Advance search

ย่านทองหล่อ ศูนย์กลางเศรษฐกิจที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งธุรกิจบริการ การค้า การลงทุน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ สะท้อนถึงศักยภาพของพื้นที่ในฐานะ “ทำเลทอง” ที่มีโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

คลองตันเหนือ
วัฒนา
กรุงเทพมหานคร
สข.วัฒนา โทร. 0 2381 8930
ฤชุอร เกษรมาลา
8 มิ.ย. 2025
วิไลวรรณ เดชดอนบม
22 มิ.ย. 2025
ทองหล่อ

"ทองหล่อ” มาจากชื่อของ พลเรือตรี ทหาร ขำหิรัญ (ชื่อเดิม ทองหล่อ ขำหิรัญ) อดีตนายทหารนาวิกโยธินและสมาชิกคณะราษฎร ผู้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ซึ่งในอดีตท่านเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณซอยนี้ จึงมีการตั้งชื่อซอยตามชื่อของท่าน เพื่อเป็นเกียรติและระลึกถึงความสำคัญในประวัติศาสตร์ รวมทั้งสะท้อนถึงความผูกพันของพื้นที่กับบุคคลสำคัญในยุคสมัยนั้น


ย่านทองหล่อ ศูนย์กลางเศรษฐกิจที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งธุรกิจบริการ การค้า การลงทุน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ สะท้อนถึงศักยภาพของพื้นที่ในฐานะ “ทำเลทอง” ที่มีโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

คลองตันเหนือ
วัฒนา
กรุงเทพมหานคร
10110
13.724390
100.578784
กรุงเทพมหานคร

ในอดีต พื้นที่บริเวณย่านทองหล่อในปัจจุบัน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงเทพมหานคร เคยเป็นส่วนหนึ่งของ “ทุ่งบางกะปิ” ซึ่งมีลักษณะเป็นพื้นที่นาราบลุ่ม โดยชุมชนดั้งเดิมมักตั้งถิ่นฐานกระจายตัวตามแนวคลองแสนแสบ เนื่องจากในยุคนั้นการคมนาคมทางน้ำยังเป็นเส้นทางหลักของผู้คน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการคมนาคมของเมือง จากการสัญจรทางน้ำมาเป็นทางบก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายเมืองออกไปทางทิศตะวันออก

ในช่วงปลายรัชกาลที่ 7 การคมนาคมทางบกได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยอธิบดีกรมทางในขณะนั้นคือ อำมาตย์เอก พระพิศาลสุขุมวิท ได้ริเริ่มก่อสร้างถนนตัดผ่านผืนนาทุ่งบางกะปิ ซึ่งต่อมาได้รับการตั้งชื่อว่า "ถนนสุขุมวิท" โดยถนนสายนี้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมกรุงเทพมหานครเข้าสู่ภูมิภาคตะวันออกของประเทศ นับแต่นั้นเป็นต้นมา พื้นที่ชานเมืองด้านตะวันออกจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงสู่การเป็นที่อยู่อาศัย

ในช่วงเริ่มแรก ราคาที่ดินในบริเวณนี้ยังไม่สูงนัก ทำให้ผู้ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานสามารถซื้อที่ดินแปลงใหญ่เพื่อสร้างบ้านพักอาศัยได้ ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวพัฒนาเป็นย่านที่พักอาศัยชั้นดีของผู้มีฐานะ เรียกรวมกันว่า “ย่านสุขุมวิท” ขณะเดียวกัน การจัดสรรที่ดินอย่างเป็นระบบในพื้นที่ย่านทองหล่อดำเนินการโดยพระยานิพนธ์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำให้การตั้งถิ่นฐานของประชาชนเป็นไปอย่างหนาแน่นและเป็นระเบียบมากขึ้น

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ย่านทองหล่อยังเคยเป็นพื้นที่ซึ่งกองทัพญี่ปุ่นเคลื่อนพลผ่านและตั้งฐานทัพ ส่งผลให้มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่ในย่านนี้จำนวนมาก ต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงยุคหลังสงคราม ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดชุมชนชาวญี่ปุ่นในทองหล่อในเวลาต่อมา

ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษ ย่านทองหล่อยังคงเป็นพื้นที่ชุมชนพักอาศัยของชาวไทยดั้งเดิมและชาวญี่ปุ่น โดยมีการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวา โดยมีเพียงการขยายตัวของอพาร์ตเมนต์และร้านอาหารที่รองรับความต้องการของชุมชนญี่ปุ่นที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ

กระทั่งในปี พ.ศ. 2523 รัฐบาลได้ดำเนินการขยายถนนทองหล่อให้เป็นถนนขนาด 6 ช่องจราจร พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของพื้นที่ ทำให้ย่านทองหล่อเริ่มกลายเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนขนาดเล็กและขนาดกลางให้ความสนใจ ประเมินว่าเป็นย่านที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว และได้เริ่มทยอยซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

จากพื้นที่ชานเมืองริมคลองสายเล็ก ย่านทองหล่อจึงก้าวเข้าสู่การเป็นย่านอยู่อาศัยระดับบน และกลายเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านของกรุงเทพมหานครจากเมืองเก่าสู่มหานครทันสมัยอย่างแท้จริง

ที่มาของชื่อย่าน “ทองหล่อ”

ชื่อ “ทองหล่อ” มีที่มาจากชื่อของ เรือโททองหล่อ ขำหิรัญ ข้าราชการทหารเรือในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยบริเวณนี้เป็นที่ดินส่วนบุคคลของท่าน และต่อมาจึงเป็นที่รู้จักกันในหมู่ประชาชนว่า “บ้านของนายทองหล่อ” หรือ “ทางไปบ้านทองหล่อ” ซึ่งเมื่อมีการขยายเมืองและตัดถนนซอยในเวลาต่อมา ชื่อ “ทองหล่อ” จึงได้รับการเรียกขานและใช้เป็นชื่อซอยอย่างเป็นทางการว่า ถนนสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) จนถึงปัจจุบัน

ชื่อย่าน “ทองหล่อ” จึงเป็นการระลึกถึงบุคคลสำคัญในพื้นที่ดั้งเดิม และสะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการตั้งชื่อถนนที่อิงกับประวัติบุคคลหรือเหตุการณ์ในอดีต อันเป็นลักษณะเฉพาะของการขยายเมืองในยุคแรกเริ่มของกรุงเทพมหานคร

อาณาเขต

ย่านทองหล่อตั้งอยู่ในแขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร โดยมีอาณาเขต ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับเขตราชเทวีและเขตห้วยขวาง
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับเขตสวนหลวง
  • ทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดต่อกับเขตพระโขนงและเขตคลองเตย
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับเขตปทุมวัน

พื้นที่ส่วนใหญ่ในเขตวัฒนา โดยเฉพาะในย่านทองหล่อ มีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งทำหน้าที่รองรับประชากรกลุ่มผู้ทำงานและอยู่อาศัยในย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพมหานคร 

ในอดีตย่านทองหล่อเคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยของผู้มีฐานะและขุนนางชั้นสูง โดยมีลักษณะเป็นชุมชนสงบ รายล้อมด้วยบ้านพักอาศัยเดี่ยวขนาดใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไป พื้นที่นี้ได้ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงตามกระแสการขยายตัวของเมือง และมีบทบาทใหม่ในฐานะ “ย่านธุรกิจและการค้าระดับพรีเมียม” ที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร

ปัจจุบัน ทองหล่อกลายเป็นย่านที่มีทั้งคอนโดมิเนียมหรู โรงพยาบาลเอกชนนานาชาติ ร้านอาหารระดับมิชลิน คาเฟ่ดีไซน์เฉพาะตัว ไปจนถึงสถานบันเทิงและไลฟ์สไตล์ไนต์ไลฟ์ระดับไฮเอนด์ ย่านนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยยอดนิยมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่มีความเป็น “นานาชาติ” (Internationalized Neighborhood) ทั้งในมิติของวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ

