
บ้านเนินสายฝน เป็นชุมชนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของพื้นที่เชิงเนินในตำบลพระเพลิง รักษาวิถีชีวิตเรียบง่ายในแบบชนบทที่พึ่งพาธรรมชาติ ทั้งในด้านการทำเกษตรกรรมและความสัมพันธ์ในชุมชน
บ้านเนินสายฝน คำว่า "เนิน" สะท้อนลักษณะภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่ยกตัวสูงกว่าบริเวณโดยรอบ ขณะที่คำว่า "สายฝน" มาจากสภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกต่อเนื่องเป็นประจำ ทำให้พื้นที่นี้มีความเขียวชอุ่มและเหมาะแก่การเพาะปลูก
บ้านเนินสายฝน เป็นชุมชนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของพื้นที่เชิงเนินในตำบลพระเพลิง รักษาวิถีชีวิตเรียบง่ายในแบบชนบทที่พึ่งพาธรรมชาติ ทั้งในด้านการทำเกษตรกรรมและความสัมพันธ์ในชุมชน
ชุมชนบ้านเนินสายฝน ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 13 ตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว เป็นชุมชนชนบทขนาดเล็กที่ก่อตั้งขึ้นจากการอพยพของประชาชนกลุ่มหนึ่งซึ่งย้ายถิ่นฐานมาจากพื้นที่ใกล้เคียงเมื่อประมาณกว่าสามทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อแสวงหาพื้นที่ทำกินที่เหมาะสมและมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับการประกอบอาชีพทางการเกษตร ลักษณะภูมิประเทศของหมู่บ้านเป็นเนินเขาสลับกับที่ราบ มีป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติโดยรอบที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีฝนตกชุกในช่วงฤดูฝนเกือบทุกปี ส่งผลให้ชุมชนสามารถประกอบอาชีพทางการเกษตรได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ทั้งในรูปแบบของการปลูกพืชไร่ พืชผักสวนครัว รวมถึงการเลี้ยงสัตว์ในครัวเรือน ชื่อ "บ้านเนินสายฝน" เกิดขึ้นจากการผสมผสานลักษณะทางภูมิศาสตร์กับสภาพภูมิอากาศของพื้นที่ โดยคำว่า "เนิน" สื่อถึงที่ตั้งของชุมชนบนพื้นที่สูงลักษณะเนินเขา ขณะที่คำว่า "สายฝน" เป็นตัวแทนของปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างสม่ำเสมอในพื้นที่ ชื่อของชุมชนจึงสะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันของผู้คนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เป็นทั้งแหล่งทำกินและแหล่งพึ่งพิงของชีวิต ในระยะเริ่มต้นของการตั้งถิ่นฐาน ชาวบ้านได้รวมตัวกันพัฒนาชุมชนด้วยตนเอง โดยอาศัยแรงงานในท้องถิ่นและการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลพระเพลิง เพื่อจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ระบบประปาภูเขา และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รวมถึงการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจและสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้กับคนในชุมชน จนถึงปัจจุบัน บ้านเนินสายฝนยังคงรักษาอัตลักษณ์ของชุมชนชนบทที่พึ่งพาธรรมชาติ มีโครงสร้างสังคมที่เหนียวแน่น และให้ความสำคัญกับความร่วมมือของคนในชุมชน ทั้งในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการดำรงวัฒนธรรมท้องถิ่นควบคู่กันไป
ชุมชนบ้านเนินสายฝน ตั้งอยู่หมู่ที่ 13 ตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว พื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มอยู่ใกล้ของพระสะทึง สภาพดินอยู่ในโซนดินอุ้มน้ำเหมาะแก่การปลูกพืชอายุสั้น มีพื้นที่ทั้งหมด 3,750 ไร่
