Advance search

บ้านแม่กาษา ชุมชนเก่าแก่ มีศาลเจ้าแม่อุษาและวัดแม่กาษาเป็นศูนย์รวมจิตใจ อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ชาวบ้านมีความสามัคคี และภูมิปัญญาท้องถิ่น

หมู่ที่ 2
แม่กาษา
แม่กาษา
แม่สอด
ตาก
อบต.แม่กาษา โทร. 0 5503 0154
ญาณิศา ลาภลิขิต
8 มิ.ย. 2025
ปัญญา ไวยบุญญา
24 ก.ค. 2025
วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
8 มิ.ย. 2025
บ้านแม่กาษา

เล่ากันว่า มีครอบครัวเศรษฐีจากบ้านแม่วัง อำเภอสามเงาประวัติของหมู่บ้านแม่กาษานั้นบันทึกโดยองค์การบริหารส่วนตำบลแม่กาษา ระบุว่าแม่กาษาเป็นชื่อที่มาจากตำนานที่เล่าขานมากกว่า 100 ปีที่ผ่านมา กล่าวคือ มีครอบครัวเศรษฐีที่สามีภรรยามีลูกสาว 2 คน ชื่อนางบัวเหลียวและนางอุษา อาศัยอยู่ที่บ้านแม่วัง ตำบลวังหมั่น อำเภอสามเงา จังหวัดตาก แม้จะมีความร่ำรวยแต่ครอบครัวกลับไม่มีความสุข จนฝ่ายผู้เป็นแม่เสียชีวิตไป ทำให้ 3 คน พ่อลูกตัดสินใจหาที่อยู่ใหม่ และวางแผนเดินทางไปพม่าทั้งหมดพร้อมบริวารเดินทางด้วยช้าง แต่มีเหตุสลดใจเมื่อนางบัวเหลียวเกิดพลัดตกจากคอช้างเสียชีวิต ทำให้บริเวณนั้นมีชื่อตามตำนานว่าม่อนเหลียว การเดินทางของสองพ่อลูกและคณะต่อไปยังดอยหลวงที่เบื้องล่างมีปางควายอยู่ ซึ่งเป็นที่พักแรมของพ่อค้าวัวควายในสมัยนั้น จึงทำให้มีบ้านเรือนบางส่วนตั้งรกรากอยู่ เนื่องด้วยมีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ ทำให้เศรษฐีผู้นั้นต้องการสำรวจเส้นทาง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการคนเฝ้าทรัพย์สิน เศรษฐีผู้นั้นคิดอุตริว่าต้องการคนตายหรือผีมาเฝ้าซึ่งจะทำให้คนกลัว แต่ไม่มีข้าทาสบริวารคนใดเสียสละ แต่ลูกสาวของเขากลับยอมเป็นผู้เสียสละ ทำให้เศรษฐีผู้นั้นใช้ดาบฟันนางอุษาถึงแก่ความตาย ด้วยความโศกเศร้าที่ลูกสาวยอมเสียชีวิต จึงได้ตั้งชื่อถ้ำบริเวณนั้นว่า "ถ้ำแม่อุษา" ซึ่งติดอยู่กับลำห้วยแม่กาษา ต่อมานางอุษาเมื่อเสียชีวิตแล้วได้กลายเป็นเจ้าแม่เฝ้าถ้ำบริเวณปางควาย ซึ่งก็ถือชื่อหมู่บ้านแม่กาษาและชุมชนได้สร้างศาลเจ้าแม่อุษาไว้ใกล้กับน้ำพุร้อนใกล้กับถ้ำแม่อุษา


ชุมชนชนบท

บ้านแม่กาษา ชุมชนเก่าแก่ มีศาลเจ้าแม่อุษาและวัดแม่กาษาเป็นศูนย์รวมจิตใจ อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ชาวบ้านมีความสามัคคี และภูมิปัญญาท้องถิ่น

