Advance search

บากันใหญ่ ชุมชนบนเกาะเล็ก ๆ ฝั่งทะเลอันดามัน พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สวยงามแปลกตา ชุมชนประมงพื้นบ้านชาวมุสลิมที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับท้องทะเล อยู่กันอย่างเรียบง่ายพร้อมทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรท้องให้มั่นคงยั่งยืน

หมู่ที่ 2
บากันใหญ่
เกาะสาหร่าย
เมืองสตูล
สตูล
อบต.เกาะสาหร่าย โทร. 0 7475 0905
กฤษฎา อุ่นลาวรรณ
5 มิ.ย. 2025
วิไลวรรณ เดชดอนบม
5 มิ.ย. 2025
บ้านบากันใหญ่

ชุมชนแห่งนี้เป็นพื้นที่ทำสัมปทานไม้มาก่อน ที่มาของชุมชนจึงมาจากภาษาท้องถิ่นที่เกี่ยวเนื่องกับอาชีพการแปรรูปไม้ คนในพื้นที่ในอดีตจะเรียกการทำสัมปทานไม้บนเกาะกันเป็นภาษาไทยว่า บาฆันใหญ่ จนเป็นคำเรียกติดปากโดยทั่วไป และเรียกต่อกันมา ภายหลังจึงได้เพี้ยนเป็นบากันใหญ่ และใช้เป็นชื่อชุมชนในปัจจุบัน


ชุมชนชนบท

บากันใหญ่ ชุมชนบนเกาะเล็ก ๆ ฝั่งทะเลอันดามัน พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สวยงามแปลกตา ชุมชนประมงพื้นบ้านชาวมุสลิมที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับท้องทะเล อยู่กันอย่างเรียบง่ายพร้อมทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรท้องให้มั่นคงยั่งยืน

บากันใหญ่
หมู่ที่ 2
เกาะสาหร่าย
เมืองสตูล
สตูล
91000
6.71271087356744
99.8455838382182
องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่าย

ผู้ใหญ่บ้านคนแรกชื่อ ผู้ใหญ่ดาโอ๊ะ ไม่ทราบนามสกุล และได้สถาปนาเป็นหมู่บ้านบากันใหญ่ จากคำบอกเล่าที่เล่าส่งต่อกันมา ถึงการเข้ามาของผู้คนในพื้นที่เกาะแห่งนี้ ให้ข้อมูลว่าผู้ที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านบากันใหญ่เป็นคนแรก บ้างก็บอกว่ามาจากไทรบุรี ประเทศมาเลเซีย บ้างก็บอกว่ามาจากจังหวัดกระบี่ โดยเข้ามาอยู่อาศัยเมื่อกว่าสองถึงสามร้อยปีมาแล้ว ต่อมาในช่วง 50-80 ปีให้หลัง ผู้คนส่วนหนึ่งของชุมชนบ้านบากันใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงได้ อพยพกันไปทำมาหากินอยู่ที่เกาะตะรุเตา เช่น ทำสวนยางพารา สวนทุเรียน ปลูกข้าวไร่ สวนมะพร้าว ทำประมง หลังจากที่เกาะตะรุเตาถูกยกเลิกการขังนักโทษทางการเมือง แต่ไม่นานชาวบ้านก็ถูกให้ออกจากพื้นที่ เนื่องจากจะมีการขึ้นทะเบียนเกาะตะรุเตาเป็นอุทยานแห่งชาติ

