Advance search

บ้านนาคูหา หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาที่เชิญชวนให้ผู้คนได้เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตพื้นบ้านที่ไม่เหมือนใคร ร่วมหาเตา ทำกาละแม ย้อมผ้าฮ้อม สักการะพระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปสีทองถือลูกสมอองค์เดียวในไทย

หมู่ที่ 5
นาคูหา
สวนเขื่อน
เมืองแพร่
แพร่
อบต.สวนเขื่อน โทร. 0 5464 5688
วิไลวรรณ เดชดอนบม
10 มิ.ย. 2025
วิไลวรรณ เดชดอนบม
22 มิ.ย. 2025
บ้านนาคูหา


ชุมชนชนบท

บ้านนาคูหา หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาที่เชิญชวนให้ผู้คนได้เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตพื้นบ้านที่ไม่เหมือนใคร ร่วมหาเตา ทำกาละแม ย้อมผ้าฮ้อม สักการะพระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปสีทองถือลูกสมอองค์เดียวในไทย

นาคูหา
หมู่ที่ 5
สวนเขื่อน
เมืองแพร่
แพร่
54000
18.128091
100.318273
องค์การบริหารส่วนตำบลสวนเขื่อน

ความเป็นมาของบ้านนาคูหาเริ่มขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน เมื่อนายลา (ไม่ทราบนามสกุล) ชาวบ้านหนองแขม ตำบลปางแดง ได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่บ้านนาคูหาปัจจุบัน ต่อมาจึงได้มีคนจากบ้านหนองแขมอพยพมาเพิ่มเติมเรื่อย ๆ ประกอบด้วยนายอู๊ด นางขื่น นายแดง และนางเฮียน จากนั้นก็เริ่มมีชาวบ้านอื่นอพยพมาและมีลูกมีหลานกันมากขึ้นด้วย

ต่อมาใน พ.ศ. 2513 เกิดน้ำท่วมขนาดใหญ่ ทำให้ไร่นาหลายแห่งเกิดความเสียหาย นายชาญชัย ใจใส นายอำเภอเมืองแพร่ในขณะนั้นจึงได้ริเริ่มสร้างถนนขึ้นใน พ.ศ. 2517 โดยสร้างเส้นทางจากบ้านป่าแดงถึงน้ำตกแม่แคมเรื่อยมาจนถึงบ้านนาคูหา แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2519 ขณะเดียวกันหลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ไร่นาเสียหายเป็นอันมาก ชาวบ้านที่เดิมทีประกอบอาชีพเกษตรกรจึงเริ่มเปลี่ยนแนวคิดหันมาปลูกเมี่ยงตามเนินเขา โดยนำสายพันธุ์เมี่ยงมาจากจังหวัดน่าน ในระยะแรกเป็นเพียงการทดลองปลูก แต่ภายหลังได้ผลผลิตดี ชาวบ้านนาคูหาจึงหันมาปลูกเมี่ยงกันเป็นอาชีพหลักจนถึงปัจจุบัน

ลักษณะภูมิประเทศ

สภาพภูมิประเทศของบ้านนาคูหามีลักษณะเป็นหุบเขาในบริเวณภูเขาสูงในแนวเทือกเขาแพร่-น่าน ซึ่งมีความสูงประมาณ 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีลำน้ำแม่แคมไหลผ่าน พื้นที่บางส่วนของหมู่บ้านถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่ใช้สอยในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แคม ประมาณ 1,600 ไร่ เมื่อรวมกับพื้นที่หมู่บ้าน ทำให้บ้านนาคูหามีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่ใช้เป็นพื้นที่ทำการเกษตร และที่อยู่อาศัย ภูมิอากาศแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล โดยฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม ในช่วงนี้จะมีฝนตกชุกประมาณ 116 มิลลิเมตรต่อเดือน และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ โดยหมู่บ้านนาคูหามีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านแม่แคม ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านนาแคม ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านแม่ลัว ตำบลปางแดง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลปิงหลวง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน

ลักษณะการตั้งบ้านเรือน

ชาวบ้านในหมู่บ้านจะปลูกสร้างบ้านเรือนเป็นกลุ่ม ๆ บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ยกพื้นใต้ถุนสูง ชั้นบนของบ้านนิยมกั้นห้องตั้งแต่สองห้องขึ้นไป สำหรับเป็นห้องนอนของเจ้าของบ้านและห้องนอนของลูกสาว นอกนั้นสำหรับแขกที่จะมาพักชั่วคราว ส่วนสาเหตุที่ยกใต้ถุนสูงนั้นก็เพื่อใช้ใต้ถุนบ้านในการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ไว้ให้สำหรับเก็บหรือหมักเมี่ยง เก็บเครื่องมือทางการเกษตร หรือบางครัวเรือนก็ใช้เป็นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น หมู ไก่ 

สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร์ (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรบ้านนาคูหา หมู่ที่ 5 ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 496 คน แยกเป็นประชากรชาย 242 คน ประชากรหญิง 254 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 232 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)

ชาวบ้านนาคูหาส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการทำเกษตรกรรม เช่น การทำนา ทำไร่ข้าวโพด ทำไร่กาแฟ และการทำเมี่ยง ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจของหมู่บ้าน อีกทั้งยังมีอาชีพอื่น ๆ เช่น รับจ้าง ค้าขาย ขับรถสองแถว

ในปัจจุบันบ้านนาคูหายังนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ที่กำลังเป็นกระแสอย่างมาก เนื่องมาจากลักษณะภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา มีอากาศบริสุทธิ์ อีกทั้งยังมีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทำให้บ้านนาคูหากลายเป็น 1 ใ5 ของเส้นทางท่องเที่ยวเกษตรสีเขียวของกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือที่เรียกว่า Gastronomy อีกทั้งยังได้รับขนานนามว่าเป็นแหล่งโอโซนอันดับ 7 ของไทย โดยชุมชนได้มีการสร้างที่พักโฮมสเตย์ จัดพื้นที่สำหรับเป็นลานกางเต็นท์ และยังได้จัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชนให้เติบโต สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจภายในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำผ้ามัดย้อมโดยใช้ฮ้อม เพราะบ้านนาคูหาแห่งนี้เป็นแหล่งปลูกและผลิตฮ้อมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดแพร่ โดยนักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ทุกกระบวนการการทำฮ้อม และยังได้ทดลองทำผ้ามัดย้อมด้วยตนเองด้วย

บ้านนาคูหายังมีพืชชนิดหนึ่ง เรียกว่า "เตา" หรือ "เทา" เป็นสาหร่ายน้ำจืดที่สามารถพบได้ในแหล่งน้ำสะอาดและบริสุทธิ์เท่านั้น โดยชาวบ้านนาคูหาได้นำพืชน้ำชนิดนี้มาแปรรูปให้เกิดมูลค่า คือ ข้าวเกรียบเตา บางกรอบ ไร้น้ำมัน และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังเป็นที่นิยมของบ้านนาคูหาด้วย

นอกจากนี้ ยังมีศูนย์การเรียนรู้การทำกาละแมจากเตา ผาสิงห์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวประจำชุมชนอย่างวัดนาคูหา วัดเล็ก ๆ กลางหุบเขาที่มีความเงียบสงบและงดงาม ภายในวิหารมีพระประธานพุทธศิลป์แบบท้องถิ่นล้านนาที่สำคัญ คือ มีพระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปสีทองขนาดใหญ่องค์เดียวในไทยที่ถือลูกสมอ (ลูกสมอ คือ พืชท้องถิ่นที่ขึ้นอยู่ทั่วหมู่บ้าน) ประดิษฐานอยู่กลางทุ่งนา และมีสะพานไม้ไผ่ทอดยาวจากองค์พระพาดผ่านกลางทุ่งนาจดจุดชมวิวผาสิงห์ที่ทางวัดนาคูหาและหมู่บ้านได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมวิวความสวยงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด สุดปลายของสะพานไม้ไผ่จะเป็นสวนผสมที่ปลูกพืชหลากหลาย และยังเป็นทางผ่านที่จะเดินไปยังถ้ำนาคูหาอีกด้วย

ประเพณีสำคัญประจำปี

1.ประเพณีแห่บ้องไฟหรือบอกไฟ ใช้จุดเพื่อบูชาในวันสำคัญ เช่น วันวิสาขบูชา วันฉลองโบสถ์ วันสงกรานต์ ก่อนนําไปจุด จะมีการแห่และร้องรําเป็นเพลงเรียกว่า ฮาบอกไฟ