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ พื้นที่หมู่บ้านเนินมะค่า (หมู่ที่ 12 ตำบลพระเพลิง)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ พื้นที่เกษตรกรรมและไร่อ้อยของหมู่บ้านห้วยสะอาด
- ทิศใต้ ติดต่อกับ พื้นที่บ้านเขาน้อย และแนวป่าเศรษฐกิจในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลพระเพลิง
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ เขตป่าชุมชน และพื้นที่ลุ่มน้ำสาขาของลำห้วยพระเพลิง
สภาพภูมิอากาศของบ้านเนินสายฝน
บ้านเนินสายฝน ตั้งอยู่ในเขตภาคตะวันออกของประเทศไทย มีลักษณะภูมิอากาศแบบ ร้อนชื้นสลับแห้ง ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุม โดยมี 3 ฤดูกาลที่แปรเปลี่ยนตลอดปี ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 35-38 องศาเซลเซียส สภาพอากาศค่อนข้างร้อนจัดในช่วงกลางวัน
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม โดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน จะมีฝนตกชุกจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้พื้นที่หมู่บ้านมีความชุ่มชื้นสูง เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม โดยเฉลี่ยมีปริมาณน้ำฝนราว 1,200-1,500 มิลลิเมตรต่อปี
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ อากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะมีหมอกบาง ๆ ปกคลุมบริเวณเชิงเขา อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 16-20 องศาเซลเซียส
ลักษณะการตั้งบ้านเรือน
บ้านเนินสายฝนมีลักษณะการตั้งบ้านเรือนแบบกระจายตัวอยู่ตามแนวถนนสายหลักของหมู่บ้าน โดยส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บนพื้นที่ราบเชิงเนิน เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำท่วมขังในฤดูฝนและสะดวกต่อการสัญจร บ้านเรือนจะเรียงตัวอย่างไม่หนาแน่นนัก โดยเว้นระยะระหว่างหลังให้มีพื้นที่สำหรับปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ หรือใช้ประโยชน์ในการเกษตรขนาดย่อม วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือนมีความหลากหลายตามฐานะและความพร้อมของแต่ละครอบครัว โดยทั่วไปบ้านจะเป็นแบบครึ่งไม้ครึ่งปูน หรือบ้านปูนชั้นเดียว มีการยกพื้นเล็กน้อยเพื่อป้องกันความชื้นและสัตว์เลื้อยคลาน ส่วนหลังคามักมุงด้วยกระเบื้องลอน หรือสังกะสี มีการต่อเติมโรงเรือนสำหรับเก็บผลผลิตทางการเกษตร โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ หรือพื้นที่ทำครัวแบบเปิดโล่งหลังบ้าน ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของการตั้งบ้านเรือนในชุมชนนี้ คือการจัดพื้นที่บริเวณบ้านให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตเกษตรกรรม เช่น มีแปลงผักสวนครัว ปลูกไม้ผล พืชสมุนไพร และมีบ่อน้ำขนาดเล็กสำหรับใช้ในครัวเรือนและรดน้ำต้นไม้ โดยไม่ต้องพึ่งพาน้ำประปามากนักในบางช่วงเวลา
บ้านเนินสายฝนเป็นชุมชนขนาดกลางในเขตชนบทของตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว มีจำนวนประชากรตามสถิติทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง จำนวน 763 คน เป็นชาย จำนวน 384 คน หญิง จำนวน 379 คน
มีถิ่นฐานเดิมมาจากพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ อำเภอเมืองสระแก้ว อำเภอวัฒนานคร และพื้นที่ในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอพยพมาตั้งถิ่นฐานในช่วงปลายทศวรรษ 2520-2530 เพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรม ระบบเครือญาติของคนในชุมชนยังคงยึดรูปแบบหรือครอบครัวขยายที่สมาชิกในตระกูลอาศัยอยู่ใกล้ชิดกัน มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นและช่วยเหลือกันทั้งในด้านแรงงาน ความรู้ และทรัพยากร เช่น ที่ดินทำกินและอุปกรณ์เกษตรกรรม เครือญาติยังมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นและขนบธรรมเนียมต่าง ๆ ผ่านกิจกรรมทางศาสนา งานบุญ และพิธีกรรมของชุมชน
ชุมชนบ้านเนินสายฝนมีโครงสร้างทางสังคมที่เรียบง่ายและแน่นแฟ้น ชาวบ้านส่วนใหญ่รู้จักกันในลักษณะเครือญาติหรือเครือข่ายใกล้ชิด โดยมีการรวมกลุ่มกันเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาหมู่บ้านในด้านต่าง ๆ ผ่านองค์กรชุมชน กลุ่มอาชีพ และกิจกรรมสาธารณะ โดยมีผู้นำชุมชนเป็นศูนย์กลางในการประสานงาน
1.องค์กรชุมชนหลัก
- คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ทำหน้าที่บริหารจัดการกิจกรรมของหมู่บ้าน ร่วมวางแผนพัฒนาหมู่บ้านกับ อบต. และประสานงานกับหน่วยงานราชการ เช่น ด้านสาธารณสุข การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน
- กลุ่ม อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) ดูแลด้านสุขภาพเบื้องต้น ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคระบาด การส่งเสริมสุขภาพ การจัดกิจกรรมรณรงค์ เช่น ลดโรคเบาหวาน ความดัน และไข้เลือดออก
- กลุ่มจิตอาสาและเยาวชนพัฒนาชุมชน กลุ่มคนรุ่นใหม่และชาวบ้านจิตอาสาที่ร่วมแรงร่วมใจในกิจกรรมชุมชน เช่น พัฒนาวัด ซ่อมแซมถนน ทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ และจัดกิจกรรมในเทศกาลสำคัญ
2. กลุ่มอาชีพ
- กลุ่มเกษตรผสมผสาน เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่เชิงเนิน มีฝนตกชุก ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมแบบผสมผสาน เช่น ปลูกมันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด ผักสวนครัว และไม้ผลบางชนิด เช่น มะม่วง กล้วย มะนาว รวมถึงการเลี้ยงสัตว์ในครัวเรือน
- กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร รวมตัวกันทำผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลผลิตในชุมชน เช่น กล้วยอบแห้ง แยมผลไม้ น้ำสมุนไพร ปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อใช้ในครัวเรือนและจำหน่ายในงานกิจกรรมของตำบล
- กลุ่มอาชีพเสริมในครัวเรือน เช่น การจักสาน ทำขนมไทย ซ่อมเครื่องจักรกลเกษตร และการรับจ้างทั่วไปในชุมชนหรือพื้นที่ใกล้เคียง
ชาวบ้านเนินสายฝนมีวิถีชีวิตเรียบง่ายในแบบเกษตรกรรมชนบท วิถีชีวิตของคนในชุมชนยังคงผูกพันกับธรรมชาติ ดินฟ้าอากาศ และฤดูกาลการเพาะปลูก โดยใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชุมชน ความสัมพันธ์แบบเครือญาติยังคงมีบทบาทสำคัญในทุกกิจกรรมของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือวัฒนธรรม
