
เวียงหนองหล่ม เมืองโบราณที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าตำนาน “โยนกนาคพันธุ์” เมืองเก่าที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ร่องรอยโบราณสถานบนพื้นที่ลุ่มน้ำขนาดใหญ่ ด้วยวิถีชีวิตคนยอง ที่ยังคงอนุรักษ์ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างเหนียวแน่น
เวียงหนองหล่ม เมืองโบราณที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าตำนาน “โยนกนาคพันธุ์” เมืองเก่าที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ร่องรอยโบราณสถานบนพื้นที่ลุ่มน้ำขนาดใหญ่ ด้วยวิถีชีวิตคนยอง ที่ยังคงอนุรักษ์ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างเหนียวแน่น
ชุมชนเวียงหนองหล่ม เป็นพื้นที่โบราณสถานสำคัญที่ตั้งอยู่ในตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย มีความเกี่ยวข้องกับตำนานเมืองโยนก ซึ่งเป็นตำนานพื้นเมืองล้านนาที่บอกเล่าเรื่องราวของนครโยนกนาคพันธุ์ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งถิ่นฐานของกลุ่มชาวไทยเทศในดินแดนลุ่มแม่น้ำกก โดยมีผู้นำคือ "สิงหนวติกุมาร" ซึ่งตามตำนานได้อพยพมาตั้งบ้านเมืองขึ้นเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 12 และมีการอยู่อาศัยเรื่อยมาจนถึงราวพุทธศตวรรษที่ 17 ก่อนจะล่มสลายลงจากเหตุการณ์อาเพศที่กล่าวกันว่าเกิดจากการจับปลาไหลเผือกมาบริโภค จนนำไปสู่แผ่นดินไหวและการล่มสลายของบ้านเมืองในที่สุด
ชื่อเรียก "โยน" หรือ "ยวน" ซึ่งใช้เรียกกลุ่มชาติพันธุ์และแคว้นในบริเวณลุ่มน้ำกก สะท้อนร่องรอยของอารยธรรมที่มีอยู่ก่อนสมัยประวัติศาสตร์ โดยนักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีหลายท่านเชื่อว่า เมืองโยนกมิใช่เพียงเรื่องในตำนาน แต่เป็นเมืองที่เคยมีอยู่จริง ด้วยเหตุจากการเล่าเรื่องที่มีโครงสร้างชัดเจน การกล่าวพระนามกษัตริย์อย่างต่อเนื่อง และสภาพพื้นที่ที่เอื้ออำนวยต่อการตั้งถิ่นฐานในอดีต
เวียงหนองหล่มถือเป็นพื้นที่มีความเหมาะสมในการตั้งเมืองมาแต่โบราณกาล ด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นแอ่งที่ราบลุ่มระหว่างหุบเขา มีแม่น้ำสำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำจัน แม่น้ำคำ ลำน้ำแม่ทะ และแม่น้ำลัว ไหลหล่อเลี้ยงพื้นที่ตลอดปี อีกทั้งยังอยู่ในแนวรอยเลื่อนแม่จัน ซึ่งเป็นรอยเลื่อนมีพลัง โดย ดร.นวลศิริ วงศ์ทางสวัสดิ์ ได้เสนอว่า ความล่มสลายของเวียงโยนกในอดีต อาจสัมพันธ์กับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นตามแนวรอยเลื่อนดังกล่าว
พื้นที่เวียงหนองหล่มครอบคลุมหลายตำบลในอำเภอแม่จันและเชียงแสน ได้แก่ ตำบลจันจว้า ตำบลท่าข้าวเปลือก ตำบลจอมสวรรค์ และตำบลโยนก โดยมีการสำรวจพบโบราณสถานกว่า 70 แห่ง เช่น วัดพระธาตุดอยกู่แก้ว วัดป่าหมากหน่อ และวัดเก่ารอบหนองหล่ม ซึ่งล้วนสะท้อนการตั้งถิ่นฐานในสมัยล้านนา ยกเว้นกรณีพบกลองมโหระทึกบริเวณหนองเขียวที่สันนิษฐานว่าเก่าแก่ถึงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ (ราว 2,500–2,000 ปีมาแล้ว)