แม่กาษา
หมู่ที่ 2
แม่กาษา
แม่สอด
ตาก
63110
16.87475
98.62387
องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กาษา

บ้านแม่กาษา ตั้งอยู่ในตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับตำนานท้องถิ่นและการตั้งถิ่นฐานของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ชื่อ "แม่กาษา" มาจากลำห้วยที่ไหลผ่านหมู่บ้านซึ่งเกี่ยวโยงกับตำนาน "ถ้ำแม่อุษา" เล่ากันว่าครอบครัวเศรษฐีจากบ้านแม่วังเดินทางไปพม่าและสูญเสียลูกสาวชื่อ "นางอุษา" ในถ้ำบริเวณนั้น ทำให้ถ้ำถูกเรียกว่า "ถ้ำแม่อุษา" และลำห้วยใกล้เคียงได้ชื่อว่า "แม่กาษา" ตามไปด้วย ต่อมาชาวบ้านจึงนำชื่อดังกล่าวมาเรียกเป็นชื่อหมู่บ้าน ชุมชนบ้านแม่กาษาเริ่มก่อตั้งในช่วงประมาณ พ.ศ. 2400 โดยมีผู้คนจากภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอและชาวเมียนมาที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานถาวร ปัจจุบันบ้านแม่กาษาพัฒนาเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีการแบ่งหมู่บ้านเพิ่มเติม เช่น หมู่ 16 บ้านแม่กาษานุสรณ์ ที่แยกออกจากหมู่ 2 เดิมในปี พ.ศ. 2546 เพื่อรักษารากเหง้าของชุมชน วัดแม่กาษา ซึ่งก่อตั้งราว พ.ศ. 2424 ยังเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของชาวบ้าน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น ถ้ำแม่อุษาและน้ำพุร้อนแม่กาษา ซึ่งยังคงรักษาเอกลักษณ์ของชุมชนไว้จนถึงปัจจุบัน

บ้านแม่กาษา หมู่ 2 ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีลักษณะภูมิประเทศที่ราบลุ่มระหว่างภูเขา เป็นพื้นที่ราบเชิงเขา เหมาะแก่การทำการเกษตร โดยบ้านแม่กาษา ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านแม่กาษาใหม่ไหล่ท่า หมู่ที่ 13 และ หมู่ 16 บ้านแม่กาษานุสรณ์
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านแม่กื๊ดสามท่า หมู่ที่ 5
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ป่าสงวนแห่งชาติแม่ละเมา
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านแม่กื้ดใหม่สามท่า หมู่ 8

สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม

1.ศาลเจ้าแม่อุษา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านแม่กาษาให้ความเคารพนับถืออย่างลึกซึ้ง โดยมีความเชื่อผูกพันกับตำนานพื้นบ้านที่เล่าขานสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ตามตำนาน เจ้าแม่อุษาเป็นพระธิดาของเจ้าเมืองฉอด ซึ่งปกครองเมืองในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2314 สมัยกรุงธนบุรี เมื่อพม่ายกทัพมาตีเมือง เจ้าเมืองจึงมอบหมายให้เจ้าพ่อพะวอ ซึ่งเป็นขุนศึกและบุตรเขย พร้อมไพร่พล พาเจ้าแม่อุษาและทรัพย์สมบัติบางส่วนอพยพออกจากเมืองฉอด โดยหลบหนีผ่านแนวเขาไปทางเมืองตาก การเดินทางกินเวลานานหลายเดือน ท่ามกลางความลำบากและการสู้รบกับทัพพม่าที่ไล่ตามมา ระหว่างทางได้หยุดพักที่บริเวณดอยหลวง ซึ่งมีบ่อน้ำเย็นและน้ำพุร้อน เจ้าแม่อุษาซึ่งตั้งครรภ์ได้คลอดบุตรที่นั่น เจ้าพ่อพะวอพบถ้ำขนาดใหญ่จึงให้เจ้าแม่อุษาและคณะเข้าไปหลบซ่อน พร้อมปิดปากถ้ำไว้ ต่อมาเจ้าแม่อุษาเสียชีวิตในถ้ำนั้น ด้วยแรงศรัทธาและความเคารพ ชาวบ้านจึงตั้งศาลขึ้น ณ สถานที่ดังกล่าว และเรียกชื่อว่า "ศาลเจ้าแม่อุษา" เพื่อรำลึกถึงและสืบสานตำนานสู่ลูกหลานจนถึงปัจจุบัน