ระบบคมนาคมย่านทองหล่อ

ย่านทองหล่อ ตั้งอยู่ในเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นด้านระบบคมนาคม เนื่องจากตั้งอยู่ในแนวเส้นทางเศรษฐกิจหลักของกรุงเทพมหานคร เชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญ เช่น ถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 9 และถนนเอกมัย ทำให้ย่านทองหล่อเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกทั้งจากภายในและภายนอกเขตเมือง

ระบบการเดินทางหลักในพื้นที่ประกอบด้วยการคมนาคมทั้งภาคพื้นดินและระบบราง โดยมี สถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ(สายสุขุมวิท) เป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญของผู้เดินทาง ทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ พนักงานบริษัท และนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีทางเลือกในการเดินทางอื่น ๆ ได้แก่

  • รถโดยสารประจำทาง ที่ให้บริการตลอดแนวถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี
  • รถจักรยานยนต์รับจ้าง และ แท็กซี่ ซึ่งมีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ย่านทองหล่อยังมีลักษณะเด่นด้านการคมนาคมในแนวราบ เนื่องจากมีซอยย่อยจำนวนมากที่เชื่อมต่อถึงกันได้อย่างคล่องตัว ทำให้เกิดโครงข่ายถนนภายในชุมชนที่มีประสิทธิภาพ และสามารถหลีกเลี่ยงถนนสายหลักในช่วงเวลาเร่งด่วนได้ดี

ย่านทองหล่อมีโครงสร้างประชากรที่สะท้อนความหลากหลายทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมอย่างชัดเจน โดยประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ส่วนใหญ่มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมอยู่ในระดับปานกลางถึงระดับสูง ลักษณะการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ประกอบด้วย ชุมชนดั้งเดิมของชาวไทย ซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดินในอดีต และยังคงสืบทอดการอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน ร่วมกับกลุ่มประชากรที่ ย้ายถิ่นฐานเข้ามาใหม่ ทั้งจากจังหวัดอื่น ๆ และจากต่างประเทศ

กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักในย่านทองหล่อมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ชาวญี่ปุ่น ซึ่งมักเข้ามาอาศัยเพื่อการทำงานหรือดำรงตำแหน่งในบริษัทต่างชาติที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ทำให้ย่านทองหล่อเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีชาวญี่ปุ่นอยู่อาศัยหนาแน่นที่สุดในประเทศไทย รองลงมาคือ ชาวเกาหลี และกลุ่มประเทศตะวันตก เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้บริหาร นักลงทุน หรือครอบครัวของชาวต่างชาติที่เลือกทองหล่อเป็นที่พักเนื่องจากความสะดวกสบายด้านสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต และความปลอดภัย

ย่านทองหล่อเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร โดยมีลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะในภาคบริการ การค้า และการลงทุน ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะพื้นที่ที่มีความเป็นเมืองอย่างชัดเจน

ประชาชนที่อาศัยอยู่ในย่านทองหล่อส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคบริการและภาคธุรกิจ ได้แก่

  • ธุรกิจบริการ เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สถานเสริมความงาม โรงแรม และที่พักให้เช่ารายเดือน
  • ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง โดยเฉพาะสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ และสินค้าที่เน้นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง
  • ธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม เช่น โรงพยาบาลเอกชน คลินิกรักษาเฉพาะทาง และสถานบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม
  • ธุรกิจด้านการออกแบบและงานสร้างสรรค์ เช่น ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า แบรนด์ท้องถิ่น และสำนักงานขนาดเล็ก
  • ธุรกิจเกี่ยวกับการจัดงาน เช่น สถานที่รับจัดงานเลี้ยงและงานแต่งงาน ซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภคระดับบน

นอกจากนี้ ย่านทองหล่อยังเป็นที่ตั้งของโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก ทั้งอาคารชุดพักอาศัย อาคารสำนักงาน และศูนย์รวมกิจกรรมเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนที่เล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่ในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