บ้านบากันใหญ่เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่บนเกาะมีทะเลล้อมรอบ ในอดีตพื้นที่แห่งนี้มีชื่อเดิมว่า เกาะอีโปะ ซึ่งที่มาของชื่อนี้มาจากต้นไม้ขนาดใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ชุมชน คือ ต้นอีโปะ ด้วยขนาดที่ใหญ่มาก และมีความสูงเห็นได้ชัด ตั้งตระหง่านอยู่เหนือชายหาด ห่างจากชายฝั่งขึ้นมาระยะทางประมาณ 70 เมตร เป็นต้นที่ใหญ่ที่สุดของเกาะ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของมัสยิดอัชชากีรีน ชาวบ้านมีความเชื่อที่เล่าสืบต่อกันมาถึงความศักดิ์สิทธิ์ของต้นไม้ต้นนี้ และเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นให้ผู้คนได้เห็น ด้วยสมัยก่อนการสัญจรไปมาของผู้คนใช้เรือที่ไม่มีเครื่องยนต์ เช่น เรือแจว เรือใบ เรือเฉียง ผู้คนต่างถิ่นที่มาจากจังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล เพื่อทำการแสดงในพื้นที่เกาะต่าง ๆ ที่มีผู้คนอยู่อาศัย เช่น คณะมโนราห์ รองแง็ง ลิเกบก หนังตะลุง เมื่อคณะการแสดงเหล่านี้ผ่านมาที่ชุมชนบ้านบากันใหญ่ ถ้าคณะการแสดงคณะไหนไม่ขึ้นมาทำการแสดงที่หน้าชายหาด หรือขอขมาในการผ่านจะมีอันเป็นไปต่าง ๆ เช่น มีพายุใหญ่ เจ็บไข้ได้ป่วย ปวดท้องอย่างรุนแรง จนทำให้ไปทำการแสดงที่อื่นไม่ได้ทุกคณะ ทำให้เป็นที่เล่าขานของผู้คนในสมัยนั้น ปัจจุบันต้นไม้ต้นนี้ได้ตายไปจากพื้นที่กว่าร้อยปีแล้ว 

ผู้คนในสมัยก่อนเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัยเป็นชุมชนแถบบริเวณบ้านบากันใหญ่โดยเข้ามาทำอาชีพต่าง ๆ ที่หลากหลาย เช่น ประมง ดักสัตว์ ทำไม้เผาถ่าน มีทั้งคนจีน คนพุทธ และมุสลิม ในการมาอยู่อาศัยตั้งถิ่นฐานและการประกอบอาชีพในสมัยนั้น จะมีเฒ่าแก่มาตั้งหลุมถ่าน หรือฉะเหลียว ซึ่งเป็นที่ทำไม้ขนาดใหญ่ และเป็นอาชีพหนึ่งในสมัยนั้นที่ผู้คนได้ยึดเป็นอาชีพที่เลี้ยงครอบครัว เนื่องจากเฒ่าแก่ที่เป็นคนจีนได้ทำการสัมปทานป่าไม้มาจากภาครัฐ ซึ่งการทำไม้ในสมัยนั้นเลยไม่ผิดกฎหมาย และปัจจุบันได้ยกเลิกสัมปทานไปแล้ว นอกจากการทำป่าไม้แล้วนั้น ด้วยสภาพภูมิศาสตร์เชิงพื้นที่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะมีวิถีชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับท้องทะเล คือ การทำประมงชายฝั่ง การทำประมงพื้นบ้าน ซึ่งยังคงเป็นอาชีพที่อยู่คู่กับชุมชนมาจนถึงปัจจุบัน 

ด้วยเหตุที่ว่าชุมชนแห่งนี้เป็นพื้นที่ทำสัมปทานไม้มาก่อน ที่มาของชุมชนจึงมาจากภาษาท้องถิ่นที่เกี่ยวเนื่องกับอาชีพการแปรรูปไม้ โดยการใช้ภาษาของผู้คนในชุมชนบ้านบากันใหญ่ มีการใช้ทั้งภาษามลายู ภาษาไทย และภาษาจีน แต่การใช้ภาษามลายูมีมากที่สุด เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากประเทศมาเลเซีย เพราะเมื่อก่อนแถบนี้เป็นดินแดนของประเทศมาเลเซีย มีการใช้คำว่า มามันบาซาก เป็นภาษามลายู ซึ่งแปลว่าที่ทำไม้ขนาดใหญ่ ภาษาไทยเรียกกันว่าหลุมถ่าน หรือเหลียว แปลว่าที่ทำไม้เช่นเดียวกัน แต่คนในพื้นที่ชอบเรียกกันเป็นภาษาไทยว่า บาฆันใหญ่จนติดปาก และเรียกต่อกันมา ภายหลังจึงได้เพี้ยนเป็นบากันใหญ่ และใช้เป็นชื่อชุมชนในปัจจุบัน