2.วัดแม่กาษา ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ 2 ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2424 โดยชาวบ้านและพระภิกษุร่วมกันจัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ขนาดเล็กเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และเรียกตามชื่อหมู่บ้าน ต่อมาได้มีพระจากที่อื่นเข้ามาจำพรรษา และสร้างเสนาสนะเพิ่มเติม วัดมีพื้นที่ประมาณ 11 ไร่ 3 งาน 3 ตารางวา มีพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ พระพุทธรูปหินอ่อนจากพม่า และเจดีย์เก่าแก่ที่อยู่คู่กับวัดมากว่า 111 ปี จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2553 คณะกรรมการวัดและชาวบ้านจาก 5 หมู่บ้านร่วมกันริเริ่มสร้างพระเจดีย์มหามงคลองค์ใหม่ โดยใช้รูปแบบจากพระธาตุหริภุญชัย มีการวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 15 เมษายน 2553 และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพร้อมสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ในวันที่ 7 มีนาคม 2555 รวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 2 ปี 10 เดือน 5 วัน โดยได้รับแรงสนับสนุนจากชาวบ้านแม่กาษา ผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศ และรายได้จากการทอดกฐินและผ้าป่า ปัจจุบันวัดแม่กาษาเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนและมีบทบาทสำคัญทั้งทางศาสนาและวัฒนธรรมของท้องถิ่น

3.ศาลหลักเมืองบ้านแม่กาษา ศาลหลักเมืองบ้านแม่กาษาเดิมนั้นตั้งอยู่บ้านโพธิ์เงิน หมู่ที่ 14 นับมาเป็นเวลาร้อยปีแล้ว ซึ่งเป็นสถานที่เก่าแก่และเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านแม่กาษาทั้ง 5 หมู่บ้าน ตั้งแต่รุ่น ปู่ ย่า ตา ยาย มาเป็นเวลายาวนานแล้ว ต่อมาหมู่บ้านแม่กาษาเจริญเติบโตขึ้นตามลำดับรวมทั้งจำนวนประชากรหนาแน่นขึ้น จึงทำให้สถานที่ดังกล่าวคับแคบไม่สะดวกในการสัญจรไปมา เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2550 นายดำ พูลมา กำนันตำบลแม่กาษา ได้ประชุมและประชาคมชาวบ้านเพื่อขอสถานที่สาธารณประโยชน์ของบ้านแม่กาษาหมู่ที่ 2 (บริเวณทางเข้าหมู่บ้านตรงข้ามสุสานบ้านแม่กาษา) เพื่อสร้างอาคารศาลหลักเมือง ชาวบ้านทั้ง 5 หมู่บ้าน จึงตกลงร่วมกันว่า สถานที่ดังกล่าวเหมาะสมและเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของชาวบ้านและผู้พบเห็น ดังนั้น จึงได้พร้อมใจกันสร้างอาคารศาลหลักเมืองขึ้น นายดำ พูลมา กำนันตำบลแม่กาษา จึงได้ออกแบบและดำเนินการสร้างจนแล้วเสร็จใช้เวลาก่อสร้างรวม 11 เดือน โดยใช้งบประมาณจาก กองทุนแม่ของแผ่นดิน หมู่ที่ 2 และประชาชนได้ร่วมสมทบ วันที่ 7 เมษายน พ.. 2551 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 เวลา 09.00 . ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ โดยมีประธานฝ่ายสงฆ์ นำโดย พระครูปิยคุณวัตร์ เจ้าคณะอำเภอแม่สอด และพระครูพิมลอาภากร เจ้าอาวาสวัดแม่กาษา ประธานฝ่ายฆราวาส นำโดย นายก่อเกียรติ จุลพันธ์ นายอำเภอแม่สอด และนายดำ พูลมา กำนันตำบลแม่กาษา รวมทั้งฝ่ายปกครองชาวบ้านแม่กาษาร่วมกัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.. 2552 แรม 5 ค่ำ เดือน 5 เวลา 07.09 . ได้อัญเชิญเสาหลักเมืองซึ่งทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด และรูปปั้นเจ้าแม่อุษามาตั้งไว้ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.. 2552 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 6 ได้ทำพิธีบวงสรวงและพิธีมหาพุทธาภิเษก โดยมี นายเกียรติศักดิ์ โตมรศักดิ์ นายอำเภอแม่สอด เป็นประธานศาลหลักเมืองและศาลเจ้าแม่อุษานี้ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เคารพสักการะ และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นเพื่อชนรุ่นหลังได้สืบสานต่อไป