จากตำแหน่งที่ตั้งของเวียงหนองหล่ม จะเห็นได้ว่าอยู่ระหว่างเส้นทางเมืองเชียงรายและเมืองเชียงแสน โดยเฉพาะหากล่องแม่น้ำกกจากเมืองเชียงราย จะผ่านเวียงหนองหล่มก่อนเข้าสู่พื้นที่เมืองเชียงแสน พื้นที่แห่งนี้จึงมีความสำคัญในฐานะแหล่งผลิตอาหาร แหล่งหาปลา และพื้นที่เกษตรกรรมของเมืองเชียงแสนในอดีต
ตำนานเมืองเชียงแสนกล่าวถึงการสร้างเมืองใหม่โดยพระญาแสนภูบนพื้นที่เวียงเดิม ซึ่งอาจรวมถึงพื้นที่เวียงหนองหล่มไว้ด้วย แต่ยังไม่มีการค้นพบหลักฐานการตั้งถิ่นฐานก่อนสมัยล้านนาอย่างชัดเจนในเมืองเชียงแสน ทำให้เวียงหนองหล่มยังคงเป็นพื้นที่มีความสำคัญทางโบราณคดีและควรได้รับการศึกษาเพิ่มเติม
ในด้านการตั้งถิ่นฐานบริเวณตำบลจันจว้า ชุมชนเวียงหนองหล่มเริ่มมีประชากรเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ที่เป็นชาวไทลื้อ หรือ "คนยอง" ซึ่งอพยพมาจากจังหวัดลำพูนเป็นหลัก และมีกลุ่มย่อยที่อพยพมาจากจังหวัดเชียงใหม่ (เช่น บ้านป่าสักหลวง) และจังหวัดลำปาง (เช่น บ้านกิ่วพร้าว) โดยเลือกตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์และเอื้อต่อการดำรงชีพ
ภูมิประเทศของเวียงหนองหล่มสามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลัก คือ
- พื้นที่ด้านทิศตะวันออกของถนนพหลโยธินสายแม่จัน–เชียงแสน ซึ่งเป็นเนินเขาสูงต่ำสลับกัน มีแหล่งน้ำธรรมชาติหลายแห่ง และเป็นบริเวณที่พบโบราณสถานจำนวนมาก รวมถึงคูเมืองโบราณและวัดร้าง
- พื้นที่ด้านทิศตะวันตกของถนนพหลโยธิน เป็นที่ราบลุ่มมีแม่น้ำจันและแม่น้ำคำไหลผ่าน เหมาะแก่การทำนาและเพาะปลูก โดยชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม สืบทอดวิถีชีวิตตามภูมิปัญญาดั้งเดิม
เวียงหนองหล่มในปัจจุบัน จึงเป็นทั้งชุมชนเก่าแก่ที่มีความลึกซึ้งทางประวัติศาสตร์ และเป็นแหล่งอารยธรรมที่สืบทอดวัฒนธรรมไทลื้ออย่างเข้มแข็ง ทั้งในด้านภาษา เครื่องแต่งกาย ประเพณี และวิถีการดำเนินชีวิต ซึ่งล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงอันแนบแน่นระหว่างตำนานเมืองโยนกกับตัวตนของชุมชนในยุคปัจจุบัน
อาณาเขตติดต่อ ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับบ้านสันธาตุ ต.แม่คำ อ.แม่จัน บ้านด้ายและบ้านศรีบุญยืน ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ตั้งแต่หลักเขตที่ 1 บ้านหัวฝาย ตั้งริมฝั่งแม่น้ำคำและถือแม่น้ำคำ
- ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติด ต.ศรีดอนมูล
- ทิศใต้ จดหลักเขตที่ 1 ที่บ้านห้วยน้ำราก หมู่ 6 ซึ่งเป็นแนวเขต ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน นับจากเขตที่ 2 ที่บ้านห้วยน้ำราก หมู่ 9 ถึงเส้นแบ่งเขตตำบลท่าข้าวเปลือกเป็นหลัก ถึงหลักเขตที่ 3 ที่บ้านป่าถ่อน ต.จันจว้าใต้
พื้นที่ของชุมชนเวียงหนองหล่มครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล ใน 2 อำเภอ ได้แก่ ตำบล จันจว้า ตำบลท่าข้าวเปลือก ตำบลจอมสวรรค์ อำเภอแม่จัน และตำบลโยนกอำเภอเชียงแสน
มีลักษณะทางภูมิประเทศที่หลากหลายและส่งผลโดยตรงต่อรูปแบบการดำรงชีวิตและระบบเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่ โดยสามารถจำแนกได้เป็น 3 ลักษณะสำคัญ ดังนี้
