
วัดพระโต (วัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ) มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว วิถีชีวิตของคนในชุมชนผูกพันกับแม่น้ำโขง ทั้งในเรื่องการประมง การเกษตร และการค้าขาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนริมแม่น้ำ มีกิจกรรมล่องเรือชมธรรมชาติริมโขง และสัมผัสวิถีชุมชน
คำว่า "ปาก" ในที่นี้หมายถึง "ปากแม่น้ำ" หรือ "ทางเข้าของแม่น้ำหรือคลอง" ส่วนคำว่า "แซง" น่าจะหมายถึงลักษณะของลำน้ำที่ไหลผ่านหรือมีลักษณะ "แซง" หรือแยกจากแม่น้ำใหญ่ โดยรวมแล้ว "บ้านปากแซง" จึงแปลได้ว่า "หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ที่ปากลำน้ำหรือคลองที่แยกออกจากแม่น้ำใหญ่" ซึ่งสอดคล้องกับตำแหน่งของชุมชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง และมีคลองหรือสายน้ำแยกตัวออกมาที่นี่
วัดพระโต (วัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ) มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว วิถีชีวิตของคนในชุมชนผูกพันกับแม่น้ำโขง ทั้งในเรื่องการประมง การเกษตร และการค้าขาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนริมแม่น้ำ มีกิจกรรมล่องเรือชมธรรมชาติริมโขง และสัมผัสวิถีชุมชน
บ้านปากแซงตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงในตำบลพะลาน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา ชาวบ้านในยุคแรกเริ่มอาศัยอยู่บริเวณปากคลองหรือปากลำน้ำที่แยกออกจากแม่น้ำใหญ่ (โขง) ทำให้เกิดชื่อ "ปากแซง" ตามลักษณะทางภูมิศาสตร์
ชุมชนเริ่มตั้งถิ่นฐานในช่วงสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีผู้คนกลุ่มหลักเป็นชาวลาวที่อพยพมาตามลำน้ำโขงเพื่อหาพื้นที่ทำกินและตั้งบ้านเรือน สืบเนื่องจากแม่น้ำโขงเป็นเส้นทางสำคัญในการติดต่อค้าขายและสัญจรในภูมิภาค
ยุคอาณานิคมและรัชกาลที่ 5-6 ชุมชนบ้านปากแซงได้รับอิทธิพลจากการปกครองของราชอาณาจักรสยามและการจัดระเบียบการปกครองท้องถิ่น ช่วงนี้มีการสร้างวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น วัดพระโต เพื่อเป็นศูนย์กลางทางจิตใจและกิจกรรมทางศาสนา
ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านปากแซงเริ่มพัฒนาเป็นชุมชนที่มีความสำคัญทางการค้า โดยเฉพาะเป็นจุดผ่านแดนและแลกเปลี่ยนสินค้ากับฝั่งลาว การค้าขายริมฝั่งแม่น้ำโขงเติบโตขึ้น และมีตลาดชุมชนที่มีสินค้าท้องถิ่นและสินค้านำเข้า
วัดพระโตและความสำคัญทางศาสนา สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2378 เป็นศูนย์รวมทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญของชุมชน ชาวบ้านและผู้มาเยือนต่างให้ความเคารพในพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ในวัด ซึ่งเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก สามารถช่วยให้ขอพรสมหวังในเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการขอลูก วัดนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานบุญประเพณีและกิจกรรมชุมชนต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของคนในชุมชนและผู้มาเยือนจากพื้นที่ใกล้เคียง
ในปัจจุบัน บ้านปากแซงได้รับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและนิเวศ มีการส่งเสริมให้ชุมชนรักษาและเผยแพร่วิถีชีวิตดั้งเดิม รวมถึงวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จุดผ่านแดนถาวรบ้านปากแซงช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างไทยกับลาว เพิ่มการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงด้านตะวันออกของประเทศไทย มีพรมแดนติดกับ แม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ แนวเขตขององค์การบริหารส่วนตำบลนาแวง อำเภอเขมราฐ
