Advance search

กะเนอะโค๊ะ

ชุมชนบ้านปางทองคือการดำเนินชีวิตตามวิถีปกาเกอะญออย่างเรียบง่าย ควบคู่กับการอนุรักษ์ป่า มีวิถีชีวิตหลักคือการทำไร่หมุนเวียนที่ยังคงรักษาป่า และพึ่งพาป่าเป็นแหล่งอาหาร ยาสมุนไพร ใช้ทรัพยากรอย่างพอดี

หมู่ที่ 2
ปางทอง
แม่วะหลวง
ท่าสองยาง
ตาก
อบต.แม่วะหลวง โทร. 06 4421 7000
ญาณิศา ลาภลิขิต
20 มิ.ย. 2025
ปัญญา ไวยบุญญา
17 ก.ค. 2025
วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
22 มิ.ย. 2025
บ้านปางทอง
กะเนอะโค๊ะ

บ้านปางทอง มีการเพี้ยนเสียงชื่อหมู่บ้านจาก "ป่าตอง" เนื่องจากพื้นที่มีป่าไม้และมีต้นตองขึ้น จึงเรียกติดปากกันว่า "ป่าตอง" และเพี้ยนชื่อมาเป็น "ปางทอง" ที่เป็นชื่ออย่างเป็นทางการ


ชุมชนบ้านปางทองคือการดำเนินชีวิตตามวิถีปกาเกอะญออย่างเรียบง่าย ควบคู่กับการอนุรักษ์ป่า มีวิถีชีวิตหลักคือการทำไร่หมุนเวียนที่ยังคงรักษาป่า และพึ่งพาป่าเป็นแหล่งอาหาร ยาสมุนไพร ใช้ทรัพยากรอย่างพอดี

ปางทอง
หมู่ที่ 2
แม่วะหลวง
ท่าสองยาง
ตาก
63150
17.738506175199444
97.94421115572652
องค์การบริหารส่วนตำบลแม่วะหลวง

ก่อนที่จะมาเป็นบ้านปางทอง ชาวบ้านได้มีการโยกย้ายในบริเวณใกล้ ๆ หลายครั้ง เริ่มที่ผู้เฒ่าในหมู่บ้านสืบย้อนหลังได้

ในปี พ.ศ. 2437 ชาวบ้านอาศัยอยู่ที่ เดลอเปอพาคี ขณะนั้นยังไม่มีผู้ใหญ่บ้าน มีแต่ฮีโข่และแก่บ้าน คือ นายพาแชะปา จากนั้นได้มีการย้ายหมู่บ้านไปเรื่อย ๆ ดังนี้คือ 

พ.ศ. 2484 อยู่ที่เดลอพอทูเตอก่อ

พ.ศ. 2486 อยู่ที่เดลอทีเชอเง

พ.ศ. 2488 อยู่ที่เดลอจี้เยปู่ เกิดเหตุการณ์ชาวบ้านหนีทหารญี่ปุ่น จึงได้มีการตั้งชื่อหมู่บ้านตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จี้เยปู่ หมายถึงหนีญี่ปุ่น