- พื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำจันและแม่น้ำคำ พื้นที่ส่วนนี้จัดเป็นพื้นที่ราบมีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากได้รับน้ำหล่อเลี้ยงจากแม่น้ำจันและแม่น้ำคำ ซึ่งมีต้นกำเนิดจากแนวเทือกเขาสูงทางด้านตะวันตก พื้นที่บริเวณนี้จึงเหมาะสมต่อการเพาะปลูก โดยเฉพาะการทำนาข้าวที่สามารถทำได้ถึงปีละ 2 ครั้ง
- พื้นที่เนินเขาเตี้ยทางทิศตะวันออก พื้นที่เนินเขาเตี้ยทอดตัวยาวจากเขตอำเภอแม่จัน ผ่านเทศบาลตำบลจันจว้า และต่อเนื่องไปยังอำเภอเชียงแสน เทือกเขาในบริเวณนี้แม้ไม่สูงชัน แต่มีบทบาทสำคัญในการเป็นแนวป้องกันลมและเป็นต้นน้ำลำธารขนาดเล็กหลายสาย
- พื้นที่ชุ่มน้ำทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 10,000 ไร่ ประกอบด้วย หนองน้ำ ทุ่งหญ้า และป่าพรุน้ำจืด ซึ่งมีความสำคัญในฐานะระบบนิเวศพื้นถิ่น ชาวบ้านในพื้นที่เรียกบริเวณนี้ว่า “เมืองหนอง” หรือ “เวียงหนองหล่ม” เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและมีความเหมาะสมต่อการทำเกษตรกรรมแบบผสมผสาน
นอกจากนี้ บริเวณเวียงหนองหล่มยังตั้งอยู่ภายในแอ่งที่ราบระหว่างหุบเขา โดยมีแนวการวางตัวในแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ - ตะวันตกเฉียงใต้ มีความกว้างประมาณ 4 กิโลเมตร และความยาวประมาณ 19 กิโลเมตร จนถึงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ลักษณะภูมิประเทศโดยรอบถูกโอบล้อมด้วยแนวเทือกเขาทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ซึ่งมีระดับความสูงอยู่ในช่วงประมาณ 320 – 500 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง หรือประมาณ 200 เมตร จากพื้นที่ราบโดยรอบ
ปลายด้านทิศเหนือของแนวเทือกเขาทางทิศตะวันตกมีการเชื่อมต่อกับเทือกเขาพระธาตุผาเงา ซึ่งทำหน้าที่เสมือนแนวกำแพงธรรมชาติปิดล้อมพื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองเชียงแสน ส่งผลให้แอ่งเวียงหนองหล่มกลายเป็นพื้นที่รับน้ำโดยธรรมชาติ โดยทางด้านทิศใต้มีลำน้ำแม่ทะและลำน้ำแม่ลาก ซึ่งเป็นสาขาย่อยที่ไหลมาจากแนวเขาบริเวณบ้านศรียางชุม ไหลลงสู่แอ่งที่ราบเวียงหนองหล่ม ในขณะที่ด้านทิศเหนือของแอ่งมีลำน้ำลัวไหลออกจากหนองหลวงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วไหลไปรวมกับแม่น้ำกกบริเวณบ้านทับกุมารทอง
จากลักษณะทางภูมิประเทศโดยรวม จึงสามารถสรุปได้ว่า แอ่งที่ราบเวียงหนองหล่มเป็นพื้นที่รับน้ำตามธรรมชาติที่มีศักยภาพสูงในด้านการเกษตรกรรม อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีคุณค่าทางระบบนิเวศ และมีความสำคัญในฐานะแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของอำเภอแม่จัน อาทิ บริเวณเวียงหนองหล่มปางควาย ซึ่งเป็นจุดที่มีทั้งคุณค่าทางประวัติศาสตร์และภูมิทัศน์ที่สวยงาม
ประชากรส่วนใหญ่ในชุมชนเวียงหนองหล่มเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ หรือที่รู้จักกันในท้องถิ่นว่า “คนยอง” ซึ่งมีรากเหง้ามาจากเมืองยอง แขวงลำพูน และเมืองต่าง ๆ ในภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะจากบ้านยองลำพูน บ้านป่าสักหลวง จังหวัดเชียงใหม่ และบ้านกิ่วพร้าว จังหวัดลำปาง กลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้ได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่เวียงหนองหล่มตั้งแต่ในอดีต ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ และการแสวงหาพื้นที่ทำกินที่เหมาะสม
