.เอกราช โทร 0 3566 2201