2.ประเพณีตรุษสงกรานต์ เป็นประเพณีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตรงกับเดือนเมษายน หรือเดือน 7 เหนือของทุกปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ซึ่งเรียกว่า วันสังขารล่อง หมายถึง สังขารหรืออายุของเราได้ล่วงเลยมา 1 ปี ในวันนี้จะมีการทำความสะอาดบ้านเรือน เสื้อผ้าทุกอย่างเพื่อขจัดสิ่งไม่ดีให้หมดไป วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า วันเน่า หรือวันเนา ถือว่าเป็น วันสันติ ห้ามทุบตีหรือด่าทอกัน วันที่ 15 เมษายน เป็นวันเถลิงศก ช่วงเช้ามีการทำบุญ ตักบาตร นําภัตตาหารไปถวายพระ เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติที่ล่วงลับ หลังจากเสร็จพิธีทางศาสนาจะมีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เป็นการขอขมาและรับพร ช่วงบ่ายมีการสรงน้ำพระ วันที่ 16 เมษายน เรียกว่า วันปากปี เป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ นิยมจุดบ้องไฟ สะเดาะเคราะห์สืบชะตาในวันนี้

3.ประเพณีการบวช หรือเรียกว่า ดาปอย จะทำอยู่ 2 วัน วันแรก เรียกว่า วันดา เป็นวันเตรียมพร้อมที่จะบวชและฉลองนาค ส่วนวันที่สอง เป็นวันบวช

นอกจากนี้ ยังมีประเพณีอื่น ๆ อีกมาก เช่น ประเพณีสงเคราะห์ สืบชะตาคน เอาขวัญ หรือเรียกขวัญ เลี้ยงผี แห่ครัวทานเข้าวัด ประเพณีแต่งงาน ประเพณีการทำศพ ฯลฯ ซึ่งพิธีกรรมทั้งหลาย จะมีก็ต่อเมื่อทุกคนส่วนใหญ่ว่างจากงาน และพร้อมทั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์ ส่วนประเพณีอื่นนอกเหนือจากนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับประเพณีในท้องถิ่นภาคเหนือทั่วไป

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ข้าวเกรียบเตา บ้านนาคูหา

บ้านนาคูหามีพืชน้ำชนิดหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่ตามธรรมชาติในบริเวณแหล่งน้ำสะอาด คือ เตา หรือเทา สามารถรับประทานได้และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ชาวแพร่นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยพืชน้ำชนิดนี้ยังเป็นดัชนีชี้วัดความสะอาดและช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้เเหล่งน้ำ ซึ่งสอดคล้องกับการที่บ้านนาคูหาได้รับการยกย่องเป็นหมู่บ้านที่มีอากาศบริสุทธิ์เป็นอันดับ 7 ของประเทศไทย เตา จึงเป็นวิถีชีวิตของคนบ้านนาคูหา ชาวบ้านนาคูหาเชื่อว่าเตามีชีวิต ทุกวันพระชาวบ้านจึงเว้นจากการเก็บเตา เพราะถือว่าเตาเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวบ้านนาคูหาเป็นเวลาช้านาน

ปัจจุบัน ชาวบ้านนาคูหาได้มีการนำเตามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ "ข้าวเกรียบเตา" โดยเตาจากบ่อเลี้ยงที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เป็นอาชีพ และยังเป็นหมู่บ้านเดียวในประเทศไทยที่เลี้ยงเตาขาย

กระบวนการการทำข้าวเกรียบเตา เริ่มจากนำเตามาล้างให้สะอาดแล้วนำมานวดผสมกับแป้งให้เข้ากันออกสีเขียวของเตา แล้วนำมาปั้นเป็นแท่งยาวห่อด้วยใบตองแล้วนำมานึ่งจนสุก จากนั้นนำก้อนที่นึ่งสุกแล้ว ไปแช่ในตู้เย็นให้แข็งตัว แล้วนำมาหันเป็นชิ้น ๆ และนำไปตากแดดให้แห้งสนิท ก็จะได้ข้าวเกรียบแห้งพร้อมทอด เมื่อจะนำมารับประทานหรือขายจึงจะเอามาทอดในน้ำมันพืช บรรจุลงถุงวางขายในร้านค้าของหมู่บ้าน ซึ่งปัจจุบันนี้ขายดีกว่าผลิตภัณฑ์อื่น จนบางคนเลิกทำเมี่ยงหันมาทำข้าวเกรียบเตาขายสร้างรายได้ ในแต่ละเดือนสามารถขายข้าวเกรียบเตานำรายได้สู่หมู่บ้านนับแสนบาท (ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, 2563)