ชาวไทลื้อในชุมชนเวียงหนองหล่มมีวัฒนธรรมเฉพาะตัวที่ยังคงรักษาไว้ได้อย่างมั่นคง ทั้งในด้านภาษา การแต่งกาย ขนบธรรมเนียมประเพณี และความเชื่อทางจิตวิญญาณ โดยเฉพาะประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตตามฤดูกาล เช่น ประเพณีปี๋ใหม่เมือง ประเพณีแห่ส่างลอง (บวชลูกแก้ว) และประเพณีการฟ้อนผีฟ้า ซึ่งแสดงออกถึงความผูกพันระหว่างชุมชนกับธรรมชาติและบรรพบุรุษ
โครงสร้างสังคมของชาวไทลื้อมีลักษณะเป็นสังคมแบบเครือญาติแน่นแฟ้น มีการสืบทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การทอผ้าลายโบราณ การทำอาหารพื้นบ้าน และการปลูกพืชตามแนวทางเกษตรแบบผสมผสาน ที่ยังคงใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิมควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ยองประชากรในชุมชนเวียงหนองหล่มส่วนใหญ่มีอาชีพหลัก คือ การเกษตรกรรม โดยเฉพาะการทำนาข้าว ซึ่งอาศัยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ราบลุ่มและระบบน้ำจากแม่น้ำจันและแม่น้ำคำ ทำให้สามารถปลูกข้าวได้ถึงปีละ 2 ครั้ง ทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้าเพื่อตอบสนองความต้องการในการบริโภคภายในครัวเรือนและจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้
นอกจากข้าวแล้ว ยังมีการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจและพืชสวนครัวอื่น ๆ อย่างหลากหลาย เช่น พืชผักตามฤดูกาล ข้าวโพด ถั่วลิสง กก (เพื่อนำมาใช้จักสาน) และผลไม้ในท้องถิ่น ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อย่างยั่งยืน
ในด้านเศรษฐกิจชุมชน ฐานะความเป็นอยู่ของประชากรโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ชาวบ้านมีการปรับตัวและพัฒนาศักยภาพตนเองโดยการรวมกลุ่มเพื่อดำเนินกิจกรรมการผลิตต่าง ๆ อันเป็นการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กลายเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น
- กลุ่มทำไม้กวาด จากวัสดุธรรมชาติในพื้นที่
- กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองไทลื้อ ซึ่งยังคงลวดลายดั้งเดิม อันเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์
- กลุ่มสมุนไพรพื้นบ้าน ที่ผลิตทั้งในรูปแบบยาสมุนไพร ยาดม ยาหม่อง และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ
- กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นถิ่น เช่น แหนม แคบหมู ข้าวแต๋น และอาหารแปรรูปอื่น ๆ
การรวมกลุ่มเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้เสริมให้กับครัวเรือน แต่ยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาดั้งเดิม และส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกช่วงวัย