ในแต่ละวัน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เช้าตรู่ โดยผู้สูงอายุจะตื่นขึ้นมาทำบุญไหว้พระ ทำสวน รดน้ำผัก ส่วนวัยแรงงานมักออกไปทำงานในไร่นา หรือรับจ้างในพื้นที่ใกล้เคียง เด็ก ๆ ไปโรงเรียนในตำบล ส่วนแม่บ้านจะทำงานบ้าน ดูแลสวนครัว และเตรียมอาหาร ซึ่งหลายครอบครัวปลูกพืชผักไว้กินเอง เช่น พริก มะเขือ ตะไคร้ และข่า
กิจกรรม/วิถีชีวิตชุมชน
- มกราคม-กุมภาพันธ์ : ตัดอ้อย เก็บผลผลิตมันสำปะหลัง เตรียมแปลงปลูกใหม่
- มีนาคม-เมษายน : เริ่มปลูกพืชระยะสั้น เก็บเกี่ยวพืชผักสวนครัว เข้าร่วมประเพณีสงกรานต์ ทำบุญปีใหม่ไทย
- พฤษภาคม-มิถุนายน : เริ่มฤดูฝน เตรียมดิน เพาะปลูกพืชหลัก เช่น ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง
- กรกฎาคม-สิงหาคม : ปลูกพืชผสมผสาน ดูแลแปลงเกษตร ป้องกันศัตรูพืช
- กันยายน-ตุลาคม : เริ่มเก็บผลผลิตบางชนิด จัดกิจกรรมบุญออกพรรษา ประเพณีทำบุญข้าวสาก
- พฤศจิกายน : ตัดอ้อยรอบแรก เตรียมจัดงานทอดกฐินประจำหมู่บ้าน
- ธันวาคม : พักแปลง วางแผนปลูกใหม่ ทำกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ ส่งท้ายปีเก่ากับครอบครัว
วิถีวัฒนธรรมและประเพณี
- ประเพณีสงกรานต์ มีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เล่นน้ำกันในชุมชน และจัดกิจกรรมร่วมกันที่วัด
- งานทอดกฐินสามัคคี จัดขึ้นช่วงปลายปี มีการรวมกลุ่มแม่บ้านทำอาหาร ทำบุญ ถวายผ้ากฐิน
- การเข้าวัดทำบุญ ผู้สูงอายุยังคงรักษานิสัยเข้าวัดวันพระ มีพระสงฆ์มาเทศนาและนำกิจกรรมทางธรรม
- กิจกรรมจิตอาสา เช่น ทำความสะอาดวัด ทางเดินชุมชน และช่วยกันซ่อมแซมสิ่งของส่วนรวม เช่น ศาลาชุมชน
1.นายประสิทธิ์ คำหอม
ตำแหน่ง : ผู้ใหญ่บ้านบ้านเนินสายฝน (ปัจจุบัน)
นายประสิทธิ์ คำหอม เป็นผู้ใหญ่บ้านที่ได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยบุคลิกที่เป็นผู้นำ รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย และทำงานอย่างมุ่งมั่นเพื่อพัฒนาชุมชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เขาเป็นผู้นำการประสานงานกับหน่วยงานภายนอก อาทิ องค์การบริหารส่วนตำบลพระเพลิง, สำนักงานเกษตรอำเภอเขาฉกรรจ์ และหน่วยงานด้านสาธารณสุข ภายใต้การนำของนายประสิทธิ์ ชุมชนบ้านเนินสายฝนได้จัดตั้งกลุ่มอาชีพหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มแม่บ้านแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร กลุ่มเลี้ยงสัตว์ และกลุ่มเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งริเริ่มกิจกรรมจิตอาสาและส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชนอย่างต่อเนื่อง
2.นางทองคำ บัวคำ
ตำแหน่ง : แม่บ้านต้นแบบ / ปราชญ์ด้านการแปรรูปอาหาร
นางทองคำเป็นหนึ่งในผู้หญิงคนสำคัญของชุมชนที่มีบทบาทในการรวมกลุ่มแม่บ้านเพื่อผลิตอาหารแปรรูปจากผลผลิตในพื้นที่ เช่น กล้วยตาก สมุนไพรอบแห้ง และน้ำสมุนไพร เธอเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เรื่องการทำอาหารปลอดสาร การเก็บรักษา และบรรจุภัณฑ์ให้กับสมาชิกในกลุ่ม อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันในการจัดตั้ง "กลุ่มแม่บ้านเนินสายฝน" ซึ่งปัจจุบันสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับครัวเรือนในหมู่บ้านได้อย่างเป็นรูปธรรม
3.ลุงบุญช่วย อินทรภักดี