บ้านบากันใหญ่ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ชุมชนตั้งอยู่บนเกาะสาหร่าย ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 15 กิโลเมตร เกาะสาหร่ายเป็นเกาะรูปวงรี ตั้งอยู่กลางทะเล ประกอบด้วยสามหมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 บ้านตันหยงอุมา อยู่ทางทิศเหนือของเกาะ หมู่ที่ 2 บ้านบากันใหญ่อยู่ทางทิศตะวันตก และหมู่ที่ 3 บ้านตันหยงกลิงตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก โดยเกาะสาหร่ายเป็นเกาะอยู่ใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 4-5 กิโลเมตร การเดินทางเข้าสู่บ้านบากันใหญ่ต้องเดินทางได้ด้วยทางเรือ โดยมีท่าเรืออยู่ 3 ท่าเรือ คือ 1) ท่าเรือบ้านทุ่งริ้น ตำบลสาคร อำเภอท่าแพ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที 2) ท่าเรือบ้านเจ๊ะบิลัง ตำบลฉลุง อำเภอเมือง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 60 นาที และ 3) ท่าเรือบ้านบากันโต๊ะทิด ตำบลละงู อำเภอละงู ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 60 นาที

บ้านบากันใหญ่ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ประชากรในชุมชนอาศัยอยู่ร่วมกันแบบครอบครัว มีลักษณะความเป็นเครือญาติสูง และเป็นประชากรที่อยู่ในกลุ่มวัฒนธรรมมุสลิม โดยมีสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 2 บ้านบากันใหญ่ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 252 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 120 คน ประชากรหญิง 132 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 67 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)

บ้านบากันใหญ่ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ประชากรในชุมชนมีอาชีพหลักดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต คือ การทำเกษตรกรรมและการทำประมงพื้นบ้าน การทำเกษตรกรรมในอดีต ชาวบ้านจะทำนาดำ ทำนาปี โดยมีการไถนาด้วยควายที่เลี้ยงไว้ตามวิถีชีวิตในอดีต แต่มาในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ทำให้ไม่มีการทำนาในพื้นที่เกาะแห่งนี้ แต่จะคงเหลือพื้นที่ทำเกษตรกรรมพืชชนิดอื่น เช่น การทำสวนมะพร้าว และสวนยางพารา อาชีพการทำประมงพื้นบ้านหรือประมงชายฝั่ง เป็นอีกหนึ่งอาชีพดั้งเดิมที่อยู่คู่ชุมชนมาตั้งแต่อดีต โดยได้รับการฝึกฝนทักษะ และการถ่ายทอดภูมิปัญญาการทำประมงมาจากรุ่นสู่รุ่น มีการใช้เครื่องมือ และวิธีการที่แตกต่างหลากหลายตามฤดูกาล ชนิดของสัตว์ และความเหมาะสม ทั้งการใช้อวนปู ลอบปู อวนปลา โป๊ะน้ำตื้นหรือหลาด การลากเบ็ดและการตกเบ็ด การใช้ปาโตะในการจับหอย เช่น หอยหวาน การแกะหอยนางรม เป็นต้น 