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ แม่น้ำโขงแนวเขตชายแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
- ทิศใต้ ติดต่อกับ แนวเขตขององค์การบริหารส่วนตำบลนาตาล อำเภอนาตาล
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ แนวเขตขององค์การบริหารส่วนตำบลกองโพน อำเภอนาตาล
ข้อมูลจำนวนประชากรหมู่ที่ 3 บ้านปากแซง ตำบลพะลาน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี มีประชากรชาย 396 คน หญิง 448 คน รวม 844 คน (สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง, 2567) โดยมีชาวลาว (กลุ่มลาวไทย) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักในพื้นที่ มีถิ่นฐานดั้งเดิมมาจากฝั่งลาวและอพยพข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งถิ่นฐานในอีสานตอนล่าง ภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับชาวลาวใน สปป.ลาว รองลงมาเป็นกลุ่มคนไทยอีสาน (กลุ่มอีสานพื้นเมือง) อาศัยร่วมกับชาวลาวและมีความผสมผสานทางวัฒนธรรม และกลุ่มชาติพันธุ์ลาวโซ่ง
ไทดำ, ลาวครั่งอาชีพหลัก คือ เกษตรกรรม การปลูกข้าวเป็นอาชีพหลักที่สำคัญ เนื่องจากพื้นที่มีดินร่วนและน้ำจากแม่น้ำโขงช่วยในการเพาะปลูก พืชอื่น ๆ ที่นิยมปลูก เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง และพืชไร่ชนิดต่าง ๆ การเกษตรเป็นกิจกรรมหลักที่ชุมชนพึ่งพาเพื่อเลี้ยงชีพ การประมงพื้นบ้าน เนื่องจากแม่น้ำโขงเป็นแหล่งอาหารสำคัญของชุมชน การจับปลาและสัตว์น้ำต่าง ๆ เป็นอาชีพหลักอีกอย่างหนึ่ง ชาวบ้านใช้เครื่องมือประมงแบบดั้งเดิม เช่น อวน เบ็ด และกับดักปลา ผลผลิตจากการประมงใช้บริโภคในครัวเรือนและจำหน่ายในตลาดท้องถิ่น การค้าขายและบริการ เป็นการค้าขายสินค้าท้องถิ่นทั้งในตลาดชุมชนและจุดผ่านแดนถาวรระหว่างไทยกับลาว ร้านค้าและบริการต่าง ๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านของฝาก และบริการขนส่ง
- มกราคม : งานบุญปีใหม่ (สงกรานต์) ทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่
- เมษายน : ประเพณีสงกรานต์ สาดน้ำ เล่นน้ำ และจัดพิธีทางศาสนา
- พฤษภาคม-มิถุนายน : งานบุญผะเหวด (เทศน์มหาชาติ) ฟังเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ เป็นงานบุญใหญ่
- กรกฎาคม-สิงหาคม : ประเพณีเข้าพรรษา ทำบุญตักบาตร ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม
- ตุลาคม : งานทอดกฐิน ร่วมทอดกฐินเพื่อสมทบทุนวัดและกิจกรรมศาสนา
- พฤศจิกายน : งานประเพณีลอยกระทง ประกวดกระทง และปล่อยกระทงในแม่น้ำโขง
- ธันวาคม : งานบุญปีใหม่ลาว (ปีใหม่อีสาน หรือบั้งไฟ) การทำบุญใหญ่ รำบวงสรวงและพิธีกรรมพื้นบ้าน
แม่น้ำโขง แหล่งน้ำสำคัญที่เป็นฐานทรัพยากรสำหรับการประมง การเกษตร และการท่องเที่ยว ดินอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การทำเกษตรกรรมหลายชนิด ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์น้ำในพื้นที่
ประเพณีและงานบุญท้องถิ่นที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน เช่น งานบุญผะเหวด สงกรานต์ ลอยกระทง วัดพระโต (วัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ) เป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น งานหัตถกรรม ผ้าทอมือ การทำอาหารพื้นบ้าน
ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของสมาชิกในชุมชน ผู้นำชุมชนและองค์กรต่าง ๆ ที่ร่วมมือกันพัฒนาและแก้ไขปัญหา เครือข่ายการค้าขายและความร่วมมือกับฝั่งลาว