สถานะ : ปราชญ์ชาวบ้านด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น
ลุงบุญช่วยเป็นชาวบ้านสูงวัยที่เป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งหมู่บ้าน มีความรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ การใช้สมุนไพรพื้นบ้าน และการจัดการดิน-น้ำ-ป่า อย่างยั่งยืน ท่านมักถูกเชิญให้ร่วมกิจกรรมของโรงเรียนหรืออบรมชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงเกี่ยวกับการใช้ชีวิตแบบพอเพียง และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติแบบดั้งเดิม
1.ทุนมนุษย์
- คนในชุมชนส่วนใหญ่มีความรู้และประสบการณ์ด้านเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม เช่น การปลูกอ้อย มันสำปะหลัง และพืชผักสวนครัว
- มีผู้นำชุมชนและปราชญ์ชาวบ้านที่มีความสามารถในการถ่ายทอดองค์ความรู้ เช่น การทำเกษตรอินทรีย์ การแปรรูปผลผลิต และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
- เด็กและเยาวชนในชุมชนได้รับการศึกษาเบื้องต้นจากโรงเรียนในตำบล และบางส่วนเริ่มมีบทบาทในการนำความรู้ด้านเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมชุมชน
2.ทุนธรรมชาติ
- ชุมชนตั้งอยู่ในพื้นที่เนินเขา มีฝนตกชุก ทำให้เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชไร่และพืชผักพื้นบ้าน
- มีแหล่งน้ำจากธรรมชาติ เช่น ลำห้วยสายรอง บ่อน้ำใต้ดิน และฝายน้ำชะลอที่ชาวบ้านร่วมกันดูแล
- พื้นที่โดยรอบมีความอุดมสมบูรณ์ของดิน เหมาะสำหรับทำเกษตรผสมผสานและเลี้ยงสัตว์ในระบบพึ่งพาตนเอง
3.ทุนเศรษฐกิจ
- ชาวบ้านมีรายได้จากการเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะอ้อย มันสำปะหลัง และพืชผักสวนครัว
- มีกลุ่มอาชีพเสริม เช่น กลุ่มแม่บ้านแปรรูปอาหาร (กล้วยอบ กล้วยฉาบ น้ำสมุนไพร) ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน
- มีระบบการแลกเปลี่ยนผลผลิตระหว่างครัวเรือนในชุมชน รวมถึงรับจ้างแรงงานในชุมชนใกล้เคียง
4.ทุนวัฒนธรรม
- ชุมชนยังคงรักษาประเพณีท้องถิ่น เช่น สงกรานต์ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ทอดกฐิน ทำบุญเข้าพรรษา
- มีความรู้พื้นถิ่นเรื่องสมุนไพร การจัดการป่าชุมชน และพิธีกรรมเกี่ยวกับการเกษตร
- วิถีชีวิตยังคงเน้นการพึ่งพาธรรมชาติ การใช้ภาษาท้องถิ่น และการทำงานร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่
5.ทุนสังคม
- ชาวบ้านมีความสามัคคีและช่วยเหลือกันในรูปแบบเครือญาติและกลุ่มอาชีพ
- มีกลุ่มองค์กรชุมชนที่ทำงานร่วมกัน เช่น คณะกรรมการหมู่บ้าน กลุ่มแม่บ้าน อสม. และกลุ่มเยาวชนจิตอาสา
- การจัดกิจกรรมของหมู่บ้าน เช่น วันพัฒนาหมู่บ้าน งานบุญต่าง ๆ ทำให้เกิดความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในชุมชน
6.ทุนกายภาพ
- มีโครงสร้างพื้นฐานเพียงพอสำหรับวิถีชีวิตชนบท เช่น ถนนคอนกรีตเสริมเหล็กเข้าสู่หมู่บ้าน
- มีศาลาประชาคม ศูนย์เรียนรู้ชุมชน และวัด ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่าง ๆ
- ระบบน้ำใช้ น้ำดื่ม และไฟฟ้าครอบคลุมทุกครัวเรือน