ปัจจุบันชุมชนบ้านบากันใหญ่ เป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยอาศัยทุนเชิงพื้นที่ คือทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนพื้นที่เกาะและทางทะเล เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้คนที่สนใจได้เข้ามาสัมผัสถึงวิถีชีวิต ความงดงามของธรรมชาติ และกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ โดยการท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้คนในท้องถิ่น ทั้งด้านการค้า การบริการ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ช่วยสร้างอาชีพเสริมให้สมาชิก มีบริการบ้านพักโฮมสเตย์ บริการเรือเช่าเหมาลำ บริการมัคคุเทศก์ และรับประทานอาหารจากฝีมือกลุ่มแม่บ้านในชุมชน ลดปัญหาการออกไปรับจ้างภายนอก และนอกจากนี้ทางชุมชนยังมีกลุ่มออมทรัพย์ที่มีการปันผลเพื่อใช้ในกิจกรรมและแบ่งปันแก่ผู้ด้อยโอกาส

ในอดีตชุมชนบ้านบากันใหญ่เป็นชุมชนขนาดเล็ก เดิมมีครัวเรือนอยู่ประมาณ 50 ครัวเรือน มีประชากรประมาณ 200-250 คน ซึ่งประชากรในชุมชนจะนับถือศาสนาอิสลาม และด้วยเป็นพื้นที่เกาะที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางไปมาระหว่างแผ่นดินใหญ่ ทำให้เกิดความยากลำบากในการสัญจร และในการเดินทางติดต่อค้าขายกับคนภายนอกทำให้ผู้คนอพยพย้ายออกจากพื้นที่ คนจีน คนพุทธ และมุสลิมบางส่วนจึงย้ายออกไป จนทำให้เป็นชุมชนเล็ก ๆ และเป็นชาวมุสลิมที่ยังคงเหลืออยู่ทั้งหมด และที่เป็นตระกูลใหญ่อยู่ในพื้นที่ คือ ตระกูลสันโด และด้วยพื้นฐานความเป็นชุมชนอิสลามดั้งเดิม ทำให้ประชากรในชุมชนอยู่อย่างเครือญาติพี่น้อง เป็นสังคมเอื้ออาทร มีการช่วยเหลือเกื้อกูล และแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ อยู่ร่วมกันอย่างสันติ 

บ้านบากันใหญ่เป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ตามลักษณะของความเป็นวิถีแห่งอิสลาม และชุมชนบนหมู่เกาะ คือการดำรงชีวิตที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลในการดำรงชีพ และมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามหลักคำสอนของศาสนา ตามความเชื่อของคนในชุมชนที่นับถือสืบทอดกันมา การใช้ชีวิตตามวิถีของชุมชนอิสลามยึดตามหลักคำสอนที่ถือปฏิบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และหลักการสอดคล้องกันระหว่างข้อบัญญัติของศาสนากับกฎหมายตามระบอบประชาธิปไตย มีการประกอบพิธีกรรมที่ชัดเจน เช่น การละหมาดประจำวัน การละหมาดในวันศุกร์ การถือศีลอด การออกบวชหรือการละศีลอดวันสำคัญ ปีละ 2 ครั้ง คือ วันอีดิลฟิตรี กับวันอีดิลอัฎฮา (วันฮารีรายอ) เปรียบเสมือนวันปีใหม่ของชาวมุสลิมมีการเฉลิมฉลองกันตามวัฒนธรรมดั้งเดิม โดยมีมัสยิดประจำชุมชนเป็นศูนย์รวมศรัทธาและศูนย์กลางทางความเชื่อ