ชุมชนเวียงหนองหล่มมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและสอดคล้องกับธรรมชาติ โดยประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และยังคงรักษารูปแบบการดำเนินชีวิตดั้งเดิมของกลุ่มชาติพันธุ์ยองไว้ได้อย่างเข้มแข็ง กลุ่มชาติพันธุ์ยอง หรือที่บางครั้งเรียกว่า “คนยอง” มีถิ่นฐานดั้งเดิมอยู่ในเมืองยอง แขวงลำพูน และได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยในอดีต รวมถึงที่ชุมชนเวียงหนองหล่มแห่งนี้
ประชาชนในชุมชนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา โดยมีวัดเป็นศูนย์รวมทางจิตใจและกิจกรรมชุมชน เช่น การทำบุญวันพระ การสืบชะตา และพิธีกรรมตามวันสำคัญทางศาสนา วัดในชุมชนมีบทบาทในการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม รวมถึงเป็นสถานที่เรียนรู้และอนุรักษ์วัฒนธรรมของชาวยอง
ในด้านความเชื่อชาวยองในชุมชนเวียงหนองหล่มยังคงนับถือระบบความเชื่อพื้นบ้านควบคู่กับศาสนาพุทธ โดยเฉพาะความเชื่อเรื่องผีบรรพบุรุษ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลและการรักษาความสมดุลของชุมชนกับธรรมชาติ ในด้านวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ยองในเวียงหนองหล่มยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดจากบรรพบุรุษได้อย่างเหนียวแน่น ตัวอย่างเช่น
- ประเพณีปี๋ใหม่เมือง (สงกรานต์ล้านนา) ที่มีพิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุและสรงน้ำพระ
- ประเพณีสลากภัตและตานก๋วยสลาก ซึ่งแสดงถึงคติความเชื่อเรื่องบุญกุศลและการอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษ
- พิธีแห่ส่างลอง หรือบวชลูกแก้ว ที่แสดงถึงความสามัคคีของชุมชน
- การแสดงพื้นบ้าน เช่น ฟ้อนยอง ขับซอยอง และ การฟ้อนผีฟ้า ซึ่งถือเป็นศิลปะการแสดงที่สะท้อนอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของกลุ่มยองได้อย่างเด่นชัด
การแต่งกายของชาวยอง โดยเฉพาะในโอกาสพิเศษและงานบุญ ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิม เช่น การนุ่งซิ่นลายโบราณ และการใช้ผ้าทอมือที่มีลวดลายเฉพาะถิ่น ซึ่งไม่เพียงแสดงถึงรากเหง้าทางวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของชุมชนเวียงหนองหล่ม
เวียงหนองหล่ม: เมืองโบราณที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์
เวียงหนองหล่มเป็นเมืองโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และภูมิวัฒนธรรมของพื้นที่ลุ่มน้ำแม่จัน ตั้งอยู่ในตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย พื้นที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นแอ่งที่ราบลุ่มขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยเนินเขาและเทือกเขาสูงต่ำสลับกัน มีสภาพภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์และเหมาะสมกับการตั้งถิ่นฐานในสมัยโบราณ ด้วยมีทั้งแม่น้ำ หนองน้ำ และพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ "หนองหล่ม" ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ชุมชนเรียกขานเป็นนามของเมืองในอดีต