พ.ศ. 2490 อยู่ที่เดลอฮอโข่แตะ

พ.ศ. 2493 อยู่ที่เดลอแมอูกี้คี

พ.ศ. 2498 อยู่ที่เดลอทีเชอคะคี

พ.ศ. 2500 อยู่ที่เดลอเปอดอกลา

พ.ศ. 2503 อยู่ที่เดลอกะเนอโค๊ะ

พ.ศ. 2508 อยู่ที่เดลอเตอกุยกลา

พ.ศ. 2511 อยู่ที่เดลอแมคาปอ

พ.ศ. 2512 อยู่ที่เดลอแมอูกี้โกล

พ.ศ. 2514 ได้มีการตั้งหลักปักฐานที่บ้านปางทอง ซึ่งเดิมทีไม่ได้ชื่อปางทอง แต่เป็นชื่อ ป่าตอง เป็นภาษาเหนือ ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นที่พักแรมของพ่อค้า ที่ไปมาค้าขาย วัว ควาย ที่มาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน คือ ประเทศเมียนมา ข้ามแม่น้ำเมยเพื่อที่จะไปยังอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ประกอบไปด้วยป่าไม้และมีต้นตองและมีการสร้างกระท่อมขึ้น จึงเรียกติดปากกันว่า ป่าตอง ภาษาท้องถิ่นเรียกบริเวณนี้ว่า ปอเชอ คำว่า ปอ หมายถึง กระท่อม เชอ หมายถึง ต้นตอง ต่อมาเมื่อชาวบ้านโยกย้ายมาตั้งบ้านใกล้กับบริเวณนี้ คนผ่านไปผ่านมาจึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า หมู่บ้านป่าตอง ต่อมาเมื่อทางการเข้ามาจึงเรียกเป็น ปางทอง ผู้เฒ่าในหมู่บ้านบางคนยังคงเรียกชื่อหมู่บ้านเดิมคือ ป่าตอง นอกจากปางทอง หมู่บ้านนี้ยังมีชื่อเรียกเป็นภาษากะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ) ว่า กะเนอะโค๊ะ ซึ่งหมายถึง พื้นที่ ที่เป็นป่าดงดิบ ชาวบ้านได้ตั้งหลักถาวรที่นี่จนถึงปัจจุบัน

บ้านปางทอง หมู่ที่ 2 ตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มีลักษณะเป็นพื้นที่ภูเขาสลับซับซ้อน และมีที่ราบเชิงเขา มีลำห้วยไหลผ่านหลายสาย เช่น ห้วยแม่วะหลวง ห้วยปางทอง และใกล้ แม่น้ำเมย ที่ไหลเลียบพรมแดน ไทย-พม่า และมีหมู่บ้านปางทองมีพื้นที่ป่าชุมชนขนาดใหญ่กว่า 230 ไร่ โดยหมู่บ้านปางทอง อยู่ในตำบลแม่วะหลวง และมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และ อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลท่าสองยาง อำเภอท่าสองยาง

บ้านปางทอง โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากร หมู่ที่ 2 บ้านปางทอง ตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,001 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 500 คน ประชากรหญิง 501 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 320 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนเมษายน 2568)

ปกาเกอะญอ
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ทุนวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น

ผ้าทอลายของชนเผ่าปกาเกอะญอเป็นผลงานหัตถกรรมที่สะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ และภูมิปัญญาท้องถิ่นของชนเผ่าอย่างลึกซึ้ง โดยใช้เทคนิคการทอด้วย "กี่เอว" หรือกี่ทอผ้าแบบดั้งเดิมที่ผู้ทอต้องนั่งทอโดยใช้ลำตัวเป็นแรงยึดทอกับไม้หลัก

ทุนทรัพยากรธรรมชาติ

ชุมชนบ้านปางทองในอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มีวิถีชีวิตแบบชาวปกาเกอะญอดั้งเดิมที่ใช้ ระบบไร่หมุนเวียน เป็นหลักในการทำเกษตรกรรม

  • ปลูกข้าวไร่เป็นพืชหลัก และแซมด้วยพืชผัก ใช้การเผาและจัดแนวกันไฟอย่างมีระบบ ไร่หมุนเวียนไม่เพียงสร้างความมั่นคงทางอาหารในชุมชน แต่ยังให้ผลิตผลใช้ในช่วงวิกฤติ เช่น ช่วยบรรเทาความหิวโหย

การละเล่นกีฬาพื้นบ้าน

1.ต่ายุโก กีฬาต่ายุโกมีการละเล่นกันนานแล้วถึงแม้ปัจจุบันจะไม่นิยมเล่นกันแต่บรรพบุรุษสมัยก่อนเล่นกันเพื่อความสนุกสนานและที่สำคัญที่สุดของกีฬาชนิดคือเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงข้อมือและกล้ามเนื้อได้อย่างดีบ่งบอกถึงบุคคลใดข้อมือแข็งแรงก็เป็นผู้ได้รับชัยชนะ

อุปกรณ์

  • มีด
  • ขวด
  • เชือก
  • ว่าเด

ขั้นตอน

  • นำขวดมาใส่น้ำและนำมาหมัดมือกับเชือกรวมถึงว่าเด และต้องนำว่าเดมาวัดกับข้อมือ

วิธีการเล่น

  • มีผู้เข้าร่วมแข่งขันละ 1 ท่าน เอามาแข่งกันและต้องจับว่าเดหนึ่งกำมือจากนั้นทำการยกขวดน้ำที่น้ำหนักประมาณ 1 กิโล มือต้องแข็งหย่อนไม่ได้ บุคคลใดยกขวดขึ้นได้จะเป็นผู้ชนะ

ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต

  • สมัยก่อนนิยมเล่นกันซึ่งสะท้อนถึงความสนุกสนาน คลายเครียดยามเวลาว่างได้และที่มีกีฬาชนิดนี้ขึ้นเพื่อมาวัดกันว่าใครข้อมือแข็งที่สุด