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

บ้านบากันใหญ่ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ชุมชนมีต้นทุนที่สำคัญในพื้นที่คือต้นทุนของทรัพยากรธรรมชาติ โดยทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่มีความหลากหลายทั้งบนบกและในทะเล มีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ป่าชายเลน ท้องทะเลมีความสวยงาม และทรัพยากรสัตว์น้ำที่หลากหลาย ด้วยเหตุนี้จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการท่องเที่ยวภายในพื้นที่ชุมชน ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับการท่องเที่ยวบ้านบากันใหญ่ คือ "ทะเลแหวกสันหลังมังกรแดง" ในช่วงน้ำลงจะมองเห็นสันทรายกรวดสีแดงจากฝั่งทอดยาวลงไปในทะเล ลักษณะคล้ายมังกร ยาวประมาณ 150 เมตร ส่วนหัวมังกรขนาบอยู่บนเกาะ ลำตัวและหางคดเคี้ยวพลิ้วไหวลงไปตามสายน้ำ ขนาบข้างด้วยต้นลำพูอายุกว่า 100 ปี เหมือนเราได้ยืนอยู่บนสันหลังมังกร ซึ่งการท่องเที่ยวในพื้นที่ชุมชนเกาะสาหร่าย บ้านบากันใหญ่ จะเป็นการท่องเที่ยวชิงนิเวศ พร้อมทั้งมีการอนุรักษ์พื้นที่ทางธรรมชาติเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย

โดยมีกลุ่มเยาวชนรักษ์บ้านเกิดบ้านบากันใหญ่ เป็นกลุ่มเยาวชนเรียนรู้งานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนอกระบบการศึกษา อายุ 6-12 ปี บนเกาะสาหร่าย จังหวัดสตูล ก่อตั้งขึ้นจากสนับสนุนของผู้นำชุมชน ซึ่งในอดีตพื้นที่ชุมชนมีปัญหาการทำประมงเชิงทำลายล้างทำให้สัตว์น้ำร่อยหรอ จึงเกิดแนวความคิดที่จะทำให้สัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้นโดยวิธีธรรมชาติแบบชาวบ้าน เป็นการทำงานผ่านเครือญาติ และใช้หลักศาสนาอิสลามสร้างกิจกรรมอนุรักษ์ด้วยการดึงลูกหลานให้เข้ามามีส่วนร่วม มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี มีทะเลเป็นโรงเรียน มีกระบวนการเรียนรู้ จากรูปธรรมของทรัพยากรในชุมชน ทะเล ต้นไม้ ปลา ปู ฯลฯ มีกิจกรรมการปลูกป่าชายเลน การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ปลูกปะการัง ทำบ้านปู โรงแรมปลา ศาลาหมึก ธนาคารปลิง สหกรณ์หอยร้อยชนิด เก็บขยะหน้าหาด มีโซนหญ้าทะเลหน้าบ้านประมาณ 1,000 ไร่ เพื่อเพิ่มอาหารให้พะยูน การใช้หญ้าทะเลเทียมให้หมึกวางไข่ ส่งผลให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องออกเรือไปหากินที่ไกลจากชุมชนมากนัก และลดค่าใช้จ่ายอย่างค่าน้ำมัน กลุ่มเยาวชนรักษ์บ้านเกิดบ้านบากันใหญ่ มีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรในพื้นที่ที่หลากหลาย โดยความร่วมมือของชุมชน องค์กรภายนอก และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรท่องถิ่นเพื่อรักษาระบบนิเวศด้วย ตัวอย่างกิจกรรม ได้แก่

กิจกรรมปลูกป่าชายเลน ทางกลุ่มและชุมชนจะจัดกิจกรรมทุกปี ปีละประมาณ 20 ครั้ง ร่วมกับผู้ใหญ่ในชุมชนและภาคีต่าง ๆ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ วิทยาเขตปัตตานี และนักท่องเที่ยว เป็นต้น 