ชุมชนบ้านเนินสายฝนมีการใช้ภาษาอีสานในการสื่อสาร บางครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ยังคงใช้ภาษาไทยถิ่นตะวันออกหรือภาษาท้องถิ่นในบางคำหรือสำเนียง เช่น การพูดเร็ว กระชับ และมีคำศัพท์เฉพาะท้องถิ่น ซึ่งสะท้อนถึงรากวัฒนธรรมพื้นถิ่นของจังหวัดสระแก้ว รวมไปถึงคำยืมจากภาษาลาวและภาษาเขมรที่หลงเหลืออยู่จากประวัติศาสตร์การอพยพของกลุ่มคนในอดีต
นอกจากนี้ บางครอบครัวในชุมชนยังมีเชื้อสายชาวกัมพูชา (เขมร) ซึ่งอาจมีการพูดภาษาท้องถิ่นเขมรในการสื่อสารภายในครอบครัวหรือในกลุ่มผู้สูงวัย แม้ว่าในปัจจุบัน ภาษาเขมรจะถูกใช้ลดน้อยลง แต่ยังคงปรากฏอยู่ในคำศัพท์เกี่ยวกับอาหาร เครื่องใช้ และพิธีกรรมบางประการ
ในภาคการศึกษา โรงเรียนในพื้นที่ใช้ภาษาไทยกลางเป็นหลักในการเรียนการสอน
เดิมชาวบ้านพึ่งพาเกษตรกรรมเป็นหลัก เช่น การปลูกมันสำปะหลัง อ้อย และข้าวโพด แต่ด้วยราคาผลผลิตที่ไม่แน่นอน ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และภัยแล้งที่เกิดบ่อยในบางปี ส่งผลให้หลายครอบครัวต้องหารายได้เสริมจากงานรับจ้างนอกชุมชน หรือให้ลูกหลานไปทำงานในเมือง
มีแนวโน้มของ "สังคมผู้สูงวัย" ที่เริ่มชัดเจนขึ้น เนื่องจากคนหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งย้ายออกไปทำงานต่างถิ่น ทำให้แรงงานภาคการเกษตรในชุมชนลดลง และภาระในการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นในหลายครัวเรือน
การถ่ายทอดภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น การลดบทบาทของภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่นในกลุ่มเยาวชน เป็นความท้าทายต่อการสืบสานเอกลักษณ์ชุมชนในระยะยาว
ความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล และการลดลงของความชุ่มชื้นในดินจากการใช้พื้นที่เพาะปลูกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระบบนิเวศในบางพื้นที่เริ่มเสื่อมโทรม ชุมชนจึงเริ่มมีการตื่นตัวต่อการอนุรักษ์ทรัพยากร เช่น การปลูกป่าชุมชน การทำฝายชะลอน้ำ และการรณรงค์ลดการใช้สารเคมี
บ้านเนินสายฝนจำเป็นต้องสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ทรัพยากรเพื่อดำรงชีพกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้สารเคมีในเกษตร การส่งเสริมการปลูกพืชทนแล้ง และการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
กรมการปกครอง. (2568). ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. จาก https://stat.bora.dopa.go.th
กรมการพัฒนาชุมชน. (2565). คู่มือการจัดทำข้อมูลชุมชน กชช. 2 ค. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงมหาดไทย.
พลอยชมพู คลังวิสาร. (2567). การพัฒนาบรรจุภัณฑ์กลุ่มทอผ้าบ้านเนินสายฝน ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สำนักงานเกษตรอำเภอเขาฉกรรจ์. (2566). รายงานข้อมูลการผลิตและกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ตำบลพระเพลิง ปีงบประมาณ 2566.
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเขาฉกรรจ์. (2566). รายงานข้อมูลพื้นฐานหมู่บ้าน บ้านเนินสายฝน หมู่ที่ 13 ตำบลพระเพลิง. สระแก้ว: สำนักงานพัฒนาชุมชน.
สำนักงานสถิติจังหวัดสระแก้ว. (2566). สถิติจำนวนประชากรและครัวเรือน อำเภอเขาฉกรรจ์ แยกตามหมู่บ้าน. จาก http://www.nso.go.th
องค์การบริหารส่วนตำบลพระเพลิง. (2566). แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ. 2566-2570. จาก https://phraphloeng.go.th/