ภาษาพูด : ภาษาไทยถิ่นเหนือ ภาษาไทยกลาง

ภาษาเขียน : อักษรไทย

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กระทรวงวัฒนธรรม. (9 กันยายน 2563). ข้าวเกรียบเตา. ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก http://m-culture.in.th/

ข้าวเกรียบสาหร่ายเตาบ้านนาคูหา. (27 กันยายน 2565). กล่องสวยขนาดนี้ โปรดีขนาดนี้ ไม่ซื้อไหวหรอคะ. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

จอมพจน์ คชสาร และ ธนวิชญ์ แสงสง. (2559). ศักยภาพของชุมชนเพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน กรณีศึกษาบ้านนาคูหา ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่. มหาวิทยาลัยแม่โจ้.

จันจิรา แก้วอ่อน. (2565). การสำรวจและทำแผนที่การท่องเที่ยวบ้านนาคูหา จังหวัดแพร่. การประชุมวิชาการ (Proceedings) ทรัพยากรธรรมชาติ สารสนเทศภูมิศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 6 (NathGen 6th) (279-291). ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

จันจิรา แก้วอ่อน ภูวเดช ธนิชานนท์ และ สมกมล รักวีรธรรม. (2565). การประเมินศักยภาพการท่องเที่ยวบ้านนาคูหา จังหวัดแพร่. วารสารวิชาการเพื่อการพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ (JSID), 3(3), 11-23.

ฉันทนา ซูแสวงทรัพย์ ศิริพร พันธุลี ณัฐ วังกาวรรณ และ นิโรจน์ สินณรงค์. (2562). การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบสมุนไพรฮ่อมลดไข้ในชุมชนบ้านนาคูหา จังหวัดแพร่. วารสารหน่วยวิจัยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้, 11(1), 67-81.

เตา-สาหร่ายน้ำจืด บ้านนาคูหา. (29 มกราคม 2563). แครกเกอร์ กาละแมเตา 35.- บ้านนาคูหา หมู่ที่ 5 ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

เตา-สาหร่ายน้ำจืด บ้านนาคูหา. (29 มกราคม 2563). รับข้าวเกรียบเตาไหมจ้ะ อร่อย กรอบ ทอดใหม่ทุกวันค่า. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

นัยนา ริมศรีทอง. (2533). กิจกรรมการทำเมี่ยง: ศึกษาเฉพาะกรณีบ้านนาคูหา หมู่ที่ 5 ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่. สำนักบัณฑิตอาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

แพร่โพสต์ แพร่ ทุกโพสต์ ที่โดนใจ. (25 ตุลาคม 2564). ข้าวเกรียบเตาสมุนไพร 15.- บ้านนาคูหา หมู่ที่ 5 ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

แพร่โพสต์ แพร่ ทุกโพสต์ ที่โดนใจ. (15 พฤษภาคม 2568). #ที่นี่แพร่ #บ้านนาคูหา. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

แพร่โพสต์ แพร่ ทุกโพสต์ ที่โดนใจ. (28 มิถุนายน 2568). ไม่เสร็จ ...ยังสวยขนาดนี้ บ้านนาคูหา จ.แพร่. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2559). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่สิบสอง พ.. 2560-2564. สำนักนายกรัฐมนตรี.

อภิญญา สุขแสงศรี. (2552, 13 มิถุนายน). ต่อยอดภูมิปัญญาจากอดีต ข้าวเกรียบสาหร่ายน้ำจืด บ้านนาคูหา”. คนของแผ่นดิน. มติชนรายวัน, 10.

เอกพงษ์ ตรีตรง. (2561). การศึกษาผลิตภัณฑ์ห้อมจากธรรมชาติสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการออกแบบ (บ้านนาคูหา ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่). วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต.

Nukkpidet. (27 พฤษภาคม 2563). บ้านนาคูหา ที่เที่ยวแพร่ สัมผัสเสน่ห์แห่งชุมชน สูดโอโซนกลางหุบเขา. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://travel.trueid.net/

Sanook. (5 พฤศจิกายน 2561). เที่ยวนาคูหา จ.แพร่ แหล่งโอโซนอันดับ 7 ของไทย. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.sanook.com/

อบต.สวนเขื่อน โทร. 0 5464 5688