ประโยชน์

  • สร้างความแข็งแรงของข้อมือ
  • เสริมสร้างระบบร่างกายให้แข็งแรง
  • ช่วยผ่อนคลายสมองได้ ความเครียดได้
  • กีฬาสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้

2.เด้มึบอ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำเพื่อทำให้เกิดฝนตก ต้องดึงเสียงให้เหมือนกบร้อง เป็นสิ่งที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

อุปกรณ์

  • มีด
  • น้ำมันพืช
  • ใบจัก
  • มีดแหลม
  • ไม้ไผ่

ความเชื่อและข้อห้าม

  • เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการขอฝนให้ฝนตก

ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต

  • เป็นสิ่งที่ขอฝน เพราะบางครั้งฝนตกไม่ตามที่เราต้องกัน

ประโยชน์

  • เวลาปลูกข้าวฝนไม่ตกเลยดึงสายเด้มึบอเพื่อขอฝนให้ฝนตก

3.วิ่งขาเดียว เป็นการละเล่นที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษเป็นการละเล่นชนิดที่ออกกำลังของคนสมัยก่อนที่บรรพบุรุษออกกำลังกาย

วิธีการเล่น

  • วิ่งแข่งกัน

ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต

  • เป็นการผ่อนคลาย และออกกำลังกาย

ประโยชน์

  • ทำให้ขารับน้ำหนักของตัวเองได้ดีในเวลาเกิดอุบัติเหตุ ถึงจะวิ่งขาเดียวก็ยังสามารถไปได้

4.ลี่ก่าต่า เป็นอุปกรณ์การเล่นที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษมาตั้งแต่อดีต

วิธีการเล่น

  • หมุนรอบตัว

ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต

  • เป็นการละเล่นที่สร้างความอดทนของคนแต่ละคน

ประโยชน์

  • ทำให้เราได้รู้จักว่าใครคือคนที่อดทนได้ดีที่สุด

5.อี้แอะ เป็นการละเล่นที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษในอดีต เป็นการละเล่นที่ทดสอบความแข็งแรงของคนแต่ละคน

อุปกรณ์

  • ไม้
  • ไม้ไผ่
  • มีด
  • พื้นดินที่เรียบ

วิธีการเล่น

  • นั่งข้างละคนหมุนแข่งใครเมาก่อนแข่งยึดตัวใครหนักกว่ากัน

ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต

  • เป็นของเล่นที่คนปกาเกอะญอเล่นมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

ประโยชน์

  • ใช้เล่นยามที่ว่าง ๆ มาเล่นเพื่อนแข่งกัน

6.อูแกว 

อุปกรณ์

  • ไม้
  • เขาควาย
  • ปลายแหลมเศษเหล็กบาง
  • ขี้ผึ้ง

วิธีการเล่น

  • ใช้ปากเป่า และดูด
  • ใช้มือที่ข้างที่แต่ละคนถนัด ปิด-ปล่อย ตรงปลายของแกว่

ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต

  • บรรพบุรุษเมื่อก่อนตอนเช้าก่อนไปไร่ จะใช้เครื่องอูแกว่ในการเป่าเพื่อปลุกคนในหมู่บ้านว่าถึงเวลาไปไร่แล้ว ผู้ชายจะเป็นคนเป่า และเป็นเครื่องอย่างหนึ่งที่ตอนเราไปนอนในไร่กลับคืนจะเป่าเพื่อให้หมูป่าที่เข้ามากินข้าวในไร่ได้ยินและไม่กล้าเข้ามากินข้าวในไร่ และอีกอย่างหนึ่งคือ เมื่ออูแกว่ แกว่เป็นกำลังใจในการไปไร่ของคนหนุ่มสาว เป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน

ประโยชน์

  • แกว่งเป็นกำลังใจในการไปไร่ของคนหนุ่มสาว เป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน

7.เกี่ยวข้าวแข่งกัน เป็นการจีบกันของหนุ่มสาวในสมัยก่อน ด้วยการที่จะเป็นฝ่ายชายเป็นคนเกี่ยวข้าวและให้ฝ่ายหญิงเป็นคนมัด ทำกันเป็นคู่ ๆ ใครเป็นแฟนก็ส่งให้คนนั้น หรือจะเริ่มจีบใครก็ส่งให้คนที่จะจีบ