บ้านแม่กาษา โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากร หมู่ที่ 2 บ้านแม่กาษา ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 898 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 438 คน ประชากรหญิง 460 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 521 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนมกราคม 2568)

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

 

เดือน ชื่อกิจกรรม ระยะเวลา/วันที่ วัตถุประสงค์ ผู้เข้าร่วม ขั้นตอนการดำเนินงาน
มกราคม ประเพณีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ) มกราคม ของทุกปี แสดงความเคารพนับถือต่อผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน ผู้สูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี และชาวบ้านในชุมชน เชิญผู้สูงอายุในตำบลแม่กาษามาที่องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กาษา แล้วจัดกิจกรรมรดน้ำดำหัวและมอบของขวัญให้กับผู้สูงอายุ (ข้าวตอก ดอกไม้ น้ำส้มป่อยและเงิน)
  ประเพณีเดือนสี่จี่ข้าวหลาม ธันวาคม ถึง มกราคม สืบทอดประเพณีพิธีกรรมล้านนา ชาวบ้านในแต่ละหมู่บ้านตำบลแม่กาษา ชาวบ้านแต่ละครอบครัวจะนำข้าวหลามและข้าวเปลือก ไปที่วัด  
กุมภาพันธ์ การเลี้ยงผีปู่ย่า

กุมภาพันธ์ (เดือน 5 ตามความเชื่อของล้านนา) มิถุนายน (เดือน 9)

เพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษและเป็นการสร้างความสามัคคีให้กับคนในชุมชนและคนในครอบครัว ชาวบ้านในชุมชนและบุคคลในครอบครัว  
มีนาคม งานป่อย มีนาคม เพื่ออุทิศกุศลให้ผู้เสียชีวิต คนในชุมชน งานป่อย คือการทำบุญให้กับผู้ที่เสียชีวิต โดยทำบุญบ้านน้อยให้กับผู้เสียชีวิต
เมษายน ประเพณีรดน้ำดำหัว 15-16 เมษายน ของทุกปี แสดงความเคารพนับถือผู้เฒ่าผู้แก่ และขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกิน ชาวบ้านในชุมชน

วันที่ 15 เมษายน เข้าวัดทำบุญ หลังจากนั้นในแต่ละครอบครัวพากันไปรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนที่ตนเคารพนับถือ

วันที่ 16 เมษายน แต่ละครอบครัวจะพากันไปรดน้ำดำหัว  ผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนที่ตนเคารพนับถือ 