พื้นที่พาณิชยกรรมขนาดใหญ่ของย่านทองหล่อตั้งอยู่บริเวณถนนสายหลักและสายรอง เช่น ถนนสุขุมวิท ซอยทองหล่อ ซอยอโศกมนตรี ซอยเอกมัย และซอยปรีดีพนมยงค์ พื้นที่เหล่านี้มีบทบาทรองจากที่อยู่อาศัยแต่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอย่างมาก โดยเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารจากหลากหลายประเทศ สถานบริการต่าง ๆ และสถานบันเทิงชื่อดัง อีกทั้งยังเป็นย่านที่มีชื่อเสียงด้านธุรกิจจัดงานมงคลสมรส ซึ่งได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ส่งผลให้ย่านทองหล่อจึงเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง มีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจตลอดเวลา และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นตัวอย่างของพื้นที่เมืองที่ผสมผสานระหว่างเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตได้อย่างกลมกลืน

ศูนย์การค้าย่านทองหล่อ : Donki Mall ทองหล่อ กินซ่า ทองหล่อ เจ อเวนิว ทองหล่อ Rain Hill เอท ทองหล่อ ฯลฯ

ประชากรในย่านทองหล่อส่วนใหญ่มีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม โดยประชากรส่วนใหญ่มีความนับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก ขณะเดียวกันยังมีชุมชนชาวมุสลิมและชาวคริสต์อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ภายใต้การดำรงชีวิตตามวิถีวัฒนธรรมไทยดั้งเดิมที่สืบทอดมาอย่างยาวนานในพื้นที่ การมีชุมชนดั้งเดิมของคนไทยร่วมกับกลุ่มผู้ย้ายถิ่นฐานใหม่ตามแนวการขยายตัวของเมือง ได้ส่งเสริมให้เกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรมอย่างลงตัวในบริบทของย่านเมืองใหญ่

นอกจากนั้น ประชาชนในย่านทองหล่อยังให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูวัฒนธรรมไทย ผ่านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชนในโอกาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานประเพณี เทศกาลทางศาสนา และวันสำคัญระดับชาติ ซึ่งสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมทางสังคม และการธำรงรักษาอัตลักษณ์ท้องถิ่นของชุมชนในย่านทองหล่อได้อย่างยั่งยืน

ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่งของย่านทองหล่อ คือการเป็นพื้นที่ที่สะท้อนวิถีชีวิตเมืองที่ทันสมัยอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของการออกแบบพื้นที่สาธารณะและพื้นที่กึ่งสาธารณะในรูปแบบพื้นที่เปิดโล่ง ซึ่งเอื้อต่อกิจกรรมภายนอกอาคาร เช่น การนั่งทำงานในร้านกาแฟ การเดินเล่น การพบปะสังสรรค์ และกิจกรรมทางสังคมอื่น ๆ

การใช้พื้นที่เช่นนี้ทำให้ย่านทองหล่อมีบรรยากาศเฉพาะตัว ซึ่งเป็นการหลอมรวมระหว่างความสะดวกสบายของชีวิตเมือง ความสร้างสรรค์ และไลฟ์สไตล์ของผู้คนหลากหลายวัยได้อย่างกลมกลืน ส่งผลให้ทองหล่อไม่เพียงแต่เป็นย่านอยู่อาศัย แต่ยังเป็น “พื้นที่แห่งการใช้ชีวิต” ที่สะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงของเมืองในยุคปัจจุบันได้อย่างโดดเด่น

พลเรือตรีทหาร ขำหิรัญหรือทองหล่อ ขำหิรัญ บุคคลสำคัญเบื้องหลังชื่อย่านทองหล่อ

ซอยทองหล่อ หรือซอยสุขุมวิท 55 มีชื่อเรียกตามชื่อเดิมของ ร้อยโททองหล่อ ขำหิรัญ ซึ่งเป็นนายทหารนาวิกโยธินและหนึ่งในสมาชิกคณะราษฎรที่ร่วมกระทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองสยามในปี พ.ศ. 2475 โดยท่านเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณซอยนี้ในอดีต