อุปกรณ์ 

  • เคียวเกี่ยวข้าว

วิธีการเล่น

  • ออกตัวพร้อมกันที่จุดจะเริ่มเกี่ยวข้าว
  • ใครไปถึงสุดขอบของไร่ก่อนก็เป็นฝ่ายชนะ

ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต

  • เป็นกิจกรรมหนึ่งของการทำไร่หมุนเวียน
  • เป็นการสร้างกำลังใจให้กับหนุ่มสาวในการทำงาน

ประโยชน์

  • สร้างความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาว
  • เป็นการกำเดินชีวิตของชาวปกาเกอะญอ

8.โหนเถาวัลย์ สมัยก่อนเขาจะโหนถาวัลย์ในช่วงหน้าหนาวถึงหน้าร้อน เพราะเป็นช่วงที่ชาวบ้านจะเก็บฝืนไว้ใช้ในหน้าฝน โดยการที่แม่ชวนลูกน้อยไปเก็บฝืน ระหว่างที่แม่ให้เด็กน้อยรอ แม่ตัดเถาวัลย์ที่ห้อยลงมาจากต้นไม้ให้ลูกน้อยโหนเล่นเพื่อที่จะข้ามเวลาในการรอแม่

อุปกรณ์

  • ตัดเถาวัลย์มาเพื่อที่จะเล่น
  • มัดเถาวัลย์ให้ห้อยลงมา (ในกรณีที่จะกลับมาเล่นที่บ้าน)
  • เถาวัลย์

วิธีการเล่น

  • ปีนขึ้นเถาวัลย์
  • โหนให้เมามัน

ประโยชน์

  • เป็นการทำให้เด็กน้อยไม่เบื่อในการรอแม่

9.เก็บข้าวในมือ เป็นการละเล่นของหนุ่มสาวและเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ของหนุ่มสาวตามความเชื่อ

อุปกรณ์

  • ข้าวเปลือกสำหรับไว้เล่น

วิธีการเล่น

  • เอาข้าวเปลือกไว้ในมือของหนึ่งฝ่าย
  • ให้อีกฝ่ายใช้มือทั้งสองเก็บได้ทีเดียว

ความเชื่อและข้อห้าม

  • เชื่อว่าเก็บได้มากน้อยสื่อถึงความจริงใจ

ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต

  • เล่นในช่วงปลูกข้าวไร่

ประโยชน์

  • สร้างความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาว
  • สร้างกำลังใจในการทำงาน

10.สไลเดอร์ดอย เป็นกุศโลบายในการชวนลูกน้อยไปไร่คือบ้านของชาวบ้านอยู่บนดอยและไร่ของชาวบ้านอยู่ตีนดอยตอนไปไร่แม่ก็หาไม้ไผ่ท่อนหนึ่งและให้ลูกสไลลงพอลูกได้ลองเล่นก็เกิดความสนุกวันต่อมาลูกน้อยก็ยังอยากไปไร่กับแม่ด้วยเหตุผลส่วนหนึ่งคืออยากเล่นสไลเดอร์

อุปกรณ์

  • ไม้ไผ่

วิธีการเล่น

  • อยู่บนดอย
  • นั่งบนไม้ไผ่
  • สไลด์ลงไปที่ตีนดอย

ความเชื่อและข้อห้าม

  • อันตรายถ้าเล่นกันเฉพาะเด็ก

ประโยชน์

  • ให้เด็กใกล้ชิดพ่อแม่
  • ได้ซึมซับวิถีชีวิตตัวเอง

บ้านปางทอง หมู่ 2 ตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ใช้ภาษาปกาเกอะญอในการสื่อสารกับคนในชุมชน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. (2567). สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2568. จาก https://stat.bora.dopa.go.th

ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. (ม.ป.ป.). บ้านปางทอง จังหวัดตาก. คลังข้อมูลชุมชน. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2568. จาก https://communityarchive.sac.or.th

ศุภชัย เสมาคีรีกุล. (2562). การใช้กีฬาในการสร้างพลังความร่วมมือกลุ่มเยาวชน เทือกเขาเบอบาตู. ใน ปัญญา ไวยบุญญา, สุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์, นฤมล แดนพงพี, และลิขิต พิมานพนา. (2562). การเสริมสร้างศักยภาพการวิจัยให้แก่เยาวชนชาติพันธุ์ในพื้นที่อําเภอชายแดนจังหวัดตาก. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น.

Today Channel. (10 สิงหาคม 2564). บ้านปางทอง #OTOPนวัตวิถี. Youtube. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2568. จาก https://youtu.be

อบต.แม่วะหลวง โทร. 06 4421 7000