  การสงเคราะห์บ้าน 17 เมษายน ของทุกปี เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์นำสิ่งไม่ดีออกจากชุมชนและตัวเอง ชาวบ้านในชุมชน งานสงเคราะห์บ้านเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์นำสิ่งไม่ดีออกจากชุมชนและตัวเอง 
  สงเคราะห์ตนเอง วันที่ 25 เมษายนของทุกปี เป็นการสะเดาะเคราะห์นำสิ่งไม่ดีออกจากตัวเอง คนในครอบครัว งานสงเคราะห์ตนเองเป็นการสะเดาะเคราะห์นำสิ่งไม่ดีออกจากตัวเอง 
พฤษภาคม-ตุลาคม การทำการเกษตรของแต่ละครอบครัว พฤษภาคม-ตุลาคม เป็นช่วงเดือนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของคนในชุมชน ชาวบ้านในชุมชน เป็นช่วงที่ชาวบ้านเข้านา เข้าไร่ เพื่อเตรียมทำการเพาะปลูก
พฤศจิกายน-ธันวาคม การไหว้ศาลหลักเมืองใหม่ 28 ธันวาคม ของทุกปี สร้างความเป็นสิริมงคล คนในชุมชน ศาลหลักเมืองบ้านแม่กาษาของเดิมตั้งอยู่ที่หมู่ 14 และศาลหลักเมืองแห่งใหม่ตั้งอยู่ที่หมู่ บ้านแม่กาษา เป็นที่ยึดเหนียวจิตใจของคน และสร้างความสามัคคีให้กับคนในชุมชน
  การทำบุญก๋วยสลาก ตามที่กำหนดร่วมกัน อุทิศให้กับผู้เสียชีวิต คนในชุมชน การทำบุญก๋วยสลาก คือ การทำบุญอุทิศให้กับผู้เสียชีวิต 
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ทุนภูมิปัญญาอาหารพื้นบ้าน

อาหารพื้นเมืองหลายอย่างที่ยังคงรักษาสืบทอดถึงปัจจุบัน เช่น ยำผีปู่ย่า เป็นอาหารที่ประกอบขึ้นหลังจากได้ใช้ไก่เป็นเครื่องไหว้ผีปู่ย่า มาปรุงรสเพิ่มเติมและกลายเป็นอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ ในปัจจุบันได้ทำกันอย่างแพร่หลายไม่ได้ทำเฉพาะหลังพิธีกรรมเท่านั้น

ยำผีปู่ย่า เป็นแกงชนิดหนึ่งที่มีเครื่องแกงไก่และผักเป็นองค์ประกอบหลัก วัตถุดิบที่นำมาใช้ประกอบเครื่องแกงทำจาก ข่าแก่ 1 ขีด ขมิ้นสด 1 หัว ใบมะกรูด 5 ใบ หอมแดง 3 หัว ตะไคร้ 1 ขีด เมล็ดผักชี 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 3 หัว พริกแห้ง 30 เม็ด และกะปิ 2 ช้อนโต๊ะ ไก่บ้าน 2 ตัว หัวปลีก 3 หัว ผักแพรว 1 ขีด ต้นหอม 1 ขีด ผักชี 1 ขีด และมะนาว 5 ลูก มีวิธีการทำเริ่มจาก ตำเครื่องแกง (ภาษาถิ่นเรียกพริกลาบ) โดยนำข่า มะข่วง หอมแดง กระเทียม เมล็ดผักชี พริกแห้ง ขมิ้น ตะไคร้ กะปิ มาโขลกให้ละเอียด ตั้งน้ำต้มไก่กับหัวปลีที่ทุบเอาแกนออกจนเปื่อยพร้อมและนำไก่ไปฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำเครื่องแกงมาปรุงรสน้ำต้มไก่ ใส่น้ำมะนาวตามชอบ โรยต้นหอมผักชี และใบมะกรูด