หลักฐานทางโบราณคดีและตำนานท้องถิ่นบ่งชี้ว่า เวียงหนองหล่มเคยเป็นศูนย์กลางของชุมชนโบราณที่มีการตั้งถิ่นฐานมายาวนานตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องมาถึงยุคหริภุญไชยและล้านนา โดยปรากฏร่องรอยคูเมือง คันดิน และแหล่งโบราณสถานกระจายอยู่โดยรอบพื้นที่ เช่น
- ซากวัดร้างโบราณ
- เศษภาชนะดินเผา
- เครื่องมือหิน
- หลักฐานการตั้งบ้านเรือนและชุมชนขนาดใหญ่ในอดีต
จากการศึกษาทางภูมิสถาปัตย์และภาพถ่ายทางอากาศ พบว่าเวียงหนองหล่มมีลักษณะผังเมืองเป็นรูปวงรี ล้อมรอบด้วยคูน้ำและแนวคันดินซ้อนกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นรูปแบบการป้องกันเมืองที่พบในอารยธรรมโบราณหลายแห่งในภาคเหนือของประเทศไทย
เวียงหนองหล่มไม่เพียงเป็นศูนย์กลางทางการปกครองหรือเศรษฐกิจในอดีต แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนการผสมผสานทางวัฒนธรรมระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ดั้งเดิมกับผู้คนที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานภายหลัง เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ยอง (ไทลื้อ) จากลำพูน ลำปาง และเชียงใหม่ ซึ่งยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมของตนไว้ได้อย่างกลมกลืนกับท้องถิ่น
ในปัจจุบัน เวียงหนองหล่มยังคงปรากฏร่องรอยของเมืองโบราณ และถูกใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญของชุมชน โดยมีการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ประกอบด้วยเส้นทางท่องเที่ยวศึกษาวิถีชีวิต วัฒนธรรมชาวยอง และการเยี่ยมชมแหล่งโบราณคดีต่าง ๆ ในพื้นที่ เช่น
- เวียงหนองหล่มปางควาย
- หนองหล่มและพื้นที่ชุ่มน้ำโดยรอบ
- วัดเก่าในชุมชนที่เคยเป็นศูนย์กลางของเมืองโบราณ
เวียงหนองหล่มจึงมิได้เป็นเพียงเมืองเก่า แต่ยังเป็นรากฐานของชุมชนร่วมสมัยที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน และเป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และเรียนรู้
กรมศิลปากร. (ม.ป.ป.). เมืองโยนก นครในตำนานล้านนา. สืบค้น 9 มิถุนายน 2568, จาก https://www.finearts.go.th/
เทศบาลตำบลจันจว้า. (ม.ป.ป.). ข้อมูลชุมชน. สืบค้น 9 มิถุนายน 2568, จาก https://www.janjawa.go.th/
นิคม ธรรมปัญญา และ ประภาพร พนมไพร. (2557). การสืบค้นและจัดการมรดกทางประวัติศาสตร์เพื่อการพัฒนาและอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวชุมชนเวียงหนองหล่ม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย: รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). (10 เมษายน 2568). ยอง. สืบค้น 9 มิถุนายน 2568, จาก https://ethnicity.sac.or.th/database-ethnic/181/
สาคร โรจน์คำลือ ธงชัย ภูวนาถวิจิตร และ สุมิตรา มาเตี่ยง. (2558). การศึกษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวรองรับการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน: กรณีศึกษาพื้นที่ชุ่มน้ำเวียงหนองหล่ม อำเภอแม่จัน และอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย: โครงการย่อยที่ 2: รายงานฉบับสมบูรณ์. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่. (ม.ป.ป.).มรดกวัฒนธรรมเวียงหนองหล่ม. สืบค้น 9 มิถุนายน 2568, จาก https://www.finearts.go.th/