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซอยทองหล่อเป็นเส้นทางที่กองทัพญี่ปุ่นเคลื่อนผ่านและตั้งฐานทัพ ขณะที่ในปี พ.ศ. 2503 ถนนยังคงเป็นถนนสายเล็กที่มีคลองขนาบทั้งสองข้างทาง ก่อนจะมีการขยายถนนเป็นหกช่องจราจรในปี พ.ศ. 2523 พร้อมกับการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความสวยงามและทันสมัยขึ้น

พลเรือตรีทหาร ขำหิรัญ ซึ่งเดิมชื่อทองหล่อ ขำหิรัญ เป็นนายทหารนาวิกโยธินที่มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ขณะนั้นท่านมียศเป็นเรือโทและดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมวดประจำกองร้อยที่ 3 กองพันพาหนะ โดยเข้าร่วมกับคณะราษฎรภายใต้การชักชวนของ พลเรือตรีสังวรณ์ สุวรรณชีพ ซึ่งเป็นเพื่อนทหารเรือและญาติกัน โดยทหารนาวิกโยธินมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกำลังรบในเมือง ซึ่งช่วยให้อำนาจการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นไปอย่างราบรื่น

ต่อมาใน พ.ศ. 2478 ทหารได้รับการส่งเสริมให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยพลเรือตรีทหารได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บังคับบัญชา และสนับสนุนการศึกษาอบรมทหารนาวิกโยธินในหลายด้านทั้งทหารราบ ทหารช่าง ทหารม้า และทหารปืนใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรบ นอกจากนี้ยังได้เตรียมที่ตั้งใหม่ของหน่วยนาวิกโยธินที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินในปัจจุบัน

ในด้านการเมือง พลเรือตรีทหารดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่ไม่ได้ประจำกระทรวงในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง ภายใต้รัฐบาลนายควง อภัยวงศ์ และมีบทบาทในการกบฏวังหลวงในปี พ.ศ. 2492 ซึ่งแม้จะไม่สำเร็จ แต่ยังคงมีบทบาททางการเมืองโดยเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถึง 3 สมัย

ชื่อของพลเรือตรีทหาร ขำหิรัญ จึงถูกนำมาใช้เป็นชื่อของซอยสุขุมวิท 55 หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อ “ซอยทองหล่อ” ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยว ศูนย์รวมร้านอาหาร สถานบันเทิง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร

“พลิกโฉมทองหล่อ: ทำเลทองท่ามกลางศูนย์รวมเศรษฐกิจของคนเมือง”

ย่านทองหล่อจัดเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่มีความสำคัญและมีบทบาทโดดเด่นในกรุงเทพมหานคร โดยเป็นศูนย์กลางกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลากหลายด้าน ทั้งธุรกิจบริการ การค้า และการลงทุน ส่งผลให้ย่านนี้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับย่อยที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง

ด้วยทำเลที่ตั้งในเขตวัฒนาและอยู่ใจกลางเส้นทางคมนาคมหลักของเมือง ย่านทองหล่อจึงเป็นที่ตั้งของธุรกิจขนาดใหญ่ ร้านค้าแบรนด์ชั้นนำ ร้านอาหารระดับพรีเมียม คอนโดมิเนียมหรู สถานบันเทิง และสำนักงานธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งดึงดูดทั้งผู้ประกอบการ นักลงทุน รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

นอกจากนี้ ย่านทองหล่อยังมีบทบาทสำคัญในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาคารสำนักงาน และที่พักอาศัยที่ทันสมัยหลายโครงการอย่างต่อเนื่อง สะท้อนศักยภาพของพื้นที่ในฐานะ “ทำเลทอง” ที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในระยะยาว

การผสมผสานระหว่างธุรกิจและบริการที่ครบวงจร พร้อมทั้งการรองรับประชากรกลุ่มหลากหลายระดับ ทำให้ย่านทองหล่อเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับกรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน

ย่านทองหล่อยังเป็นทำเลทองที่มีศักยภาพสูงสำหรับนักลงทุน เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจและแหล่งชุมชนฐานะมั่งคั่ง อีกทั้งเป็นพื้นที่อยู่อาศัยและแหล่งธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างกว้างขวาง

ปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมความน่าสนใจของย่านทองหล่อในฐานะทำเลลงทุน ได้แก่

  • ระบบคมนาคมที่สะดวก ทั้งทางถนนและขนส่งมวลชน
  • การเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า
  • การเป็นศูนย์รวมร้านอาหาร สถานบันเทิง และแหล่งธุรกิจบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง
  • ความหลากหลายของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งชาวไทยรายได้สูงและชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยและลงทุน
  • สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ย่านทองหล่อจึงเป็นพื้นที่ที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต นักลงทุนจึงเห็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจในย่านนี้

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ย่านทองหล่อมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น จากเดิมที่เป็นพื้นที่ชุมชนอยู่อาศัยของประชาชนท้องถิ่นและชาวต่างชาติในระดับปานกลาง เริ่มพัฒนาเป็นย่านธุรกิจและพาณิชยกรรมที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคบริการระดับพรีเมียมและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ในอดีต ย่านทองหล่อมีลักษณะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยหนาแน่น ประกอบด้วยบ้านเรือนและอพาร์ทเมนต์ขนาดเล็กที่รองรับชาวญี่ปุ่นและชุมชนดั้งเดิม ต่อมาเมื่อเมืองขยายตัวและการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานมีมากขึ้น เช่น การขยายถนนและระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย ส่งผลให้ย่านทองหล่อกลายเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนทางเศรษฐกิจ

ตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา ย่านทองหล่อได้กลายเป็นทำเลทองที่มีการลงทุนอย่างคึกคักในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับสูง อาคารสำนักงานทันสมัย และศูนย์การค้า ส่งผลให้พื้นที่มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภครายได้สูง

นอกจากนี้ ธุรกิจบริการ เช่น ร้านอาหารนานาชาติ คาเฟ่ คลินิกสุขภาพและความงาม รวมถึงสถานบันเทิง ได้เติบโตอย่างรวดเร็วและหลากหลาย รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบันและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการ

การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในย่านทองหล่อจึงสะท้อนถึงการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจากชุมชนที่อยู่อาศัยไปสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับเมืองที่มีความหลากหลายทางธุรกิจ พร้อมทั้งเป็นพื้นที่ที่สร้างรายได้และมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

พันธวิศ ลวเรืองโชค. (2549). การพัฒนาเชิงพื้นที่สำหรับการเกิดกระแสความเปลี่ยนแปลงสมัยใหม่ของเมืองกรณีศึกษาปรากฏการณ์ย่านทองหล่อ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ศิลปวัฒนธรรม. (17 กุมภาพันธ์ 2567). ชื่อ “ซอยทองหล่อ” มาจากไหน ฤๅจะเป็นชื่อทหารในคณะราษฎร หรือนักธุรกิจจัดสรรที่ดิน. สืบค้น 8 มิถุนายน 2568, จาก https://www.silpa-mag.com/

สุทธิพงษ์ บุษบงค์. (2561). การศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาที่ดิน บริเวณซอยสุขุมวิท 55 ซอยทองหล่อ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สำนักงานเขตวัฒนา. (2566). แผนปฏิบัติราชการประจำปี พ.ศ.2566 ของสำนักงานเขตวัฒนา. สืบค้น 8 มิถุนายน 2568, จาก https://webportal.bangkok.go.th

DDproperty. (22 เมษายน 2562). รู้จักย่านทองหล่อแบบเจาะลึก. สืบค้น 8 มิถุนายน 2568, จาก https://www.ddproperty.com/

DDproperty. (2 กรกฎาคม 2567). BTS ทองหล่อ (E6) ทำเลทองในการอยู่อาศัย ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม. สืบค้น 8 มิถุนายน 2568, จาก https://www.ddproperty.com/

Postjung. (2 ตุลาคม 2566). ที่มาของชื่อ "ซอยทองหล่อ". สืบค้น 8 มิถุนายน 2568, จาก https://board.postjung.com/

สข.วัฒนา โทร. 0 2381 8930