น้ำพริกน้ำปู๋ หรือน้ำปู น้ำปู๋เป็นน้ำพริกสำหรับกินกับผักจิ้ม มีวัตถุดิบสำหรับทำน้ำพริก ได้แก่ พริก 50 เม็ด กระเทียม 1 หัว พริกหยวก 5 เม็ด มะข่วง 1 หยิบมือ กะปิน้ำปู 1 ช้อนโต๊ะ และผงชูรส ครึ่งช้อนโต๊ะ ส่วนผักเคียงรับประทานกับหน่อไม้ ผักสด ผักต้ม วิธีการทำ นำพริกทั้ง 2 ชนิด มาคั่วให้สุกพร้อมกระเทียม แล้วมาโขลกพร้อมกันพร้อมกับมะข่วงและกะปิน้ำปู ปรุงรสตามชอบ จัดจานพร้อมผักที่เป็นเครื่องเคียงตามชอบ

ต้มกระดูกอ่อนส้มป่อย ส้มป่อยถือเป็นพืชที่นำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างทั้งด้านความเชื่อและการให้รถเปรี้ยวในการประกอบอาหาร วัตถุดิบ ที่นำมาใช้ได้แก่ เนื้อหมู 2 กิโลกรัม ยอดส้มป่อย 3 ขีด (ใส่ตามชอบ) ข่าแก่หันแว่น 1 ขีด หอมแดง 3 หัว กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 3 ลิตร ต้นหอม 1 ขีด และผักชี 1 ขีด วิธีการทำ ต้มน้ำให้เดือดใส่ข่าปรุงรสให้เรียบร้อย ใส่หมูต้มจนเปื่อยได้ที่ ใส่ยอดส้มป่อยลงไปต้ม นำหอมแดงลงไปต้มใส่ต้นหอมผักชีโรยหน้า

คั่วหน่อไม้ หน่อไม้อาหารตามฤดูกาลที่มีมากในช่วง ฤดูฝน วัตถุดิบ ที่ใช้มีเพียงไม่กี่ชนิดประกอบด้วย หน่อไม้ต้มนำมาฉีก พริกสด กระเทียม มะข่วง และหมูสามชั้น วิธีการทำ นำพริกสดมาตำใส่กระเทียมและมะข่วง น้ำหมูสามชั้นมาคั่วและใส่พริกที่ตำลงไปคั่ว นำหน่อไม้ที่ฉีกลงไปคั่ว และปรุงรส คั่วจนสุก ยกลงรับประทานได้

ขนมจีน ในอดีตแต่ละบ้านได้ทำขนมจีนไว้รับประทานกันเองในครัวเรือน มีวัตถุดิบเพียงข้าวและน้ำ มีวิธีการทำโดยนำข้าวสารไปแช่น้ำประมาณ 5 นาที แล้วนำมาใส่ตะกร้าโดยตะกร้านั้นจะรองด้วยใบตองพักทิ้งไว้ คืนหลังจากนั้นนำมาล้างน้ำและนำมาตำกับครกกระเดื่อง แล้วนำไปกรองโดยใส่ไว้ในย่ามให้น้ำหยดออกให้หมดเหลือแต่แป้ง แล้วนำแป้งทำเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำไปนึ่ง หลังจากนั้นก็นำไปตำ ตำให้ผสมกันอีกที และนำไปคั้น นำไปใส่ตะแกงและช่วยกันบีบออกมาเป็นเส้น

ขนมปาด ขนมปาดใช้ในเฉพาะงานบุญ งานมงคลเท่านั้น เป็นขนมที่ต้องใช้เวลานานในการกวนจึงต้องใช้ความร่วมมือกันในการทำขนมชนิดนี้ ทำจากวัตถุดิบเพียงไม่กี่ชนิด ได้แก่ แป้งข้าวเจ้า น้ำปูนใส กะทิ น้ำตาล และน้ำอ้อยวิธีการทำ นำน้ำปูนใสมาผสมกับแป้ง เติมนำกะทิ น้ำตาลและนำมาเคี่ยว เติมนำน้ำอ้อย มาเคี่ยว กวนด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง เมื่อกวนจนข้นและสุกแล้วจึงเทใส่ถาดเมื่อเย็นจะใช้มีดปาดเป็นชิ้น ๆ จึงเป็นที่มาของชื่อขนม