จัดทำคอกอนุรักษ์เห็ดหลุบ ซึ่งเป็นดอกไม้ทะเลชนิดหนึ่ง การปลูกปะการังเพื่อฟื้นฟูและขยายพันธุ์จากปะการังที่หัก โดยการปลูกจะใช้ท่อพีวีซีมาต่อกันเป็นตารางสี่เหลี่ยมขนาด 1x1 เมตร มี 4 แถว แต่ละแถวเจาะรู 8 รู นำปะการังที่หักท่อนเล็ก ๆ ใส่ในรูแล้วขันนอตแล้วนำไปวางในทะเล เพื่อให้ปะการังฟื้นตัว ดำเนินการระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี ปีละประมาณ 4 ครั้ง โดยปะการังจะงอกปีละ 2 เซนติเมตร จะพบปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ดอกไม้ทะเล ปะการังจาน สมองใหญ่ รังผึ้ง ฟองน้ำ (แดง ดำ เขียว ม่วง เทา) เป็นต้น 

จัดทำแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ เพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำ ได้แก่

  • "โรงแรมปลา" เป็นการทำ "ซั้ง" ในทะเลหน้าบ้านด้วยการใช้เศษวัสดุ เช่น ยางรถยนต์ เศษไม้ เป็นต้น
  • "ศาลาหมึก" ด้วยการนำใบมะพร้าวหรือทางมะพร้าวผูกติดกันเป็นแพไปลอยบนผิวน้ำ เป็นแนวคิดที่เกิดจากการสังเกตธรรมชาติของหมึกทะเล ที่ชอบวางไข่ติดกับเศษวัสดุต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำ
  • "สหกรณ์หอย" นำหอยตัวเล็กที่ติดมากับการทำประมงหลายชนิด ซึ่งขายไม่ได้ราคามาเลี้ยงให้โต โดยฝากไว้กับ "สหกรณ์" (คอกอนุรักษ์) เพื่อเป็นที่ขยายพันธุ์ เมื่อลูกหอยโตเต็มที่จึงเก็บมาจำหน่ายเป็นรายได้ของสมาชิก
  • "ธนาคารปลิง" รวบรวมลูกปลิงหลากหลายสายพันธุ์ มาฝากไว้กับธนาคารปลิง (คอกอนุรักษ์) เพื่อขยายพันธุ์
  • "บ้านปู" ได้แรงบันดาลใจจากการไปศึกษาดูงานที่บ้าน "นายจาง ฟุ้งเฟื่อง" (จังหวัดชุมพร ผลงานประเภทบุคคลปี 2558) แล้วนำมาประยุกต์ใช้ โดยขอบริจาคปูไข่นอกกระดองที่ชาวบ้านจับได้มาดูแลจนเป็นตัวและนำคืนสู่ทะเล ส่วนแม่ปูนำไปขายเพื่อปันรายได้ใช้ในกิจกรรมงานอนุรักษ์ของชุมชน

กิจกรรมอนุรักษ์หญ้าทะเลประมาณ 1,000 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งอาหารของพะยูน จากการสำรวจพบว่ามีหญ้าทะเล 9 ชนิด กลุ่มเยาวชนทดลองขยายพันธุ์ปลูก 4 ชนิด ได้แก่ หญ้าคาทะเล หญ้าชะเงา หญ้าใบมะกรูด หญ้าใบมะกรูดแคระ นอกจากนี้ เริ่มมีหอย ปู ปลา เข้ามาอาศัย

ในปี 2565 มีการจัดทำหญ้าทะเลเทียม ในพื้นที่ 1 ไร่ โดยชาวบ้านคิดค้นวิธีการเอง ด้วยการตัดขวดน้ำประมาณครึ่งขวด ละลายปูนและดิน แล้วใส่เชือกยาว 80 เซนติเมตร วางไว้ให้แข็งตัว 1 วัน แล้วนำไปวางในพื้นที่ที่กันเขตไว้ โดยเลือกพื้นที่มีดินเลนเป็นวังปลา ซึ่งจะพบหอยชักตีน ปูม้า ปูไม้ขีด หมึกสาย ปลาวัว มาวางไข่

การดำเนินการต่าง ๆ ของกลุ่มเยาวชนรักษ์บ้านเกิดบ้านบากันใหญ่ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องและเห็นผลอย่างเป็นประจักษ์ ทำให้ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 21 ประเภทกลุ่มเยาวชน (สถาบันลูกโลกสีเขียว, 2566)