ตลาดชายแดนที่เป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างไทย-ลาว อาชีพหลัก คือ เกษตรกรรมและประมง รวมถึงอาชีพเสริม เช่น หัตถกรรมและการท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน เช่น จุดผ่านแดนถาวรและถนนเชื่อมต่อ
ทุนทางการศึกษาและองค์ความรู้ โรงเรียนและศูนย์การเรียนรู้ในชุมชน การถ่ายทอดความรู้ทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่น
ภาษาเขียน : ภาษาไทย
ภาษาพูด : ภาษาไทย, ภาษาไทยถิ่นอีสาน, ภาษาลาว
ระดับน้ำโขงที่ผันผวนผิดปกติ จากการสร้างเขื่อนในลำน้ำโขง ส่งผลให้ฤดูกาลน้ำขึ้น-ลงไม่เป็นธรรมชาติ ดินตลิ่งไม่อุดมเหมือนเดิม ทำนาและจับประมงได้รับผลกระทบอย่างหนัก พื้นที่ที่เดิมท่วมในฤดูน้ำหลากปัจจุบันกลายเป็นโซนแห้ง ดินขาดความชุ่มชื้นและการสะสมแร่ธาตุ พืชเศรษฐกิจที่เคยเจริญเติบโตจึงลดลง อาชีพประมงได้รับผลกระทบ
จากการที่ปลาในแม่น้ำลดลง เพราะระบบนิเวศเปลี่ยนและสายพันธุ์หายากลดจำนวนลง จนนักจับปลาในชุมชนต้องเปลี่ยนไปขายให้พ่อค้าคนกลางแทนการจับเพื่อบริโภคในครัวเรือน การเกษตรริมโขงเสี่ยงขึ้น เกษตรกรไม่กล้าลงทุนปลูกในพื้นที่เสี่ยงดินไม่อุดมสมบูรณ์ น้ำไม่พอ สูญเสียรายได้ และมีหนี้สินมากขึ้น
ภูมิปัญญาท้องถิ่นเสี่ยงสูญหาย เช่น งานทอผ้าฝ้าย งานจักสาน และภาษาท้องถิ่น พบว่าหากคนรุ่นใหม่ไม่สืบทอด ความรู้ดั้งเดิมจะเลือนหาย การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมยังขาดการจัดการที่ยั่งยืน มัคคุเทศก์ในชุมชนยังขาดทักษะด้านภาษา การสื่อสารและความรู้เชิงวิชาการ ทำให้ไม่สามารถสื่อสารแก่ผู้มาเยือนได้เต็มที่
กรมการปกครอง. (2567). สถิติจำนวนประชากร พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี อำเภอนาตาล ตำบลพะลาน หมู่ที่ 3 ปากแซง. สืบค้น 16 มิถุนายน 2568, จาก https://stat.bora.dopa.go.th
กลุ่มวิจัยวัฒนธรรมพื้นบ้าน ม.อุบลฯ. (2564). ฐานข้อมูลวัฒนธรรมอีสานตอนล่าง: บ้านปากแซง. โครงการวิจัยท้องถิ่น.
ธัญพร โพธิ์ไพจิตร. (2566). แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากผ้าครามบ้านปากแซง. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
นพวรรณ เชื้อโชติ. (2564). อำนาจและการกำหนดสร้างความหมายของการท่องเที่ยวท้องถิ่นของชุมชนชายแดนไทย – ลาว: กรณีศึกษา หมู่บ้านปากแซง ตำบลพะลาน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
บ้านเมือง. (15 มิถุนายน 2567). นายกอบจ.อุบลฯ ร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรม เปิดงานบุญบั้งไฟ. สืบค้น 16 มิถุนายน 2568, จาก https://www.banmuang.co.th/
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี. (2565). ข้อมูลมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี. กระทรวงวัฒนธรรม.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2564). รายงานการวิเคราะห์ทุนชุมชน จังหวัดอุบลราชธานี. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
องค์การบริหารส่วนตำบลพะลาน. (ม.ป.ป.) สภาพทั่วไป. สืบค้น 16 มิถุนายน 2568, จาก https://phalan.go.th
Pukmudmuangthai. (12 กุมภาพันธ์ 2564). วัดพระโต บ้านปากแซง. สืบค้น 16 มิถุนายน 2568, จาก https://pukmudmuangthai.com/
The Bangkok Insigh. (5 พฤษภาคม 2566). ศุกร์ (สุข) ละวัด เที่ยว 'วัดปากแซง' กราบ 'พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ' ศูนย์รวมศรัทธา 2 ฝั่งโขง. สืบค้น 16 มิถุนายน 2568, จาก https://today.line.me/
The Earth. (4 เมษายน 2568). "พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ" วัดปากแซง 1 ใน 4 พระองค์ตื้อในประเทศไทย อ.นาตาล อุบลราชธานี. สืบค้น 16 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/