ขนมว้อง (ขนมวง) เป็นขนมเคลือบน้ำตาลลักษณะเป็นวงกลมมีรูตรงกลาง ทำจากวัตถุดิบ แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม มันเทศ 1 กิโลกรัม น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ งาดำ 1 ช้อนโต๊ะ กะทิ 50 มิลลิกรัม เกลือป่น 3 ขีด แป้งหมี่ 3 ขีด น้ำมันพืชสำหรับทอด 1.5 กิโลกรัม วิธีการทำ นำมันเทศที่ต้มสุกแล้วมานวดรวมกับแป้งข้าวเหนียวและแป้งหมี่ใส่น้ำตาลกะทิ เกลือป่น นวดให้เข้ากัน จากนั้นขึ้นรูปเป็นวงกลมพักไว้ ตั้งน้ำมันพืชให้ร้อนแล้วเริ่มทอดพอเหลือง ตั้งหม้ออีกใบใส่น้ำเล็กน้อย ใส่น้ำตาลและงาดำ จากนั้นนำขนมว้องที่ทอดเสร็จแล้วลงไปคลุกเคล้ากับน้ำตาล นำขึ้นพักไว้ให้เย็น

บ้านแม่กาษา หมู่ 2 ตำบลแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในเขตตำบลแม่กาษา มีการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันหลากหลายผ่านการพูด ภาษาถิ่นหรือคำเมือง และใช้ภาษาไทยกลาง ใช้เป็นภาษาราชการในการสื่อสารทั่วไป


ด้านการเกษตร ประชาชนในบ้านแม่กื๊ดสามท่า ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตร ได้แก่ การทำนา ทำไร่ ทำสวน นอกจากนี้ยังประกอบอาชีพ ค้าขายและรับจ้างทั่วไป

ด้านการประมง ประชาชนได้มีการเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นกลุ่ม และจับสัตว์น้ำจืดเพื่อยังชีพ พันธุ์ปลาที่พบและเลี้ยงในพื้นที่ ได้แก่ ปลานิล ปลายี่สกไทย ปลาไน ปลานวลจันทร์เทศ ปลาตะเพียน ปลาแรด ปลาทับทิม และปลาดุก

ด้านปศุสัตว์ ประชาชนมีการประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ในลักษณะเลี้ยงในครัวเรือนเป็นอาชีพหลัก และสำหรับเป็นอาชีพเสริม เช่น การเลี้ยงไก่ เป็ด โค สุกร กระบือ  

ด้านอุตสาหกรรม มีจำนวน 2 แห่ง คือ หจก.น้ำแข็งธารา ผลิตน้ำแข็ง และโรงน้ำดื่มไฮคราส

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กรมการปกครอง. (2567). ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2568. https://stat.bora.dopa.go.th

กระทรวงวัฒนธรรม. (2554). เจ้าอุษา "บุตรีเจ้าเมืองฉอด". ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2568. http://www.m-culture.in.th

ปัญญา ไวยบุญญา, ปนัดดา ลาภเกิน, ศศิธร โคสุวรรณ, ประภัสสร ยอดสง่า, อารมย์ จันทะสอน, บุญธิดา ม่วงศรีเมืองดี และ จรีพร นาคสัมฤทธิ์. (2563). ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและการใช้ประโยชน์จากป่าสักของชุมชน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ภายใต้แผนงานการจัดการและใช้ประโยชน์จากป่าสักอย่างยั่งยืนในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ.

ศศิธร โคสุวรรณ, ปนัดดา ลาภเกิน, บุญธิดา ม่วงศรีเมืองดี, อารมย์ จันทะสอน, ปัญญา ไวยบุญญา และ ประภัสสร ยอดสง่า. (2563). การสร้างฐานข้อมูลหมู่บ้านด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กาษา. (ม.ป.ป.). สถานที่สำคัญ วัดแม่กาษา จังหวัดตาก. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2568. https://www.maekasa.go.th

อบต.แม่กาษา โทร. 0 5503 0154