การใช้ภาษาของผู้คนในชุมชนบ้านบากันใหญ่ ในอดีตมีการใช้ทั้งภาษามลายู ภาษาไทย และภาษาจีน แต่การใช้ภาษามลายูมีมากกว่า เพราะได้รับอิทธิพลจากประเทศมาเลเซีย

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ชุมชนบ้านบากันใหญ่มีพะยูนที่อยู่กับคนในชุมชนมาตั้งแต่อดีต ด้วยการล่าของชาวประมงและเครื่องมือที่เป็นอันตรายต่อพะยูน ทำให้พะยูนได้ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว และใกล้ที่จะสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่ ด้วยความสำคัญของพะยูนประกอบกับพะยูนที่เป็นสัตว์ทะเลหายากชนิดหนึ่ง จึงได้มีการดูแลเป็นพิเศษ และได้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของภาครัฐ เช่น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานประมงจังหวัดสตูล เพื่อดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์พะยูนร่วมกันกับส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงทำให้ลดอัตราการตายของพะยูนอย่างได้ผล พะยูนจึงเป็นประเด็นสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้กลุ่มรักษ์บากันใหญ่ต้องจัดการ เพื่อเป็นการจูงใจให้กับนักท่องเที่ยวที่อยากศึกษาวิถีชีวิตของพะยูน และแนวทางการอนุรักษ์พะยูนบ้านบากันใหญ่ หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล สถานภาพของพะยูนในประเทศไทย อาจกล่าวได้ว่าในอดีตประเทศไทยมีพะยูนอาศัยอยู่มากทั้งสองฝั่งทะเล แต่ในปัจจุบัน พบว่ามีพะยูนกลุ่มเล็กๆ แพร่กระจายทางฝั่งทะเลอันดามันจาก จังหวัดระนองถึงจังหวัดสตูล ประชากรพะยูนฝูงใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีแหล่งหากินอยู่บริเวณเกาะตะลิบง-เกาะมุกด์ จังหวัดตรัง สำหรับฝั่งอ่าวไทยเคยมีการพบพะยูนใน จังหวัดตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันสถานการณ์พะยูนในประเทศไทยมีความเสี่ยง เนื่องจากมีจำนวนพะยูนลดลงอย่างต่อเนื่อง จากสภาพปัญหาทางสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ สภาวะโลกร้อนซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของพะยูน และหญ้าทะเลที่เป็นอาหารที่ลดน้อยลงเป็นอย่างมาก

รมหยัน บุญตาหา. (2556). โครงการแนวทางการอนุรักษ์พะยูน บ้านบากันใหญ่ หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล: รายงานฉบับสมบูรณ์. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (ม.ป.ป.). ชุมชนท่องเที่ยวบ้านบากันใหญ่. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2568, จาก https://thai.tourismthailand.org/Attraction/

สถาบันลูกโลกสีเขียว. (2566). ผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียว. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2568, จาก https://www.greenglobeinstitute.com/Frontend/Content.

CBT Thailand. (ม.ป.ป.). ชุมชนท่องเที่ยวบ้านบากันใหญ่. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2568, จาก https://cbtthailand.dasta.or.th/

บากัน รีสอร์ท บ้านบากันใหญ่. (2565). รูปภาพบากัน รีสอร์ท บ้านบากันใหญ่. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/profile.php

บากัน รีสอร์ท บ้านบากันใหญ่. (2566). รูปภาพบากัน รีสอร์ท บ้านบากันใหญ่. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/profile.php

บากันใหญ่โฮมสเตย์สตูล. (2566). รูปภาพบากันใหญ่โฮมสเตย์สตูล. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/chanabandit/

อบต.เกาะสาหร่าย โทร. 0 7475 0905